นักล่าล้างพันธุ์อมตะ (NC 18+)
เขียนโดย Jalando
วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 10.51 น.
แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 10.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) ศึกชิงนาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ…………………
หลังจากเก๋เสร็จกิจ เธอก็อาบน้ำต่อ ภายในใจนึกละอาย ที่ทำแบบนี้กับตัวเอง
“ เฮ้อ…..น่าอายจัง แต่ช่วยไม่ได้ นายหรั่งดันมาทำให้เรารู้สึกค้างคา เลยต้องหาทางระบายออก ”
สาวเก๋ใช้เวลาชำระล้างร่างกายอยู่เกือบยี่สิบนาที เธอจึงรู้สึกว่าสะอาด เลยเดินออกมา พร้อมผ้าขนหนูสั้นพันกาย เพื่อมาเช็คความสวยใสหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ทว่า…..
“ ว้าย! นายหรั่งหายไปไหน ”
สาวสวยรับรู้ถึงลางแห่งหายนะ เพราะประสบกับเตียงนอนที่ว่างเปล่า แต่เธอก็ยังแอบคิดเข้าข้างตัวเอง
“ เป็นไปไม่ได้ นายหรั่งเพลียขนาดนั้น จะไปไหนได้ น่ากลัวจะกลิ้งเกลือกอยู่ข้างเตียง เพราะหมอนั่นเป็นคนนอนดิ้น ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น สาวสวยจึงเดินไปสำรวจที่ข้างเตียง หวังจะเห็นแฟนหนุ่มนอนหงายอยู่ตรงนั้น แต่สิ่งที่ประจักษ์ มีเพียงความว่างเปล่า
“ เอ๊ะ! ไม่อยู่ข้างเตียงนี่นา หรือว่าเขาจะแอบไปดูดบุหรี่ที่ระเบียง เพราะตานั่นก็เป็นคนสูบจัดอยู่เหมือนกัน ” สาวเก๋ยังมองโลกในแง่ดีได้อีก เธอจึงตรงไปเปิดประตูกระจก เพื่อออกไปสู่ระเบียงรับลมของโรงแรม แต่ก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆ
“ ตรงนี้ก็ไม่อยู่ หรือว่าตานั่นจะกลัวว่าเราเหม็นกลิ่นบุหรี่ เลยแอบไปสูบหน้าห้อง แต่เท่าที่คบกันมาหลายปี ก็ไม่เคยเห็นนายหรั่งมีมารยาทขนาดนั้น ” แม้เปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นแบบนี้ ค่อนข้างต่ำ แต่เก๋ก็ยอมเสี่ยง จึงรีบวิ่งออกไปนอกห้อง ทว่าก็พบกับความผิดหวังอีกครั้ง เมื่อประสบกับทางเดินยาวที่ว่างเปล่า
“ ว้าย! ตรงนี้ก็ไม่มี แล้วมันหายไปไหน ”
ถึงเก๋จะล้มเหลวหลายหน แต่ก็พยายามต่อไป ด้วยการค้นหาตามใต้เตียง วนไปดูในห้องน้ำ เปิดตู้เสื้อผ้า ถึงกระนั้น ก็ยังไร้ผล จึงใช้วิธีสุดท้าย นั่นก็คือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสาย
“ ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย เธอไม่อินกับผู้ชาย bad boy ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย เธอไม่รักฉันก็คงต้องปล่อย ”
เสียงรอสายยอดฮิตของเพลงทรงอย่างแบด ดังก้องสองหูของเก๋ ทำให้รู้ว่านายหรั่งได้ทิ้งโทรศัพท์ของตัวเองไว้ในห้องนี้ จึงพยายามค้นหาที่มา เลยพบว่ามันอยู่ตรงหัวเตียง
สาวสวยเดินไปดูตามสัญชาตญาณ จึงพบกับไอโฟน 18 อันเป็นอุปกรณ์สื่อสารประจำตัวของนายหรั่ง ทว่าเจ้าสิ่งนั้นได้ทับกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ เก๋เลยรีบหยิบมันขึ้นมา ปรากฏว่ามีข้อความระบุอยู่ข้างใน อ่านจับใจความได้ว่า……
“ ขอโทษทีที่ทำให้ตกใจ พอดี เพื่อนของหรั่งมีเรื่องเดือดร้อน โดนตำรวจจับ ข้อหาเมาแล้วขับ ต้องรีบไปช่วยมัน อาจจะกลับมาในตอนเช้า ฝากขอโทษไอ้พี่ชายของหรั่งด้วย ”
รีแอคชั่นแรกของเก๋คือยืนนิ่ง ต่อมาคือกำหมัดแน่น ก่อนจะเขวี้ยงไอโฟน 18 ของหรั่งลงบนเตียงนอน (ไม่กล้าทุ่มลงพื้น เพราะกลัวมือถือพัง) ปากก็โวยวายเสียงดัง
“ ไอ้หรั่งบ้า ไม่มีใครโดนข้อหาเมาแล้วขับกลางเชียงใหม่หรอก เพราะมันยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร นายหาเรื่องหนีเที่ยวชัดๆ กลับมา แม่จะตบให้ตาเล็ด กรี๊ด……”
…………………..
หรั่งชิ่งหนีได้อย่างหวุดหวิด พร้อมแจ๊คเก็ตหนังคู่ใจ ท่อนล่างสวมกางเกงยีนต์ และรองเท้าผ้าใบที่ดูธรรมดา แถมผมก็เซ็ตแบบลวกๆ ด้วยถูกความรีบร้อนเข้าจู่โจม ทว่าเขาก็ยังดูเด่นเป็นสง่า เพราะมีรูปร่างที่สูงสมส่วน แถมใบหน้าเรียวยาวก็ยังหล่อเหลาแบบลูกครึ่งไทย อเมริกา ดังนั้น จึงต้องตกเป็นเป้าสายตาของทุกสาวที่เดินผ่านมา
“ หึ หึ หึ มาถึงเชียงใหม่ทั้งที จะให้อุดอู้อยู่กับแฟนอย่างเดียวได้ยังไง เพราะที่นี่คือเมืองหลวงแห่งแดนเหนือ แถมสาวคำเมืองก็ยังสวยบรรลัย ดังนั้น เราต้องท่องราตรีทั้งคืน เพื่อจารึกความทรงจำดีๆไว้ในสมอง ”
เมื่อหรั่งตัดสินใจได้ดังนั้น เขาจึงตรงไปที่รถแท็กซี่ ซึ่งจอดรอรับผู้โดยสารอยู่ริมฟุตบาท เพื่อมุ่งไปสู่จุดหมายปลายทางที่ต้องการ นั่นก็คือ……ผับดังใจกลางเมือง
“ Let Go คืนนี้ เราจะสนุกให้สุดเหวี่ยง ”
……………………
ผับแมงกาโต้ เป็นสถานบริการที่ครบครัน มีทั้งเพลงมันๆโดนใจวัยรุ่น อาณาเขตก็กว้างขวางประมาณ 10 คูหา แถมยังมีสองชั้น ทำให้จุผู้คนได้มากกว่า 500 ชีวิต
“ ตื้ด ตี้ ตื้ด…..”
เสียงดนตรีแนวแดนซ์ที่มีเหล่าดีเจคอยรีมิกซ์ ดังอย่างต่อเนื่อง แถมภายในผับอันโอ่อ่า ยังมืดสลัวจนมองไม่เห็นหน้า มีเพียงแสงสีวับๆแวบๆจากไฟเธคคอยสาดส่อง ให้ความสว่าง จึงพบกับผู้คนหลายร้อย ซึ่งหวังมาหาความบันเทิงชั่วคราว
“ อื้อ…หือ…บรรยากาศที่นี่ดูเยี่ยม ไม่แพ้แหล่งเที่ยวในกรุงเทพ ” หรั่งสะบัดแจ็คเก็ตหนังหนึ่งที ก่อนเบียดผู้คนที่ยืนเต้นสลับดื่มกิน เพื่อหาทำเลงามๆมาปักหลัก และแล้ว เขาก็มองเห็นมุมเหมาะ ซึ่งเป็นโต๊ะยาวทางด้านซ้ายมือ
“ อืม…เอาตรงนั้นแหละ ที่นั่นจะเป็นฐานบัญชาการของเรา ”
ทันทีที่หรั่งฝ่าด่านผู้คนจนมาถึงจุดหมาย เขาก็นั่งลงบนโต๊ะไม้ที่ว่าง พร้อมหันไปสั่งเหล้าจากบ๋อยหนุ่มที่ตามมาให้บริการ
“ มาร์ตินี่ 1 เขย่า แต่ไม่ต้องคน ”
“ รับทราบครับ ” บ๋อยร่างสูงก้มหน้ารับคำ แล้วเดินจากไป เพื่อไปชงเครื่องดื่มตามบัญชา หรั่งจึงหันกลับมาสนใจเป้าหมายหลัก
“ อืม….ทีนี้ ก็มองหา……อาหารตา ”
เพียงไม่ถึงอึดใจ หรั่งก็สมประสงค์ ด้วยมีบางคนเอามือมาลูบหัวไหล่แกร่งของเขา จากสัมผัสที่ได้รับ บอกให้รู้ว่าคนๆนี้น่าจะเป็นสตรี เพราะมีผิวที่เนียนนุ่ม และเมื่อหนุ่มลูกครึ่งหันไปมอง ก็พบว่า….ไม่ผิดจากที่คาด
“ ว้าย ว้าย ว้าย ดูดีเหลือรับประทาน คุณชื่ออะไรคะ พ่อรูปหล่อ ” สาวนางที่ถือวิสาสะ น่าจะมีวัยประมาณ 20 ปลาย 30 ต้น เธอไว้ผมสั้นปะบ่าที่ย้อมสีบรอนด์ ทำให้ดูอินเตอร์ แต่ดันไปขัดกับใบหน้าหมวยๆที่แลสดใส
หรั่งนิ่งพิจารณาอยู่อึดใจ เพราะถึงสาวนางนี้จะไม่สวยถูกใจเท่าไหร่ แต่แม่คุณก็มีทรวดทรงที่งดงาม เพราะแทบไม่เห็นไขมันส่วนเกินจากเรือนร่างที่สวมชุดเดรสยาวแบบรัดเข้ารูป เขาจึงแนะนำตัว พร้อมรอยยิ้ม
“ สวัสดีครับ ผมชื่อหรั่ง ยินดีที่ได้รู้จัก ”
“ หวัดดีจ้า ชั้นชื่อ…แอน พักอยู่แถวนี้ ” สาวหมวยในชุดเดรสแดง พูดจบ ก็ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ พร้อมชะม้ายชายตา เป็นเชิงเชื้อเชิญ
เพียงแค่เห็นอากัปกิริยาของอาคันตุกะสาว หรั่งก็แทบจะดูออกว่าสตรีนางนี้ น่าจะชวนเขาขึ้นห้องอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งหนุ่มหล่อก็ไม่คิดจะปฏิเสธ ขณะที่ทั้งสองกำลังจะลุกจากที่นั่ง เพื่อไปเที่ยวต่อที่นครสวรรค์ ก็มีเสียงใสๆร้องทัก
“ หวัดดีค่า พี่หรั่งมาเที่ยวเชียงใหม่หรือคะ ”
หรั่งรีบหันกลับมามอง เพราะฟังจากบทสนทนา บอกให้รู้ว่าอนงค์นางนี้รู้จักเขาล้านเปอร์เซ็นต์ และเมื่อได้ยลแบบเต็มสองตา ก็พบว่าเป็นดรุณีแรกรุ่นในเสื้อสายเดี่ยวที่บางเฉียบ ส่วนช่วงล่างก็นุ่งกระโปรงสั้นสูงสามคืบ
“ อะ…เอ่อ….คะ…ครับ ผมมาเที่ยวเชียงใหม่ ” หรั่งทวนคำ ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าสวยใสไร้สิวของเด็กสาว ในใจแอบขบคิดอยู่สองอย่าง นั่นก็คือ…..เธอเป็นใคร แล้วเข้ามาในผับนี้ได้อย่างไร พวกการ์ดไม่ตรวจบัตรประชาชนเลยรึไง
เหมือนสาวน้อยจะอ่านใจของหรั่งออก เพราะดวงตาของหนุ่มหล่อ มันฟ้องซะขนาดนั้น เธอจึงช่วยเหลือ ด้วยการรำลึกถึงความหลัง
“ แหม……พี่หรั่งทำเป็นจำหนูไม่ได้ ก็เมื่อปีกลาย พี่มาสาธิตวิธีการเล่นสเก็ตบอร์ดที่โรงเรียนของหนูไง ”
พอถึงตรงนี้ หรั่งเริ่มนึกออก เพราะเมื่อปีก่อน เขาได้มีโอกาสไปสอนนักเรียนมัธยมต้นให้เล่นกีฬาเอ๊กซ์ตรีม ตามคำขอร้องของผู้อำนวยการที่เป็นเพื่อนสมัยมหาลัย แน่นอน ด้วยความหล่อเหลาดุจเทพบุตร จึงมีเหล่าเด็กสาววัยขบเผาะมารุมล้อม และนางที่ตามตอแยมากที่สุดก็คือ….
“ จ๊ะจ๋า ใช่มั้ยเนี่ย ” หรั่งร้องทัก เพราะไม่ลืมสาวน้อยจอมแสบ ที่คอยติดพันเป็นเงาตามตัว แถมยังพยายามขอเบอร์ทุกสิบนาที แต่เขาไม่เล่นด้วย เนื่องจากเธอนั้นเด็กเกินไป ขืนเผลอตัวไปยุ่ง มีหวังต้องกินข้าวแดงอย่างแน่นอน ทว่าเมื่อพิจารณาในตอนนี้ กลับให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป
สาเหตุที่หรั่งคิดเช่นนี้ เพราะประสบกับบักแตงโมที่ซ่อนตัวตนอยู่ในสายเดี่ยวคอเว้า ด้วยสายตาที่เฉียบคม ทำให้รู้ว่านี่คือ…ของจริงอย่างแน่นอน
“ อื้อหือ….ทำไม เด็กสมัยนี้ถึงได้โตไวนัก ไม่เห็นแค่ปีเดียว ก็พัฒนาถึงเพียงนี้ ”
เหมือนจ๊ะจ๋าจะรู้ว่าหนุ่มหล่อลูกครึ่งคิดอะไร เพราะสังเกตได้จากดวงตาคมที่แลเคลิบเคลิ้ม แถมยังจรดจ่อกับฟักแฟงคู่โตอยู่ตลอด เธอจึงยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อไมตรี ด้วยการก้มตัวลงต่ำ เพื่อให้อีกฝ่ายได้ยลภาพกีฬามันๆแบบเต็มสองตา
“ โอ้ว…..นี่มัน ”
แอนเห็นท่าไม่ดี เพราะมีแววว่านางแมวเด็กจะมาแย่งเหยื่อสวาทหน้าหล่อ แต่มีหรือว่าสาวหมวยไฟแรงสูง จะยอมรามือให้ง่ายๆ เธอจึงช่วงชิง ด้วยการโผเข้าไปกอดแขน พร้อมออเซาะเสียงหวาน
“ พ่อรูปหล่ออย่าไปสนใจนังเด็กกะโปโลเลย ละอ่อนแบบนี้ ทำอะไรไม่เป็นหรอก มาร่วมสนุกกับผู้มีประสบการณ์แบบแอนดีกว่า รับประกันว่าหรั่ง…..ต้องติดใจ ไปจนวันตาย ”
คำพูดสองแง่สองง่ามของสาวหมวยทรงเสน่ห์ ดูจะดึงดูดใจของหนุ่มหล่อ แต่ที่ตราตรึงสุดๆ หาใช่กระแสเสียงที่หวานใสหรือเนื้อหา กลับเป็นสัมผัสหยุ่นนิ่มที่กำลังกระทบต้นแขน แถมสิ่งเดียวที่ขวางกั้นเนื้อใน ก็มีเพียงเดรสแดงผ้าบาง
“ อู้ว…..จะว่าไป แม่หน้าหมวยนี่ก็ไม่ใช่ย่อยแฮะ ทรวดทรงของเธอช่างนุ่มนิ่มดีเหลือเกิน หึ หึ หึ…..”
แน่นอนว่าศึกชิงนายครั้งนี้ คงจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไม่มีใครยอมใคร และในขณะที่สองสาวต่างวัยกำลังเขม่นกัน เพื่อแย่งผู้เกรดเอ หรั่งก็หันไปเห็นใครบางคนที่ยืนอยู่บนชั้นสอง
“ เอ๊ะ! นั่นมัน……”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ