นักล่าล้างพันธุ์อมตะ (NC 18+)
เขียนโดย Jalando
วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 10.51 น.
แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 10.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) อาหารเช้าที่แสนโอชะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://pixabay.com
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น แสงทองลอดผ่านช่องเล็กๆของม่านมู่ลี่เข้าสู่ห้องมืด ปลายทางตกกระทบเข้ากับดวงตาที่ปิดพริ้มของชายหนุ่ม ส่งผลให้ระคายเคืองเล็กน้อย
ชายผู้นั้นน่าจะมีวัยซักประมาณเบญจเพส รูปร่างกร้าวแกร่งสมชายชาตรี สังเกตได้จากแผ่นอกเปลือยเปล่าที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม ใบหน้าเรียวยาวเข้ากันได้ดีกับรองทรงสูงสีบลอนด์ที่ดกหนา จมูกโด่งเป็นสันรับกับปากเรียวบางที่เลี้ยงหนวดเคราซึ่งตัดแต่งมาเป็นอย่างดี ขณะที่หนุ่มหล่อกำลังตกอยู่ในสภาพสะลึมสะลือ ก็บังเกิดเสียงหวานใสดังขึ้นที่มุมห้อง
“ อรุณสวัสดิ์ คนเก่ง ตื่นได้แล้ว ที่รัก ”
ทันทีที่ชายหนุ่มได้ยินเสียงหวานใส หนังตาก็เริ่มกระตุกเบาๆ เวลาต่อมาเปลือกตาก็เปิดขึ้น เผยให้เห็นดวงตาสีน้ำตาลแบบชาวเอเซีย
ชายหนุ่มกะพริบตาถี่ คล้ายจะพยายามนึกว่าที่นี่คือที่ไหนและเขาเป็นใคร จากนั้นก็ยันกายลุกขึ้นนั่ง พร้อมหันหน้าไปทางหญิงสาวเจ้าของเสียง
เจ้าของเสียงเป็นสาววัย 20 ต้นๆ เธอมีรูปร่างสูงเพรียว ผิวขาวละเอียด ใบหน้ารูปไข่เข้ากันได้ดีกับจมูกเล็กๆที่โด่งเป็นสันและปากบางอมชมพู ดวงตาหวานซึ้งของเจ้าหล่อนจับจ้องกลับมาที่หนุ่มหล่อ
“ แหม......เก๋ เธอมาปลุกชั้นแต่เช้าเลยนะ ยังง่วงอยู่เลย เหอๆ ” หนุ่มหล่อตอบกลับ แต่ประกายตาแฝงแววกรุ้มกริ่ม
“ อ้อ.....เหรอ เช้าของเธอคือ 10 โมงหรือ เธอมีนัดตอนบ่ายไม่ใช่รึไง ไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารได้แล้ว ชั้นจะทำอาหารให้กิน ” สาวหน้าหวานนิ่วหน้า พร้อมร้องบอกชายหนุ่มเสียงแหลมราวกับมารดาที่กำลังดุด่าลูกชาย กระนั้นชายหนุ่มก็ไหวทัน เขารีบยกสองมือขึ้นปิดหูของตนเอง
ใช่ว่าหญิงสาวจะไม่เห็นอากัปกิริยากวนๆของชายหนุ่ม แต่เธอรู้สึกชาชินกับความเป็นคนจอมป่วน เนื่องจากทั้งสองได้คบหากันมานานถึงสามปี ทว่าก็ยังอดโมโหเล็กๆไม่ได้ จึงไม่รอช้าที่เข้าไปบิดหูเจ้าตัวแสบร่างล่ำ
“ โอ๊ย....... จ้าก.....เจ็บ ปล่อยก่อน ชั้นยอมแล้ว ตื่นแล้ว จะไปรอที่โต๊ะอาหารเดี๋ยวนี้แหล่ะจ้า ” ชายหนุ่มรีบร้องละล่ำละลัก
หญิงสาวนามว่า “เก๋” บิดใบหูแรงๆอีกสองสามทีเป็นการทิ้งท้าย จากนั้นก็ร้องสั่งเสียงแหลม
“ เดี๋ยวชั้นจะทำอาหารให้เธอกิน เชิญไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารเลยย่ะ นายหรั่ง ”
“ คร้าบ........ คุณแม่ ” ชายร่างล่ำผู้มีนามว่า “หรั่ง” รับคำลากยาว อันเป็นการกวนประสาท ทว่าวินาทีต่อมาเขาก็ปิดปากสนิท เพราะโดนหญิงสาวทำตาเขียวใส่
“ เมื่อกี้ ว่าไงนะ นายหรั่ง ”
“ โอ๊ะ โอ๋ พูดผิด จริงๆแล้วคือ ครับผม คุณแฟนจ๋า เหอๆ ” หรั่งรีบแก้โดยเร็ว หลังโดนสายตาอำมหิตของแฟนสาวพุ่งใส่ ในใจนึกภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้รอดพ้นจากภรรยาภัยในครั้งนี้
“ แล้วไป ” หญิงสาวหรี่ตาลงเป็นเชิงให้อภัย หลังจากนั้นเธอก็เลิกสนใจเจ้าตัวแสบ แล้วพาร่างเพรียวบางในชุดเสื้อนอนพริ้วไสวไปยังจุดหมายปลายทางที่พึงประสงค์
พอสาวสวยเดินจากไป นายหรั่งก็คลายอาการเกร็ง พร้อมเป่าปากระบายลม
“ ฟู่....... รอดไปที ตกลงนี่มันเมียหรือแม่กันแน่ฟะ ดุจริงๆ ”
………………….
ภายในห้องครัวนั้นกว้างพอจะจัดวางอุปกรณ์ อาทิเช่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาแก๊ส เคาน์เตอร์บาร์สำหรับทำอาหาร รวมถึงโต๊ะเก้าอี้ขนาดสี่คนที่ประจำอยู่กลางห้อง
หรั่งนำพาร่างอุดมกล้ามเนื้ออันมีกางเกงบ๊อกเซอร์ห่อหุ้มกายเพียงชิ้นเดียวไปนั่งตรงหัวโต๊ะ เพื่อรอให้แฟนสาวร่างเพรียวนำอาหารเช้า (มั้งนะ) มาเสิร์ฟ
ระหว่างที่หรั่งนั่งรออยู่นั้นเอง สายตาก็ไปบรรจบที่เรือนร่างของแฟนสาว เขารู้สึกถึงเสน่ห์อันยากจะต้านทาน ไม่ว่าจะเป็นเอวคอดกิ่ว ขาเรียวยาวที่ขาวสวย ทรวงอกที่สั่นไหวภายใต้ชุดนอนผ้าแพรพริ้วไสว ล้วนกระตุ้นเร้าให้ไฟในอารมณ์ลุกโชนขึ้นมาแผดเผาภายใน
สิ่งที่ปรากฏ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกรัญจวนใจ แต่ที่ร้ายสุดไม่ใช่ทรวดทรงองค์เอวของเจ้าหล่อน แต่เป็นใบหน้างดงามที่ขาวใส
เมื่อทุกสิ่งกระตุ้นเร้าถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มจึงทนไม่ไหว เขาลุกขึ้นยืนแล้วรุดเข้าไปประชิดหญิงสาวในทันที
“ ว้าย จะทำอะไรน่ะ ” เก๋ตกใจจนร้องเสียงหลง เมื่อรู้สึกถึงอ้อมแขนแกร่งๆที่รัดเอวบางจากทางด้านหลัง
ชายหนุ่มไม่ตอบกลับ เขายื่นหน้าไปบรรจงจูบเบาๆที่พวงแก้ม พร้อมกระซิบข้างหู
“ ก็กำลังจะกินอาหารเช้ายังไงล่ะ ”
ใบหน้าขาวใสของหญิงสาวแดงก่ำ เพราะเข้าใจความหมายของชายหนุ่ม กระนั้นเธอก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่พยายามแข็งขืน
“ เมื่อคืนเธอยังกินไม่พออีกรึไง น่าจะอิ่มได้แล้วนะ ”
“ เหอๆ ก็อาหารจานเด็ดรสอร่อยซะขนาดนี้ จะให้อิ่มง่ายๆได้ยังไง ” หรั่งหัวเราะกวนๆ พร้อมฉวยโอกาสหอมแก้มอีกข้างของหญิงสาว
“ บ้า ปล่อยชั้นนะ ” หญิงสาวพยายามดีดดิ้น แต่สิ่งที่ทำนั้นไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ ไม่มีทางเลยที่สาวร่างเพรียวจะหลุดพ้นจากวงแขนที่แข็งแกร่งของชายหนุ่ม
หนุ่มจอมทะเล้นมองดูสาวคนรักดิ้นรนขัดขืนอยู่ครู่ใหญ่ สายตาที่จับจ้องฉายแววรักใคร่เอ็นดู เวลาต่อมาเขาก็ก้มลงไปประกบจูบที่ริมฝีปากบาง
“ อื้อ....... ” หลังรับรสจูบที่เร่าร้อนปานเปลวเพลิง หญิงสาวก็ครางเบาๆในลำคอ ไฟราคะในทรวงพุ่งทะยานอย่างรวดเร็วจนเลิกขัดขืนไปโดยปริยาย
จุมพิตของหนุ่มหล่อล่ำเต็มไปด้วยความชำนาญ ไม่นานชิวหาที่ว่องไวปานอสรพิษก็ลอดริมฝีปากเข้าไปเกี่ยวกวัดกับลิ้นน้อยๆ รสจูบระดับปรมาจารย์ยิ่งทำให้กายบางของหญิงสาวอ่อนระทวย
ชายหนุ่มละจากริมฝีปาก ก่อนระดมจูบไปทั่วใบหน้างามของหญิงสาว พอหนำใจก็เลื่อนลงต่ำไปไซ้ที่ซอกคออันขาวผ่อง
“ อื้อ..... อืม...... ” หญิงสาวรู้สึกเสียวซ่านปนจั๊กจี้เล็กน้อย เนื่องจากโดนหนวดเรียวสีที่ซอกคอ แต่เธอก็ไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนแต่ประการใด กลับปล่อยตัวปล่อยใจให้คนรักบรรเลงต่อไป
หญิงสาวเริ่มเคลิบเคลิ้ม เรือนกายอ่อนระทวยราวขี้ผึ้งโดนไฟรน จังหวะนั้นเอง หรั่งก็จัดการยกเอวคอดกิ่วให้ลอยขึ้นไปกลางอากาศ แล้ววางลงบนเคาน์เตอร์บาร์ ปิดท้ายด้วยการรุดเข้าไปประชิดกายบางและระดมเพลงจูบไปทั่วใบหน้าชนิดที่ไม่ยอมให้สาวเจ้าตั้งตัวติด
“ อย่า หรั่ง ซี้ด....... ” หญิงสาวเชิดหน้า ปรือตาลอย ปากครวญเบาๆในลำคอ เมื่อได้รับลีลารักที่สุดระทึกจากแฟนหนุ่มรูปงาม
ช่วงที่หญิงสาวกำลังสั่นระทวยด้วยบทรักที่เร่าร้อน ก็ปรากฏว่าชายหนุ่มได้แอบเอื้อมมาปลดกางเกงในตัวจิ๋วอันเป็นอาภรณ์ชิ้นเดียวที่ปิดเรือนกายช่วงล่าง มันเป็นการปลดเปลื้องที่รวดเร็วและนิ่มนวลจนสาวสวยแทบไม่รู้สึกตัว เมื่อทุกอย่างเปิดโล่ง หนุ่มหล่อก็จัดการล่วงล้ำตามใจหมาย
“ อ้า......... ” หญิงสาวกระตุกกายแรง พร้อมอ้าปากร้องดังจนสุดเสียง ความรู้สึกเสียวกระสันผสมคับแน่นบังเกิดขึ้นที่กึ่งกลางลำตัว
ชายหนุ่มค้างคาอยู่ในท่านั้นหลายอึดใจ เพื่อตั้งใจซึมซับการตอดรัดจากภายในให้เต็มที่ จากนั้นก็ขยับโยกแก่นกายเข้าออกอย่างช้าๆ คล้ายว่าจะทำการอุ่นเครื่อง ก่อนโหมกระหน่ำครั้งใหญ่
“ อ้า..... ซี้ด..... อืม...... ” หญิงสาวครางสลับซู้ดปากเบาๆ ใบหน้าสวยหวานเริ่มบิดเบี้ยวเหยเก ส่วนชายหนุ่มยังคงอยู่ในอาการสงบ แต่ดวงตาสดใสกลับแฝงแววสะใจอยู่ไม่น้อย
หนุ่มหรั่งโยกแก่นกายเร็วขึ้นตามการเด้งสู้ของหญิงสาว ฝ่ามือแกร่งเลื่อนสูงไปเคล้นคลึงปทุมถันเต่งตึงทั้งซ้าย ขวา บางครั้งก็ก้มต่ำลงไปใช้ปากดูดปลายทับทิมสลับขบกัด ส่งผลให้คู่สวาทหน้าสวยเสียวซ่านรัญจวนใจอย่างจริงจัง
การร่วมรักทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นตามดีกรีของอารมณ์ มันดุเดือดจนเคาน์เตอร์บาร์สั่นสะเทือน เพราะเรี่ยวแรงที่โหมกระหน่ำเข้ามาในแต่ละครั้งค่อนข้างที่จะหนัก เสียงเนื้อกระทบเนื้อสลับเสียงครวญครางของสองหนุ่มสาวเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“ ซี้ด...... อ้า..... อู้ว...... จะทนไม่ไหวแล้ว จะๆแล้ว ” หรั่งครางดัง ใบหน้าเรียวยาวบิดเบี้ยวเหยเกด้วยอารมณ์ที่ใกล้จะถึงจุดอดกลั้น
“ ซี้ด...... อ้า..... เอาเลย แรงๆเลย เก๋จะ…แล้วเหมือนกัน หรั่งๆ ไม่ๆ อ้า....... ” หญิงสาวเร่งเร้า ก่อนร้องดังลั่นห้อง ปากอ้าค้าง ตาเหลือก
ชายหนุ่มรับรู้ถึงความอุ่นร้อนที่หญิงสาวปล่อยออกมา เขาจึงเร่งกระแทกให้แรงกว่าเดิม เพื่อจะติดตามให้ถึงสวรรค์ที่แสนหวาน อึดใจต่อมาก็เกร็งกาย คำรามดัง
“ อ้าก........ สุดทนแล้วโว้ย ”
หรั่งกระตุกกายถี่ยิบ เพื่อปลดปล่อยความบ้าคลั่งให้ท่วมทะลักเข้าไปในโยนีของยอดดวงใจ เขาทำแบบนั้นอยู่หลายสิบที ก่อนจะกอดก่ายร่างงามเอาไว้ในอ้อมอกด้วยความลุ่มหลงแบบสุดกู่
สองหนุ่มสาวนัวเนียบนเคาน์เตอร์บาร์อยู่พักใหญ่ ชายหนุ่มก็ถอนกายออกมา พร้อมเงยหน้าขึ้นจับจ้องใบหน้างาม ดวงตาสองคู่สบกัน มันแฝงประกายรักลึกซึ้ง ครู่หนึ่งหญิงสาวก็เอ่ยปาก ท่วงท่าเอียงอายจนน่าเอ็นดู
“ บ้าจริงเลย ไปตายอดตายอยากมาจากที่ไหนเนี่ย ขนาดบนเคาน์เตอร์บาร์ยังไม่เว้นเลย ”
หนุ่มหล่อหน้าทะเล้นไม่ตอบในทันที เขายักคิ้ว หลิ่วตาให้สาวสวยแวบหนึ่ง ก่อนจะกล่าวเบาๆแบบมีนัยยะ
“ ถ้าแฟนสวยขนาดนี้ ต่อให้คนตายด้านก็ทนไม่ไหว อีกอย่างชั้นมีแผนว่า....ก่อนสิ้นปี จะเผด็จศึกให้ครบทุกสถานที่ๆอยู่ในบ้าน เหอ เหอ เหอ ”
ทันทีที่หญิงสาวได้ฟัง ใบหน้างามก็แดงก่ำราวตำลึงสุก เธอทุบลงไปที่แผงอกแกร่ง จากนั้นก็ค้อนควักเป็นเชิงอาย
“ ตาบ้านี่ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ