เป็น Dog หรือฟะ?
เขียนโดย IQtea
วันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 17.54 น.
แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน พ.ศ. 2563 17.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) งานศพฮิเดกิ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคืนนั้นมอสหลับลงในเวลาสามทุ่มตรง หลับตามปกติถึงจะไม่ได้ฝันถึงอะไร ก็ตื่นขึ้นกับเช้าวันอาทิตย์โดยเร็ว เขาได้ทำภารกิจช่วงเช้าในบ้าน การสวดพระอภิธรรมศพของสุนัขเริ่มวันนี้ การกรวดน้ำตอนเช้าทำสามวัน การทำบุญสวดมนต์เย็นจะทำสามวัน
มอสสวมชุดสีดำ พี่สาวสวมชุดสีขาว ระยะทางจากบ้านไปยังวัดไม่ต้องขึ้นรถอะไร สามารถเดินไปสักสิบนาที พี่สาวเริ่มถามน้องชายว่า
"มอส ตั้งแต่วันนั้น พี่คงจะรู้สึกผิดต่อฮิเดกิมาก" พี่มุขเล่าถึงวันที่ตนเองเกิดสะเพร่าไม่ได้ปิดรั้วกันสุนัขเอาไว้ ทำให้สุนัขวิ่งออกไปข้างนอกและถูกรถกระบะชนทำให้เสียชีวิต
"ผมก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของพี่มุขนะ ผมรักทั้งพี่มุขและสุนัขของเรา พี่มุขอย่าคิดมากไปเลยว่ามันเป็นความผิดของพี่คนเดียว ผมเองก็ว่าตัวเองผิดเหมือนกัน" มอสที่เดินข้างๆพี่สาวปลอบใจ อาจเป็นเพราะผู้ชายดูเข้มแข็งกว่าจึงได้กลับสู่สภาวะแห่งความจริงได้เร็ว "เดี๋ยวพี่จะดูไม่สวยงามนะเมื่อพี่เศร้า"
บางครั้ง พี่มุขก็ดูใบหน้าในกระจกในวันก่อนๆ และตอนนี้ที่กำลังเดินอยู่ได้เอาแขนเช็ดตา มอสเห็นแล้วยังไม่ได้ถามสงสัยว่าพี่สาวจะต้องการร้องไห้หรือเปล่า แต่เมื่อพี่สาวปล่อยแขนลงและเงยหน้าอีกที สีหน้าพี่สาวฟื้นฟูกลับมาดีขึ้นกว่าเดิม มอสก็รู้สึกว่าตนได้คอยปลอบพี่สาวให้กลับมารู้สึกมีชีวิตชีวาได้อีก เศษใบไม้สองใบปลิวข้างหน้าสองคนไปกับลมอ่อนๆ
"มอส เรามาถึงวัดแล้ว เฮ เดินเลยแล้ว" พี่สาวรู้ว่าถึงที่ ส่วนมอสใจลอยไปนิดนึง
"โอ๊ะ โทษที" มอสเพิ่งรู้สึกตัว "ใจมันลอยไปหน่อย อาจเป็นเพราะฮิเดกิ"
ที่ทางเข้าของวัดแห่งนี้ สองพี่น้องพบครอบครัวของเวียร์ กล่าวทักทายกัน
เวียร์กล่าวทักทายกับเพื่อน "ฉันมาถึงก่อนเวลาตามที่บอกไว้น่ะ เออ นี่พ่อและแม่ฉันเอง"
มอสและพี่สาวกล่าวสวัสดียกมือไหว้ทักทายคุณพ่อคุณแม่ของเวียร์ ขอบคุณที่ร่วมบริจาคเงินให้กับงาน
มีสุนัขตัวหนึ่งที่ดูท่าจะมีบางอย่างลึกลับกับการส่งสายตาเรียกมอส มอสแยกตัวออกจากกลุ่มผู้คนเดินไปยังศาลาที่จัดโลงศพเจ้าฮิเดกิ
ไม่ว่าจะส่วนไหนของวัด ย่อมมีหมาวัดเดินเตร็ดเตร่ สุนัขที่เรียกมอสมานั้นนั่งจ้องมองโลงศพของฮิเดกิมาได้สักพักแล้ว มอสที่แอบเข้ามาเงียบๆในศาลานี้เพียงคนเดียว "มาร่วมพิธีหรอ" มอสส่งกระแสจิตให้กับสุนัขที่นั่งจ้องโลงศพ
"ครับ แต่ผมมีรางสังหรณ์ของผม ในโลงนี้มีลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ต้องทำยังไงถึงจะเอาออกมาได้น่ะครับ"
"หา ว่าไงนะ รางวัลที่หนึ่งหรอ แล้วทำไมมันต้องไปอยู่ในนั้นล่ะ" มอสทำตาโตเมื่อสงสัยสิ่งที่ชวนให้เขาตื่นตระหนก ในนั้นมีจริงหรือเปล่าที่เขาจะได้เงินรางวัลถึงสามล้านบาท
"อธิบายไม่ถูกเหมือนกันน่ะพี่ มีบางคนทิ้งเอาไว้แล้วไม่ได้กลับมาเอาคืน" สุนัขตัวนั้นก็ใช้ขาหน้าสะกิดเท้ามอสเพื่อเริ่มเร่งเร้าเขาว่าควรจะเปิดโลงศพโลงนี้ดู
มันเป็นแค่ความคิดของสุนัขวัดตัวหนึ่งท่ามกลางงานบุญแบบนี้ มอสจะกล้าแหวกทางไปยังที่ตั้งนั้นหรือ
แต่เขาก็เชื่อในสิ่งที่เจ้าสุนัขบอก เขาจะอ้อมไปยังที่ตั้ง แล้วฝาโลงมันเปิดยังไงนะ เขาเปิดไม่เป็นหรือว่าจริงๆแล้วมีแต่สัปเหร่อเท่านั้นที่จะมีอุปกรณ์ในการเปิด
มือเขาเอื้อมไปแตะปลายฝา
"เสียใจจริงๆนะพี่มุข ที่ศาลานี้ใช่มั้ย" เวียร์ที่กำลังเดินคุยกับพี่สาวมาที่บริเวณทางเข้า
มอสรีบเปลี่ยนท่าไปลูบหัวสุนัขที่บอกเรื่องลอตเตอรี่ ผิวปากเป็นเพลงเล็กน้อย
"ศาลานี้ โอเค อ่า" เวียร์มาเห็นการลูบหัวหมาวัดของมอสแล้วผิวปาก "ออ นายเข้ามาก่อนแล้ว" แล้วเวียร์ก็ยังมีเรื่องคุยอะไรที่ยังไม่เสร็จก็ออกไปจากที่ตรงนั้นอีก
เวียร์ไปแล้ว
"นี่เจ้าตูบ เจ้ามั่นใจขนาดไหนว่าในโลงนี้มีรางวัลที่หนึ่ง"
"ผมก็ใช้จมูกสูดกลิ่นมาแล้วนะพี่" เจ้าสุนัขยืนยัน
มอสไม่แน่ใจว่าทำไมเจ้าตูบมันถึงยืนยันกับกลิ่น มอสยังไม่สามารถได้กลิ่นอะไรจากข้างในโลงนี้เลย มันตะหงิดใจอยู่ ถ้าจะต้องเปิดฝาออกนั้น มอสปีนขึ้นไปเหนือฝาโลง นั่งค่อมและเขาพยายามมองฝาว่าจะมีจุดไหนเป็นจุดเปิด
สุนัขตัวนั้นคอยลุ้นดูมอสที่ไปอยู่ข้างบนนั่นอย่างบาปกรรมต่องานบุญ ถ้าใครมาเห็นเข้าล่ะเป็นเรื่องเลย
และเวียร์กับครอบครัวและพี่สาวมอสเข้ามาถึงหน้าห้อง เห็นเข้าแล้ว เห็นแล้วว่า.......
...................................................... !!
เหมือนจะเห็นว่า ว่า......มอสกำลังลูบหัวเจ้าสุนัขของวัดและผิวปากเป็นเพลง แสดงว่ากลับเข้าสู่ความปกติอย่างไม่ควรกระพริบตา(เป็นไปได้ยังไงที่มันจะรวดเร็วอย่างนั้น) ใจมอสเองก็นึกว่าจะโดนจับได้แล้วด้วย
เวียร์อดใจไม่ไหวต้องถาม "มอสเอ้ย นายยังอยู่กับเจ้าตูบตัวนั้นเรอะ มันผ่านไปกี่นาทีแล้วน่ะ เออ พวกพระสงฆ์จะมาสวดแล้วนะ มานั่งฟังสวดกันเถอะ"
มอสและคนอื่นๆนั่งลงในศาลานั้น พระสงฆ์รูปต่างๆ สวดพระอภิธรรม และผู้เข้าร่วมพิธีทำการกรวดน้ำเช้า
พอเสร็จพิธีช่วงเช้าแล้ว ทุกคนลุกขึ้นออกจากศาลา
มอสยังแอบอยู่ที่หน้าโลง ยังตะหงิดคาใจกับเรื่องที่สุนัขบอก และเวียร์เดินกลับเข้ามาเห็นอีกแล้ว
เห็นว่า มอสลูบหัวเจ้าสุนัขและผิวปากเป็นเพลง "นี่นี่ นายยังเล่นกับเจ้านั่นไม่พออีกหรอ ประหลาดคน"
ช่วงกลางวันของงาน
เวียร์มีอะไรจะคุยกับพี่สาวของมอสถึงเรื่องวันที่ไปเยี่ยมบ้านเขา "พี่มุข เมื่อวานตอนที่มอสมาบ้านผมนะ ผมมีเรื่องมอสจะบอก"
"หืม น้องชายของพี่มีอะไรหรอ"
"มีบางอย่างที่ผมคิดว่า มอสที่เป็นคนช่วยเหลือผมเล็กน้อย ผมเจอเขามาที่บ้าน จริงๆผมไม่น่าจะพบแว่นตาเจอ ผมไม่ได้ตาฝาดว่าแว่นตาอยู่ในห้องน้ำก่อนที่ผมจะเจอ จนกระทั่งมอสเข้ามาในบ้านของผม ไม่รู้ว่ามอสมีโอกาสเสกมันออกมาเหมือนเวทย์มนต์หรือนักมายากลแต่ผมไม่เชื่อเรื่องงมงาย ผมคิดว่ามอสรู้ว่าแว่นตามันไปอยู่ส่วนไหนของห้องน้ำอยู่แล้วมากกว่า พอผมเข้าไปในห้องน้ำบ้าง ผมคลำที่วางแล้วเจอ จริงๆผมไม่ใช่ว่าผมสายตาสั้นเกินไปที่จะมองไม่เห็นขนาดนั้น จริงๆมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นมาก่อนเลย"
"น้องชายของพี่ไม่ได้บอกว่าเป็นผู้พบแว่นตา? .....แล้วทำไมถึงไม่บอกล่ะ?"
"ไม่รู้เหมือนกันนะพี่ มันน่าเก็บไปคิดแต่ก็เพื่อนกันจึงไม่อยากใส่ใจรายละเอียดต่างๆให้มากมายจนคาใจ ต่อจากนั้นแม่ของผมบอกเรื่องหาเม็ดไข่มุกแล้วมอสเขาเอาสร้อยไปดู แปลกใจมากครับ ที่เขาไปหาที่ๆมันหล่นบริเวณกอหญ้าของสวน เขาใช้วิธีสืบสวนของเขาเร็วเหลือเกิน แสดงว่าไอคิวเขาไม่น้อยนะครับ"
"หืม น้องชายฉลาดถึงกับเป็นนักสืบจริงๆหรอ"
"ผมเข้าใจว่าบทบาทนั้นมัน อืม มันเกินบทบาทนักสืบเสียด้วย มันไม่มีข้อมูลที่จะช่วยเขามากมายแต่เขาเหมือนรู้เป้าที่หมายไปทันที หรือเขาเป็นคนเอาเม็ดไข่มุกไปฝังเสียเองจึงรู้ที่ของมัน เขาไม่น่าจะทำนะครับ ขโมยขโจรอะไรอย่างนั้น เรื่องแว่นตาของผมก็เช่นกันถ้าเกิดเขารู้แล้วไม่บอกผมจริง ผมแอบสงสัยเรื่องมอสเขาเป็นคนลักซ่อน"
"เอ๊ะ โจรหรอ แต่พี่ไม่คิดว่ามอสจะเป็นคนทำอะไรแบบขโมยได้เลย"
"ต่อจากนั้น ผมก็ประหลาดอีกครั้ง ที่ไม่นึกว่ามอสเข้ามาในห้องนอนที่ผมชวนเข้ามา เขาแสดงให้ผมรู้ว่าเขาไม่มีความรู้เรื่องนกกระจอก เขายังขาดความรู้มากเกินไปที่จะเขาจะรับบทบาทเป็นนักสืบ แปลกดีนะครับ"
"ออ งั้นน้องชายพี่ก็ดูปกติธรรมดาแหละ น่าอายจังมอสไม่รู้แม้เรื่องแค่นี้"
"เรื่องที่ผมเล่าให้พี่ก็ เก็บไว้ดีกว่าครับ หรือวันไหนพี่สงสัยมอสจริงๆ พี่ใช้คำที่เลี่ยงๆจากตัวผมด้วยนะครับ เดี๋ยวเขาจะสงสัยเรื่องผม"
หลังจากวันนี้ เวลาก็ล่วงเลยไปอย่างเร็ว วันสุดท้ายที่จะทำการเผา
มอสคุยกับพี่สาวว่า "การเผา ตามที่ตกลงกันไว้ต้องเผาทั้งโลงหรือเปล่า"
"ก็ คงเผาทั้งโลงนะ มีอะไรหรอ"
มอสถามพี่สาวเพียงแค่นั้น พี่สาวเกิดสงสัยแต่มอสไม่บอกอะไรออกไป
แย่ละ ข้างในนั้นมีรางวัลที่หนึ่งนะ
เมื่อเขาจะทำการเอาโลงเข้าเตา มอสจ้องเขม็งไปที่โลง สุนัขวัดเจ้าปัญหาที่อาศัยในวัดนี้เจ้าเก่ามันมองจ้องเล็งเอาไว้เช่นกัน
"โยม อาตมาจะให้สัปเหร่อเปิดฝาโลงเพื่อดูนะ"
หือ เปิดฝาโลงหรอ ถ้าเราไม่ได้เป็นคนเปิด พระรูปนั้นจะเอาลอตเตอรี่ไปใช้ เดี๋ยวนะ (เป็นการคาดเดาที่ไม่เหมาะเลยนะมอส)
แล้วทุกคนรวมทั้งเจ้าหมาวัดมายังที่ตั้งโลงครั้งสุดท้าย
สัปเหร่อเปิดฝาออกมาแล้ว
สุนัขเจ้าปัญหามันสร้างปัญหา มันกระโดดเข้าไปในโลง
"เฮ้ยๆ เจ้าหมาตัวนี้มันจะทำอะไรกับศพหรือเปล่า" ต่างคนพรวดเข้าไป มอสพยายามที่จะหาวิธีแหวกทางไปดูข้างในโลงให้มากที่สุด
"ไปๆ ชิวๆ"พระสงฆ์ไล่สุนัขวัด มันกระโจนออกพร้อมคาบอะไรบางอย่างไปแล้ว มอสรู้สึกว่ามันวิ่งไปหลบซ่อน มอสแอบเดินตามไป ปล่อยให้คนอื่นๆดูศพฮิเดกิเป็นครั้งสุดท้าย
มอสมาถึงบริเวณที่เจ้าสุนัขวัดมาแอบ เขาจะมีโอกาสรวยก็คราวนี้
..............หมาแทะกระดูก
"ไอ้เวร ! " มอสฉุนด่า ส่งเสียงคำรามปานสิงห์โตเจ้าป่า ไล่เตะสุนัขตัวนั้นไปตลอดทาง พยายามเข้าเตะให้โดน สุนัขก็วิ่งหนีเรื่อยๆ
"อ้าวๆ มอส นายโกรธมันเพราะมันเสียมารยาทต่อโลงศพสินะ"เวียร์มองเห็นมอสไล่สุนัข โดยมอสเหมือนจะพยายามฆ่ามันเลย
สรุป สุนัขบางตัวก็หลอกให้มนุษย์อย่างมอสเชื่อและเข้าใจผิดพลาดได้
"จะเผาแล้วนะ มอสมานี่" พี่สาวของมอสเรียก
และวันนั้นฮิเดกิก็ได้ถูกทุกคนส่งไปยังภพภูมิที่ดี นี่คือสิ่งสุดท้ายที่เจ้าของอยากทำเพื่อความผูกพัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ