My'cat ฉันเป็นแมวโคบี้ ตัวสีขาว หน้าตาน่ารัก
1) My'cat : EP 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
“กรี๊ดดดด สอบติดด้วยๆๆ><”ตะโกนร้องลั่นบ้านหลังจากการดูรายชื่อผู้ที่สอบติดมหาลัยชั้นนำ...อย่าถามว่าฉันคือใคร ฉันก็คือหนูหก สาวน้อยที่ชิวิตกำลังไปได้สวย เพราะได้สอบติดมหาลัยชั้นนำที่เข้ายากสุดๆและชื่อหนูหกนี้ไม่ได้แต่ใดมาก เหตุนั้นเกิดขึ้นง่ายๆ จากการที่คุณแม่กับคุณพ่อที่สมัยเลิฟๆกันหนักมากจนอยากจะมีลูกด้วยกันถึง 6 คนแต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่พอคุณแม่คลอดฉันออกมาแล้วดันมีลูกอีกไม่ได้ ท่านเลยตั้งชื่อฉันว่าหกแทน โดยเติมหนูเข้าไปข้างหน้าให้คิคุเพิ่ม
ตึก! ตึก! ตึก!
“คูนนนแม่คะคะค้า”ฉันรีบถือโน้ตบุ๊ค ตะโกนแหกปากอย่างร่าเริงพร้อมๆไปกับเล่นเสียงมีความสุขและก้าวลงบันได ไม่สิเรียกวิ่งเลยดีกว่า
“อะไรของเราเนี่ย ยัยหนูหก”คุณแม่ละมือจาการทำอาหารตรงหน้ามามองหน้าฉัน
“ก็เป็นคนที่รักเธอยังไงละคะ คูนนนแม่ ฮิ้ววว~”ฉันวางโน้ตบุ๊คลงบนโต๊ะทำอาหารแล้วหันไปปล่อยมุขเสี่ยวใส่คุณแม่
“ปะๆ กลับห้องไปปะ”คุณแม่ส่ายหน้าแบบเอือมระอาฉันสุดๆ แต่นั้นยังไม่ใช่ที่สุดสำหรับฉัน
“หกล้อเล่นน ฮิๆ”ฉันหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจแล้วเดินเข้าไปกอดคุณแม่ทางด้านหลัง
“ตกลงมีอะไรกันแน่หนูหก แม่จะทำอาหาร”
“เอางี้ดีกว่าคะ ถ้าแม่อยากรู้ แม่ต้องตอบคำถามหกให้ได้!”
“โอเค งั้นไม่อยากรู้”
“แม่อ่า ถามหกหน่อย นะๆๆ”ฉันอ้อนเสียงหวาน หอมแก้มคุณแม่ดังฟอดฟอด
“เรานี้มันจริงๆเลยนะ”คุณแม่หยิกแขนฉันแรงๆ 1 ทีด้วยความหมั่นไส้จนฉันต้องร้องโอดโอย”ถามมาสิ”
“แม่รู้ป่าวว่าวันไหนไม่ควรสระผม”ฉันยิ้มกริ่ม
“วันไหน”คุณแม่เลิกคิ้วห้าม
“วันพฤหัส...สระ บ่ ดี ฮ่าๆ”ปล่อบมุขเสร็จก็ขำก๊ากเองโดยอัตโนมัติ เมื่อคุณแม่ทำหน้าเหม็นเบื่อใส่”แล้วแม่รู้ป่าวว่าวันไหนควรสระผม”
“วันไหนอีกละ -_-”
“วันพฤหัส...สระ พอ ดี ไงคะ ฮ่าๆ :D”
“เล่นจบแล้วใช่ไหม จบแล้วจะไปไหนก็ไปปะ”คุณแม่โบกมือไล่ออกจากครัวด้วยความเอือมระอาสุดๆจนฉันคำก๊ากออกมาอีกรอบ ความสุขของคนเล่นมุข(แป๊ก)ก็คือการที่คนโดนเล่นมุขทำหน้าเอือมแบบนี้นี่ละ
“หกล้อเล่น ฮิๆของจริงน่ะอยู่นี้”ฉันหยิบโน้ตบุ๊คมาโชว์คุณแม่แล้วชี้ไปที่รายชื่อฉัน...คุณแม่ใช้หรี่ตามองตามประสาคนมีสายตาแล้วไม่ได้ใส่แว่น
“นี่...นี่มัน โอ๊ยยย”คุณแม่ตาโตเป็นนกฮูกอ้าปากวอแล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างพร้อมกับกรี๊ดลั่นเหมือนกับฉันเดะๆ”ยัยหนูหกสอบติดมหาลัย T แล้ว!! โอ๊ย ลูกฉัน ลูกฉันสอบติด!”คุณแม่วิ่งตะโกนรอบบ้าน แถมเท่านั้นไม่พอยังวิ่งไปบอกระแวกเพื่อนบ้านซะ รู้ตั้งแต่หลังซอยยันหน้าซอย
“คุณแม่ขา ระวังล้มนะคะ ^^”ฉันฉีกยิ้มกว้างร้องบอกคุณแม่ที่ดีใจกว่าคนที่สอบติดซะเอง
“วันนี้ปิดซอยฉลอง”คุณแม่ยิ้มแล้วยิ้มอีกจนกรามแทบค้าง
เมื่อฉันรายงานข่าวดีของฉันให้คุณแม่รู้แล้วรายต่อไปก็คือเพื่อนสนิทกัน คนแรกก็คือแพคโจ เธอเป็นรุ่นพี่ของฉัน อายุห่างกันประมาณ 3 ปีได้ เพราะแพคโจมีความเป็นผู้นำและก็ไม่ค่อยพูดมาก(เท่าที่ควร)แถมยังมีคนพูดตรง ทำให้เราสนิทกันไปโดยปริยาย ส่วนคนที่ 2 คือชอนซา คนนี้เป็นรุ่นน้องได้สัก 1 ปีแต่เพื่อนคนนี้ไม่ธรรมดานะจ๊ะ เธอเป็นถึงดาราที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเลยละ ติดนิสัยหลงตัวเองและหยิ่งๆนิดหน่อยแต่ก็เข้ากับฉันได้ดี เราก็เลยเหมือนสามทหารเสือเลย ฮ่าๆ...และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาฉันก็ทำการประชุมสายทันที
“(ฮัลโหล)”แพคโจ
(“ฮัลโหล คนสวยรับสายคะ”)ชอนซา
“เซ~ ฮัลโหลก็ไม่มีไรมากแค่จะบอกว่ารักทุกคนค้าาา”
“(เอิ่ม = =*”)แพคโจ
(“คนสวยเพลียคะ”)ชอนซา
“(โทรมาจะบอกแค่นี้ ลาละนะ”)
“หากพี่สาวคิดมากแล้วไม่สบายใจ ลองมาคิดถึงหกมั้ย อบอุ่นใจดี แฮร่! :D”คว้างมุขออกไปแล้วตบตักดังแฮร่(?)
“(อยากมีรูปคู่หวานๆ แนะนำให้ไปถ่ายกับน้ำตาลมิตรผล...)”แพคโจ
“แฮร่!”ฉันตบตักร้องแฮร่พร้อมกับแพคโจ เพราะรู้มุขกัน จากนั้นก็หัวเราะไปด้วยกันทั้ง 3 คน
(“แล้วตกลงพี่หกมีไรอะ คนสวยๆยังมีมาตามจีบก็เพียบนะ อยู่นานมิได้ๆ”)ชอนซา
เอิ่มคะ ยอมใจความหลงตัวเองของนาง(พอๆกับยอมใจกับความมุขแป๊กของฉัน)
“ฮะแฮ่ม! เรื่องมีอยู่ว่า...”
(“ว่า”)ทั้งชอนซาและแพคโจพูดพร้อมกัน
“หกสอบติดมหาลัย T แล้ว ฮิ้ววว...ถึงเราจะติดมหาลัยแต่เราก็จะไม่ลืมเธอ~”
(“เรื่องจริงเหรอ พี่หก แบบนี้ต้องฉลองๆ เดี่ยวคนสวยเครียงานเพื่อพี่เลย พี่ควรปลื้มใจรู้ป่าว ดาราดังอย่างชอนซายอมเครียงานเพื่อไปหาเลยนะ ไม่สำคัญทำไมได้~”)
“อุ้ย ดีใจม๊ากคะน้อง รักนะ ม๊วฟ -3-“
“(คิดว่าสมองจะมีแต่ขี้เลื้อยดีนะยังมีเนื้อสมองอยู่บ้าง ดีใจด้วย พรุ่งนี้ 2 ทุ่มตรง เจอกันที่ร้านอาหารชวนชินละกัน ฉลอง!)”แพคโจ
(“พี่เลี้ยงนะ”)ชอนซา
“พี่สาวเลี้ยง”
ฉันกับชอนซาพูดพร้อมกัน...ฉันแอบเห็นหน้าแพคโจในหัวกันเลยที่เดียว เธอต้องทำหน้าแบะปากมองบนใส่อยู่แน่ๆ
“(เออ!) ตี๊ดดด”แพคโจตกลงรับปากแล้ววางสายหนี
“ฮ่าๆ^_^”ฉันกับชอนซาหัวเราะร่วน ก่อนที่ชอนซาจะขอตัวไปทำงานก่อน เห็นว่าต้องไปถ่ายละครไรเนี่ยละ
ชิวีตหนูหกดีดี๊ วันนี้คุณแม่ฉลอง พรุ่งนี้เพื่อนฉลอง ฮูเร่!
วันต่อมา เวลา 1 ทุ่ม 30 นาที
เมื่ออาบน้ำ ฉันเลือกหยิบเสื้อแขนกุดสีขาวและกางเกงยีนส์ขาดสั้นขาดๆตัวหนึ่งมาใส่ตามเทรนสมัยที่เขาชอบใส่กัน ผมก็ปล่อยตามธรรมชาติ ที่ไม่ธรรมชาตินี้ก็คงจะเป็นมัดจุกผมหน้าม้า(เกี่ยว?) ส่วนหน้าก็แต่งแบบอ่อนๆให้พอดูสวยงามและที่ขาดไม่ได้คือการเลือกสีลิปสติก เพราะมันจะบ่งบอกความรู้สึกและเป็นเราได้อย่างชัดเจน รอบนี้ฉันเลือกลิปสีส้มอมแดง ทาเมื่อไรรับรองโลกสดใส ปัปปา ดาดีด๊า เหมาะกับสาวขี้เล่นอย่างฉันที่สุด...แต่งตัวเสร็จฉันก็คว้ากระเป๋าใบเก่งแล้วเดินลงไปใส่รองเท้าผ้าใบสีดำที่หน้าบ้าน
“หนูหกให้ลุงจรไปส่งนะลูก ดึกแล้วแม่เป็นห่วง”ระหว่างที่ฉันกำลังใส่รองเท้าอยู่ก็พบว่าคุณพ่อกับคุณแม่ได้เดินมาส่งฉันที่หน้าบ้านด้วยสภาพชุดพร้อมนอน
“ได้คะคุณแม่”ฉันฉีกยิ้มแฉ่งรับคำคุณแม่ เพื่อไม่ให้ท่านเป็นห่วง
“แล้วก็อย่ากลับดึกมากเข้าใจไหม”คราวนี้เป็นคุณพ่อที่พูดบ้าง มาซะเสียงเข้มเชียว
“ห้ามกลับดึกแต่ว่ากลับเช้าได้เลยใช่ไหมคะ คุณพ่อ ^0^”
“...”คุณพ่อทำหน้าโหดใส่ฉันไปทีจนต้องรีบแก้ตัว
“หกล้อเล่นนน~ เอาเป็นว่าจะพยายามนะคะ ฮ่าๆ :D”
“เฮ้อ...เจ้าลูกคนนี้”คุณพ่อถึงกับถอนหายใจปลงตก
“หกไปก่อนนะคะ สวัสดีคะ ^^”ฉันกล่าวสวัสดีท่านทั้ง 2 แล้วเตรียมก้าวจะออกจากบ้านแต่พอก้าวข้ามประตูบ้านมาก็ไม่ดีขึ้นมา รู้สึกอยากกอดท่านทั้ง 2 คน...ฉันรู้สึกว่าถ้าไม่ไปกอดท่านตอนนี้อาจจะไปมีโอกาสได้กอดอีก มันทำให้ฉันตัดสิ้นใจหันหลังกลับไปกอดท่านทั้ง 2 และหอมแก้มคนละที ก่อนจะออกมารอรถลุงจรที่หน้าบ้าน(นอกรั้ว)
บรื้น~
ยืนรอไม่นานลุงจรก็ถอยรถออกมาจากที่จอดรถของบ้านแล้วมารับฉัน...เขารีบลงเดินลงมาเปิดประตูให้ฉันทั้งๆทีเขาไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ เพราะบ้านฉันไม่ได้บังคับอะไรขนาดนั้นแต่แกบอกว่ามันคือหน้าที่ของแก ฉันขัดจนไม่รู้จะขัดยังไงแล้ว ก็เลยปล่อยเลยตามเลย แม้ว่าจะแอบเกรงใจแกอยู่บ้างก็ตาม
“ขอบคุณคะลุงจร”ฉันกล่าวขอบคุณลงจรแล้วก้าวขึ้นรถไป แต่ในระหว่างที่กำลังจะขึ้นไปบนรถก็มีนกแสกตัวหนึ่งบินมาเกาะที่หน้าบ้านฉันแล้วร้องเสียงดังจนต้องหันขวับไปมอง ลุงจรเองก็ถึงกับหน้าซีดใจคอไม่ดีรีบขึ้นมานั่งในรถ
“หนูหกรู้ไหม เขาว่ากันว่าถ้านกแสกบินไปเกาะที่ไหนบริเวณนั้นจะมีคนตาย มันเป็นรางไม่ดีน่ะครับ”ลุงจรพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีเท่าไร”
“ไม่มีอะไนหรอกคะลุง เรื่องเล่าก็คือเรื่องเล่า”ฉันยิ้มตอบลุงจร ทำให้แกมีสีหน้าดีขึ้นแล้วออกรถ...ฉันเป็นคนที่ไม่คิดอะไรอยู่แล้วก็เลยไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิด หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งไลน์ไปบอก 2 คนนั้น
หนูหก คณะตลก: รวมตัวยางงง~ |
ชอนซาสวยไม่มีใครเกิน:เขามากันเป็นชาติแล้วพี่ กินเหล้ารอจนจะเมาอยู่แล้วเนี่ย (ส่งสติกเกอร์ลิงหน้าบูด) |
แพคโจสายเฮ้ว:ใครมาสายจ่ายตังเว้ย (ส่งสติกเกอร์หัวเราะเยาะ) |
หนูหก คณะตลก:เลทติดหน่อยเอง ร้านอยู่ใกล้บ้านแค่เนี่ย |
แพคโจสายเฮ้ว:ตลอด! |
หนูหก คณะตลก:นิดนุง ฮิๆ (ส่งสติกเกอร์คนเกาตูด) |
ชอนซาสวยไม่มีใครเกิน:เร็วเลยพี่ เหล้าหมดอดกิน บอกเลยคะ คนสวยแดก เอ้ย กินเรียบคะ |
หนูหก คณะตลก:(ส่งสติกเกอร์หมีหัวเราะลั่น) |
ฉันคุยเล่นไปสักพักลุงจรก็บอกฉันว่าถึงแล้ว ฉันเลยบอกลุงแกว่าไม่ต้องรอ มันดึกแล้ว เกรงใจแกและที่สำคัญแพคโจเอารถมาเองด้วยเลยไม่มีปัญหาอะไร...ร้านชวนชิมเป็นร้านสไตร์ชิวๆนั่งดิ๊งไรงี้ เป็นร้านที่บรรยากาศดีไม่แพ้ที่ไหนเลยละ เห็นแพคโจบอกว่าจองโต๊ะไว้ริมแม่น้ำ จะได้นั่งชมวิว ลมเย็นๆ ดื่มเหล้า หุ้ย ฟิน~
“มากี่ท่านคะ”พนักงานคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เพื่อนจองไว้แล้วคะ”ฉันยิ้มขอบคุณ เธอจึงถอยออกไปแล้วรับลูกค้าคนต่อไปแทน ฉันจึงเดินตรงไปที่โต๊ะเองด้วยความเชี่ยวชาญ
มาบ่อยก็งี้ ฮ่าๆ :D
เดินไปไม่นานก็ถึงโต๊ะ พอถึงโต๊ะฉันก็รอบสังเกตเพื่อนที่ละคน...วันนี้แพคโจใส่เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงสีดำมันเงา แมทกัน ผมนี้ก็มัดรวบหางม้าเป็นลวกๆแต่ดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ พีคคือใบหน้า แพคโจนี่มาหน้าสดเลยไม่แต่งอะไรทั้งนั้นทาแค่ลิปสติกประจำกายเธอเท่านั้น นั้นคือสีแดงสุดจี๊ด ส่วนซอนชาวันนี้เธอมาแบบสวยแบบเริ่ดๆด้วยชุดเดรชสีเหลืองอ่อนเหลือบประกายเพรช ผมดันลอนสวย ใบหน้าสวยครบเครื่องและตามด้วยลิปสีชมพูนู้ด
“มาช้าต้องดื่มตามเขาให้ทันเลย”หลังจากที่ฉันนั่งลงแล้วชอนซาก็หันมาส่งเหล้าเพียวๆให้ฉันด้วยใบหน้าที่เริ่มจะแดงนิดๆ
แสดงว่าที่พูดในไลน์คงจะเป็นเรื่องจริง J
“พวกแกกินกันเต็มที่เลย เดี่วยพากลับบ้านเอง...บอกเลยถ้าพวกแกไม่เมาฉันไม่ส่งบ้าน!”แพคโจเสียงสะใจและพยายามบ้ายเบี่ยงชอนซาที่ชงเหล้าให้ไม่หยุด ด้วยข้ออ้างว่าต้องขับรถไปส่งพวกเราแต่ฉันว่าไม่รอดหรอก ชอนซาซะอย่าง มอมแหลก ฮ่าๆ
เวลาผ่านไปเนินนาน 1 ชั่วโมงเป็น 2 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงเป็น 3 ชั่วโมง ฉันดื่มไปมากจนแทบจะพูดจาไม่รู้เรื่อง ชอนซาก็คงยังมอมเหล้าพวกเราไม่หยุดแม้ว่าเธอเองจะเมาแล้วเช่นกัน คนที่มีสติมากที่สุดก็คงเป็นคนที่ต้องขับรถไปส่งพวกเราที่บ้านอย่างแพคโจนั้นละ ขานั้นแค่กรึ่มๆ...ระหว่างที่เรากำลังคุยกันอย่างสนุกสนานฉันก็ดันเหลือบไปเห็นตรงข้างๆ ไปสิเขาเรียกจ้องโต๊ะข้างๆเลยมากว่า เพราะผู้ชายโต๊ะข้างๆน่ะ หล่อจนต้องมนต์เสน่ห์จนถอนสายตาออกมาไม่ได้เลย เขาเป็นผู้ชายที่ดูอ่อนโยน ใบหน้าที่ดูแสนดีและรอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นทำฉันหัวใจเต้นแรงมากจนเจ็บอกไป ท่าทางที่เขาปฏิบัติกับผู้หญิงข้างๆเขาอย่างให้เกียรติ อ่อนโยนและแลดูอบอุ่นนั้น ทำฉันหน้าแดงจนไม่รู้ว่าเขินเขาหรือเมาเหล้ากันแน่
“โทะระคะ พรุ่งนี้พาแคทไปซื้อแมวหน่อยนะคะ แคทอยากเลี้ยงมาตั้งนานแล้ว”เธอเขาไปกอดเอวสบอกผู้ชายคนนั้นอย่างออดอ้อน แถมยังเอานมล้นๆของเธอไปถูเขาด้วย ไม่เพียงเขาจะทำตัวลามกกลับ เขาเพียงแค่ตอบรับแล้วจับปอบผมทัดหูให้เธออย่างแผ่วเบา เห็นแบบนั้นแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้
ถ้าฉันได้รู้จักผู้ชายแบบนั้นนะ จะไม่ปล่อยให้หลุดมือเลยค่อยดู -^-
ระหว่างที่ฉันกำลังมองพวกเขาอยู่ ผู้ชายคนนั้นเหมือนจะรู้สึกมามีคนมองอยู่ถึงได้มองไปรอบๆส่งไปสบตากับฉันโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาทำฉันใจสั่นอย่างกับแผ่นดินจะถล่มแต่แค่นั้นมันยังไม่จบ เขาส่งยิ้มที่แสนอ่อนโยนนั้นมาให้ฉันอีก คราวนี้เหมือนโดนลูกศรปักเข้ากลางใจอย่างจัง
โอ๊ย คุณแม่ค้า หนูอยากได้เขา
“กลับเหอะ 5 ทุ่มแล้ว”แพคโจพูดขึ้นลอยๆหลังจากดูนาฬิกา เธอเป็นคนเรียกสติฉันกลับคืนมา ฉันรีบเอออ่อแล้วลุกขึ้นเดินหนีทันที
ให้ตายเถอะ รอยยิ้มนั้นเป็นอันตรายสุดๆ
ระหว่างที่เรากำลังออกมากันอยู่ๆจิ้งจกก็ร้องประสานเสียงกันจนหน้าตกใจพร้อมกับจิ้งจกตัวหนึ่งตกลงมาตายต่อหน้าต่อตาฉัน ฉันตกใจร้องเสียงหลงจนชอนซาต้องเข้ามาดู
“เป็นไรป่าวพี่”แพคโจถามเสียงเป็นห่วง
“ป่าวๆ”ฉันตอบไม่เต็มเสียงนัก...ทั้งจิ้งจกร้องทักทั้งนกแสก ฉันรู้สึกถึงลางร้ายยังไงชอบกล”รีบกลับเหอะ รู้สึกไม่ดีไงไม่รู้อะ”
“อือๆ”แพคโจพยักหน้ารับแล้วก้าวเข้าไปสตาร์รถ ตามด้วยชอนซาแล้วฉัน.
เมื่อคิดไปนั่งเป็นที่เรียบร้อย เราก็คาดเบลกันเพื่อนความปลอยภัย จากนั้นแพคโจจึงออกรถ
“มีอะไรรึป่าว”ซอนซาขมวดคิ้วหน้าเครียด เอียงหน้ามามองฉันที่นั่งอยู่เบาะหลัง(เธอนั่งเบาะหน้ากับแพคโจ)
“แค่รู้สึกไม่ดีน่ะ วันนี้เจออะไรแปลกๆ...”ฉันก้มหน้าลงขบคิดอย่างอดไม่ได้
ทั้งนกแสกแล้วก็จิ้งจก บางทีมันอาจบอกลางอะไรสักอย่าง
“รู้สึกเหมือนกันเหรอ...ไอ้ความรู้สึกไม่ดีเนี่ยน่ะ”แพคโจมองไปข้างหน้านิ่งๆราวกับกำลังคิดอะไรบ้างอย่างอยู่
“จริงๆก็ตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านแล้วละ”ฉันตอบแพคโจ...ทั้งแพคโจและชอนซานิ่งไปหลังจากได้ยินฉันพูด ฉันว่าเราอาจรู้สึกเหมือนกันตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านแล้ว
“บางทีอยากที่เรารู้สึกเหมือนกันตั้งแต่ตอนนั้น มันอาจจะเป็นลางบอกว่าเราไม่ควรออกมาจากที่บ้าน...”ชอนซาพูดแล้วนิ่งไป เราทั้ง 3 สบตากันด้วยความหวั่นใจ ก่อนที่จะมีรถคันหนึ่งบีบแตรใส่พวกเราพร้อมกับขับปาดหน้า
บรี้นนน!!
แพคโจหันกลับไปมองด้วยความตกใจ เธอเบิกตากว้างแล้วหักพวงมาลัยรถเลี้ยวจนสุด ทำให้รถพลิกลงไปข้างทาง ก่อนที่จะหยุดนิ่งไปพร้อมๆกับร่างทั้ง 3...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ