ความรู้สึกเราไม่เท่ากัน [ BL ]

-

เขียนโดย kiddie

วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 22.39 น.

  1 ตอน
  0 วิจารณ์
  2,338 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) พบเจอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

​​​​​​

 

​ 10.35 ภาสกรเงยหน้าขึ้นจากนาฬิกาบนข้อมือแล้วขมวดคิ้ว

 

" พี่นนท์ครับเลยเวลานัดมา ห้านาทีแล้วนะครับ " เจ้าของเสียงทุ่มน่าฟังเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงฉุนๆ

 

" เอาน่าอีกแป๊บคงใกล้ถึงแล้วล่ะ คุณรสส่งข้อความมาบอกพี่ว่าใกล้ถึงแล้วรถติดนิดหน่อยน่ะ" นนท์ณภัทร ได้แต่เอ่ยปลอบรุ่นน้องคนเจ้าระเบียบจัดอย่างภาสกรอย่างขำๆ

 

ภาสกรถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายกับลูกค้าที่ชอบไม่รักษาเวลารู้ทั้งรู้ว่านัดกันกี่โมงคุณก็ควรจะเผื่อเวลาไว้สิ แต่ก็คงทำได้แค่บ่นไปแบบนั้นเพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องรออยู่ดี

 

วันนี้ภาสกรมีคุยงานกับลูกค้าพูดให้ถูกก็คือญาติของท่านประธานบริษัทรับออกแบบบ้านหรือคอนโดชื่อดังที่ภาสกรทำงานอยู่นั่นเอง

 

" งั้นผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ " ภาสกรเอ่ยขึ้น

 

​​​​" ขอโทษที่มาช้านะครับ " น้ำเสียงทุ่มนุ่มนวลน่าฟังไม่ต่างจากภาสกรดังขึ้นจากด้านหลัง กึก เท้าที่เตรียมขยับไปเข้าห้องน้ำชะงักไปสนิท ภาสกรใจเต้นรัว น้ำเสียงนี้ช่างคุ้นเคยเสียงที่ไม่ได้ยินมานาน ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่แน่ใจนักภาสกรขยับหันหน้ากลับมามอง ถึงได้รู้ว่าเขาจำไม่ผิด

 

ราม " ภาสกรพึมพำเสียงเบาพลางจ้องมองใบหน้าของใครบางคนเนิ่นนานอย่างลืมตัว ชั่วขณะหนึ่งความรู้สึกดีใจตีตื้นขึ้นมาเต็มอกจนเผลอยิ้มออกมา

 

รวิภาส หันมาสบตาคนที่พึมพำเผลอเรียกชื่อเล่นของเขาอย่างสงสัยแล้วนิ่งไปทันที

 

ดวงตาคมเข้มลึกล้ำมองมาที่เขาอย่างเปล่งประกายใบหน้าคมคายหล่อเหลา ประดับไปด้วยรอยยิ้มทั้งดวงตาและริมฝีปาก

 

"พี่รามคะ" รวิภาสหันหน้ากลับมามองแขนของตนเองที่ตอนนี้มีมือของแฟนสาวพ่วงสถานะคู่หมั้นกำลังควงแขนเขาอยู่

 

"ครับ" รวิภาสขานรับในลำคอ

 

"สวัสดีค่ะคุณนนท์ คุณภาส ​​​​​นี่คุณนนท์ณภัทร ค่ะ ส่วนนี่คุณภาสกร เป็นคนรับหน้าที่ออกแบบเรือนหอให้เราค่ะ คุณนนท์กับคุณภาสคงเคย เจอรสมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ ส่วนนี่คุณรวิภาส เรียกสั้นๆว่า คุณรามก็ได้ คู่หมั้นรสเอง คุณนนท์กับคุณภาสเป็น สถาปนิก ที่เก่งมากเลยล่ะ รสไปอ้อนขอคุณลุงให้คุณนนท์กับคุณภาสลัดคิวเป็นคนออกแบบให้เราก่อนเลยนะคะ" หลังจากแนะนำตัวกันเสร็จรสรินหันมาเอ่ยกับรวิภาสด้วยน้ำเสียงสดใส

 

รวิภาสพยักหน้ารับแล้วยกมือขึ้นลูบผมรสรินแผ่วเบาอย่างเอ็นดูพร้อมกับยิ้มให้เบาๆ รสรินยิ้มกว้างออกมาอย่างเขินอายกับการกระทำของแฟนหนุ่มซึ่งจะกลายเป็นสามีของเธอในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

 

ภาสกรใจกระตุกวูบตอนที่เห็น คุณรสริน เดินมาควงแขนของรวิภาสอย่างสนิทสนม พร้อมกับเอ่ยแนะนำเขากับคุณนนท์ให้ใครอีกคนรู้จัก รอยยิ้มค่อยๆหายไปจากใบหน้าของเขาเมื่อได้ยินคุณรสริน พูดขึ้นว่าออกแบบเรือนหอ กับ คู่หมั้น เขาได้ยินแค่สองประโยคนี้เท่านั้น

 

"สวัสดีครับ" ภาสกรเอ่ยออกมาเสียงทุ่มของเขาเอ่ยออกมาอย่างสะกดกลั้นอารมณ์

 

"คุณรสกับคุณรามต้องการบ้านประมาณไหนครับ " 

 

นนท์ณภัทรเอ่ยขึ้นหลังจากแนะนำตัวกันเสร็จและนั่งกันเรียบร้อยแล้ว

 

"รสอยากได้แบบเรียบ หรู ดูแพง ค่ะ สไตล์โมเดิร์นประมาณนี้ คิดว่าไงคะพี่ราม" รสริน ตอบนนท์ณภัทรส่วนประโยคหลังรสรินหันมาถามแฟนหนุ่ม

 

"พี่ตามใจเราค่ะ" รวิภาสเบือนสายตาจากคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามมาตอบรสรินพร้อมรอยยิ้ม

 

​​​​​​"พี่รามตามใจรสมากไปแล้วนะ ช่วยรสคิดหน่อยสินี่บ้านของเรานะคะ ถ้าบ้านสร้างเสร็จแล้วไม่ถูกใจพี่ราม รสไม่รู้ด้วยนะ" รสรินเอ่ยอย่างหยอกเย้า 

 

รวิภาสเพียงหัวเราะในลำอย่างเอ็นดู

 

ภาสกรนั่งมองรวิภาสกับรสรินแสดง ควารัก ดวงตาคมเข้มนั้นเก็บซ่อนอะไรบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ออกมา

 

"งั้นเอาแบบนี้ดีกว่าค่ะ ขอเป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์คลาสสิกและสไตล์โมเดิร์นเข้าด้วยกัน โดยไม่ดูแปลกหรือแหวกแนวมากจนเกินไป ใช้โทนสีขาว ครีม เทา มีรายละเอียดการตกแต่งที่หนักแน่นมั่นคง ไม่ฉูดฉาด โอเคไหมคะพี่ราม " รสรินหันมาถามรวิภาสอีกครั้ง

 

" รู้ใจพี่ที่สุด ตามนี้เลยครับคุณนนทร์ คุณภาส " รวิภาสเอ่ยกับรสรินแล้วตอบ นนท์ณภัทรกับภาสกร

 

" จริงด้วย ทำห้องเด็กด้วยไหมคะพี่ราม"

 

 รสรินเอ่ยถามกับรวิภาส

 

"ทำไว้เลยก็ได้ครับ" รวิภาสเอ่ยตอบรสรินด้วยรอยยิ้ม

 

"นี่แต่งแล้วก่ะจะมีลูกกันเลยหรอครับ"

 

ภาสกรที่เงยหน้าจากงานที่จดตามความต้องการของรสรินขึ้นมาถามด้วยรอยยิ้มแล้วจ้องเข้าไปในดวงตาของรวิภาสเพื่อค้นหาอะไรบางอย่างจากดวงตาคู่นั้น

 

"ใช่ค่ะคุณพ่อกับคุณแม่ของเราทั้งคู่บอกว่าอยากอุ้มหลานกันเร็วๆแล้ว " 

 

รสรินเป็นฝ่ายเอ่ยตอบภาสกรแทนรวิภาสที่นิ่งไปอย่างไม่คิดอะไรมาก

 

​​​"โอเคครับตามนี้เลยนะครับถ้าผมได้แบบแล้วจะส่งไปให้ดูนะครับ" 

 

   นนท์ณภัทรเอ่ยขึ้น 

 

"ได้ค่ะ / ครับ " รสรินกับรวิภาสตอบรับ

 

ภาสกรทิ้งตัวลงบนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ของตัวเองหลังจากคุยงานกันเสร็จ เจ้าตัวจึงขอลางานไม่เข้าบริษัทอีกโดยอ้างว่าปวดหัว นนท์ณภัทรไม่สงสัยอะไรเพราะเห็นภาสกรนั่งเงียบมานานจึงคิดว่าปวดหัวจริง โดยไม่ลืมกำชับหนุ่มรุ่นน้องว่าอย่าลืมทานยา

 

ภาสกรหวนคิดถึงเรื่องวันนี้พลางพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง เขาลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูระเบียงห้องนอนแล้วเดินออกไปมองทิวทัศน์ของเมืองกรุงในยามกลางวันซึ่งเต็มไปด้วยรถรา ตึกแถวและสำนักงานบริษัทอีกหลายแห่ง จากตรงนี้ภาสกรสามารถมองเห็นห้างได้ชัดเจน คอนโดหรูของเขาอยู่ตรงใจกลางของเมืองพอดี อะไรๆมันจึงดูวุ่นวายไปหมด

 

ภาสกรเดินกลับมายังเตียงนอนอีกครั้งหลังจากทิวทัศน์ข้างนอกไม่ได้ช่วยให้รู้สึกปล่อดโปร่งเลยสักนิดนอกจากจะช่วยเผาเขาให้ไหม้เพราะแดดช่างร้อนแรงเหลือร้าย

 

ภาสกรเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์เครื่องหรูที่ตัวเองโยนทิ้งบนเตียงแล้วกดเข้าไปดูตรงอัลบั้มรูปใน้นมีรูปของใครบางคนทั้งรูปเดี่ยวและรูปคู่อยู่เต็มไปหมด

 

กี่ปีมาแล้วนะ...ที่ไม่ได้เจอกันไม่คิดเลยว่าการเจอกันครั้งนี้รวิภาสกำลังจะแต่งงานภาสกรอยากจะถามรวิภาสนัก ลืมไปหมดแล้วเหรอ ลืมเรื่องของเราไปหมดแล้วใช่ไหมถึงได้จะแต่งงานแบบนี้ ภาสกรหวนนึกไปถึงอดีต

 

​​​​" นี่ราม อีกไม่นานก็จะจบแล้ว มึงสัญญาแล้วกับกูแล้วนะโว๊ยว่าหลังเรียนจบมึงจะยอมให้กูเปิดตัวมึงในฐานะแฟนกับครอบครัวกูอ่ะ " ภาสกรทวงสัญญาที่รวิภาสเคยให้ไว้

 

"ครับๆๆ จำได้น่า ว่าแต่ครอบครัวมึงจะรับได้รึเปล่า ที่เราคบกัน " รวิภาสถามกลับ

 

" ต้องรับได้สิมึง มึงออกจะน่ารักขนาดนี้ " ภาสกรตอบกลับไปเพื่อไม่ให้รวิภาสเป็นกังวล แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่แน่ใจนักก็ตาม

 

รวิภาสเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์รูปร่างหนา มีกล้ามเนื้อที่พอดีกับตัว สูง187 ต่ำกว่าตัวเขาที่สูง190 ไปแค่ 3เซน รวิภาสเป็นคนขาวและใบหน้าหล่อเหลาไม่ต่างจากเขา จมูกโด่งเป็นสันและมีนัยน์ตาที่ทรงเสน่ห์คู่นั้น ที่ทำให้ภาสกรไม่อาจละสายตาไปจากรวิภาสได้เลย

 

เขากับรวิภาส เรียนคณะเดียวกันแล้วยังเป็นรูมเมทกันอีกก็เลยสนิทกันเร็วนอกจากเราทั้งคู่แล้วยังมีเพื่อนๆของเราอีกสามคนอยู่กลุ่มเดียวกัน 

 

รวิภาสกับเขาต่างเป็นหนุ่มเนื้อหอมเหมือนกัน ถ้าจะต่างกันก็ตรงที่รวิภาสเป็นคนเจ้าชู้ขี้เล่นควงคนไม่ซ้ำหน้า ซึ่งต่างจากตัวเขาที่ไม่สนใจคนที่เข้าหาเท่าไหร่นานๆทีถึงจะควงใครสักคน

 

เขากับรวิภาสตื่นไปเรียนพร้อมกันและกลับหอพร้อมกันเป็นอย่างนี้จนจบปี1ด้วยความเคยชิน พอขึ้นปี2 กลุ่มของเราจึงตกลงนัดกันจะไปดื่มคลายเครียดกันสักหน่อย 

 

คืนนั้นเขากับรวิภาสเมาหนักกันทั้งคู่ต้องอาศัยเพื่อนแบกมาส่งถึงห้อง ไม่รู้ว่าอะไรดลใจเราทั้งคู่ คืนนั้นเขากับรวิภาสเผลอมีอะไรกัน อาจจะเพราะเมาหนักแล้วเกิดมีอารมณ์ความอยากปลดปล่อยกันทั้งคู่ มันเลยเกิดขึ้น แต่ไม่ว่าเพราะอะไรมันก็เกิดขึ้นแล้ว

 

เพราะความอยากรู้อยากลองทำให้เมื่อมีครั้งที่หนึ่งก็ต้องมี ครั้งที่สอง และสามตามมา จนเกิดเป็นความรักระหว่างเขากับรวิภาส เราตกลงคบโดยที่ไม่ได้บอกให้ใครรู้แต่ถ้าช่างสังเกตสักหน่อยก็คงจะเดาได้ไม่ยาก เขากับรวิภาสคบกันจนเรียนจบมีระหว่างนั้นก็มีทะเลาะกันบ้างงอนกันบ้าง

 

#ยังไม่ได้ตรวจคำผิด

 

#อัพบ่อยค่ะมาน้อยๆแต่มาถี่ๆ 

 

พูดคุยแนะนำันได้นะคะนิยายอาจจะมีไม่สมเหตุสมผลไปบ้างต้องขอโทษด้วยนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา