Trap Demons หลุมพรางร้าย ปีศาจร้อน

-

เขียนโดย Piano_sp

วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 08.04 น.

  14 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2563 08.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) Trap Demons : 08

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
 
​8
 
 
“ตั้งแต่โดนบอกเลิกมามึงไม่เป็นผู้เป็นคนเลยน่ะ”
เสียงของไอ้ไตรทศถามขึ้นหลังจากที่เห็นท่าทางของผมไม่เป็นเหมือนอย่างเมื่อก่อน
“พูดอะไรของมึง กูก็เป็นแบบนี้นานแล้ว”
ผมหันไปเถียงด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดขึ้นมานิดๆ
“เหรอ”
ผมหันไปมองหน้าไอ้ไตรทศแล้วก็เดินออกมาเพราะถ้านั่งอยู่นานกว่านี้มันคงล้อผมเล่นอยู่อย่างนั้นแน่ เดินเลี่ยงออกมาจะดีกว่า ตอนนี้ผมก็อยู่ที่ผับของไอ้ราพณ์เหมือนกับทุกๆ วันที่ผ่านมา แต่ไม่รู้ทำมันช่วงนี้ผมไม่รู้สึกสนุกเหมือนกับเมื่อก่อนมองไปทางไหนก็เจอแต่ของน่าเบื่อ ผมเป็นอะไรไปกันน่ะ
“แม่งกูว่าวันนี้วาโยคงจัดหนักน่าดู”
ผมที่ยืนสูบบุหรี่ตรงมุมมืดตรงหนึ่งในผับอยู่ดีก็มีผู้ชายสองคนเดินมาคุยกันตรงที่ผมยืนอยู่พอดี สองคนนี้ผมจำหน้าได้ตั้งแต่วันนั้นแล้วที่อยู่กับวาโย ผู้ชายของยัยนั่นไง แต่ที่ที่ผมยืนอยู่สองคนนั้นอาจมองไม่เห็นผมแต่ผมเห็นพวกมันชัดเลยละ
“ทำไมว่ะ”
ผมจะไม่สนใจสิ่งที่สองคนนี้คุยกันเลยถ้าพวกมันไม่คุยเรื่องเกี่ยวกับยัยนั่น
“ก็เรื่องที่วาโยหมั้นยังไงละ”
หมั้น คำนี้ทำผมตกใจไปสักพัก ผู้หญิงคนนั้นกำลังจะหนีผมไปหมั่นเหรอ เฮอะ ไม่มีทางซะหรอก ผมคนหนึ่งแหละที่ไม่ปล่อยให้เธอไปมีความสุขอยู่คนเดียวหรอก ผมไม่ยืนฟังสองคนนั้นพูดต่อก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันทีด้วยความโกรธจัดที่มีต่อผู้หญิงคนนั้น
Vayo Talk
“เข้าห้องน้ำก่อนน่ะ”
ฉันกล่าวแล้วเดินออกมาจากบริเวณนั้นหลังจากที่รู้สึกว่าเริ่มมึนหัวเลยอยากจะไปล้างหน้าในห้องน้ำสักหน่อยเพราะวันนี้เป็นวันที่ฉันดื่มหนักไปหน่อย หลังจากที่ฉันได้หมั้นกับพี่ตรีภพอย่างเป็นทางการเมื่อตอนเช้าที่ผ่านมานี้ มันเป็นการหมั้นกันโดยผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมด โดยที่ฉันขัดอะไรไม่ได้เลย วันนี้ฉันเลยมาปล่อยทุกข์ที่ผับแห่งนี้ยังไงล่ะ
“อือ”
ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อมีมือปริศนาเอื้อมมาปิดปากฉันไว้ พร้อมกับร่างกายฉันถูกล็อกไว้จนขยับตัวไม่ได้ นี่ฉันกำลังโดนฉุดอยู่อย่างงั้นเหรอ
“อือๆ ๆ”
ฉันพยายามดิ้นให้หลุดจากวงแขนนี้อย่างหวาดกลัวเพราะไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
“หยุดดิ้น”
เสียงเย็นๆ ที่ดังออกมาจากทางด้านหลังฉันเปล่งออกมาทำให้หยุดการกระทำที่ฉันกำลังทำอยู่ได้ อาการหวาดกลัวเมื่อกี้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อฉันได้รู้ว่าเจ้าของมือที่ปิดปากฉันอยู่เป็นใคร แล้วเขาก็ปล่อยมือนั่นออกจากปากฉัน
“นายทำแบบนี้ทำไม”
หลังจากที่ปากของฉันถูกปล่อยให้เป็นอิสระฉันก็หันไปต่อว่าเขาทันที ยอมรับเลยว่าเมื่อกี้ฉันกลัวมากจนทำอะไรไม่ถูก แต่หลังจากที่รู้ว่าเป็นใครความหวาดกลัวเมื่อกี้ก็หายไปกลายเป็นความโล่งใจเข้ามาแทน เมื่อรู้ว่าเป็นเขา
“ฉันควรจะถามเธอมากกว่าไหม ว่าเธอทำแบบนั้นทำไม”
แทนที่คนตรงหน้าจะตอบคำถามฉัน เขากลับมายิงคำถามใส่ฉันแทนพร้อมกับมองหน้าฉันอย่างโกรธเคือง ฉันสิที่จะโกรธเขาที่ทำอะไรบ้าๆ ไปเมื่อกี้ ไม่ใช่เขามาโกรธฉันแบบนี้
“ฉันทำอะไร ที่ผ่านมาก็มีแต่นายทำทั้งนั้น”
ฉันจ้องหน้าปักษาด้วยสายตาที่โกรธเคืองไม่แพ้กัน
“แล้วไอ้ที่หนีฉันไปหมั้นกับคนอื่นมันหมายความว่ายังไง”
ปักษารู้เรื่องที่ฉันหมั้นได้ยังไงกัน ฉันมองหน้าปักษาอย่างตกตะลึงไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องนี้
“นายรู้ได้ไง”
“ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นวาโย เธอคิดจะปั่นหัวฉันเล่นหรือไงกัน”
ปักษาไม่ได้ทำเพียงแค่พูดแต่เขากลับเอื้อมมือมาจับแขนฉันไว้แน่นตามอารมณ์ของเขา
“ฉันไม่ได้ปั่นหัวนาย และการที่ฉันหมั่นแล้วมันเกี่ยวกับนายงั้นเหรอ ก็ไม่”
ถึงสถานการณ์ฉันตอนนี้ไม่เหมาะที่จะต่อกรกับปักษาเลยสักนิด แต่ฉันก็อดที่จะตอบโต้เขาไว้ไม่ได้เหมือนกัน
“ก็จะทำให้มันเกี่ยวอยู่นี่แหละ มานี่”
หลังจากที่ปักษากล่าวจบประโยคฉันก็ถูกลากไปตามแรงของเขา ผู้ชายคนนี้เอาแต่ใจจริงๆ วันๆ คิดแต่เรื่องทำให้ฉันต้องเจ็บอยู่เรื่อย
“ปล่อยน่ะ ปักษา นายจะพาฉันไปไหน”
ฉันพยายามขัดขืนออกจากการถูกเกาะกุม แต่แรงของฉันก็ไม่เคยที่จะชนะเขาได้เลยสักครั้ง และปักษาก็ไม่เคยที่จะออมแรงกับฉันเลยสักครั้ง
“มึงออกไปแล้วก็อย่าให้ใครเข้ามา”
ปักษาลากฉันเข้ามาในห้องห้องหนึ่งที่มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ ผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนของปักษาฉันจำได้ ตอนนี้เขากำลังทำหน้างงๆ มองมาที่พวกฉันอยู่
“นายช่วยห้ามเพื่อนนายหน่อยได้ไหม”
ฉันหันไปขอความช่วยเหลือแต่ไม่ทันที่คนตรงหน้าฉันจะเอ่ยอะไรออกมา ร่างของฉันก็ถูกจับกดจมลงไปในโซฟาพร้อมกับร่างของปักษาที่ขึ้นคร่อมฉันไว้
“อยู่กับฉันยังคิดที่จะอ่อนผู้ชายคนอื่นอีกเหรอ”
ปักษาพูดพร้อมกับมองหน้าฉันด้วยสายตาโกรธจัด พร้อมกับแรงบีบที่กำลังบีบมือฉันไว้แน่นจนมือฉันแทบแหลกคามือของเขา
“สำหรับฉันจะเป็นใครก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่นายฉันก็เอาหมดแหละ”
ฉันทนคำพูดดูถูกของปักษามาพอแล้ว วันนี้ของเอาคืนสักหน่อยก็แล้วกัน เขาอยากให้ฉันแรดนักไม่ใช่เหรอวันนี้แหละฉันจะแรดให้เขาดู
“เธอนี่มันแรดจริงๆ ถามหน่อยคันขนาดนั้นเลยเหรอ”
ปักษายังคงดูถูกฉันทั่งๆ ที่ยังนั่งทับร่างฉันอยู่
“ใช่ คันมาก”
“ฉันละส่งสารคู่หมั้นเธอจริงๆ ที่ดันไปหมั่นกับผู้หญิงแรดๆ แบบเธอ”
มันจะมากเกินไปแล้วน่ะ
“ไม่ต้องไปสงสารคู่หมั้นฉันหรอกปักษา เขาหยุดความคันของฉันได้”
ฉันจ้องตาปักษาพร้อมกับพ่นประโยคที่เผ็ดแสบไม่แพ้กันออกไป
“เอ่อ พวกมึงทำอะไรกันอ่ะ”
บุคคลที่สามที่อยู่ในห้องนี้มาก่อนแล้วถามพวกฉันพร้อมกับมองมาที่พวกฉันไม่วางตา จริงสิผู้ชายคนนี้ยังไม่ออกไปนี่น่า ฉันยังคงมีโอกาสรอดแล้วละ
“มึงยังไม่ออกไปอีกเหรอว่ะ”
ปักษาหันไปต่อว่าอย่างหงุดหงิด ส่วนผู้ชายคนนั้นแทนที่จะกลัวปักษาแต่เขากลับหัวเราะชอบใจแทนที่สามารถกวนประสาทปักษาได้
“ก็ผู้หญิงเขาร้องขอให้ฉันช่วย คนอย่างฉันปฏิเสธไม่เป็นด้วยสิ”
นั่นไงโอกาสรอดของฉันมาถึงแล้ว ยังน้อยผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้เลวเหมือนปักษาแน่ๆ
“แต่ กูขอนั่งดูพวกมึงเล่นหนังสดได้ไหม”
เอ่อ ฉันขอถอนคำพูดเมื่อกี้น่ะ หมอนี่มันโรคจิตดีๆ นี่เอง ช่วยอะไรไม่ได้เลย
“ถ้ามึงอยากปากแตกก็เชิญ”
หลังจากที่ปักษากล่าวประโยคนั้นออกมาผู้ชายคนนั้นก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที แล้วตอนนี้ในห้องนี้ก็ตกอยู่ในความเงียบมีแต่เสียงเพลงที่ดังอยู่ข้างนอกที่ทำให้ห้องนี้ไม่เงียบอย่างที่คิด
“ปล่อย”
ฉันกล่าวทำลายความเงียบในห้อง หลังจากที่เงียบไปได้สักพัก การที่ฉันกับปักษาอยู่ในห้องนี้กันสองต่อสองมันเป็นอะไรที่น่าอึดอัดใจเป็นที่สุด แล้วสถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ปลอดภัยสำหรับตัวฉันซักเท่าไหร่
“ถามหน่อย หนีไปหมั้นแบบนี้กลัวฉันขนาดนั้นเลยเหรอ”
จู่ๆปักษาก็ถามถึงเรื่องที่ฉันหมั้นขึ้นมาอีก
“นายไม่ได้สำคัญกับฉันขนาดนั้นปักษา”
ฉันกล่าวแล้วก็เบื้องหน้าหลบสายตาของปักษาที่กำลังจ้องมาที่ฉันอยู่ แต่ฉันก็ต้องกลับไปสบตากับเขาอีกครั้งเพราะผู้ชายที่นั่งอยู่เหนือฉันกำลังทำบางอย่างกับร่างกายฉันอย่างจาบจ้วง
“เอามือของนายออกไปให้ห่างจากหน้าอกฉัน”
ใช่ สิ่งที่ปักษากำลังทำอยู่นั้นคือมือของเขากำลังเลือนเขามาในเสื้อฉันและตอนนี้มือของเขาก็กำลังกอบกุมหน้าอกฉันไว้อยู่อย่างเอาแต่ใจ
“อีกเดี๋ยวก็จะสำคัญแล้วละ วาโย”
“นายหมายความว่าอะระ อือ”
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้รู้สิ่งที่ปักษาพึ่งพูดออกมา คำพูดฉันก็หายลงไปในลำคอเพราะริมฝีปากฉันถูกประกบด้วยริมฝีปากของปักษาเลยให้คำพูดที่ฉันกำลังจะพูดออกมาไม่ได้ ฉันที่เป็นฝ่ายถูกกระทำได้แต่นอนนิ่งเบิกตากว้างอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าปักษาจะทำอะไรแบบนี้กับฉัน
ริมฝีปากของปักษาค่อยๆ รุมรามฉันเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ นี่ถือว่าเป็นจูบแรกของเราสองคน ตลอดเวลาที่เราได้คบกันแม้แต่กอดพวกเราก็ไม่เคยที่จะทำมัน ตอนนี้ปักษากำลังจ้องตาฉันทั้งๆ ที่ปากของเขากำลังบดขยี้ปากฉันจนแทบละเอียด สายตาของเขาตอนนี้เหมือนกำลังพยายามสื่ออะไรกับฉันบางอย่างแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขากำลังจะสื่ออะไร
“อือ”
ฉันอุทานออกมาอีกครั้งเมื่อริมฝีปากฉันกำลังโดนรุกล้ำหนักกว่าเดิม ฉันรู้สึกเหมือนกำลังมีอะไรเข้ามาในปากฉัน อ่ะ สัมผัสนี่มันคือลิ้นนี่น่า ตอนนี้ฉันอยากจะหลบสายตาอันร้อนแรงที่กำลังแผดเผาฉันอยู่ออกไปให้ได้ แต่ร่างกายฉันกำลังโดนล็อกไว้โดยร่างกายของปักษา ฉันเลยหลบสายตาของปักษาโดยการหลับตาลง อ่อนหัดจริงเลยยัยวาโย ยอมเขาแบบนี้มันใช่ซะที่ไหน
“อย่าพึ่งหมดแรงไปล่ะ นี่มันก็แค่จูบเองน่ะวาโย”
ปักษาที่ผละริมฝีปากออกไปกล่าวออกอย่างดูถูก แต่ตอนนี้ฉันไม่มีแรงที่จะต่อกรกับเขาเลย ร่างกายของฉันเหมือนถูกสูบเรี่ยวแรงออกไปยังไงยังงั้น แต่ต่อมาขนบนร่างกายฉันก็ลุกซู่ขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เมื่อปักษาแนบริมฝีปากเขาลงบนต้นคอฉันช้าๆ อย่างไม่รีบอะไร ความรู้สึกเปียกชื้นจากริมฝีปากของปักษาทำให้ร่างกายฉันปั่นป่วน ฝ่ามือของปักษาค่อยๆ ขย้ำหน้าอกฉันอย่างเอาแต่ใจ
“อ่า”
เสียงที่น่าเกลียดหลุดออกมาจากริมฝีปากฉันอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อหน้าอกฉันกำลังโดยคุกคามด้วยริมฝีปากของปักษาทั้งๆ ที่สัมผัสนี้เป็นเพียงสัมผัสจากภายนอกมันยังมีเสื้อกั้นไว้อยู่ แต่ความรู้สึกนี้มันทำให้ฉันทรมานจนร่างกายแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ มือฉันที่ว่าอยู่เอื้อมขึ้นมาขยุ้มผมของปักษาไว้แน่นเพื่อคลายความรู้สึกที่น่าอึดอัดนี่
“อะ อย่า”
ฉันอุทานออกมาเมื่อปักษาถลกเสื้อฉันขึ้นมากองที่ต้นคอฉัน และมือของปักษากำลังเอื้อมไปปลดตะขอบราเซียร์ที่อยู่ทางด้านหลังฉันให้หลุดออกจากกัน แอร์เย็นๆ ลอยมากระทบกับหน้าอกฉัน ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าหน้าอกฉันกำลังเปลือยเปล่าต่อหน้าปักษาอยู่ ฉันเลยเอื้อมมือที่ขยุ้มผมปักษาอยู่มาปิดหน้าอกตัวเองแทน
“อย่าปิด”
แต่แล้วมือฉันก็โดนกระชากออกให้ห่างจากหน้าอกฉัน พร้อมกับปักษาที่กำลังนั่งมองหน้าอกฉันด้วยสายตาร้อนแรงอยู่
“นี่นายจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้น่ะ”
ฉันหันไปต่อว่าเขาเพื่อให้เขาได้หยุดการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ซ่ะ
“ให้ฉันเอาสักครั้งสองครั้งเธอไม่สึกหรอหรอกวาโย”
หมอนนี่จะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วน่ะ
“แค่เห็นหน้านายฉันก็ไม่มีอารมณ์จะเอากับนายหรอก”
ฉันตอบโต้กลับไปเพื่อหวังที่จะให้ปักษาเปลี่ยนใจปล่อยฉันกลับแทน
“เดี๋ยวเธอก็มี”
แต่ใช่ว่าเขาจะเปลี่ยนใจแต่ปักษากลับก้มลงมาใช้ริมฝีปากเขาขบเม้มยอดอกฉันเข้าไปในปาก มากไปแล้วมันมากไปแล้วจริงๆ ครั้งนี้ฉันไม่ยอมง่ายๆ หรอก ฉันคิดได้แค่นั้นก็เริ่มดิ้นด้วยแรงที่ยังพอมีเหลืออยู่บ้าง
“ปล่อยฉันน่ะ ไอ้บ้า”
“หยุดดิ้นวาโย ฉันเตือนแล้วน่ะ”
ปักษาผละออกจากหน้าอกฉันด้วยแรงดิ้นของฉันหันมาต่อว่าฉันด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด ที่ฉันไปขัดจังหวะเขา
“ไม่ ฉันบอกให้ปล่อย”
ใช่ว่าฉันจะยอมให้เขากระทำกับฉันง่ายๆ ตายเป็นตายละว่ะงานนี้ ตอนนี้ฉันทั้งดิ้นทั้งใช้เล็บที่มีอยู่ข่วนใบหน้าของปักษาไปด้วย
“ฉันเตือนแล้วน่ะ”
ปักษาพูดออกมาด้วยความรำคาญแล้วเขาก็ใช้มือของเขาเอื้อมไปปลดเข็มขัดที่อยู่บนเอวเขาออกมา หมอนี่กำลังคิดจะทำอะไรกับฉัน ฉันยิ่งได้เห็นเขาทำแบบนั้นฉันจึงดิ้นให้แรงกว่าเดิม
“นายทำบ้าอะไรปล่อยน่ะ”
ฉันเอ่ยปากห้ามพร้อมกับดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากการเกาะกุม แต่แล้วมือฉันที่เคยถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็ถูกรวบไปไว้เหนือหัวแล้วปักษาก็ใช้เข็มขัดของเขามัดมือฉันไว้ เขาจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้น่ะ
“วาโย เธอไม่รอดแน่”
ปักษากล่าวคำพูดนั้นเป็นคำสุดท้ายแล้วเขาก็ประกบริมฝีปากของเขากับริมฝีปากของฉันอย่างร้อนแรง
 
 
 
 
งานนี้วาโยจะรอดไหม
โปรดติดตามตอนต่อไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา