เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.

  64 ตอน
  0 วิจารณ์
  47.58K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

27) ตอนที่27:ทัศนียภาพ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่27:ทัศนียภาพ

เฉินเยี่ยนพูดกับเฉินเวยเสร็จก็ไม่มองเฉินเวยอีกเลย เฉินเวยมองเฉินเยี่ยนอีกครั้ง เกรงว่าชาตินี้เธอและเฉินเยี่ยนจะสู้กันไม่จบ แต่ว่ามีอวี๋เหวยหมินช่วยเธออยู่ เธอเชื่อว่าสุดท้ายเธอจะเป็นฝ่ายชนะ

เฉินเวยออกไปแล้ว เฉินเยี่ยนไม่ถามว่าเธอไปไหน เฉินเยี่ยนรอเฉินจงอยู่ เธอหวังว่าเฉินจงจะรีบกลับมา ไม่อย่างนั้นใจเธออยู่ไม่เป็นสุข

“กลับมาแล้ว กลับมาแล้ว ลุงจงกลับมาแล้ว”

จู่ๆ เฉินเยี่ยนที่กำลังช่วยหวางนิวทำกับข้าวอยู่ได้ยินในสนามมีคนตะโกนขึ้นมา

“พ่อของลูกกลับมาแล้ว”

หวางนิวก็ได้ยินเช่นกัน เธอกำลังทำเค้กข้าวเหนียวอยู่ พอได้ยินยังไม่ทันได้วางแป้งข้าวเหนียวในมือก็ออกมาจากห้องครัว

เฉินเยี่ยนก็รีบตามออกไป

“ลุงล่ะ?”

หวางนิวถามเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในสนาม

“ลุงกำลังนั่งรถจักรยานกลับมา พวกเขาตรงไปยังฝั่งตะวันออกแล้ว”

หนุ่มวัยรุ่นคนนั้นตอบเสร็จแล้วก็วิ่งออกไป

เฉินเยี่ยนได้ยินก็โล่งใจ น่าจะเป็นคนจากทางการกลับมากับเฉินจง ไม่อย่างนั้นไม่น่าจะมีจักรยาน

“แม่ หนูไปดูฝั่งตะวันออกนะ”

เฉินเยี่ยนรีบอยากจะไปดูสถานการณ์ หนุ่มวัยรุ่นคนนั้นแค่บอกว่ากลับมาแล้ว แต่ไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไร

“ได้ มีเรื่องอะไรรีบกลับมาเล่านะ”

หวางนิวพยักหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะเธอกำลังทำกับข้าวอยู่ เธอก็อยากไปดูเหมือนกัน

เฉินเยี่ยนไปฝั่งตะวันออกแล้ว ที่ฝั่งนี้คนเยอะมาก พวกหัวหน้าก็อยู่เหมือนกัน

เฉินเยี่ยนเห็นเฉินจงแล้ว เฉินจงถูกคนไม่น้อยห้อมล้อมอยู่ แล้วยังมีคนนอกอีกสองคน คนหนึ่งอายุยี่สิบกว่า อีกคนอายุสี่สิบกว่า คนที่อายุสี่สิบกว่าใส่แว่นตาสีดำ

พวกเขาสองคนกำลังนั่งยองๆ ดูพวกเครื่องกระเบื้องอยู่ที่พื้น

เฉินเยี่ยนยังเห็นจักรยานสองคัน จักรยานในยุคนี้ยังเป็นคานแบบใหญ่อยู่ เฉินเยี่ยนไม่เคยขี่แบบนี้มาก่อน

เฉินจงเล่าเรื่องราวให้คนอื่นฟัง บอกว่าเขาไปเทษบาลเมืองก่อน มีคนมาต้อนรับเขา ถามให้ชัดเจนแล้วพาเขาไปพบท่านผู้ว่าเมือง ท่านผู้ว่าเมืองให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ยังโทรศัพท์ไปรายงานอีกด้วย ต่อมามีสองคนนี้มา สองคนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ทางวัตุโบราณของแผนกวัฒนธรรมในเมือง

คนที่ใส่แว่นชื่อหวางฉางฟา เป็นคนรับผิดชอบดูแลเรื่องวัตถุโบราณ คนอายุน้อยชื่อหลิวอี้ ถือว่าเป็นลูกศิษย์ของเขา หวางฉางฟาถามสถานการณ์กับเฉินจง รู้ว่าเฉินจงไม่ได้พูดโกหก เลยมาดูกับเขา

“ดูสิ นี่คนในเมืองนะเนี่ย ไม่เหมือนพวกเราเลย ดูพวกเขายังขี่จักรยานด้วยนะ หมู่บ้านพวกเราไม่มีสักคัน”

“นั่นสิ ดูเหมือนไปแจ้งทางการไม่เหมือนกับแต่ก่อนแล้ว น่าจะไม่มีเหตุอาเพศอะไรแล้วมั้ง?”

ยังมีคนถามแบบนี้ด้วย

“ไม่เลย พวกเจ้าไม่รู้อะไร ผู้ว่าเมืองดีต้อนรับข้าอย่างดี บอกว่าข้านี่ปกป้องสมบัติของประเทศ มีความรับผิดชอบต่อประเทศ แล้วยังบอกว่าข้ามีจิตสำนึก เป็นตัวอย่างที่ดี ผู้ว่าเมืองยังยื่นบุหรี่มวนหนึ่งให้ข้าอีกด้วย บุหรี่นั่นข้าไม่เคยเห็นมาก่อน อย่าว่าแต่สูบเลย ผู้ว่าเมืองเรียกให้ข้าสูบ ไม่อย่างนั้นข้าจะเอากลับมาให้พวกเจ้าดู”

เฉินจงมีสีหน้าพอใจ ก่อนไปเขายังรู้สึกกังวลใจอยู่ พอมาถึงที่ว่าการในเมือง เขายังเดินไปมาอยู่ด้านนอกตั้งหลายรอบกว่าจะเดินเข้าไป คิดไม่ถึงว่าผู้ว่าเมืองจะต้อนรับขับสู้เขาดีขนาดนี้ ขากลับเขายังได้นั่งจักรยานกลับมาอีกด้วย เขารู้สึกว่าชาตินี้เขาไม่เคยเห็นทัศนียภาพแบบนี้มาก่อน

“พี่จงมีหน้ามีตาก็คราวนี้ล่ะ”

มีคนพูดขึ้นมา

“สมควรแล้ว ดีที่เยี่ยนจื่อไม่ให้ทุกคนทำลายหมด ไม่อย่างนั้นเสียหายหมดแล้ว เรื่องนี้ต้องขอบคุณคนบ้านเฉินจริงๆ”

แล้วก็มีคนพูดขึ้นมาอีก

มุมปากเฉินเยี่ยนกระดกขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แค่ไม่ทำให้ที่บ้านเดือดร้อนก็ดีแล้ว อีกอย่างคำพูดพ่อก่อนหน้านี้เธอรู้สึกว่ามีเนื้อหาสำคัญบางอย่าง แต่เธอคิดไม่ออกว่าคืออะไร เฉินเยี่ยนส่ายหน้า ไม่ไปคิดอีก

รอจนสองคนนั้นดูพวกเครื่องกระเบื้องพวกนั้นเสร็จ ก็มาดูชิ้นส่วนกระเบื้องที่แตก หวางฉางฟาที่ใส่แว่นเดาะลิ้นถามว่าใครทำแตก? รู้ว่าเป็นคนในหมู่บ้านทำ หน้าเขาเกรี้ยวกราดจนน่าตกใจ

“เสี่ยวหลิว พวกเราลงไปดูกัน”

หวางฉางฟาเรียกเสี่ยวหลิว ทั้งสองคนลงไปดูในสุสาน

หวางต้าหมินจะตามไปด้วย ฝั่งหวางฉางฟาเรียกให้เฉินจงตามมาด้วย แล้วพวกเขาลงไปด้วยกัน

ดูท่าทางแล้วถึงไม่ได้ผลประโยชน์ ก็คงไม่มีเรื่องเสียหายแล้ว พอมาคิดอีกทีว่าของพวกนี้ไม่โดนอวี๋เหวยหมินเอาไป ในใจเฉินเยี่ยนรู้สึกเป็นสุข ขณะเดียวกันเธอก็ขอบคุณเฉิ่นซุ่ย ถ้าเฉิ่นซุ่ยไม่เข้ามาขวางไว้ ไม่แน่อวี๋เหวยหมินจะให้เงินห้าเหรียญหรือไม่ก็ธัญพืชกับทุกคนแล้วเอาของพวกนี้ไปก็ได้

พูดถึงเฉิ่นซุ่ยขึ้นมาหลังจากสามีเธอเสียไปชีวิตความเป็นอยู่ก็ไม่ได้ดีเท่าบ้านเฉิน ดังนั้นเธอถึงอยากจะให้อวี๋เหวยหมินดองกันกับบ้านเธอ

แต่ไม่รู้ว่าทำไมพักนี้อยู่ๆ บ้านอวี๋ก็ดีขึ้นมา แต่เจ้าของร่างเดิมไม่รู้ว่าบ้านอวี๋ทำอะไรความเป็นอยู่ถึงได้ดีขึ้น ยังไงเสียตอนนี้ฐานะบ้านอวี๋ก็ดีกว่าบ้านเฉินไม่น้อย ดังนั้นถ้าเฉิ่นซุ่ยไม่ห้ามไว้ อวี๋เหวยหมินสามารถแจกธัญพืชและเงินเอาของพวกนี้มาไว้ในครอบครองได้ ถึงแม้ตอนแรกเขาจะให้ได้ไม่มาก เขาแค่ให้ส่วนหนึ่ง คนในหมู่บ้านก็จะเชื่อเขา ส่วนที่เหลือที่เขาติดก็ค่อยๆ คืน เขาไม่เหมือนเธอ เธอเพิ่งมา ไม่มีเงิน แล้วก็เป็นผู้หญิงด้วย ไม่มีทางได้ของพวกนี้มาอยู่ในมือแน่นอน

เฉินเยี่ยนมองแวบหนึ่ง เธอเห็นเฉิ่นซุ่ยอยู่ในฝูงคนมามุงดูอยู่ ถ้าอีกหน่อยเฉิ่นซุ่ยรู้มูลค่าของพวกนี้ เธอจะต้องเสียใจมากแน่ๆ ที่ห้ามลูกชายเอาไว้

แต่ว่าเฉินเยี่ยนไม่สงสารเฉิ่นซุ่ย เธอยังหวังจะให้เฉิ่นซุ่ยรู้ แล้วทำท่านั่งอยู่ที่พื้นตีขาด้วยความเสียดายด้วยซ้ำไป

รอจนคนพวกนั้นขึ้นมา หวางฉางฟาและหวางต้าหมินพูดคุยกัน ของพวกนี้ส่งกลับคืนประเทศทั้งหมด ทุกคนในหมู่บ้านนี้จะไม่ทำลายหรือแอบขโมยของพวกนี้อีก ถ้าของหายไป พวกเขาต้องแจ้งความ ถึงตอนนั้นตำรวจจะออกจับคนเข้าคุก

ทุกคนฟังแล้วต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน อวี๋เหวยหมินที่อยู่ท่ามกลางผู้คนมีสายตามัวหมอง หมดโอกาสแล้ว คิดมาถึงตรงนี้เขายิ่งเคียดแค้น ของพวกนี้เคยอยู่ใกล้เขามาก เขาเกือบจะคว้ามาได้แล้ว ตอนนี้กลับบินจากไป เขารู้สึกว่าหัวใจเขากำลังเลือดไหลอยู่ เพราะเฉินเยี่ยนเป็นต้นเหตุ เขาจ้องมองเฉินเยี่ยนด้วยความแค้น

เฉินเยี่ยนรู้สึกว่ามีบางอย่างมองเธออยู่ เธอหันกลับไปเห็นอวี๋เหวยหมิน เธอเลิกคิ้วให้อวี๋เหวยหมิน จากนั้นเผยรอยยิ้มออกมา

อวี๋เหวยหมินเห็นท่าทางเฉินเยี่ยนแบบนี้แล้วอกแทบระเบิด แต่นอกจากกัดฟันแล้วเขาคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง เขาไม่สามารถไปแย่งมาจากทางการได้

หวางฉางฟาและหวางต้าหมินตกลงกันแล้ว วัตถุโบราณพวกนี้ตอนนี้ให้หมู่บ้านดูแล จนกว่าพวกเขาจะเอารถมาขนไป ถ้ามีของหายไป ให้หาหัวหน้าหมู่บ้านรับผิดชอบ

รอจนพวกเขาขนของไปแล้ว ในสุสานไม่มีของมีค่าหลงเหลืออยู่ ถึงเวลานั้นพวกเขาจะออกใบรับรองให้คนในหมู่บ้านถือเป็นการยกย่องสรรเสริญ

“ได้ครับ ได้ครับ งั้นตกลงตามนี้ ท่านสบายใจได้ รับรองไม่หายแม้แต่ชิ้นเดียว”

หวางต้าหมินมีความสุขมาก มีใบรับรองให้คนในหมู่บ้าน นั่นถือเป็นความดีความชอบและหน้าตาของเขาเลย พูดออกไปทุกคนจะต้องชื่นชมเขาที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านคนนี้ ทำไมเขาจะไม่ดีใจ

เฉินเยี่ยนมองดูสีหน้าของคนที่มุงดูล้วนแต่ดีใจ หน้าตาอิ่มเอม อุทานไม่หยุดว่าคนสมัยนี้ช่างตรงไปตรงมาเสียจริง ได้ใบยกย่องหนึ่งใบ ทุกคนดูดีใจเหมือนได้ทองแท่งก้อนใหญ่มาเลย พออกพอใจ นี่ถ้าเป็นยุคสมัยหลัง เกรงว่าจะไม่มีแบบนี้

แต่เฉินเยี่ยนก็เข้าใจคนใหนหมู่บ้าน หนึ่งคือคนสมัยนี้ตรงไปตรงมา สองคือก่อนหน้านี้หมู่บ้านโชคร้ายเพราะเรื่องสุสาน ตอนนี้ไม่เพียงแต่จะไม่โชคร้ายแล้ว ยังได้ใบประกาศเกียรติคุณอีกด้วย พวกเขาจะไม่ดีใจได้ยังไง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา