วุ่นนั๊กรักสี่ขา

-

เขียนโดย Giants_tee

วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 01.10 น.

  1 บท
  0 วิจารณ์
  2,319 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2563 22.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทที่ 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

              ท่ามกลางฤดูร้อนในค่ำคืนที่ยาวนาน ท่วมกลางผู้คนที่กำลังพักผ่อนหลังตราบตรำทำงานมาทั้งสัปดาห์  คงมีเพียงจินสาวน้อยตัวเล็กผู้กำลังขมักเขม้นกับการเช็คๆถูๆแก้วไวท์ที่กองมากมายอยู่ตรงหน้า ภายในร้านคาเฟ่ที่ถูกประดับประดาด้วยดวงไฟไฟสีสันสดใส โต๊ะสีขาวที่ถูกตกแต่งด้วยผ้ากำมะยี่ช่างดูขัดตากับเหล่าภาพวาดขาวดำที่ติดอยู่ตามมุมต่างๆ จินเลือกใช้เวลาช่วงหยุดยาวของมหาลัยมาทำงานในร้านคาเฟ่แห่งนี้ที่อยู่ไม่ใกล้มากจากที่พักของเธอ ดวงตาสีน้ำตาลลอบมองนาฬึกาเรื่อนใหญ่เหนือศีรษะอยู่เป็นระยะ ก่อนถอนใจยาวๆเมื่อเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาเลิกงาน ในขณะที่ก้มหน้าก้มตาปัดกวาดตามซอกโต๊ะต่อไป ร่างของชายหนุ่มวัยกลางคนในชุดสีขาวก็เดินเข้าหยุดตรงหน้า  

 

"วันนี้ได้ทิปน้อยหน่อยนะ กลางเดือนก็งี้แระ" แทนคุณเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ ชายหนุ่มผิวแทนหุ่นสูงใหญ่ในชุดสีฉูดฉาดผู้มีดวงหน้าคมเข้มแต่ก็ฉาบไปด้วยรอยยิ้ม ผู้จัดการร้านที่คอยดูแลทุกอย่างในคาเฟ่แห่งนี้ตั้งแต่เปิดจนปิด  ชายหนุ่มมองดูท่าที่ของจินชั่วขณะก่อนเอ่ยชวนคุย

 

" ได้ข่าวว่าอาการเจ้านั้นกำเริบอีกแล้วเหรอ พี่ว่าเธอควรคิดเรื่องตามหาเจ้าของแล้วก็เรียกค่ารักษาซ่ะให้เข็ด ปล่อยไปงี้เธอนี้แหละจะหมดเนื้อหมดตัวไปซ่ะก่อน "

 

จินได้ฟังก็ส่งสายตามองค้อนให้อีกฝ่าย "แหม...พี่แทน ตอนนี้เจ้าโชคช่วยมันถือเป็นหมาของจินแล้ว ถ้าพี่เป็นห่วงจิน พี่ก็เพิ่มเงินชั่วโมงทำงานให้จินสิ" เธอเอ่ยเสียงเข้ม ขณะที่อีกฝ่ายรีบตอบกลับด้วยใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็ไม่วายจะบ่นอีฝ่ายต่อ

 

"เธอนี้แปลกคน หมาเธอก็ไม่ใช่ หาเรื่องให้ตัวเองชัดๆ"

 

มีเพียงสีหน้าบอกบุญไม่รับกับคำเตือนของเจ้านาย แม้เธอจะไม่ถูกจริตกับคำพูดของอีกฝ่ายเท่าไรนั๊ก แต่เธอก็เลือกที่จะไม่ต่อปากต่อคำ เพราะรู้ว่าอีกฝั่งพร่ำบ่นต่างๆนาๆก็เพราะด้วยความเป็นห่วงเธอเท่านั้นเอง

 

"พี่แทน.....วันนี้จินขอกลับเร็วหน่อยได้ไหม วันนี้โชคช่วยมันดูไม่ดีเท่าไร ก่อนมาทำงานนี้มันก็อ้วกใส่ไปรอบหนึ่งแล้ว จินกลัวอาการมันจะกำเริบอีก ยังไงเดียวเก็บของเรียบร้อยจินขอตัวเลยนะพี่"

 

ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินไปหยิบบางอย่างออกมาจากหลังรถ  "เอานี้ไปด้วย พี่เห็นมันลดราคา" พูดพลางก็ยื่นอาหารทั้งของหมาและแมวส่งให้ถุงใหญ่ จินยิ้มกว้างให้กับเจ้านายที่ปากร้ายแต่ใจดีของเธอทันที

 

แทนคุณลอบยิ้มเมื่อเห็นเด็กสาวดูร่าเริงขึ้น แม้จะไม่เห็นด้วยกับความคิดของจินในหลายๆเรื่อง แต่ลึกๆเขาก็รู้สึกเอ็นดูและถูกชะตากับเด็กสาวตรงหน้าไม่น้อยเลยทีเดียว  แทนคุณนั้นจดจำวันแรกที่พบจินได้ดี เด็กสาวตัวเล็กผอมแห้งในชุดนักศึกษาที่เดินดุ่ยเข้ามาสมัครเป็นพนักงานพาร์สไทม์ในร้านคาเฟ่ของเขา เด็กสาวดูไร้เรี่ยวแรงช่างเป็นตัวเลือกที่ไม่ดีเลยสำหรับกองถ้วยชามจานโต แต่คำแนะนำตัวของเธอกลับตรึงใจให้แทนคุณไม่อาจลืมเลือน

 

"พี่ หนูขอพูดกับพี่ตรงๆเลยนะคะ หนูมีแมวสองตัวที่ต้องรับผิดชอบ แล้วหอพักมหาลัยที่นี้มันก็ดันไม่ให้เลี้ยงสัตว์ หนูจำเป็นจะต้องเช่าบ้านและคงต้องหางานพิเศษทำไปจนเรียนจบแน่  เพราะงั้นพี่รับหนูเหอะนะ เห็นแก่เด็กนักศึกษากับแมวอีกสองตัวที่กำลังกินกำลังนอนเถอะพี่"

 

ไม่ใช่ว่าเขานั้นจะเข้าใจในหัวอกของความเป็นทาสแมว จริงๆเรียกว่าไม่ถูกชะตากับเหล่าสัตว์สี่ขาเสียด้วยซ้ำ แต่คำแนะนำตัวสุดแปลกในวันนั้นทำให้แทนคุณไม่อาจปฎิเสธสาวน้อยผู้นี้ได้ เขาอมยิ้มทุกครั้งที่นึกย้อนกลับไป นี้ก็ผ่านมาเกือบปีแล้วที่จินได้เข้ามาทำงานเป็นพนักงานให้กับร้านอาหารของเขา เธอนั้นได้พิสูจน์ตัวเองจนรู้ตัวอีกทีก็กลายมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญของร้านที่เขาไม่อยากจะเสียไปซะแล้ว

 

"หมาตัวนั้นมันโชคดีที่เจอเธอ" แทนคุณเอ่ยพร้อมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ภาพจินที่ตัวเปียกโชกอุ้มร่างหมาน้อยที่เต็มไปด้วยเลือดเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าตื่น ร่างหมาพุดเดิ้ลสีขาวที่ดูราวกับซากศพเพราะเกรอะกรังไปด้วยเลือดยังติดตา และนับตั้งแต่เก็บหมาตัวนี้มาเด็กสาวก็แทบจะต้องเอาเวลาช่วงปิดเทอมทั้งหมดมาสิงอยู่ในร้านเพื่อทำงานหาเงินจ่ายค่ารักษาให้หมาที่เธอไม่รู้จัก แต่นั้นก็คือจินที่แทนคุณรู้จัก เด็กสาวที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อสัตว์แต่กลับเฉยชากับมนุษย์ด้วยกันซะงั้น ขนาดตัวเขาเองกว่าเทอจะไว้ใจพูดคุยได้อย่างสนิทสนมก็ต้องใช้เวลาเสียนานสองนาน

 

"นี้จิน พรุ่งนี้ไม่ต้องมาที่ร้านนะ อาทิตย์นี้เธอยังไม่ได้หยุดถูกไหม พี่เข้าใจว่านี้ใกล้จะเปิดเทอมเธอเลยต้องรีบเก็บชั่วโมงเวลางาน แต่ทำงานหักโหมมากไปเดียวจะป่วยเอา พี่บอกแล้วว่าเงินค่ารักษาหมาก็ค่อยๆผ่อนไป  เพราะงั้นวันนี้ก็รีบกลับบ้านเลยเดี๋ยวที่เหลือพี่เคลียร์เอง" เอ่ยจบเขาก็พลักหลังเด็กสาวเบาๆให้เร่งก้าวออกจากร้านไป

 

จินได้เพียงยิ้มตอบด้วยความซี้งใจ แม้จะอยู่ในฐานะเจ้านายกับลูกจ้าง แต่แทนคุณก็คอยดูแลจินราวกับพี่ชายคนหนึ่ง จินเอ่ยขอบคุณอีกครั้งสำหรับเรื่องอาหารและพาร่างเดินออกจากร้านไป เธอเดินเลาะไปตามเส้นทางที่ถูกย้อมไปด้วยสีทองของแสงไฟยามค่ำคืนอย่างคุ้นเคย แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านเวลาค่อนคืน แต่เส้นทางที่เธออยู่ยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนและร้านอาหารที่ยังเปิดบริการกันอย่างคึกคัก นี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่จินตัดสินใจเลือกมาทำงานในร้านของแทนคุณ เดินไม่ถึงสิบนาทีเธอก็พาตัวเองมาถึงบ้านหลังน้อยที่เธออาศัย 

 

หลังพาร่างกลับมาถึงห้องสิ่งแรกที่จินทำก็คือการมองหาบรรดาสัตว์เลี้ยงของเธอ บ้านหลังเล็กชั้นเดียวที่ดูอาจจะใหญ่โตไปซักหน่อยหากต้องอยู่เพียงลำพัง แต่จินก็ยังรู้สึกว่าบ้านหลังนี้ก็ยังมีพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับสมาชิกทั้งหมด เธอมองของเล่นสำหรับสัตว์ที่กระจัดกระจายไปทั่วทั้งบ้าน ยังไงก็ยังคิดว่าบ้านมันช่างเล็กไปจริงๆสำหรับเจ้านายแมวเหมียวทั้งสองของเธอ คิดแล้วก็ได้ยินเสียงร้องเรียกทักทายดังมาจากฟูกใหญ่กลางบ้าน  ก่อนสาลี่แมวสาวลายสลิดจะวิ่งมาคลอเคลียแย่งชิงความรักจากเจ้าของ ขณะที่แมวหนุ่มผู้มีขนสีขาวยาวกับลำตัวอ้วนกลมยังคงนอนกองอยู่ตรงฟูกอยู่เหมือนเดิม

 

"พี่เบิ้ล!!? นี้ฝีมือแกอีกแล้วหรออ ทำไมไม่รู้จักดูสาลี่เป็นตัวอย่าง" เธอบ่นอย่างเอ็ดดูขณะก้มลงเก็บหนังสือฟิสิกที่เต็มไปด้วยรอยฝนเล็บ แต่ก็มีเพียงสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวของแมวหนุ่ม เบิ้ลยังคงนอนเลียขนโดยไม่สนใจคำบ่นใดๆของทาสอย่าเธอ จินมองดูบรรดาแมวเหมียวของเธอด้วยแววหมั่นไส้แกมขำขัน เธอจัดแจงวางข้าวของก่อนพุ่งตัวไปยังห้องเล็กๆที่เคยเป็นห้องเก็บของประจำบ้าน แต่บัดนี้ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นที่พักพิงสำหรับสมาชิกใหม่ จินแง้มประตูเปิดเข้าไปก็เจอกับร่างของหมาน้อยโชคช่วยที่นอนอยู่บนกองผ้าที่ถูกจัดรองอย่างง่ายๆ

 

“เป็นไงบ้างคนสวย ไหนดูซิวันนี้เป็นไง” จินเอ่ยขึ้นขณะรีบก้าวลงมานั่งใกล้ๆร่างหมาน้อยที่เพิ่งจะกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกในบ้าน มือก็ลูบไปตามไรขนสีขาวหยักศกอย่างแผ่วเบา หมาน้อยมองนิ่่งมาที่หญิงสาวด้วยสายตาเป็นมิตร บาดแผลมากมายใต้ขนดูทุเลาเหลือเพียงรอยจางๆ แต่จากสภาพตรงหน้าก็ยังรู้ได้อยู่ดีว่าสิ่งมีชีวิตตรงหน้าคงต้องผ่านวิบากกรรมร้ายแรงมาก่อนพอเจอเธอ ดูเหมือนตาซ้ายของโชคช่วยจะแย่ลงทุกขณะ ผลกระทบจากอาการบาดเจ็บในวันนั้นยังคงสร้างความทุกข์ทรมานยาวนานมาถึงวันนี้ จินจำเหตุการณ์ที่พาให้ทั้งคู่มาพบกันได้ดี เธอโอบกอดหมาน้อยทุกครั้งที่นึกถึง  

 

ขณะที่เธอกำลังลากถุงขยะไปทิ้งยังกองขยะที่อยู่ไม่ไกลจากร้านคาเฟ่ มันเป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าวที่ชวนให้ไม่สบายตัว แต่แล้วเธอกลับได้ยินเสียงร้องเบาๆดังลอดออกมาจากถุงใบใหญ่ที่กองอยู่ไม่ไกลไปจากตัวเธอ แม้เริ่มต้นจะคิดว่าตัวเองได้หูฝาดไป แต่ชั่วอึดใจหญิงสาวก็รีบสาวเท้าก้าวไปยังต้นเสียงทันทีที่แน่ใจว่าเธอได้ยินมันจริงๆ เมื่อเข้าใกล้ก็พบว่าเสียงร้องดังแว่วออกมาจากถุงผ้าใบใหญ่ที่ถูกมัดไว้ด้วยเชือกสีดำ ไม่รอช้าจินก็ตัดสินใจแก้เชือกอย่างเบามือ และเผยให้เห็นร่างสั่นเทาสีขาวที่เปื้อนไปด้วยเลือดนอนขดตัวนิ่งอยู่ในถุง สิ่งนั้นกำลังมองมาที่เธอด้วยดวงตาสีน้ำตาลที่ดูหวาดกลัว

 

จินมองภาพตรงหน้าด้วยความสับสนก่อนจะเปลี่ยนเป็นความโกรธ ใครมันช่างโหดร้ายทำกับสัตว์ตัวเล็กๆราวกับขยะไร้ค่าแบบนี้ เธอค่อยๆอื้มมือเข้าไปลูบอย่างแผ่วเบาที่หัวเล็กๆสีขาว และเมื่อแน่ใจว่าหมาน้อยคงเข้าใจแล้วว่าเธอจะไม่มีวันทำร้ายมัน หญิงสาวจึงเอื่อมมือเข้าไปหาร่างสั่นเทาเพื่อจะเอาตัวหมาน้อยออกมาจากถุง เสียงขู่เบาๆดังขึ้นในนาทีแรก แต่ดูเหมือนบาดแผลมากมายจะทำให้หมดเรี่ยวแรงและเจ็บปวดเกินกว่าจะขัดขืน ไม่ช้าจินก็สามารถโอบอุ้มร่างหมาน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด เมื่อเห็นสภาพของสัตว์ตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดเต็มตา เด็กสาวก็วิ่งหน้าตั้งกลับไปที่ร้านในทันที

 

นเริ่มโปรยปรายลงมาขณะที่เธอพาร่างมาจนถึงหลังร้าน เธอกอดหมาน้อยไว้แน่นเพื่อบดบังเม็ดฝนให้อีกฝ่าย และก่อนที่จะนึกคำพูดใดๆเพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหัวหน้าของเธอ แทนคุณที่เดินสวนออกมาพบทั้งคู่ เริ่มแรกชายหนุ่มมีสีหน้าสงสัย แต่ไม่ทันที่เธอจะเอ่ยอะไร เมื่ออีกฝ่ายเห็นสภาพของเธอที่เปียกปอนกับหมาน้อยเปื้อนเลือดสภาพร่อแร่ในอ้อมกอด เขาก็หันหลังเดินกลับไปเปลี่ยนป้ายร้านเป็นปิดและรีบเคลียร์ทุกอย่างในห้านาที ก่อนจะสตาสรถรีบพาทั้งคู่ไปยังโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่สุด 

 

แม้จะดึกมากแล้วแต่โชคดีที่โรงพยาลยังไม่ปิดทำการเสียทั้งหมด หลังจากส่งหมาน้อยถึงมือหมอ ทั้งสองก็ถูกพามานั่งอยู่ตรงหน้าสัตวแพทย์หนุ่มที่มีใบหน้าเคร่งเครียด

 

"น้องอาการแย่เลยมากนะครับ มีร่องรอยเหมือนถูกของแข็งฟาดที่หัว มีเลือดคั่งที่กระโหลกหัวลามมาจนตาฝั่งขวา เราคงต้องผ่าตัดน้องทันที แต่น้องร่างกายอ่อนแอมาก ดูเหมือนมีอาการขาดสารอาหารอย่างหนักร่วมด้วย ส่วนที่คอก็มีรอยเชือกรัดกดทับจนเป็นแผลติดเชื้อ เจ้าของพอจะบอกสาเหตุได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้อง"

 

จินได้แต่อึ้งไปกับอาการบาดแผลมากมายจากหมาน้อยที่เธอเก็บมา "ตอนหนูเจอมัน มันก็อยู่ในสภาพนี้แล้วค่ะ" จินพูดขึ้นขณะที่สายตามองมาหาแทนคุณให้ช่วยยืนยัน "เราไม่ทราบว่าเจ้าของๆมันเป็นใคร และหมาตัวนี้ไปโดนอะไรมาค่ะ"

 

"งั้นเหรอครับ" ผู้ฟังมีสีหน้าเคร่งเครียดกับคำตอบที่ได้รับ

 

"คือน้องจะต้องผ่าตัดซึ่งค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หมอจำเป็นจะต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าของหมาก่อนผ่าตัด ไม่งั้นหมอก็ผ่าตัดให้ไม่ได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายก็ตกอยู่ประมาณหมื่นหนึ่งเป็นอย่างต่ำ แต่ถ้าน้องไม่ใช่หมาของคุณทั้งคู่ หมอก็มีอีกทางซึ่งไม่ได้อยากใช้วิธีนี้ถ้าน้องยังมีโอกาส คือการฉีดยาให้น้องไปสบายเพื่อไม่ให้น้องต้องทรมานกับบาดแผลที่ได้รับ"

 

กิดความเงียบขึ้นทันที่ จินมองหน้าอีกฝ่ายแบบกลืนไม่ได้คายไม่ออก ถึงแม้เธอเองนั้นอยากจะช่วยหมาน้อยตรงหน้า แต่เธอเป็นแค่เด็กนักศึกษาที่มีรายได้แค่มาจากการทำงานพิเศษเล็กๆ เรื่องเงินดูจะเป็นปัญหาใหญ่ของเธอ แต่เธอก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวอะไรมาตายต่อหน้าต่อตาเธอโดยที่เธอไม่คิดช่วยมาก่อนเช่นกัน

 

"แต่ถ้าผ่าหมาตัวนี้ก็ยังมีโอกาสรอดถูกไหมค่ะ" จินถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ

 

"โอกาสรอดอาจจะไม่มาก แต่ถ้าไม่ผ่าตอนนี้น้องไม่รอดแน่ครับ" หมอหนุ่มตอบด้วยใบหน้าเห็นใจ

 

จินมองไปยังหมาน้อยในห้องตรวจอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจหันมาเอ่ยกับแทนคุณด้วยสีหน้าจริงจัง "พี่แทนค่ะ ตอนนี้เงินจินคงมีไม่ถึงหมื่น ยังไงจินขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าได้ไหมค่ะ " สายตามุ่งมั่นมองประสานไปที่ใช้นายหนุ่ม

 

ทนคุณมองตอบเด็กสาวสาวข้างกายอย่างเห็นใจ เงินหมื่นอาจจะไม่มากสำหรับเขาแต่ในภาวะเศรษกิจแบบนี้ เขาเองก็คงบอกไม่ได้ว่าถ้าเป็นตัวเองจะยอมจ่ายเงินเป็นหมื่นๆให้กับหมาที่ไม่รู้จักไหม แถมยังไม่รู้ว่าช่วยไปจะรอดไหมเสียด้วยซ้ำ แน่นอนว่าอาจจะไม่ แต่แม้จะไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องนี้เท่าไรนั๊ก แต่ท้ายที่สุดแทนคุณก็พยักหน้าเพื่อตอบรับข้อเสนอของเด็กสาว

 

"ตกลง พี่จะให้เธอยืมเงินแล้วค่อยหักเอาจากเงินเดือนเธอ เอาเป็นว่าหากค่ารักษามันเกินไปจากนี้พี่จะช่วยเอง ถือว่าทำบุญ"

 

จินยิ้มรับด้วยความดีใจ ก่อนรีบแจ้งให้หมอทำการผ่าตัดให้เร็วที่สุด

 

หลังจากที่หมาน้อยได้เข้าไปอยู่ในการดูแลของหมอ ทั้งคู่ก็พาตัวเองมายังโถงทางเดินเพื่อจัดการเคลียร์ทุกอย่าง ไม่ช้าเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมยื่นเอกสารให้กับจิน

 

"รบกวนอ่านและเซ็นต์ยินยอมตรงนี้เลยค่ะ" เธอเอ่ยขึ้นขณะยื่นเอกสารให้อีกฝ่าย

 

จินมองดูเอกสารในมือ เธอค่อยๆอ่านและกรอกรายละเอียดจนมาหยุดอยู่ที่ช่องที่ต้องระบุชื่อสัตว์ แทนคุณที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยปากให้เธอเว้นช่องว่างนั้นไว้ก่อน เพราะต่างไม่รู้ดีว่าทั้งคู่ไม่เคยรู้จักหมาน้อยตัวนี้ แต่จินกลับตัดสินใจกรอกข้อความลงไปในช่อง พร้อมหันมามองหัวหน้าของเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น

 

"ให้มันชื่อโชคช่วยละกันพี่ และขอให้โชคช่วยหมาตัวนี้ให้สมกับชื่อ"

 

จินยิ้มให้หมาน้อยโชคช่วยในอ้อมแขน แม้เหตุการณ์วันนั้นจะผ่านพ้นมาเป็นแรมเดือน โชคช่วยรอดตายหลังจากการผ่าตัดมาได้สมดังชื่อที่เด็กสาวตั้งให้ คงมีแค่เพียงอาการข้างเคียงต่างๆที่เกิดขึ้นตามที่ยังคงสร้างความทุกข์ทางกาย แต่หมาน้อยกลับดูหงอยเหงา และจากสิ่งที่เธอประสบมาโชคช่วยก็ดูจะหวาดกลัวมนุษย์ทุกคนอย่างเห็นได้ชัด จินนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างความเชื่อใจ ทุกวันเธอจะคอยดูแลหมาน้อยอย่างเต็มกำลัง เธอมักจะพาตัวเองมานอนนิ่งๆอยู่ข้างๆเพื่อบอกให้รู้ว่าเธอนั้นไม่ใช่ศัตรู

 

หลังจากใช้ความพยายามอยู่พักใหญ่ในที่สุดความพยายามก็เป็นผล โชคช่วยเริ่มไว้ใจและยอมให้เด็กสาวดูแลโดยไม่ขู่ ในขณะทีเหมียวทั้งสองตัวของเธอก็ดูจะไม่ได้มีปัญหากับการเข้ามาของหมาน้อยตัวนี้ ปัญหาใหญ่ของเธอกับการรับเลี้ยงหมาน้อยโชคช่วยจึงหมดไป เหลือก็เพียงค่าใช้จ่ายที่ต้องหามาเพิ่ม แต่อย่างไรหญิงสาวก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะดูแลหมาน้อยตัวนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ 

 

วันถัดมาท้องฟ้าแลดูสดใสฉาบไปด้วยก้อนเมฆที่กระจายไปด้วยรูปทรงต่างๆ ตั้งแต่ปิดเทอมทุกวันส่วนใหญ่ของจินคือการทำงานขลุกอยู่กับร้าน ช่วงเวลาพักอันน้อยนิดที่ได้มาจึงดูล่ำค่ายิ่ง เด็กสาวเริ่มต้นวันด้วยการความสะอาดเก็บกวาดบ้าน อาบน้ำให้บรรดาเจ้านาย ตกเย็นจินก็ถือโอกาสพาโชคช่วยออกไปเดินเล่นนอกบ้าน เธอฮัมเพลงเบาๆขณะอุ้มหมาน้อยไปยังสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ไม่ไกล โชคช่วยดูมีความสุขขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ออกมารับแสงอาทิตย์ เช่นเดียวกับเธอที่ยิ้มกว้างเมื่อมีลมเย็นๆพัดมาปะทะกับหน้า

 

จินปลดเชือกและปล่อยให้โชคช่วยเป็นอิสระ หมาน้อยเริ่มเดินเลาะไปตามพื้นหญ้า เธอคอยเฝ้ามองดูห่างๆอย่างไม่ละสายตาด้วยความเป็นห่วง แม้เธอนั้นจะไม่ได้เริ่มเลี้ยงมันมาตั้งแต่ต้น แต่นับวันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดูจะผูกพันธ์เพิ่มขึ้นทุกขณะ นับตั้งแต่วันที่ตั้งชื่อให้กับหมาน้อย เธอก็ตั้งใจว่าจะดูแลรักษาเพื่อนใหม่ตรงหน้าให้ดีที่สุด

 

หลังจากเพลินกับการนั่งมองสัตว์ตัวน้อยคุ้ยเขี้ยกอดอกไม้ข้างทาง เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้นทำลายความเงียบ จินไม่รีรอที่จะกดรับทันทีที่เห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ

 

"ทำอะไรอยู่ คุยได้ไหม" แทนคุณนั้นเองที่โทรมา

 

"จินพาโชคช่วยมาเดินเล่นที่สวนนะพี่ พี่แทนมีอะไรรึเปล่า" เธอเอ่ยถามแม้พอจะเดาได้ถึงเรื่องที่อีกฝ่ายอยากจะเอ่ย คงไม่พ้นคนที่ร้านเบี้ยวมาทำงานอีกตามเคย

 

"คือ พี่รู้นะว่าพรุ่งนี้ไม่ใช่เวรเธอเข้ามาที่ร้าน แต่พรุ่งนี้จูลี่เค้าขอลาไปงานแต่ง พรุ่งนี้วันหยุดลูกค้าก็เยอะด้วย คือพี่ก็เพิ่งบอกให้เธอพักบ้าง แต่พรุ่งนี้ยังไงจินพอจะเข้ามาทำงานที่ร้านก่อนได้ไหม"

 

"ได้สิพี่ จินเป็นหนี้พี่บานตะไทอยากจะรีบจ่ายให้พี่จะตายแล้ว พรุ่งนี้จินเข้าไปได้อยู่แล้วค่ะ"

 

ปลายสายหัวเราะเบาๆใส่เธออย่างอารมณ์ดี แต่ก่อนจะวางสายเขาก็ดูเหมือนจะนึกบางอย่างออก  "เออเกือบลืมเลย เธอเข้าไปดูรูปที่พี่ส่งไปให้ทางไลน์รึยัง พี่เจอประกาศตามหาหมาด้วยเห็นมันติดอยู่ตรงไม่ไกลจากร้าน พี่ดูๆแล้วพี่ว่าหมาในรูปมันดูคล้ายเจ้าตัวที่เธอช่วยมา จินลองเข้าไปดูละกัน" พูดจบแทนคุณก็วางสายไปโดยไม่ได้รอคำตอบจากอีกฝ่าย

 

จีนนิ่งไปชั่วครู่กับข้อความที่ได้รับ เธอตัดสินใจกดเข้าไปดูรูปตามที่อีกฝ่ายแนะนำทันที ก่อนจะพบกับรูปหมาพุดเดิ้ลสีขาวหน้าตาชวนคุ้นเคย มื่อดูจากรูปภาพที่ถูกถ่ายมา ก็พบว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างช่างดูละไม้คล้ายกับหมาน้อยที่เธอเก็บมาเสียจริง ถ้าจะต่างก็คงต่างตรงที่หมาในรูปแลดูอ้วนท่วมสมบูรณ์ สายตากลมโตสีน้ำตาลช่างดูร่าเริง ช่างผิดกับหมาน้อยผอมกระร่องที่เต็มไปด้วยบาดแผลและสายตาดูหงอยเหงาตรงหน้าเธอตอนนี้ 

 

ามหาหมาพุดเดิ้ลพันธุ์ผสมสีขาวหายออกจากบ้าน หากผู้ใดพบกรุณาติดต่อเบอร์ xx-xxxxxxx 

 

จินไล่สายตาอ่านใบประกาศตามหาหมาที่แทนคุณถ่ายมาให้อย่างจดจ่อ หลังจากช่วยเหลือโชคช่วยและคอยดูแลจนมันปลอดภัย จินก็ไม่ลืมที่จะตามหาว่าใครกันที่ทำร้ายหมาตัวน้อย เธอตามหาเบาะแสจนกระทั้งได้พูดคุยกับชายเก็บขยะที่คุ้นหน้าในบริเวณนั้น และโชคดีที่ชายชราก็อยู่ในช่วงเวลาที่อาจจะได้เจอกับคนร้ายรายนี้ หลังพูดคุยก็ได้ความว่าในเวลานั้นมีเพียงรถมินิคูเปอร์สีขาว ซึ่งเป็นรถคันเดียวที่ขับเข้ามาในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ แต่ชายเก็บขยะก็ไม่อาจจำป้ายทะเบียนของรถได้ และแม้เธอจะโกรธแค้นแค่ไหน แต่ด้วยความวุ่นวายทั้งงานทั้งต้องดูแลหมาน้อย ไม่ช้าจินก็ไม่เหลือเวลาที่จะตามเรื่องนี้ต่อ 

 

จีนมองดูประกาศในโทรศัพท์ด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แม้จะไม่มั่นใจว่าหมาในรูปจะเป็นโชคช่วยหรือไม่ แต่ใบประกาศตามหาหมาหายตรงหน้ากลับทำให้ความอยากรู้บางอย่างกลับคุกรุ่นในหัวใจของจินอีกครั้ง 

 

"หายใกล้ๆแถวนี้ซะด้วย..." เด็กสาวเอ่ยขึ้นเบาๆ ขณะมองไปยังหมาน้อยของเธอด้วยแววตาครุ่นคิด

 

ไม่ช้าจินก็ตัดสินใจกดเบอร์โทรหาเจ้าของประกาศด้วยสีหน้าเยือกเย็น  

 

(อย่าลืมคอมเมนต์ติชมให้กำลังใจกันด้วยยยน๊าาา (-_-))

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา