หลินเยว่ชิง บุปผาหมื่นมารยา(สนพ.B2S)
เขียนโดย ถานเซียง
วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.00 น.
แก้ไขเมื่อ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562 08.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ก้าวเดินต่อไป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
สายลมวสันตฤดูพัดผ่านเข้ามาทำให้หิมะที่เคยให้ความหนาวเหน็บในเหมันตฤดูละลายหายไปกับแสงสุริยันที่สาดส่องลงมา ท้องฟ้าในฤดูวสันต์ช่างสดใส สายลมอ่อนๆ พัดใบไม้ใบหญ้าให้ไหวเอนไปกับสายลม เหล่าพฤกษาหลากหลายสายพันธ์ต่างแข่งขันกันแตกยอดผลิใบ
ในตำหนักรับรองที่โอ่อ่าใหญ่โตของตำหนักบูรพาแห่งแคว้นหลิน ยังคงมีร่างเล็กของดรุณีน้อยวัย 5 หนาว ที่ยังนั่งนิ่งเป็นหุ่นไม้อยู่ในเรือน ใบหน้าที่เคยสดใสบัดนี้มีเพียงความเศร้าหมอง น้ำเสียงเจื้อยแจ้วที่เคยได้ยินบัดนี้กลับมีเพียงความเงียบงัน ภาพของท่านหญิงน้อยที่อยู่ในห้วงแห่งความทุกข์เช่นนี้สร้างความปวดใจแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก
เสี่ยวอวี้ยังคงรับใช้อยู่ข้างกายท่านหญิงน้อยไม่ห่าง นับตั้งแต่สิ้นพิธีศพของหวางเย่และหวางเฟย จิตวิญญาณของท่านหญิงน้อยราวกับได้ตายไปพร้อมผู้เป็นบิดามารดา ทุกวันร่างเล็กทำเพียงแค่นั่งเหม่อมองอย่างเลื่อนลอยไร้ซึ่งวาจาใดๆ นางผู้เป็นนางกำนัลคนสนิทเห็นเช่นนี้แล้วให้อยากเจ็บปวดแทนนายตนยิ่งนัก
“ท่านหญิงเพคะ ออกไปเดินชมสวนสักหน่อยดีหรือไม่เพคะ? อากาศข้างนอกกำลังดีเชียว” เสี่ยวอวี้เอ่ยถามนายของตนอย่างกระตือรือร้น นางอยากให้ท่านหญิงน้อยทำอย่างอื่นบ้างนอกจากนั่งนิ่งอยู่เช่นนี้
“….”
“ท่านหญิงเพคะ บ่าวได้ยินมาว่าดอกบัวที่สวนของวังบูรพางดงามนัก ท่านหญิงอยากไปชมหรือไม่เพคะ?”
“….”
มีเพียงความเงียบงันเท่านั้นที่ได้จากร่างเล็กของหลินเยว่ชิง นางกำนัลน้อยหมดปัญญาที่จะทำให้นายตนกลับมาสดใสเช่นเดิม นางช่างไร้ประโยชน์ยิ่งนัก เสี่ยวอวี้ได้แต่ต่อว่าตนเองในใจ
“ถ้าเช่นนั้นบ่าวจะไปสั่งคนเตรียมมื้อเที่ยงมาให้นะเพคะ” เสี่ยวอวี้ถอยออกไปสั่งความกับนางกำนัลที่ดูแลตำหนักรับรอง
“ท่านหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?” หลี่ควนเอ่ยถามนางกำนัลคนสนิทของท่านหญิงน้อย เขาเองก็เป็นห่วงท่านหญิงมากไม่แพ้กัน องครักษ์หนุ่มยังคงรู้สึกผิดที่ตนไม่สามารถปกป้องหวางเฟยได้ตามรับสั่งของหวางเย่ และยิ่งมิอาจให้อภัยตัวเองได้เพราะปกป้องนายเหนือหัวอย่างฉีหวางไว้ไม่ได้เช่นกัน ตัวเขาอยากจะปลิดชีพตนเองตามผู้เป็นนายไป แต่รับสั่งสุดท้ายของหวางเย่ที่มีต่อเขาคือปกป้องคุ้มครองท่านหญิง ฉะนั้นต่อแต่นี้ไปชีวิตของเขามีไว้เพื่อท่านหญิงน้อยเท่านั้น
“เป็นเช่นทุกวันเจ้าค่ะ ท่านหญิงไม่ยอมพูดจา เอาแต่นั่งนิ่งอยู่เช่นนั้น เราจะทำเช่นไรดีเจ้าคะท่านองครักษ์หลี่” เสี่ยวอวี้เอ่ยตอบหลี่ควนเสียงสั่นเครือ นางสงสารท่านหญิงน้อยยิ่งนัก
“ข้าน้อยว่าเราไปรายงานเรื่องนี้กับไท่จื่อดีหรือไม่เจ้าคะ?” เสี่ยวอวี้เอ่ยเสนอความคิดตน
“ช่วงนี้ไท่จื่อก็ราชกิจยุ่งยิ่งนัก ข้าเกรงว่าพระองค์จะไม่มีเวลามาสนใจเรื่องท่านหญิงน่ะสิ”
“เฮ้อ! แล้วเราจะทำเช่นไรกันดี ข้าน้อยเป็นห่วงท่านหญิงจริงๆ เจ้าค่ะ”
หนึ่งองครักษ์กับหนึ่งนางกำนัลยังคงปรึกษาหาทางช่วยท่านหญิงน้อยของตนอยู่ด้วยสีหน้าคร่ำเครียด
“น้องหญิงเป็นเช่นไรบ้าง?” เสียงเอ่ยถามดังมาจากเด็กหนุ่มวัย 13 หนาว ที่เดินมาด้วยท่วงท่าองอาจสมเป็นเชื้อพระวงศ์
“คาราวะองค์ชายรองเพคะ/พ่ะย่ะค่ะ”
“ว่าไง? เปิ่นหวางถามว่าน้องหญิงเป็นเช่นไรบ้าง” หลินหยางหมิงโอรสองค์รองในไท่จื่อหลินเฟยเทียนเอ่ยถามข้ารับใช้ของหลินเยว่ชิงด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ท่านหญิงยังคงไม่ยอมพูดจา และยังนั่งนิ่งอยู่แต่บนเตียงเพคะ”
“พวกเจ้ารออยู่นี่แหละ เปิ่นหวางจะเข้าไปดูน้องหญิงเอง” รับสั่งจบร่างสูงของหลินหยางหมิงก็เดินเข้าไปในห้องชั้นในทันที
“น้องหญิง ชิงชิง” เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกร่างเล็กที่อยู่บนเตียงอย่างแผ่วเบา
“…”
ยังคงมีเพียงความเงียบเท่านั้นที่หลินหยางหมิงได้รับ ร่างสูงเดินไปนั่งลงบนขอบเตียงก่อนจะเอื้อมแขนไปโอบกอดร่างเล็กของน้องน้อยไว้
หลินเยว่ชิงเมื่อรับรู้ถึงอ้อมแขนอบอุ่นโอบกอดนางไว้ ร่างเล็กที่ฝืนทนมาหลายวันบัดนี้คล้ายกับจะพังทลายลงไป เสียงร่ำไห้อู้อี้ดังมาจากอกแกร่งของผู้เป็นพี่ชายซึ่งกำลังโอบกอดร่างบอบบางนี้ไว้
“ชู่ว! เด็กดี ไม่เป็นไรนะ พี่ชายรองของเจ้าอยู่ตรงนี้แล้ว” หลินหยางหมิงยังคงปลอบโยนร่างเล็กในอ้อมแขนของตน มือหนาของเด็กหนุ่มลูบศีรษะทุยๆ นั้นอย่างแผ่วเบา
“ฮึก ฮึก พี่รอง ฮือๆ”
“ร้องออกมาเถอะ ร้องเสียให้พอ หลังจากร่ำไห้แล้วชิงชิงของพี่ต้องเข้มแข็งนะ %
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ