Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.24 น.
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) บทที่9 ชะตาลิขิต (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่9 ชะตาลิขิต (2)
รถวิ่งไปข้างหน้าผ่านแสงแดดที่กระจัดกระจาย ส่งเสียงเอี๊ยดๆ อยู่เป็นระยะ อี้เป่ยซีมองออกไปนอกหน้าต่าง ตอนนี้ไม่มีคนบนถนนแล้ว แต่ว่าใจของเธอยังคงตื่นเต้น
“อ๊า…”รถคันหนึ่งแล่นผ่านไปด้านข้าง อี้เป่ยซีตกใจจนหลบไปอยู่ด้านหลัง อี้เป่ยเฉินเห็นท่าทางเธอแบบนั้นแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อย แม้แต่ตัวเองก็ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยไม่ได้เลยเหรอ?
อี้เป่ยเฉินเปิดเครื่องเสียง จังหวะดนตรีดังขึ้นภายในรถที่มีบรรยากาศตื่นเต้น ค่อยๆ บรรเทาเส้นประสาทที่ตึงเครียดของเธอ อี้เป่ยซียิ้มอย่างเคอะเขิน เพียงแค่พิงหลังแล้วหลับตาลง ปากฮัมไปตามเพลง
อารมณ์ของคนทำให้ระยะทางยาวนานเป็นพิเศษ คนที่ขับรถราวกับใกล้หมดความอดทนแล้ว ระยะทางเพียงไม่กี่สิบนาทีกลับทำให้อึดอัดเหมือนยาวไกล
“ถึงแล้ว” อี้เป่ยฉินโน้มตัวช่วยเธอปลดเข็มขัดนิรภัย “เธอรอพี่ตรงนี้ก่อน พี่จะจอดรถ โอเค้?”
อี้เป่ยซีพยักหน้าอย่างว่าง่าย รถสีเงินแล่นจากไป ลมพัดผมยาวที่นุ่มสลวย อี้เป่ยซีมองดูอาคารธุรกิจขนาดใหญ่อย่างเบื่อหน่าย เวยหลาน...ทำไมเหมือนเคยยินมาจากที่ไหนนะ
เธอหันมองไปรอบกาย เห็นร้านเล็กๆ สวยงามร้านหนึ่งอยู่ตรงข้ามถนน มีรูปภาพทิวทัศน์รูปหนึ่งอยู่บนบอร์ดขนาดใหญ่ด้านข้าง แม้ว่าระยะห่างจะไกล แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายและงดงามจากรูปภาพ เมื่อเห็นรูปภาพของเขาจากตรงนี้แล้ว อี้เป่ยซีก็วิ่งไปข้างหน้าด้วยความดีใจ
“ซีซี”
“เอี๊ยด…”เสียงรถเบรกดังสนั่น ตัวรถหยุดอยู่ด้านซ้ายของอี้เป่ยเฉินพอดิบพอดี เฉียดกางเกงสูทสีดำไปเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น” คนที่อยู่เบาะหลังรถคันนั้นถามขึ้น
“มีคนพุ่งออกมากะทันหันน่ะ” คนที่นั่งเบาะหลังมองออกไปนอกหน้าต่าง ทำไมถึงเป็นอี้เป่ยเฉินไปได้ เขาเห็นว่าอี้เป่ยเฉินกอดเด็กสาวเสื้อสีขาวคนหนึ่งไว้ในอ้อมอก แสงอาทิตย์ทออยู่บนผมยาวดำดุจน้ำหมึก ร่างน้อยๆ ยังคงสั่นเทิ้มในอ้อมอกที่กว้างและหนา น่าจะตกใจเอามากๆ
“ไปเถอะ” รถเคลื่อนตัวอีกครั้ง ตอนเหลือบตามองกระจกหลังยังมองเห็นคนสองคนที่กอดกันได้ ร่างสูงใหญ่นั้นก็กำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
เขาหลับตาลงอย่างหงุดหงิด วันนี้คล้ายกับอดีตจนน่าประหลาด เขานวดคลึงขมับอย่างอ่อนล้า
“จื่อหาน นายเป็นอะไรไป”
“ไม่เป็นไร กลับบ้านเลยเถอะ ฉันเหนื่อยนิดหน่อย” เขาพิงเบาะหนังแท้แล้วหลับตา บางทีการเดินทางไกลอาจทำให้เหน็ดเหนื่อย หรือเป็นเพราะความอ่อนเพลียจากอารมณ์บางครั้งคราว ลั่วจื่อหานจึงผล็อยหลับอยู่บนรถแล้ว…
‘โอ๊ย…เจ็บจังเลย’ เด็กสาวตัวเล็กลุกขึ้นมาจากพื้น บนกระโปรงสีขาวเปื้อนฝุ่นดิน‘ทำไงดี เสื้อผ้าเลอะแล้ว แม่จะต้องว่าเราแน่ๆ’
‘เธอไม่เป็นไรนะ’ เขารีบลงจากรถจักรยาน
ฉากหมุนเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว…
‘เรียกฉันว่าพี่หานดีหรือเปล่า?’
‘ต่อไปพวกเราก็เจอกันตรงนี้แล้วกัน’
‘หนังสือเล่มนี้สนุกมากเลย ฉันกับน้องชายเก็บเงินอยู่ตั้งนานกว่าจะซื้อได้’
‘พี่คือซีดีการ์ตูนแผ่นเดียวในบ้านของพวกเรา’
‘เซี่ยเซี่ย เซี่ยเซี่ย เซี่ยเซี่ย…’
จู่ๆ ภาพก็กลายเป็นดวงตาคลอน้ำตาคู่นั้นเมื่อหลายวันก่อนอีกครั้ง ลั่วจื่อหานลืมตาขึ้นทันที ทำไมถึงฝันถึงเธอ? เขาส่ายศีรษะ คนที่นั่งเบาะคนขับเห็นท่าทางของเขาก็เข้าใจชัดเจน
“ฝันถึงเธออีกแล้วเหรอ?”
“ขับรถของนายไปเถอะ”
คนที่เบาะคนขับไม่พอใจพฤติกรรมของเขา“ฉันก็แค่เป็นห่วงนาย”
“อย่าเพิ่งกลับเลย ไปบาร์เหล้าก่อนแล้วกัน”
“อะไรเนี่ย นายอยากตายนักใช่ไหม อย่าบอกฉันนะว่าลืมเรื่องสองวันก่อนไปแล้ว หลายวันนี้อะไรก็ไม่กิน พอลงรถก็ยังคิดจะไปดื่มเหล้าอีก”
ใบหน้าลั่วจื่อหานสงบนิ่ง“วันนี้นายยังพูดจาเหลวไหลเยอะเหมือนเดิม”
มู่ลี่ไป๋แอบด่าไปนิดหนึ่ง“ฉันก็แค่เป็นห่วงนาย ดูสิ นอกจากนายแล้วฉันเคยว่าใครบ้าง”
“งั้นเหรอ” ลั่วจื่อหานหรี่ตา เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม มู่ลี่ไป๋เห็นปฏิกิริยาของเขาแล้วรู้สึกละอายใจนิดหน่อย
“ไปๆๆ ไปดื่มเหล้า วันนี้ถ้าฉันไม่พานายดื่มจนเข้าโรงพยาบาลละก็ ฉันจะเขียนตัวอักษรมู่กลับหัวเลย”
“นี่นายพูดเองนะ”
------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ