พี่รหัสผมไม่เคยน่ารักมาก่อน
เขียนโดย จอนสโนว
วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 20.54 น.
แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 20.59 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) ขยับสักนิดแล้ว...สักครั้ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ดูวิวตอนกลางคืนมั้ย" คำถามของปันผลที่ถามกับณิชาที่กำลังนั่งอยู่หน้าห้องพักของเธอ
"ไปที่ไหนอะ ตรงนี้ไม่ได้หรอ" ณิชาถาม
"ตรงนู้น" เขาชี้นิ้วไปที่จุดชมวิวจุดหนึ่งของรีสอร์ท "อยู่ตรงนี้เดี๋ยวยัยวุ้นเส้นออกมาขัดพอดี"
"ได้สิ" ณิชาพูดแล้วเดินลงมาหาเขา "ตอนกลางคืนจะมีอะไรให้ดู"
"ข้างบนนั้นไง" เขาชี้นิ้วขึ้นไปบนฟ้า แล้วทั้งสองก็เดินไปยังจุดชมวิวนั้นด้วยกัน ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินอยู่นั้นวุ้นเส้นที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็ออกมาเห็นพอดี ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเธอ เธอจึงเดินตามทั้งคู่ไปอย่างห่างๆ
ทั้งสองคนไปนั่งข้างๆ โขดหินโขดใหญ่ ทั้งสองคนนั่งดูดาวบนท้องฟ้ากันเงียบๆ ยังไม่มีใครเปิดบทสนทนาก่อน จนปันผลอดทนกับความเงียบนั้นไม่ไหว
"ทำไมนางเอกถึงอยากเจอพระเอกอีกล่ะ ทั้งๆ ที่พระเอกทำอะไรแย่ๆ ขนาดนั้น" เขาเริ่มสยบบทสนทนา
"พูดเรื่องไรอะ" ณิชาถาม
"ก็นิยายที่เธอเขียนไงเราอ่านจบแล้วนะ" ปันผลถาม ณิชาก็พยักหน้าเป็นเข้าใจ
"แล้วเธอคิดว่าทำไมเค้าถึงเกลียดเธอไม่ลงทั้งๆ ที่เราเคยมีปัญหากัน" ณิชาพูด
"ไม่รู้สิ" ปันผลพูด "ดูนั่นดิ วันนี้มีดาวเคียงเดือนด้วยนะ" ปันผลชี้ไปที่พระจันทร์ที่อยู่เคียงข้างกับดาวเคราะห์
"ชอบเปลี่ยนเรื่องอยู่เรื่อย" เธอพูดก่อนจะพูดต่อว่า "มันก็มีเหตุผลเดียวไม่ใช่หรอที่จะสามารถดึงคนสองคนให้อยู่ด้วยกันได้"
ปันผลเหยียดแขนของตัวเองออกแล้วโอบไปที่ไหล่ของคนรักเก่าของเขา "เนียนอยู่เรื่อย ตอนในบ้านร้างก็ทำเป็นเนียน" ณิชาพูด
"ก็ตอนนั้นเธอกลัว" เขาพูด
"แต่ตอนนี้ไม่ได้กลัวสักหน่อย" เธอตอบ
เขาชี้นิ้วไปที่ดวงจันทร์แล้วพูดว่า "ไม่ต้องเถียงเลย ดูดวงจันทร์นู่น" เขาให้ณิชาดูพระจันทร์ที่อยู่ข้างๆกับดาวดวงหนึ่ง
ณิชาที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาเข้ามาซบกับตัวเขา แล้วก็พูดว่า "ดาวเคียงเดือนนี่ดีนะ ได้อยู่เคียงข้างกัน แม้จะไม่ได้มีโอกาสได้เป็นของกันและกันก็ตาม"
"ดึงดราม่าเก่งจังนะแม่นักเขียน" เขาพูดและจ้องตาของเธออยู่อย่างนั้น ท่ามกลางแสงจันทร์และดวงดาวกับบรรยากาศเย็นๆ เขาโน้มตัวของเขาเข้าไปหาเธอ สัมผัสของริมฝีปากที่เธอได้รับจากเขานั้นมันช่างอบอุ่นและหอมหวาน ความรู้สึกในวันนี้กับวันที่เธอเคยจูบกับเขาในสมัยก่อนนั้นแม้มันจะคนละสถานะ แต่สิ่งที่เธอได้รับนั้นมันก็มาจากคนๆ เดิมนี่แหละ
ณิชานำนิ้วของตนออกมาปิดปากเขาแล้วหันหน้าหนี "เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก"
"ใครจะเห็นล่ะ ไม่มีใครสักหน่อย" ปันผลพูด
"พอเลย ให้อีกแค่ทีเดียว กลับกันได้แล้ว เดี๋ยววุ้นเส้นสงสัยเดี๋ยวแร็ปเปอร์สงสัยด้วย" ณิชาพูด
"ยังโต้งไปหาแรงบรรดาลใจเขียนเพลงอยู่ ไม่เป็นไรหรอก" เขาพูด ก่อนจะจูบไปที่ปากของณิชาอีกครั้งแล้วจึงกลับ
ไม่ใช่ว่าไม่มีใครรู้เห็นในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ แต่การกระทำทั้งหมดถูกมองเห็นโดยสายตาของวุ้นเส้นไว้หมดแล้ว
ทำไมฉันต้องใจสั่นด้วย แค่คนจูบกันเอง เคยเห็นคนจูบกันผ่านตัวหนังสือมาตั้งเยอะ
"เธอไปไหนมา" วุ้นเส้นถามณิชาที่กำลังเข้าห้องมา
"ไปดูดาวมาน่ะ" ณิชาตอบ
"เธอกับปันผลกลับมา...กลับมาคบกันรึยัง" วุ้นเส้นถาม
ณิชาเดินเข้ามานั่งบนเตียงก่อนจะพูดว่า "เขาไม่เห็นพูดอะไรนะ"
"ตอนเธอกับเขาเป็นแฟนกันเคย...แบบว่า...เคยจูบกันมั้ย" วุ้นเส้นถาม
"ทำไมถามแบบนั้นล่ะ" ณิชาถาม
"ก็ฉันไม่เคยมีแฟนอะ เลยอยากรู้ว่าคนจูบกันจริงๆ มันจะรู้สึกยังไง แค่คิดก็ขนลุกแล้วอ่ะ" วุ้นเส้นตอบ
"มันอธิบายไม่ถูกนะ เธอต้องหาแฟนสักคน ไม่ก็ลองจูบใครสักคนแล้วแหละ" ณิชาพูด
"บ้า จะให้ฉันไปจูบใครส่งเดชได้ไง" วุ้นเส้นตอบ
"ลองกับฉันมั้ย" ณิชาพูด
"เดี๋ยวนะ ฉันว่ามันไม่ดีมั้ง" วุ้นเส้นตอบด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย
"ผู้หญิงด้วยกัน ไม่เป็นไรหรอกน่า" ณิชาพูด
"ถ้างั้น...ก็ลองดู"
ณิชาขยับตัวเองเข้าไปหาวุ้นเส้นที่กำลังนั่งพิงหมอนอยู่ที่หัวเตียง เธอโน้มตัวเองเข้ามาใกล้วุ้นเส้น เท้าและมือของวุ้นเส้นเกร็ง เกร็งไปหมดทั้งตัว ใจของเธอสั่นแรงขึ้น แรงขึ้นทุกที จนกระทั่งริมฝีปากของทั้งสองเข้ามาสัมผัสกันจนกระทั่งแยกกัน แม้แอร์ในห้องจะเปิดแรงแต่เหงื่อของวุ้นเส้นกลับออกมาเต็มหน้าเต็มมือ
"เป็นไง" ณิชาถาม
"ใจสั่นมาก" วุ้นเส้นตอบ "มันจะมากไปมั้ยถ้าฉันอยากถามว่า มากกว่าจูบเธอเคยมั้ย"
ณิชานั่งนิ่งอยู่พักหนึ่งแล้วตอบว่า "คำถามนี้ไม่ให้ลองนะ" แล้วเธอก็นั่งพิงหมอนข้างๆ กับวุ้นเส้น และพูดต่อว่า "ปันผลเป็นสุภาพบุรุษคนนึงเลยแหละ เขาจะไม่ทำอะไรหรอกถ้าฉันไม่ยอม"
"แสดงว่ายังไม่เคย" วุ้นเส้นตอบ
“ฉันยอมตลอดเลย” ณิชาพูดด้วยความเขินอาย “เธอรู้แล้วเงียบไว้เลยนะ คือ แค่ได้อยู่ใกล้ๆเขา ฉันก็ใจอ่อนแล้ว”
“เธอนี่นะ” วุ้นเส้นพูด “เรื่องที่ฉันรู้วันนี้ทั้งหมดฉันไม่บอกใครหรอก ฉันสัญญา” เธอพูดเสร็จพร้อมยกนิ้วก้อยของตนเองขึ้นมา เมื่อณิชาเห็นดังนั้นจึงนำนิ้วก้อยของตัวเองเข้าไปเกี่ยวกับวุ้นเส้นไว้ เพื่อเป็นการแสดงสัญญาว่าเรื่องในวันนี้ทั้งหมดจะมีเพียงเขาสองคนเท่านั้นที่รู้
“ยังโต้ง ฉันอยากแต่งเพลงเป็นบ้างว่ะ สอนหน่อยดิ” ปันผลพูดกับโต้งหรือยังโต้ง พนักงานหนุ่มที่ชอบทำตัวเป็นแร็ปเปอร์ที่นอนห้องเดียวกับเขาในงานสัมมนานี้
“เรื่องแบบนี้ไม่ต้องสอนหรอก ว่าแต่ทำไมถึงอยากแต่ง” โต้งพูด
“อารมณ์ฉันตอนนี้มันงงๆ ยังไงไม่รู้ ไม่รู้จะไปทางซ้ายหรือไปทางขวาดี” ปันผลพูด เขาพูดด้วยท่าทีที่เหมือนจะหมดแรง
“อาการมันเป็นยังไง” โต้งถาม
“ทุกครั้งที่ฉันทำอะไรสักอย่างลงไป ฉันมีความสุขมาก แต่ทุกครั้งฉันต้องกลับมานั่งทบทวนตัวเองอยู่ตลอดว่ามันถูกต้องแล้วหรือ เหมือนฉันกำลังสร้างโลกขึ้นมาสองใบยังไงก็ไม่รู้” ปันผลพูด
“แล้วมีความสุขกับทางไหนมากกว่ากัน” โต้งถาม
“ฉันเองก็ไม่รู้” ปันผลถาม
“มันอาจจะไม่เกี่ยวกับเพลงนะ แต่สักวันนึงนายเองก็จะรู้ว่าทางซ้ายหรือทางขวาคือสิ่งที่ควรไป ไม่แน่นะอาจจะมีทางใหม่มาให้เลือกอีกก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะเสียทุกทางไปเลย ยังไงสักวันมันก็ต้องจบ ยังไงก็ต้องมีคนที่เจ็บ และหลังจากวันนั้นมันก็จะดีขึ้นเอง สู้ๆ เว้ย ไม่ว่าจะป็อป จะแร็ป จะร็อค หรือเพลงแนวไหน ถ้าแกมีอารมณ์ไปกับมันยังไงก็ทำได้หมด ฉันจะรอฟังเพลง และก็จะรอฟังบทสรุปของเส้นทางที่แกเลือกด้วย” โต้งพูด “ฝากปิดไฟด้วย ฝันดี”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ