ยอดสตรีฉางอิ๋ง
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.20 น.
แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 17.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) ความทุกข์ของว่าที่พระชายา (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความซ่งไจ้สุ่ยหยิบเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดดวงตาแล้วกล่าวเสียงเย็นว่า "เสิ่นจั้งเฟิง ข้าได้ยินพี่ชายกล่าวว่า เขาเป็นคนที่ไม่เลวเลย! หากว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นเขายังรู้สึกไม่ได้ความเป็นธรรม มาเทียบกับข้า ข้าต้องคิดว่าเจ้าจงใจเยาะเย้ยข้าแน่!"
เว่ยฉางอิ๋งเห็นว่าแค่พูดถึงรัชทายาท พูดถึงเมืองหลวงก็จะทำให้ซ่งไจ้สุ่ยกลายเป็นคนพูดจาเย็นชานิสัยประหลาดไปทันที จึงกล่าวอย่างปวดหัวว่า "ข้าจะไปเยาะเย้ยท่านพี่ทำไมกัน? ท่านดูแค่ว่าหลายปีมานี้ทำไมข้าต้องทนฝึกฝนการต่อสู้อย่างยากลำบากก็รู้แล้ว เดิมข้าเป็นพวกชอบงานสบายไม่ชอบงานหนักไม่ชอบความลำบาก หากว่าไม่ใช่เพราะกลัวว่าเมื่อออกเรือนไปแล้วจะถูกรังแก ทำไมข้าจะต้องทนทรมานฝึกฝนมาตลอดหลายปีอย่างนี้ด้วย?"
"...นี่มันไม่เหมือนกัน" ซ่งไจ้สุ่ยสงบลงได้เล็กน้อย แต่ยังคงกล่าวเสียงเย็นว่า "รัชสมัยต้าเว่ยสองยุคนี้เสื่อมถอยลงไปมาก รัชทายาท...เฮ้อ! คนนี้คือรัชทายาทคนที่สามของราชสำนักแล้ว ก่อนหน้านี้บ้างก็แม่แท้ๆ ตายบ้างล่ะ หมดความโปรดปรานบ้างล่ะ และทำให้ถูกถอดยศและประทานความตายให้ไปด้วย! จุดจบชายาของรัชทายาทหลายคนนั้นเจ้าเองก็เห็นแล้ว! เจ้าแต่งกับเสิ่นจั้งเฟิง ต่อให้ไม่ดีอย่างไร ก็ไม่ต้องกังวลใจว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้เพราะท่านพ่อไม่โปรดปรานไม่ใช่หรือ?"
เว่ยฉางอิ๋งขมวดคิ้วคิดแล้วกล่าวว่า "แต่ว่าท่านแม่แท้ๆ ของรัชทายาทคือฮองเฮาคนปัจจุบัน"
"ใช่แล้ว บุตรสาวจากตระกูลสาขาคนหนึ่ง เมื่อเข้าวังก็เป็นเพียงแค่ภรรยาในนามเท่านั้นล่ะ เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีก็สามารถเอาชนะเหล่าสนมทั้งหลายและกลายเป็นเจาอี๋[1]สนมลำดับที่หนึ่งของสนมเอกทั้งเก้า ทั้งยังแต่งตั้งโอรสให้เป็นรัชทายาทคนที่สามของราชวงศ์นี้ หลายปีก่อนหน้านี้ยังถูกแต่งตั้งให้เป็นฮองเฮาอีก!" ซ่งไจ้สุ่ยยิ้มเย็น "แม้ว่านางจะเป็นบุคคลผู้มีความสามารถเหนือวังทั้งหก แต่จนตอนนี้มีผู้ที่ได้รับโปรดปรานมายาวนานอย่างนี้ที่ไหนกัน? ตอนนี้อายุนางก็มากขึ้นแล้ว รูปโฉมไม่เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว แม้ว่านางจะพยายามอย่างมากเพื่อรักษาใบหน้าอ่อนเยาว์เอาไว้ แต่ว่าตอนนี้ก็อันตรายมากแล้ว!"
เว่ยฉางอิ๋งมีสีหน้าไม่เห็นด้วย ซ่งไจ้สุ่ยปรายตามองนางแล้วกล่าวเสียงต่ำว่า "นี่คือข่าวที่พี่รองของข้าเอามาบอกข้าโดยเฉพาะ!"
"แล้วท่านลุงยังเร่งให้ท่านกลับเมืองอีกหรือ?" เว่ยฉางอิ๋งกล่าวถามอย่างประหลาดใจ
ซ่งไจ้สุ่ยหรี่ตาลง "ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าท่านพ่อคิดอะไรอยู่? พี่ใหญ่ก็ไม่ยอมช่วยข้า ยังดีว่าพี่รองยังส่งข่าวให้ข้าบ้าง...ไม่อย่างนั้นครั้งที่แล้วท่านพ่อเขียนจดหมายมาบอกว่าเขาป่วย ข้าคงจะต้องรีบกลับไปดูแล้วจริงๆ!"
นางมีสีหน้าเคร่งขรึมแล้วกล่าวว่า "ดังนั้นข้าจึงคิดที่จะพยายามยื้อเอาไว้ พี่รองบอกว่าไม่ได้พบฮองเฮามาถึงสามเดือนเต็มแล้ว ทุกวันนี้ที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดก็คือเจี๋ยอวี๋[2]แซ่เมี่ยว นางยังไม่ได้กำเนิดโอรสธิดา แต่ว่ากลับเลี้ยงดูองค์ชายสิบหกและองค์ชายสิบเจ็ดที่ยังอายุน้อยไว้ข้างกาย ความประสงค์นี้ใครจะยังมองไม่ออกกัน? ฉางอิ๋งเจ้าช่วยข้าเถอะ เรื่องนี้เป็นทั้งชีวิตของข้า ไม่ยินยอมจริงๆ...เจ้ายังยอมทนทรมานเรียนต่อสู้มาถึงสิบสองปีเพื่อไม่ยอมให้ตนเองถูกเสิ่นจั้งเฟิงรังแกเมื่อไปถึงที่ตระกูลเสิ่น คิดว่าเจ้าเองก็น่าจะรู้ดีถึงความจนใจของผู้หญิงอย่างพวกเราเมื่อแต่งไปกับผู้ชายที่ไม่ดีได้ บางทีหากผ่านวันนี้ไป หรือพรุ่งนี้ไป ฮองเฮาล้มลง รัชทายาทถูกปลดหรือประทานให้ตาย ข้าเองก็คงอาจจะไม่ต้องแต่งงานแล้วก็ได้?"
เว่ยฉางอิ๋งกล่าวอย่างลำบากใจว่า "แน่นอนว่าต้องช่วยท่าน แต่ว่าท่านเองก็รู้ดีว่า ท่านย่ารักข้า แต่ว่าก็ไม่ใช่ว่าจะยอมฟังข้าทุกเรื่อง หากว่าฮองเฮาไม่ล้มเสียที และกำหนดวันแต่งงานไว้แล้ว ข้าเองก็จนปัญญา"
ซ่งไจ้สุ่ยถอนหายใจแล้วกล่าวอย่างทุกข์ระทมว่า "การวางแผนการอยู่ที่คน แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องอยู่ที่ลิขิตฟ้าแล้ว ท่านอาเองก็ไม่ได้ง่ายเลย ไม่ต้องพูดถึงความกดดันของสะใภ้ใหญ่ตระกูลอย่างนางก่อนเจ้าจะเกิดมา ข้าได้ยินท่านย่ากล่าวว่า ตอนที่ท่านอาอยู่ที่บ้านแม่นั้นก็เป็นคนหัวแข็งมาก แต่ว่าท่านพ่อเจ้ากลับมีสุขภาพไม่ดีมาตลอด ตอนนั้นท่านปู่ของเจ้าลาป่วยกลับมาบ้าน เดิมท่านพ่อเจ้าควรจะไปรับตำแหน่งในราชสำนักแทนท่านปู่ แต่ว่าตอนนี้ทางเมืองหลวงได้ท่านอารองที่เกิดจากอนุภรรยามาแทนที่บุตรของภรรยาเอก...ทุกวันนี้ท่านย่ากับท่านปู่ยังอยู่ ชีวิตของบ้านเจ้าทางนี้จึงยังดีอยู่ ต่อไปขอแค่ฉางเฟิงมีความสามารถ ไม่อย่างนั้นบ้านหลังอย่างพวกเจ้า เกรงว่าคงได้ถูกบ้านสองของอนุภรรยาฝั่งนั้นกดลงไปแน่!"
เว่ยฉางอิ๋งได้ยินก็ได้แต่ฝืนยิ้มแล้วกล่าวว่า "ท่านพี่เองก็พูดแล้ว นั่นคือท่านแม่แท้ๆ ของข้า แล้วทำไมข้าจะต้องทำให้นางโมโหด้วย? ข้าเองก็เพียงแต่อยากจะมีชีวิตที่ดีเมื่อออกเรือนไปแล้วเท่านั้น แต่ว่าหากทำตามที่ท่านแม่แนะนำ ทั้งชีวิตนี้ของข้าก็ยังคงถูกคนอื่นกำไว้ในฝ่ามืออยู่ดีไม่ใช่หรือ? แต่ว่าวิธีการของข้าหากว่าได้ผล ยามตายข้าก็ไม่จำเป็นต้องเอาแต่คิดย้อนไปถึงวันเวลาที่มีความสุขเมื่อตอนที่ยังไม่ออกเรือน ใช่ วิธีการของข้ามันเหลวไหล แต่ว่าอย่างไรข้าก็ฝึกฝนมานานขนาดนี้แล้ว ไม่ลองดูข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าจะไม่มีหวังแน่นอนแล้ว? สรุปแล้วก็คือข้าไม่อยากจะต้องไปคอยวนเวียนทำตามอารมณ์ยินดีโมโหทุกข์และสุขตามคนอื่น"
"เฮ้อ!" ซ่งไจ้สุ่ยถอนหายใจออกมาอย่างวุ่นวายใจแล้วกล่าวว่า "ตามใจเจ้าเถอะ พูดแล้วก็คือ เจ้าต้องพยายามเข้าใจท่านอาหน่อย เจ้าดูข้า ข้าในตอนนี้จริงๆ แล้วก็กำลังทุกข์ทรมานเพราะไม่มีท่านแม่คอยช่วยเหลือ! ท่านพ่อกับพี่ใหญ่ตอนนี้ ฟ้ารู้เข้าจะคิดอย่างไร เอาแต่คิดจะให้ข้าแต่งเข้าไปในราชวงศ์ มีเพียงพี่รองคนเดียวที่ยอมช่วยข้า แต่อย่างไรก็เป็นบุตร จะไปขัดแย้งบิดากับพี่ชายได้อย่างไร? หากว่าท่านแม่ยังอยู่ อาศัยแค่เพียงเหล่าผู้หญิงกับท่าทางไม่เอาไหนของรัชทายาทในวังตะวันออก นางคงจะคิดหาวิธีการอะไรตอบกลับไปแน่! ต่อให้ท่านพ่อยืนกรานอย่างไร มีท่านแม่คอยช่วยเหลือก็ยังดีกว่าตอนนี้ที่มีเพียงพี่รองคนเดียวที่รักข้า พี่รองกล่าวมาครั้งหนึ่ง ก็ถูกท่านพ่อด่าครั้งหนึ่ง ช่วงนี้เหมือนว่าจะถูกลงโทษด้วยกฎตระกูลด้วย! หากว่าเป็นท่านแม่ อย่างไรก็คงสามารถปกป้องข้าได้บ้าง!"
พูดถึงตรงนี้ ซ่งไจ้สุ่ยก็อดตาแดงขึ้นมาไม่ได้
เว่ยฉางอิ๋งถอนหายใจ "ท่านพี่อย่าเสียใจไปเลย ข้าว่าท่านลุงเองก็ไม่มีทางที่จะไม่รักท่านพี่ บางทีอาจจะมีเรื่องปิดบังอะไรอยู่ในนั้นก็ได้ อีกอย่างท่านลุงก็แค่บอกให้ท่านพี่กลับไปเมืองหลวงเท่านั้น ไม่ได้กล่าวอย่างอื่นเลย บางทีอาจจะเพียงแค่อยากให้ท่านพี่ไปที่เมืองหลวงแล้วไปถอนหมั้นก็เป็นได้?"
"ที่เจ้าพูดมาข้าเองก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น" ซ่งไจ้สุ่ยกล่าวออกมาเสียงเรียบ "แต่ว่าพี่รองเคยพูดเรื่องนี้ต่อหน้าท่านพ่อแทนข้าแล้ว ท่านพ่อกลับพูดว่าขอแค่ข้ายังเป็นบุตรสาวของเขาก็ต้องแต่งงาน!"
"..." เว่ยฉางอิ๋งพลันไม่มีคำพูดจะกล่าวออกมาแล้ว ทั้งสองคนต่างก็คิดถึงเรื่องเสียใจขึ้นมา และคร้านจะพูดอะไรอีก จึงนั่งเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ในห้องเงียบกริบ กระทั่งถึงสุดท้าย แม่นมเฮ่อจึงได้แต่ต้องมาเคาะประตู "คุณหนูใหญ่ คุณหนูซ่ง ควรจะไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว วันนี้คุณหนูทั้งสองจะไปไหม? หากว่าไม่ไป ข้าน้อยจะให้คนไปพูดกับฮูหยินผู้เฒ่าให้?"
เว่ยฉางอิ๋งรับปากไปอย่างไร้อารมณ์ "ไปๆ เข้ามารับใช้เถอะ!"
...........................................
[1] เจาอี๋ : หนึ่งในตำแหน่งพระสนมเอก ขั้นที่สอง ซึ่งจะมีจำนวนทั้งหมด 9 ตำแหน่ง แต่งตั้งได้ตำแหน่งละหนึ่งคนเท่านั้น เจาอี๋ หมายถึง ผู้มีความงามเป็นเลิศยิ่ง
[2] เจี๋ยอวี๋ : หนึ่งในตำแหน่งพระสนมชั้นสูง ขั้นที่สาม ซึ่งจะมีจำนวนทั้งหมด 27 ตำแหน่ง เจี๋ยอวี๋ หมายถึง หญิงผู้ได้รับความโปรดปรานจากองค์จักรพรรดิ เป็นตำแหน่งสูงสุดของพระสนมแต่ยังไม่เท่ากับพระสนมเอก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ