ขอ เพียง รัก
เขียนโดย โป่งแตก
วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 09.49 น.
แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 12.34 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ใช่…ใช่ไหมฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
หลังจากวันนั้นวันที่ฉันบังเอิญชน ใช้คำว่าบังเอิญชนจริงๆนะถึงแม้ก่อนหน้านี้จะวางแผนไว้เยอะแยะ แต่พอได้ทำจริงกลับเขิลมากๆเลยหละจนไม่กล้าทำ เหมือนลับหลังคิดว่าจะแสดงออกต่อหน้าพี่เขายังไงบ้างแต่พอเจอต่อหน้าสิ่งที่เคยคิดจะทำกลับไม่ได้ทำ คำพูดที่คิดจะพูดกลับไม่กล้าพูดแม้แต่นิดเดียว ทุกๆวันที่ตื่นเช้าแล้วไปโรงเรียนมันมีความหมายมากขึ้นพูดได้ว่าจากเด็กขี้เกียจกลายเป็นเด็กที่ขยันขึ้นมากๆเพราะคำว่ารักคำเดียวจริงๆเลยน้า แล้ววันหนึ่งวันที่ฉันกำลังจะสมหวังและทำให้ฉันได้พูดคุยกับพี่เขามากขึ้นก็ใกล้เข้ามา
~คาบพักกลางวัน~
“น้ำรินนี่กี่วันแล้วนะที่แกได้เข้าไปอยู่ชมรมวงโย” ลูกโป่งถามขึ้นในขณะที่ฉันสะลึมสะลือหลังจากที่ทานข้าวกลางวัน อ่าหนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อนค่ะ
“ก็จะสองเดือนแล้วนะทำไมหรอ” ฉันตอบกลับไปเอื่อยๆ
“ฉันไม่ได้จะทำให้แกกังวลนะแต่ถ้าแกยังไม่ได้เบอร์พี่เขาฉันว่าแกกำลังจะพลาดนะ”
“พลาดอะไรเหรอ ตั้งแต่อยู่ในวงมาฉันยังไม่เห็นพี่เขาคุยกับใครแบบสนิทเลยนะ” ฉันตอบกลับไปอย่างสงสัย จริงๆนะตลอดเกือบสองเดือนที่ฉันได้อยู่ในวง เห็นชัดเลยว่าพี่แอลตั้งใจซ้อมมากๆแล้วก็ไม่เคยเห็นคุยกับผู้หญิงคนใหนแบบสนิทสนมเลยฉันจะพลาดตรงใหนละ
“ตกข่าวสินะมีวงในบอกมาค่ะว่า เห็นพี่เขาไปกินมาม่ากับผู้หญิงคนหนึ่งหลังโรงเรียนตอนเลิกเรียนจ้ะ” ลูกโป่งบอกฉันอย่างกระตือรือร้น ฉันที่กำลังสะลึมสะลือต้องเด้งตัวขึ้นเพื่อสนใจในสิ่งที่ลูกโป่งกำลังบอก
“ใคร ใครกันแกรู้มาจากใหนฮืออจะร้องอ่ะแก”
“เวอร์จัดค่ะ เหมือนจะเป็นเด็กโรงเรียนอื่นนะ รีบเข้าจะทำอะไรก็รีบเข้า”
ฉันหนั่งหน้าหมาหง่อย แล้วฉันจะใกล้ชิดพี่เขาให้มากขึ้นกว่านี้ยังไงหละเล่นดนตรีก็คนละเครื่อง เบอร์โทรก็ไม่รู้จะหามาจากใหน อ้ะเบอร์โทรใช่ฉันต้องหาเบอร์พี่เขาแต่จะหามาจากใหนดีละ ฉันนั่งคิด คิดแล้วก็คิด อ่ะรู้แล้วในห้องชมรมรู้สึกเหมือนจะมีสมุดรวมรายชื่อนักเรียนอยู่แต่จะมีเบอร์โทรด้วยไหมนะตอนลงชื่อก็ลืมไปเลยว่าตอนนั้นได้เขียนเบอร์ตัวเองลงไปรึเปล่า เอาวะทางเดียวแล้วไม่กล้าขอเบอร์ตรงๆก็แอบๆหาเอาเองละกัน
“ทำหน้าแบบนี้คิดแผนออกแล้วหละสิ” ลูกโป่งพูดรู้ทันฉันแหม่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่เดือนรู้ลึกรู้จริงรู้ในสิ่งที่ฉันกำลังคิดแสนรู้จริงงงง
“คิดออกแต่ถึงเวลาจะกล้าทำรึเปล่าอันนี้อีกเรื่องนะ” ฉันพูดหงอยๆ
“คิดง่ายๆก็แค่ถ้าไม่เสนอหน้ามากกว่านี้ อยู่ในสายตาพี่เขาให้มากกว่านี้ แกก็เป็นแค่รุ่นน้องคนหนึ่งเท่านั้นแหละ”นั้นปากแรงคำพูดแรงๆแบบนี้ออกมาจากปากคนคนเดียวเท่านั้นละ ขนมคนดีคนเดิม
“ขนม ขอสักวันที่ไม่ทำร้ายจิตใจกันได้ไหมมจะร้องใส่แล้วนา”ฉันพูดพลางไปงอแงใส่ขนมให้นางลำคาญฉันเล่น ขนมลุกหนีพร้อมทำท่าสยองผองขนใส่ฉัน
“พอๆหยุดทั้งคู่ไปเข้าเรียนกันดีกว่า” ลูกโป่งว่าพลางลากเราสองคนขึ้นเรียน เอวันนี้มีคาบชมรมนี่นา จะได้เป่าเครื่องแล้วเย้ๆ จะได้เริ่มแผนด้วยหึหึหึ
~คาบชมรม~
“พวกฉันไปละ เดี๋ยวไม่ทันเช็คชื่อเข้าชมรมโดนดุอีกเจอกันตอนเลิกเรียนหน้ารั้วโรงเรียนละกันริน”
ลูกโป่งบอกฉันแล้วรีบวิ่งหายไปกับฝูงชนก่อนที่ฉันจะตอบอะไรกลับไป ฉันเองก็ต้องรีบไปห้องวงโยแล้วเพื่อหาเบอร์โทรพี่แอลคนดี แต่สมุดที่ว่าจะอยู่ตรงใหนกันนะลองแอบถามพี่ๆในห้องชมรมดีกว่าไหมนะทำทีว่าฉันลืมว่ายังไม่ได้ลงชื่อตัวเองหึหึ แต่เดี๋ยวนะถ้าทำแบบนั้นพี่เขาจะเชื่อกันหรอ ไม่ๆไม่ได้แผนนี้ไม่ได้ต้องไปแอบๆหาดูเองจริงๆแล้วละฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อไปให้ถึงห้องชมรมไวๆพอใกล้ถึงห้องชมรมแล้วสังเกตุได้ถึงความเบาบางของนักเรียน เอะวันนี้คนเข้าชมรมช้าจังคนยังไม่เยอะมากฉันคิดพลางรีบเดินเข้าไปในห้องเก็บเครื่องดนตรีที่ยังไม่มีคนมา มองหาตามชั้นวางของก็ไม่มี งั้นไปเดินดูแถวโต๊ะครูดีกว่าแล้วฉันก็เจอสมุดรายชื่อนักเรียนต้องเป็นเล่มนี้แน่ๆ ค่อยๆเปิดทีละหน้าอย่ามีพิรุธนะน้ำริน ค่อยๆเปิดทีละหน้า หน้าหนึ่งผ่านไป หน้าสองหน้าสาม ค่อยๆผ่านไป อีกนิดเดียวว
“น้องคับน้อง”
เวรแล้วน้ำรินใครมากัน ฉันรีบปิดสมุดวางไว้ที่เดิมแล้วก้มหน้าไม่กล้าตอบทำไงดีละฉันจะตอบว่าไงดี จะบอกว่าหาของแต่นี่โต๊ะครูนะ ไม่ๆ เสียดายอ่ะ ใกล้จะเจอชื่อพี่เขาแล้วเชียว
“น้องทำไมไม่ตอบละครับแล้วทำอะไรที่โต๊ะครู” ต้องตอบแล้วน้ำรินเธอต้องตอบแล้ว รุ่นพี่คนนั้นทำเสียงดุๆแล้วด้วย ฉันรีบหันกลับไปเพราะความตกใจหรือความมีพิรุธของตัวเองก็ไม่รู้ แล้วก็เจอกับเทพบุตรที่ฉันกำลังหาเบอโทรอยู่
“อ้าวพี่แอล เข้าชมรมเร็วจัง อ้อพอดีรินจะมาหารายชื่อเอาไปเตรียมให้พวกพี่ๆเชรคชื่อกันค่ะ” ทีแบบนี้คิดเร็วเชียวรินดีนะหัวไว หัวใส ฮ่าาา
“อ่อ น้องน้ำรินนี่เองขอบคุณนะแต่ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวพวกพี่เขามาจัดการกันเองแหละ” ฉันรีบเดินออกมาเพื่อเลี่ยงที่จะคุยกับพี่เขาขืนอยู่ต่อความแตกแน่ฉันแกล้งปวดท้องแล้วไปห้องพยาบาลดีไหมนะ
“รีบไปใหนเรา ไม่เช็คเครื่องหรอ”พี่แอลถามเสียงนิ่ง
“อ้อ ค่ะๆรินลืมไปเลย เช็คเครื่องต้องเชรคเครื่องก่อนเล่นเนอะ” ฉันตอบตะกุกตะกัก คิดว่าพี่เค้าจะรู้ไหมนะว่าฉันมาทำอะไรกับรายชื่อ ฮือพิรุธออกมาชัดเจนมากน้ำริน ฉันเดินไปยังที่เก็บเครื่องของตัวเองพยายามทำตัวให้มีพิรุธน้อยที่สุดถึงแม้จะโป๊ะไปนิดนึงเมื่อกี้นี้ จู่ๆในขณะที่ฉันกำลังนำเครื่องของพวกพี่ๆออกมาเช็ครอเพื่อนคนอื่นๆ ด้านหลังของฉันฉันรู้สึกได้เหมือนมีเงาใครบางคนอยู่ข้างหลังฉันอย่าบอกนะว่าพี่แอล ฉันรู้สึกได้ว่าใกล้เข้ามาแล้ว อย่าหันไปนะบอกตัวเองอย่าได้หันไป
“อยากได้เบอร์พี่ขอดีๆพี่ก็ให้นะ” นั้นไงพี่แอลจริงๆด้วย เขารู้อะเธอเขารู้ว่าฉันหาเบอร์เขาอยู่ฉันกรีดร้องเบาๆในใจ
“ไม่หันมาหรองั้นพี่วางไว้ตรงนี้นะ” พี่แอลพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาราวกับว่าอยากให้ฉันได้ยินเพียงคนเดียว มือสวยๆของพี่แอลเอื้อมข้ามหัวฉันแล้วเสียบกระดาษแผ่นเล็กๆไว้ระหว่างกล่องใส่เครื่องดนตรี ฉันยืนนิ่งไม่กล้าหันไปสบตาพี่เขาเพราะรู้แน่ว่าเจ้าตัวกำลังมองมาทางฉัน เขาอยู่ใกล้เกินกว่าที่ฉันจะสามารถหันกลับไปได้ใจฉันเต้นตึกตักเหมือนจะหลุดออกมาและรู้สึกได้ถึงความร้อนของใบหน้าตัวเอง
“ไปนะ เก็บดีๆละ” เสียงนุ่มๆของพี่แอลเอ่ยออกมาอีกครั้งก่อนจะถอยห่างฉันไปฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา โล่งไปซะทีอีกนิดนึงจะเป็นลมใส่จริงๆแล้วนะพี่แอลงือ ฉันเก็บกระดาษที่สอดไว้ใส่ในกระเป๋าอย่างดีไม่กล้าเปิดดูกลัวว่าถ้าเปิดแล้วมีข้อความของพี่แอลฉันอาจไม่มีสติซ้อมดนตรีก็ได้ ฉันค่อยๆทรุดตัวลงเหมือนเมื่อกี้ฉันใช้พลังงานในการอดกลั้นของตัวเองมาไป ร้อนในห้องนี่มันร้อนจริงๆนะ ฉันพยามพัดลมให้กับตัวเองเพื่อไล่อาการหน้าแดงของตัวเองที่มีอยู่ ฉันเงยหน้าขึ้นกะสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองแต่แล้วฉันก็สบตาเข้ากับพี่แอลอีกครั้งครั้งนี้พี่แอลมองมาพร้อมกึ่งยิ้มกึ่งหัวเราะกับท่าทีของฉันที่อยู่ในสายตาพี่เขาตลอด เอ้ารินเธอลืมไปสินะว่าที่ห้องดนตรีก็มีหน้าตาที่มองเห็นกัน นี่แสดงว่าเห็นหมดเลยหนะสิ ฉันหันหลังให้กับหน้าต่างแล้วทำทีเช็คเครื่องตัวเองต่อ หมดกันลุคใสๆที่สะสมมานาน หลังจากนั้นขอบอกเลยค่ะว่าฉันไม่มีสมาธิซ้อมดนตรีเลยแม้แต่นิดเดียว เป่าผิดบ้าง เล่นช้ากว่าคนอื่นบ้างจนต้องโดนสั่งให้ไปวิ่งรอบสนามสามรอบเป็นการลงโทษจากพี่ๆ หลังจากเลิกชมรมฉันไม่พูดจากับใครและออกจากห้องชมรมเร็วโดยอ้างกับเพื่อนๆว่า วันนี้ป๊ามารับเร็ว ฉันรีบเดินไปยังจุดนัดพบที่นัดกันไว้กับลูกโป่งและนั้นฉันเห็นแล้วร่างท้วมนั้นที่ยืนรออยู่
“ว่าไงคะ แผนสำเร็จไหม” ลูกโป่งถามเสียงใส
“เกิดคาดว่ะแก ฉันยังอึ้งอยู่เลยตอนนี้” หลังจากนั้นฉันเล่ารายละเอียดให้กับลูกโป่งฟัง ลูกโป่งเองตั้งใจฟัง และอึ้งไม่แพ้กันกับสิ่งที่ฉันบอกไป
“เห้ยย แบบนี้เหมือนพี่เขาจะมีใจให้แกนะมีลุ้นวะ”
“แกไม่ได้ไปบอกอะไรพี่เขาใช่ไหม นี่ไม่ได้วานแผนแกล้งฉันใช่ไหมถามจริง” ฉันถามเพราะรู้สึกสงสัยกับเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลนี้เพราะมันแปลกจริงๆนะ ที่จะรู้ในทันทีว่าฉันหาเบอร์อยู่
“สาบานเลย ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ”ฉันที่เดินไปคิดไป ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันจริงหรือหลอกให้ฉันดีใจเล่นกันนะ
“ริน อย่าไปคิดมากเลยไม่งั้นลองโทรไปถามพี่เขาดูไหม” ลูกโป่งเสนอความคิดเห็น
ฉันได้แต่เดินแบบอึ้งๆหรือว่าพี่เขาจะชอบเราเหมือนกันนะ จริงดิหรือว่าโดนแกล้งอีกแล้ว ระหว่างฉันเดินคิดเรื่องของพี่เขากอยู่นั้นก็มีขวดน้ำเย็นๆมาแตะที่หลัง ฉันสะดุ้งพร้อมกับจะหันไปด่าคนที่มาเล่นพิเรนแบบนี้ถ้าเป็นช่วงปกติ ฉันคงไม่ตกใจขนาดนี้หรอกแต่เพราะตอนนี้ฉันกำลังคิดเรื่องของพี่แอลอยู่หนะสิ ฉันหันไปและได้แต่อ้าปากค้าง
“อะไรกันตกใจขนาดนั้นเชียวพี่ไม่แกล้งละอ่ะพี่ให้ เห็นตอนซ้อมเสรจไม่ยอมกินน้ำเดินออกมาอย่างเดียวเลย ทีหลังซ้อมเสรจแล้วต้องกินน้ำเยอะๆนะ”
นั้นพี่แอลอีกแล้วนี่แกล้งให้ฉันตกหลุมลงไปใช่ไหม ฉันรับน้ำมาและก้มหน้าลงเล็กน้อยเพราะฉันเขิลมากเขิลเกินไปหน้าแดงแน่ๆพี่เขารู้แน่ว่าฉันชอบเขาอยู่
“ขอบคุณค่ะ” ฉันที่ก้มหน้าอยู่พูดขอบคุณพี่เขาด้วยเสียงสั่นๆ พี่แอลเดินจากไป ลูกโป่งดึงขวดน้ำไปและแตะฉันเบาๆที่แขนพลางแซว ฉันได้แต่ยิ้มเขิลๆบิดตัวไปมาพอพี่เขาไม่อยู่แล้วอาการแสดงออกหนักมาก ฉันหันไปมองหาว่าพี่แอลเดินไปถึงใหนแล้ว ถึงได้สบตากับพี่เขาอีกครั้งเห็นพี่เขาทำมือเหมือนส่งสัญญาณให้ฉันโทรไป ฉันยิ่งเขิลเข้าไปใหญ่คืนนี้ฉันจะต้องโทรหาพี่เขาให้ได้ ใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วค่ะคุณ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ