และนี่คือ!!! วิญญาณคุณชายสุดเฮี้ยนกับนายนักเขียนสยองขวัญ
-
เขียนโดย BennieRule
วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.01 น.
12 ตอน
0 วิจารณ์
11.99K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 15.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) บทที่ 12 เล่นผีถ้วยแก้ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความขอฝากเวอร์ชั่นการ์ตูนที่ร่วมประกวดในเว็บ WEBTOON ด้วยนะครับ
“ฟู้ว! พิธีพร้อม คนพร้อม มาเริ่มกันเถอะ” เวิร์คกล่าวขึ้นอย่างเอาฤกษ์เอาชัยขณะปาดหงาดเหงื่อบนหน้าผาก หลังจากเขาและพวกคิดร่วมช่วยกันวางกระดานแผ่นหนาขนาดใหญ่ไว้กลางห้อง พ่วงด้วยกระจายเหล่าข้าวของมากมายที่ขนมาวางจนเสร็จสิ้นแล้ว เวิร์คก็เริ่มกางโต๊ะพับตัวเล็กเท่าหัวเข่า บรรจงคว้าสารพัดหุ่นบูชาและสารพัดของแปลก ทั้งโหลผูกสายสิญจน์สีแดง ทั้งพระเครื่อง ทั้งไม้แห้ง เครื่องหอมและหยิบกระดาษมาพนมมือ พึมพำราวกับทำพิธีลึกลับ
ด้านสามหนุ่มที่เหลือมองนิ่งด้วยความสงสัยและเป็นเสือที่เริ่มเอ่ยขึ้นท่ามกลางภาพพิลึกพิลั่นตรงหน้า
“คิด ไอ้หมอนี่ใคร?” เสือกระซิบถามคิดโดยมีต่ายแอบฟังอยู่ข้าง ๆ พยายามคุมเสียงเบาไม่ให้ร่างหัวแดงรู้ตัว “ตั้งใจพามาทำอะไรในห้องแกกันแน่เนี่ย?”
“เขาเป็นเพื่อนร่วมคอนโดครับ” คิดแนะนำหนุ่มผมแดงตรงหน้าแก่บรรณาธิการคู่ขวัญ “เขาชื่อคุณเวิร์ค เคยอยู่ห้องนี้มาก่อนและยังอยู่ที่คอนโดนี้ เป็นหนึ่งในคนที่น่าจะช่วยหาเบาะแสวิญญาณในห้องนี้ให้ผมได้ครับ”
“นี่พี่แกเป็นหมอผีหรือ?” ต่ายถามบ้าง
“เปล่า เป็นเกมเมอร์และก็แอดมินเว็บไซด์สยองขวัญน่ะ” คิดตอบ
นี่มันเรื่องอะไรวะเนี่ย? สองหนุ่มจากสำนักพิมพ์นึกในใจ
“มีคนประเภทไหนอยู่ห้องผีดุแล้วไม่ย้ายออกกัน?” ต่าย ชายร่างเล็กสุดในกลุ่มพึมพำจากด้านหลังเสืออีกครั้ง
“ไม่เต็งเต็มแบบเจ้าคิดแน่ ๆ ” เสือเอ่ยตรงไปตรงมาจนคิดแอบบุ้ยปากไม่พอใจจากใต้หน้ากากแมสเล็ก ๆ
“แต่เสื้อที่พี่แกใส่อยู่เนี่ย มันหนังสือของ…”
“ชู่! ชู่!” คิดและเสือยกมือขึ้นป้องปากต่ายได้ทันควัน
“ความลับบริษัทไอ้ต่าย ความลับ” เสือกำชับ
“ให้เจ้าตัวรู้เองดีกว่าครับ” คิดเสริม
ต่ายได้แน่กลอกตาไปมาระหว่างเสือกับคิดก่อนจะยกนิ้วโอเคพร้อมพูดด้วยเสียงอู้อี้ “ครับ ซอรี่ครับพี่ๆ”
พูดจบทั้งสามก็หันสายตาไปยังเวิร์ค หนุ่มผมแดงยังคงนั่งอยู่กลางบ้าน พึมพำบริกรรมภาษาประหลาด พร้อมกันนั้นเวิร์คก็วางแก้วลายตัวการ์ตูนญี่ปุ่นลงบนกระดาน
เห็นดังนั้นเสือก็เอ่ยขึ้น
“เชื่อได้เหรอคิด คนแบบเนี่ย?”
“ไม่ลองไม่รู้นะครับ เผื่อได้เบาะแส” คิดกระซิบ
“ช่วยหาเบาะแสเหรอ แปลว่าเขารู้เรื่องวิญญาณห้องนี้หรือ?”
“เปล่า ผมไม่รู้หรอก” เวิร์คพูดแทรกขึ้นแทนคิด
“อ้าว?” สามหนุ่มร้องในทันที
“ผมบอกก่อนหน้านี้กับคิดแล้วว่าไม่รู้ดวงวิญญาณห้องนี้เป็นใคร มาจากไหน ไม่รู้เป็นชายหรือหญิง แต่ผมรู้ว่าจะติดต่อกับเขายังไง” ชายหนุ่มผมแดงอธิบายพลางกอดอกมั่นใจ “มานั่งกันมา พิธีพร้อมแล้ว” เขาเชิญชวนด้วยเสียงสดใส
“ผีถ้วยแก้ว…เอาจริงหรือคิด?” เสือย้อนถามนักเขียนหนุ่ม
“ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะครับพี่แว่น” เวิร์คเสริมอย่างว่องไว
“ใครพี่คุณมิทราบ!”
“เอ่อ จะว่าไปไม่เห็นพิธีเหมือนในหนังเลยนะครับเนี่ย เพิ่งเคยเห็นกระดานผีถ้วยแก้วแบบนี้มาก่อนเลย” ต่ายแทรกเปลี่ยนเรื่อง
เพราะอุปกรณ์ที่ใช้เป็นแก้วลายการ์ตูน กระดานอักษรทำจากแผ่นหนาหนักประหนึ่งศิลาจารึก นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ของขลังมากมายล้อมบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก
ชายหนุ่มเจ้าของเครือข่ายสยองขวัญเหยียดยิ้มในทันที
“อันนั้นมันในหนัง แต่นี่ของจริง” เวิร์คพูดพร้อมหัวเราะหึหึในลำคอ “นี่ก็ได้มาตั้งนานแล้ว ไม่มีโอกาสใช้เสียที”
“ของจริง โห พี่ไปได้มาจากไหนเหรอครับ?” ต่ายถามด้วยความเริ่มนับถืออีกฝ่าย
“สั่งซื้อจากอีเบย์มา”
“…” สามหนุ่มนิ่งราวกับกินจุดไข่ปลากับเดดแอร์ที่บังเกิดขึ้นในใจ
ด้านต่ายความนับถือก็ถอยหลังกลับไปเท่าแต่เดิมคือศูนย์
“เฮ้ย แต่คาถาเนี่ยของจริงนะ ได้จากคนในบอร์ดนะ เชื่อได้แหละ” เวิร์คพูดพลางหัวเราะ
“จากอินเทอร์เน็ต?” เสือถามเวิร์ค
“ใช่”
“เมื่อกี้คุณพูดว่า ‘เชื่อได้แหละ’ เนี่ย แปลว่าไม่เคยลองมาก่อนเหรอ?”
“ก็ใช่”
“… …” สามหนุ่มเงียบกับเดดแอร์อีกครั้ง คราวนี้เสือถึงกับเบ้ปากเล็ก ๆ
“เอ่อ สงสัยอีกเรื่องครับ มีของแล้วทำไมถึงไม่ได้ใช้ ไม่เคยลองมาก่อนล่ะครับ” ต่ายถามแก้บรรยากาศมาคุ
“คนไม่พอน่ะสิ ใครจะเล่นผีถ้วยแก้วคนเดียว ไม่ครบขาครบคนจะเล่นได้ไง” เวิร์คบอกตามตรง
“นี่ผีถ้วยแก้วหรือวงไพ่เนี่ย?” เสือแย้ง
“พี่ยังดีเป็นวงไพ่ นี่นึกว่าบอร์ดเกม!” ต่ายตบมุก “เหมือนคนเหงาไม่มีใครคบมาช่วยเล่นเกมชัดๆ เลย”
“ปะ เปล่าซะหน่อย ฉันเพื่อนเยอะหรอกในเน็ต” เวิร์คบุ้ยปากไม่สบตา หันไปทางอื่น
“เอาน่า ๆ มานั่งกันเถอะ อุตส่าห์มาครบแล้วก็มาหาเบาะแสกันเถอะ จะได้รู้กันไปว่าในห้องเนี่ยเป็นใครยังไง” คิดพูดพลางลากแขนสองบรรณาธิการหนุ่มมาร่วมวงนั่งกลางห้อง เสือกับต่ายไม่เชื่อแต่ก็ไม่รู้จะแย้งอะไร จึงยอมลงมาทำตามแต่โดยดี หลังจากนั่งขัดตะหมาดแล้วร่างเจ้าพิธีก็เอ่ยทันที
“เอาล่ะ ผีถ้วยแก้วจนกว่าจะลาพิธี ห้ามเอานิ้วออกไม่งั้นผีจะเข้าตัว เข้าใจตรงกันนะ” หนุ่มผมแดงแจ้งรายละเอียดแล้วท่องคาถาเปิดนำ “ที่นี่ก็พูดตาม พุทธธัง ธังมัง สังคัง”
“…พุทธธัง ธังมัง สังคัง” สามหนุ่มท่องตาม มีแค่เสือที่ท่องเสียงเอื่อย
“ขอเชิญวิญญาณในห้องนี้มาสถิตที่แก้ว ณ บัดนี้”
“พวกแกกล้าดียังไงมาเล่นอะไรในห้องของเรากัน! แถมยังเอาของรกๆ มาห้องนี้อีก โอ๊ย!” คุณชายผีบ่นอย่างหัวร้อนปุด ๆ วิญญาณหนุ่มมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้น หลังจากตอนเช้าคิดพรวดออกไปจากห้องโดยที่เขาไม่ทันหลอกก็ได้กระดิกนิ้วนึกวิธีหลอกชายสองคนนี่ ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเจ้านักเขียนหนุ่มก็กลับมา พร้อมแขกซึ่งหิ้วข้าวของมากมายมาประหนึ่งย้ายมาอยู่ในบ้านอีกหนึ่งคน
ใบหน้าหนุ่มผมแดงทำเอาคุณชายหน้าตึงตาดุในทันที
“หมอนี่… เจ้าคนพิลึกที่มาแหกปากเล่นคอม ชอบทำห้องรกนี่!” คุณชายอุทานเมื่อเห็นหน้าของเวิร์ค “ใครก็ได้ไล่มันไปที!”
ภาพในอดีตสมัยที่เวิร์คอยู่ในห้องกับคุณชายลอยขึ้นมาในหัวคุณชายทันที
ตลอดไม่กี่วันที่อยู่ด้วยกันคุณชายต้องเผชิญกับความคลั่งไคล้วิญญาณของนายหัวแดงผู้นี้หลายต่อหลายครั้ง ต้องเผชิญการเล่นเกมเสียงดัง การสอดรู้สอดเห็นหาตนและการไม่รักษาความสะอาดที่ยากจะทานทน
คุณชายมองคิดและเวิร์คเอาอุปกรณ์ข้าวของประหลาดมาตั้ง ส่วนใหญ่ก็เป็นของปลอม ของศักดิ์สิทธิ์มือสอง สร้อยประคำจากลูกปัดราคาถูก ไม่ก็ของใช้ที่เวิร์คโดนโลกออนไลน์ปั่นราคาให้ซื้อมาทั้งสิ้น ไม่มีชิ้นไหนเลยที่ทำให้คุณชายรู้สึกหลาดหวั่นได้แม้แต่น้อย
มันของคนละภพกัน มีหรือจะหวั่น! คุณชายนึก
ขณะที่หาลู่ทางระเบิดพลังขับไล่แขกกับนายนักเขียนออกไปจากห้องนี่เสีย แค่พริบตาเดียวคุณชายก็พบว่าคิดได้เรียกพวกมาเพิ่มเสียแล้ว
เป็นสองบรรณาธิการนั่นเอง
“ปิดห้องขังแล้วหลอนมันสี่ตัวพร้อมกันให้จับไข้หัวโกร๋นเลยดีไหมนะ” คุณชายบ่นอุบอิบพลางเดินไปที่ประตู ส่งคลื่นพลังเพื่อแอบไปล๊อกประตูห้อง
“ขอเชิญวิญญาณในห้องนี้มาสถิตที่แก้ว ณ บัดนี้” สี่หนุ่มในห้องกล่าว โดยปลายนิ้วแตะที่แก้ว
คุณชายหันจากประตู สายตามองบนอย่างเหยียดหยาม นิ่วหน้าและคิ้วขมวด เดินมากลางวงแล้วมองสี่คนตรงนั้น
ครั้นเห็นแก้วน้ำลายการ์ตูน เส้นประสาทของคุณชายก็ขาดผึง!
“แก้วเท่ากำปั้นจะให้ข้าไปอยู่ข้างในเนี่ยนะ พวกแกเอาอะไรคิด!!!”
คุณชายคำรามดังแต่ไม่มีใครได้ยิน
“ต้องเจอ ท้าทายแบบนี้ต้องเห็นดีกัน!”
ว่าแล้วคุณก็ใช้ปลายเท้าเหยียบบนแก้วแล้วเหยียดออกไป
กึก กึก
“พี่แก้วขยับ!” ต่ายอุทาน
“มาแล้ว มาแล้ว” เวิร์คพูดด้วยเสียงตื่นเต้น
“ใครดันหรือเปล่า” เสือถาม
“ผมเปล่านะ” คิดตอบคนแรก
“ผมก็เปล่า” ต่ายตอบคนที่สอง “หรืออุปทานหมู่เนี่ยครับ?”
“เออนะ เชื่อของหน่อยสิ นาทีทองอย่าสงสัยเยอะ ถามเลย!” เวิร์คปรามและเป็นคิดที่พยักหน้าแล้วตั้งคำถามแรก
“ไม่รู้จริงเท็จ ลองก่อนนะครับ เอ่อ คุณวิญญาณเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายครับ?” คิดถามเพื่อความมั่นใจ
คุณชายผีพยายามออกแรงดันไปที่คำว่าผู้ชาย
แต่ทว่าไปไม่ถึง
มันหยุดระหว่างชายและหญิง
“ใครกดแก้วแน่นขึ้นหรือเปล่า! ฮึก! ทำไมดันไม่ไป” คุณชายอุทานเมื่อออกแรงเท่าไรแก้วก็ไม่ขยับ “หรือพลังวิญญาณจะส่งไปไม่พอ!?”
“ผู้หญิง? ผู้ชาย? อยู่ตรงกลางอ่ะพี่” ต่ายกล่าว
“เพศทางเลือก?” เวิร์คพูดขึ้นลอย ๆ
“อ้อ งี้เอง เข้าใจล่ะ” สามหนุ่มที่เหลือพยักหน้าอย่างเข้าใจ
เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนสิ เดี๋ยวก่อน!!!
วิญญาณเฮี้ยนพยายามกอบกู้โอกาสชี้แจ้งสถานะทางเพศของตน จึงพยายามดันแก้วน้ำไปทางเพศชายอย่างสุดฤทธิ์
“นึกว่าผู้ชายซะอีก” คิดพึมพำ
“คุณคิดไปเอามาจากไหนว่าเป็นผู้ชาย ความเห็นในบอร์ดเหรอ?” เวิร์คถาม
“เปล่าครับ ก็…”
คุณชายกระโดดถีบลงไปที่แก้วเสียหนึ่งชุดใหญ่
เพล๊ง!
และเป็นแก้วที่เริ่มร้าวจนเศษกระเด็น
“อะ อ้าว? แก้วร้าวพี่! พี่” ต่ายร้องอย่างตื่นตนก
“ผีมันแรง ผีมันเฮี้ยน ล่อแก้วลายโปรดซะแล้ว ฮือ!” เวิร์คกัดฟันพูด
“เอาไงอ่ะพี่” รุ่นน้องบรรณาธิการหันหาความเห็นทุกคน
“ทำพิธีลาก่อน ลาก่อน อย่าเอานิ้วออก เดี๋ยวผีสิง!” เวิร์คหันไปชี้นิ้วที่คิดด้วยมือที่ไม่ได้แตะแก้ว “คุณคิด จุดเทียนแล้วส่งมานี่ที”
“ใช้เทียนด้วยเหรอครับ?” คิดมองออกไป มีเทียนอยู่ด้านหลังเขา ห่างออกไปราวสุดปลายนิ้ว
“ใช่ ต้องใช้ลา” หนุ่มหัวแดงบอก
“น่าจะบอกก่อนจะได้จุดไว้ก่อนไม่ก็วางใกล้ ๆ อื้บบบบบบ! ” คิดกล่าวพลางเอื้อมกายไปหยิบอย่างยากลำบาก “มือว่างข้างเดียว ฮึ้บ ฮึ้บ”
“โทษทีนะ ลืมบอกไป” เวิร์คกล่าวพร้อมยิ้มแห้ง
“ลำบากหนอชีวิต” คุณชายกล่าวสีหน้าระอาใจขณะมองกายกรรมตรงหน้า ตอนนี้เจ้าตัวดันแก้วมาเพศชายได้ประมาณเจ็บสิบเปอร์เซ็นต์ของขอบแก้วแล้วจึงหยุดดัน
“เอ้า ให้ยืม” เสือยื่นมืออีกข้างเข้าช่วยคิด
“กราบพี่เสือ”
สองคนคนละมือร่วมด้วยช่วยกันจุดไฟแช็กแล้วจ่อเทียน ก่อนจะเป็นคิดที่พยายามประคองมายังหนุ่มผมแดงผู้ทำพิธี
“อ่ะ นี่คือคุณเวิร์ค…โอ๊ะ”
คิดไม่ทันระวัง เทียนทั้งเล่มหลุดใสหน้าอกเวิร์คแทน
“จ๊ากกกกกกก ร้อนนนนนนนนน” เวิร์คกรีดร้อง พริบตาเดียวไฟก็เริ่มล่ามบนเสื้อดำที่ตนใส่
“ดับไฟ! ดับไฟ!” เสือคำราม
“เดี๋ยว เดี๋ยว อย่าเอามือออก! ลาพิธีก่อน ท่องตาม พุทธธัง ….โอ้ย ธังมัง … อู้วหู้ว! สังคัง!!” เวิร์คพูดลาพิธีก่อนใคร
“…พุทธธัง ธังมัง สังคัง”
“ขอจบ….พิธีในห้องนี้…อ้ากกกกกก…. ณ บัดนี้”
“ขอเชิญวิญญาณในห้องนี้…”
“ไม่ไหวแล้วโว้ย ไฟไหม้!!!”
เวิร์คชักนิ้วออกก่อนใคร เขาถอดเสื้อออกอย่างรีบเร่ง ผิวขาวของเขาเต็มไปด้วยรอยแดง ไฟก็เริ่มไหม้มากขึ้นเรื่อย ๆ
“กระทืบ! กระทืบ!”
“อย่าให้ห้องเราไหม้นะ!!” คุณชายเสริม ก่อนที่สี่หนุ่มและหนึ่งผีช่วยกระทืบเสื้อจนไฟดับมอดลงในที่สุด
“อา ไฟดับแล้วใช่ไหม” คิดถาม
เมื่อตั้งสติได้ก็เป็นหนุ่มผมแดงที่ร้องลั่นกับภาพตรงหน้า
“เสื้อตัวเก่งของชั้น!”
“ขะ ขอโทษด้วยคุณเวิร์ค ผมผิดเอง” คิดพยายามยกมือไหว้ ทว่าผู้เสียหายร่างเปลือยท่อนบนกลับไม่ได้สนใจ
เพราะเสื้อจำนวนจำกัดหายากของเขา ตอนนี้มีสภาพไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วล้างรถไปเสียแล้ว…
เสือกับต่ายได้แต่จับไหล่นักเขียนหนุ่มกับเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้า
“ม่าย ม่าย โน้ววววววววววววววววววว” เสียงร้องเสียดายโหยหวนของเวิร์คดังลั่นชั้นสิบสาม
“รำคาญโว้ย มาโวยวายอะไรในห้องคนอื่นเนี่ย ออกไปเดี๋ยวนี้เลย ไป๊!” คุณชายตะโกนทิ้งท้าย
สรุปสถานะคนกับผี #2
นักเขียนนิยายสยองขวัญ สถานะ เล่นผีถ้วยแก้วครั้งแรกในชีวิต รวมไปถึงทำเสื้อเพื่อนไหม้ไฟด้วยเทียนครั้งแรกในชีวิตด้วย
วิญญาณเฮี้ยน สถานะ ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นวิญญาณเพศทางเลือก พยายามแก้ตัวว่าเป็นผู้ชายแล้วแต่ไม่รู้คนอื่นทันสังเกตไหม / โมโหเพราะห้องรกอีกแล้ว
เวิร์ค สถานะ เจอเพื่อนร่วมบอร์ดคนอื่นนอกจากมิวครั้งแรก เลยหาเรื่องชวนผีถ้วยแก้ว (เพราะต้องเล่นหลายคน) เพื่อหาเบาะแส ผลคือไม่ได้เรื่องอะไร แถมเสียเสื้อตัวโปรดไปหนึ่งตัว (เสียหายทางจิตใจ)
เสือกับต่าย สถานะ ไม่ได้ทำงาน ได้แต่นึกว่าตกลงตนมาทำอะไรที่นี่กันแน่
สถานะเช้าวันแรกของการอยู่ที่ห้องผีดุ : ห้องรกและไฟไหม้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ