เป็น Dog หรือฟะ?

-

เขียนโดย IQtea

วันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 17.54 น.

  9 ตอน
  1 วิจารณ์
  8,227 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน พ.ศ. 2563 17.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) งานศพฮิเดกิ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

คืนนั้นมอสหลับลงในเวลาสามทุ่มตรง หลับตามปกติถึงจะไม่ได้ฝันถึงอะไร ก็ตื่นขึ้นกับเช้าวันอาทิตย์โดยเร็ว เขาได้ทำภารกิจช่วงเช้าในบ้าน การสวดพระอภิธรรมศพของสุนัขเริ่มวันนี้ การกรวดน้ำตอนเช้าทำสามวัน การทำบุญสวดมนต์เย็นจะทำสามวัน

มอสสวมชุดสีดำ พี่สาวสวมชุดสีขาว ระยะทางจากบ้านไปยังวัดไม่ต้องขึ้นรถอะไร สามารถเดินไปสักสิบนาที พี่สาวเริ่มถามน้องชายว่า

"มอส ตั้งแต่วันนั้น พี่คงจะรู้สึกผิดต่อฮิเดกิมาก" พี่มุขเล่าถึงวันที่ตนเองเกิดสะเพร่าไม่ได้ปิดรั้วกันสุนัขเอาไว้ ทำให้สุนัขวิ่งออกไปข้างนอกและถูกรถกระบะชนทำให้เสียชีวิต

"ผมก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของพี่มุขนะ ผมรักทั้งพี่มุขและสุนัขของเรา พี่มุขอย่าคิดมากไปเลยว่ามันเป็นความผิดของพี่คนเดียว ผมเองก็ว่าตัวเองผิดเหมือนกัน" มอสที่เดินข้างๆพี่สาวปลอบใจ อาจเป็นเพราะผู้ชายดูเข้มแข็งกว่าจึงได้กลับสู่สภาวะแห่งความจริงได้เร็ว "เดี๋ยวพี่จะดูไม่สวยงามนะเมื่อพี่เศร้า"

บางครั้ง พี่มุขก็ดูใบหน้าในกระจกในวันก่อนๆ และตอนนี้ที่กำลังเดินอยู่ได้เอาแขนเช็ดตา มอสเห็นแล้วยังไม่ได้ถามสงสัยว่าพี่สาวจะต้องการร้องไห้หรือเปล่า แต่เมื่อพี่สาวปล่อยแขนลงและเงยหน้าอีกที สีหน้าพี่สาวฟื้นฟูกลับมาดีขึ้นกว่าเดิม มอสก็รู้สึกว่าตนได้คอยปลอบพี่สาวให้กลับมารู้สึกมีชีวิตชีวาได้อีก เศษใบไม้สองใบปลิวข้างหน้าสองคนไปกับลมอ่อนๆ

"มอส เรามาถึงวัดแล้ว เฮ เดินเลยแล้ว" พี่สาวรู้ว่าถึงที่ ส่วนมอสใจลอยไปนิดนึง

"โอ๊ะ โทษที" มอสเพิ่งรู้สึกตัว "ใจมันลอยไปหน่อย อาจเป็นเพราะฮิเดกิ"

ที่ทางเข้าของวัดแห่งนี้ สองพี่น้องพบครอบครัวของเวียร์ กล่าวทักทายกัน

เวียร์กล่าวทักทายกับเพื่อน "ฉันมาถึงก่อนเวลาตามที่บอกไว้น่ะ เออ นี่พ่อและแม่ฉันเอง"

มอสและพี่สาวกล่าวสวัสดียกมือไหว้ทักทายคุณพ่อคุณแม่ของเวียร์ ขอบคุณที่ร่วมบริจาคเงินให้กับงาน

มีสุนัขตัวหนึ่งที่ดูท่าจะมีบางอย่างลึกลับกับการส่งสายตาเรียกมอส มอสแยกตัวออกจากกลุ่มผู้คนเดินไปยังศาลาที่จัดโลงศพเจ้าฮิเดกิ

ไม่ว่าจะส่วนไหนของวัด ย่อมมีหมาวัดเดินเตร็ดเตร่ สุนัขที่เรียกมอสมานั้นนั่งจ้องมองโลงศพของฮิเดกิมาได้สักพักแล้ว มอสที่แอบเข้ามาเงียบๆในศาลานี้เพียงคนเดียว "มาร่วมพิธีหรอ" มอสส่งกระแสจิตให้กับสุนัขที่นั่งจ้องโลงศพ

"ครับ แต่ผมมีรางสังหรณ์ของผม ในโลงนี้มีลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ต้องทำยังไงถึงจะเอาออกมาได้น่ะครับ"

"หา ว่าไงนะ รางวัลที่หนึ่งหรอ แล้วทำไมมันต้องไปอยู่ในนั้นล่ะ" มอสทำตาโตเมื่อสงสัยสิ่งที่ชวนให้เขาตื่นตระหนก ในนั้นมีจริงหรือเปล่าที่เขาจะได้เงินรางวัลถึงสามล้านบาท

"อธิบายไม่ถูกเหมือนกันน่ะพี่ มีบางคนทิ้งเอาไว้แล้วไม่ได้กลับมาเอาคืน" สุนัขตัวนั้นก็ใช้ขาหน้าสะกิดเท้ามอสเพื่อเริ่มเร่งเร้าเขาว่าควรจะเปิดโลงศพโลงนี้ดู

มันเป็นแค่ความคิดของสุนัขวัดตัวหนึ่งท่ามกลางงานบุญแบบนี้ มอสจะกล้าแหวกทางไปยังที่ตั้งนั้นหรือ

แต่เขาก็เชื่อในสิ่งที่เจ้าสุนัขบอก เขาจะอ้อมไปยังที่ตั้ง แล้วฝาโลงมันเปิดยังไงนะ เขาเปิดไม่เป็นหรือว่าจริงๆแล้วมีแต่สัปเหร่อเท่านั้นที่จะมีอุปกรณ์ในการเปิด

มือเขาเอื้อมไปแตะปลายฝา

"เสียใจจริงๆนะพี่มุข ที่ศาลานี้ใช่มั้ย" เวียร์ที่กำลังเดินคุยกับพี่สาวมาที่บริเวณทางเข้า

มอสรีบเปลี่ยนท่าไปลูบหัวสุนัขที่บอกเรื่องลอตเตอรี่ ผิวปากเป็นเพลงเล็กน้อย

"ศาลานี้ โอเค อ่า" เวียร์มาเห็นการลูบหัวหมาวัดของมอสแล้วผิวปาก "ออ นายเข้ามาก่อนแล้ว" แล้วเวียร์ก็ยังมีเรื่องคุยอะไรที่ยังไม่เสร็จก็ออกไปจากที่ตรงนั้นอีก

เวียร์ไปแล้ว

"นี่เจ้าตูบ เจ้ามั่นใจขนาดไหนว่าในโลงนี้มีรางวัลที่หนึ่ง"

"ผมก็ใช้จมูกสูดกลิ่นมาแล้วนะพี่" เจ้าสุนัขยืนยัน

มอสไม่แน่ใจว่าทำไมเจ้าตูบมันถึงยืนยันกับกลิ่น มอสยังไม่สามารถได้กลิ่นอะไรจากข้างในโลงนี้เลย มันตะหงิดใจอยู่ ถ้าจะต้องเปิดฝาออกนั้น มอสปีนขึ้นไปเหนือฝาโลง นั่งค่อมและเขาพยายามมองฝาว่าจะมีจุดไหนเป็นจุดเปิด

สุนัขตัวนั้นคอยลุ้นดูมอสที่ไปอยู่ข้างบนนั่นอย่างบาปกรรมต่องานบุญ ถ้าใครมาเห็นเข้าล่ะเป็นเรื่องเลย

และเวียร์กับครอบครัวและพี่สาวมอสเข้ามาถึงหน้าห้อง เห็นเข้าแล้ว เห็นแล้วว่า.......

...................................................... !!

เหมือนจะเห็นว่า ว่า......มอสกำลังลูบหัวเจ้าสุนัขของวัดและผิวปากเป็นเพลง แสดงว่ากลับเข้าสู่ความปกติอย่างไม่ควรกระพริบตา(เป็นไปได้ยังไงที่มันจะรวดเร็วอย่างนั้น) ใจมอสเองก็นึกว่าจะโดนจับได้แล้วด้วย

เวียร์อดใจไม่ไหวต้องถาม "มอสเอ้ย นายยังอยู่กับเจ้าตูบตัวนั้นเรอะ มันผ่านไปกี่นาทีแล้วน่ะ เออ พวกพระสงฆ์จะมาสวดแล้วนะ มานั่งฟังสวดกันเถอะ"

มอสและคนอื่นๆนั่งลงในศาลานั้น พระสงฆ์รูปต่างๆ สวดพระอภิธรรม และผู้เข้าร่วมพิธีทำการกรวดน้ำเช้า

พอเสร็จพิธีช่วงเช้าแล้ว ทุกคนลุกขึ้นออกจากศาลา

มอสยังแอบอยู่ที่หน้าโลง ยังตะหงิดคาใจกับเรื่องที่สุนัขบอก และเวียร์เดินกลับเข้ามาเห็นอีกแล้ว

เห็นว่า มอสลูบหัวเจ้าสุนัขและผิวปากเป็นเพลง "นี่นี่ นายยังเล่นกับเจ้านั่นไม่พออีกหรอ ประหลาดคน"

ช่วงกลางวันของงาน

เวียร์มีอะไรจะคุยกับพี่สาวของมอสถึงเรื่องวันที่ไปเยี่ยมบ้านเขา "พี่มุข เมื่อวานตอนที่มอสมาบ้านผมนะ ผมมีเรื่องมอสจะบอก"

"หืม น้องชายของพี่มีอะไรหรอ"

"มีบางอย่างที่ผมคิดว่า มอสที่เป็นคนช่วยเหลือผมเล็กน้อย ผมเจอเขามาที่บ้าน จริงๆผมไม่น่าจะพบแว่นตาเจอ ผมไม่ได้ตาฝาดว่าแว่นตาอยู่ในห้องน้ำก่อนที่ผมจะเจอ จนกระทั่งมอสเข้ามาในบ้านของผม ไม่รู้ว่ามอสมีโอกาสเสกมันออกมาเหมือนเวทย์มนต์หรือนักมายากลแต่ผมไม่เชื่อเรื่องงมงาย ผมคิดว่ามอสรู้ว่าแว่นตามันไปอยู่ส่วนไหนของห้องน้ำอยู่แล้วมากกว่า พอผมเข้าไปในห้องน้ำบ้าง ผมคลำที่วางแล้วเจอ จริงๆผมไม่ใช่ว่าผมสายตาสั้นเกินไปที่จะมองไม่เห็นขนาดนั้น จริงๆมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นมาก่อนเลย"

"น้องชายของพี่ไม่ได้บอกว่าเป็นผู้พบแว่นตา? .....แล้วทำไมถึงไม่บอกล่ะ?"

"ไม่รู้เหมือนกันนะพี่ มันน่าเก็บไปคิดแต่ก็เพื่อนกันจึงไม่อยากใส่ใจรายละเอียดต่างๆให้มากมายจนคาใจ ต่อจากนั้นแม่ของผมบอกเรื่องหาเม็ดไข่มุกแล้วมอสเขาเอาสร้อยไปดู แปลกใจมากครับ ที่เขาไปหาที่ๆมันหล่นบริเวณกอหญ้าของสวน เขาใช้วิธีสืบสวนของเขาเร็วเหลือเกิน แสดงว่าไอคิวเขาไม่น้อยนะครับ"

"หืม น้องชายฉลาดถึงกับเป็นนักสืบจริงๆหรอ"

"ผมเข้าใจว่าบทบาทนั้นมัน อืม มันเกินบทบาทนักสืบเสียด้วย มันไม่มีข้อมูลที่จะช่วยเขามากมายแต่เขาเหมือนรู้เป้าที่หมายไปทันที หรือเขาเป็นคนเอาเม็ดไข่มุกไปฝังเสียเองจึงรู้ที่ของมัน เขาไม่น่าจะทำนะครับ ขโมยขโจรอะไรอย่างนั้น เรื่องแว่นตาของผมก็เช่นกันถ้าเกิดเขารู้แล้วไม่บอกผมจริง ผมแอบสงสัยเรื่องมอสเขาเป็นคนลักซ่อน"

"เอ๊ะ โจรหรอ แต่พี่ไม่คิดว่ามอสจะเป็นคนทำอะไรแบบขโมยได้เลย"

"ต่อจากนั้น ผมก็ประหลาดอีกครั้ง ที่ไม่นึกว่ามอสเข้ามาในห้องนอนที่ผมชวนเข้ามา เขาแสดงให้ผมรู้ว่าเขาไม่มีความรู้เรื่องนกกระจอก เขายังขาดความรู้มากเกินไปที่จะเขาจะรับบทบาทเป็นนักสืบ แปลกดีนะครับ"

"ออ งั้นน้องชายพี่ก็ดูปกติธรรมดาแหละ น่าอายจังมอสไม่รู้แม้เรื่องแค่นี้"

"เรื่องที่ผมเล่าให้พี่ก็ เก็บไว้ดีกว่าครับ หรือวันไหนพี่สงสัยมอสจริงๆ พี่ใช้คำที่เลี่ยงๆจากตัวผมด้วยนะครับ เดี๋ยวเขาจะสงสัยเรื่องผม"

หลังจากวันนี้ เวลาก็ล่วงเลยไปอย่างเร็ว วันสุดท้ายที่จะทำการเผา

มอสคุยกับพี่สาวว่า "การเผา ตามที่ตกลงกันไว้ต้องเผาทั้งโลงหรือเปล่า"

"ก็ คงเผาทั้งโลงนะ มีอะไรหรอ"

มอสถามพี่สาวเพียงแค่นั้น พี่สาวเกิดสงสัยแต่มอสไม่บอกอะไรออกไป

แย่ละ ข้างในนั้นมีรางวัลที่หนึ่งนะ

เมื่อเขาจะทำการเอาโลงเข้าเตา มอสจ้องเขม็งไปที่โลง สุนัขวัดเจ้าปัญหาที่อาศัยในวัดนี้เจ้าเก่ามันมองจ้องเล็งเอาไว้เช่นกัน

"โยม อาตมาจะให้สัปเหร่อเปิดฝาโลงเพื่อดูนะ"

หือ เปิดฝาโลงหรอ ถ้าเราไม่ได้เป็นคนเปิด พระรูปนั้นจะเอาลอตเตอรี่ไปใช้ เดี๋ยวนะ (เป็นการคาดเดาที่ไม่เหมาะเลยนะมอส)

แล้วทุกคนรวมทั้งเจ้าหมาวัดมายังที่ตั้งโลงครั้งสุดท้าย

สัปเหร่อเปิดฝาออกมาแล้ว

สุนัขเจ้าปัญหามันสร้างปัญหา มันกระโดดเข้าไปในโลง

"เฮ้ยๆ เจ้าหมาตัวนี้มันจะทำอะไรกับศพหรือเปล่า" ต่างคนพรวดเข้าไป มอสพยายามที่จะหาวิธีแหวกทางไปดูข้างในโลงให้มากที่สุด

"ไปๆ ชิวๆ"พระสงฆ์ไล่สุนัขวัด มันกระโจนออกพร้อมคาบอะไรบางอย่างไปแล้ว มอสรู้สึกว่ามันวิ่งไปหลบซ่อน มอสแอบเดินตามไป ปล่อยให้คนอื่นๆดูศพฮิเดกิเป็นครั้งสุดท้าย

มอสมาถึงบริเวณที่เจ้าสุนัขวัดมาแอบ เขาจะมีโอกาสรวยก็คราวนี้

..............หมาแทะกระดูก

"ไอ้เวร ! " มอสฉุนด่า ส่งเสียงคำรามปานสิงห์โตเจ้าป่า ไล่เตะสุนัขตัวนั้นไปตลอดทาง พยายามเข้าเตะให้โดน สุนัขก็วิ่งหนีเรื่อยๆ

"อ้าวๆ มอส นายโกรธมันเพราะมันเสียมารยาทต่อโลงศพสินะ"เวียร์มองเห็นมอสไล่สุนัข โดยมอสเหมือนจะพยายามฆ่ามันเลย

สรุป สุนัขบางตัวก็หลอกให้มนุษย์อย่างมอสเชื่อและเข้าใจผิดพลาดได้

"จะเผาแล้วนะ มอสมานี่" พี่สาวของมอสเรียก

และวันนั้นฮิเดกิก็ได้ถูกทุกคนส่งไปยังภพภูมิที่ดี นี่คือสิ่งสุดท้ายที่เจ้าของอยากทำเพื่อความผูกพัน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา