Dragon Phoenix Tragedy

-

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.45 น.

  2 ตอน
  33 วิจารณ์
  3,644 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 เมษายน พ.ศ. 2563 15.30 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ปริศนาเศวตรคฑา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ณ.ปราสาท'ริโทเนีย' ปราสาทอันโบราณเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้กับริมมหาสมุทธของอณาจักร'มูโทเปีย'
รัตติกาลยามดึก ย่างยามหก บรรยากาศเยียบเย็น สายลมกรรโชกหนัก มวลหมู่เมฆาล่องลอยต่ำ ดวงดาราและจันทราเริ่มลางเลือน
หากมองไปยังบริเวณลานศิลาชั้นบนของตัวปราสาทก็จะเห็นได้ว่า มีการจัดวางแท่งเสาหินเจ็ดแท่งเรียงกันเป็นรูปวงกลมโดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ราวห้าเมตรและยังมีแท่งหินที่มีปลายตัดราบเรียบอีกแท่งหนึ่งตั้งอยู่ตรงจุดศูนย์กลาง เฉกเช่นเดียวกับการจัดวางที่บนยอดเขาจรดฟ้าเมื่อก่อนหน้านี้
ที่หน้าแท่งหินซึ่งอยู่ตรงจุดศูนย์กลางห่างออกมาราวห้าเมตรนั้น ยังมีชายชราในชุดเสื้อคลุมยาวผู้หนึ่งกำลังยืนชูไม้เท้าขึ้นเหนือศรีษระราวกับกำลังประกอบพิธีอะไรบางอย่าง ขณะที่ปากก็คอยบริกรรมคาถาอย่างเครียดเคร่ง โดยที่ตรงกลางของหน้าตัดอันราบเรียบของแท่งหินนั้น ก็ยังมีลูกแก้วขนาดย่อมลูกหนึ่งที่กำลังเริ่มเรืองแสงจนสว่างพร่างพรายขึ้นทุกขณะ
ราตรีแม้จะสลัวเลือนลาง แต่ทว่าก็ยังพอมอเห็นถึงสายตาอันแรงกล้าและใบหน้าของชายชราที่ขณะนี้ได้ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้หมวกฮู้ดอยู่ครึ่งค่อน รวมทั้งยังคงมองเห็นรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจที่ได้ปรากฏออกมาหลังจากที่แสงจากลูกแก้วนั้นเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ
ครู่ต่อมาสายลมยิ่งกรรโชกรุนแรง และมวลหมู่เมฆาก็ยิ่งทมึนมืดมิด จนไร้สิ้นซึ่งมวลหมู่ดาราและจันทรา ก่อนที่จะตามมาด้วยประกายของสายอัสนีที่แล่บแปลบปลาบและถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ชั่วอึดใจ ชายชราก็กวัดแกว่งไม้เท้าก่อนที่จะหันทางด้านหัวไม้เท้าให้ชี้ไปที่ลูกแก้วที่กำลังเจิดจ้าเต็มที่ ขณะที่ปากของเขาก็บริกรรมคาถาจนเร็วเร่ง
และทันใดนั้น สายอัสนีที่เบื้องบนก็ผ่าเปรี้ยงลงมาที่ลูกแก้วทันที !
เปรี้ยงงงงง...!!
ลูกแก้วเมื่อได้รับพลังงานจากสายอสุนี ก็สว่างวาบจนกลายเป็นสีรุ้งอันเจิดจ้าพร่างพรายระคายตา
และเมื่อแสงอันสว่างวาบนั้นสลายไป ที่ตรงหน้าแท่งเสาหินนั้นก็ปรากฏร่างของคนผู้หนึ่งขึ้นมาอย่างทันที !
ซึ่งคนผู้นี้ก็หาใช่ใครไม่ แต่เป็นบุรุษหนุ่มผู้อยู่ในชุดสีเงินยวงนั่นเอง ทว่าสภาพของมันในตอนนี้กลับดูเอนจอนาถยิ่งไปกว่าตอนที่อยู่บนยอดเขาจรดฟ้าเสียอีก
ชายชราเพ่งพิจดูใบหน้าของบุรุษหนุ่มอย่างครั่นคร้ามจนชงักค้างไปชั่วขณะ เนื้อหนังต่างๆบนใบหน้าของบุรุษหนุ่มในขณะนี้นั้น กลับยิ่งละลายไหลเยิ้มร่วงหลุดจากใบหน้าของมันจนแทบจะมองเห็นเนื้อกระโหลกภายใน แต่ทว่ามันผู้นี้ยังหาได้ตายไม่ ตัวของมันกลับยังมีลมหายใจจนสามารถย้อนกลับมายังที่นี่ได้อีกครั้ง
บุรุษหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองชายชรา แล้วรอยยิ้มเละๆของมันก็ปรากฏขึ้นมาชั่ววูบ ก่อนที่เข่าทั้งสองของมันจะทรุดลงกับพื้นพร้อมๆกับที่ต้องใช้มือข้างซ้ายยันพื้นข้างหน้าไว้เพื่อไม่ให้ตัวมันเองร่วงล้มไป
เมื่อชายชรากวาดตามองไปที่มือขวาของบุรุษหนุ่ม เขาก็ได้เห็นว่า มือของมันยังคงจับคฑาสีเงินไว้อย่างแนบแน่น แม้จะคำนวณได้ว่าลมหายใจของมันนั้นดูจะอ่อนล้าจนเจียนแทบจะขาดใจแล้ว
ชายชรารีบถลาเข้าไปหามันทันที
"เฮริออส...!" เสียงเรียกของเขาค่อนข้างตกใจ "เฮริออส นี่เจ้าบาดเจ็บขนาดนี้เลยหรือ เจ้า... เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ?"
ชายชรากล่าวถาม พลางก็ประคองไหล่ทั้งสองของบุรุษผู้ถูกเรียกว่า'เฮริออส'ขึ้นมา
เฮริออสเงยหน้าขึ้นมองชายชราด้วยรอยยิ้มแค่นๆ
"ท่านผู้เฒ่า'บากูล' คฑา... เศวตคฑา ทำไมถึงมีอยู่ที่มันอีกอันหนึ่งเล่า ?!"
แม้ว่าใบหน้าในขณะนี้ของมันจะเละละลายยิ่งกว่าเดิม มันก็ยังอุตส่าห์แข็งใจถามถึงสิ่งที่มันพิศวงและไม่เข้าใจ ก่อนที่จะกล่าวถึงอะไรอย่างอื่น
"เฮริออส เจ้าบาดเจ็บขนาดนี้อย่าเพิ่งถามอะไรมาก มา ข้าจะพาเจ้าไปรักษาข้างในก่อน" ชายชราผู้ถูกเรียกว่า'ผู้เฒ่าบากูล'รีบประคองร่างของมันกลับเข้าสู่ในปราสาทอย่างทุลักทุเล
ขณะนี้เฮริออสกำลังเดินอยู่บนทุ่งหญ้าอันเขียวขจีที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาด โดยมีผู้เฒ่าบากูลเดินขนาบอยู่ที่ด้านข้าง ห่างไปไม่ไกลนักทางเบื้องหลังก็คือตัวปราสาทโบราณที่ถูกเรียกชื่อว่า 'ริโทเนีย'
ใบหน้าของเฮริออสในขณะนี้ไม่ได้ดูเละละลายจนดูน่ากลัวอีกแล้ว แต่มันก็ไม่ได้กลับมาดูน่ามองเหมือนเช่นคนปกติทั่วไป เพราะสภาพใบหน้ามันนั้นกลับเหลือทิ้งไว้เป็นเพียงสภาพของแผลเป็นปุปะขนาดใหญ่ที่มีอยู่เต็มใบหน้า
"บาดแผลบนใบหน้าของเจ้าหายไวดีมากนะเฮริออส" ผู้เฒ่าบากูลเอ่ยขึ้น "ตัวยาต่างๆที่เรามีเก็บไว้ในปราสาทริโทเนียล้วนแล้วแต่่เป็นยาวิเศษที่คนภายนอกหลายๆคนไม่ได้ล่วงรู้ว่าเราจะมีอยู่ซะด้วยซ้ำ"
เฮริออสพยักหน้ารับทราบโดยไม่มองหน้าผู้เฒ่าบากูล นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันได้รับบาดเจ็บจากการที่ต้องไปทำภาระกิจลับในต่างถิ่นที่ห่างไกล ใ่ช่แล้ว... มันช่างเป็นภาระกิจที่อยู่ในดินแดนที่ไกลแสนไกลจริงๆ เพราะมันเป็นภาระกิจที่
อยู่ไกลคนละช่วงเวลากับปัจจุบันนั่นเอง !
เฮริออสยังจำได้ถึงภาระกิจลับคราก่อนที่ทำให้มันต้องสูญเสียแขนข้างขวาไปจากการถูกตัดระหว่างหาญไปสู้รบกับพวกศัตรูที่เข้มแข็งกลุ่มหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ในอดีตกาล ก่อนที่มันจะหนีย้อนกลับมายังยุคปัจจุบันด้วยลูกแก้ว'เนตรมังกร'
กระนั้น ณ.ขณะนี้ มันก็ยังอดจะรู้สึกจะคันๆขัดๆกับแขนขวาที่ถูกต่อใหม่ไม่ได้ เพราะแท้ที่จริง แขนที่นำมาต่อใหม่นั้นก็หาใช่แขนดั้งเดิมของมันเอง แต่กลับเป็นแขนของนักรบคนอื่นที่เมื่อได้เสียชิวิตแล้วได้ถูกนำมาแช่รักษาด้วยตัวยาพิเศษแห่งปราสาทริโทเนีย
เฮริออสลูบไล้ไปบนหัวไหล่และต้นแขนข้างขวา ขณะที่ก็เหลียวหน้ากลับไปมองที่ปราสาทริโทเนียพร้อมกับขบคิดเรื่องต่างๆที่ได้ผ่านมาอีกครั้ง
ก่อนที่จะได้มาอยู่ในปราสาทริโทเนียและได้เป็นส่วนหนึ่งของภาคีลับ มันเองก็เป็นเเค่เด็กกำพร้าที่เติบโตมาโดยไม่รู้ว่าบิดามารดาที่แท้จริงของมันเป็นใคร แต่ที่มันไม่เคยลืมเลือนไปจากชีวิตก็คือ ผู้ที่ชุบเลี้ยงมันมาในขณะนั้นก็คือ ผู้เฒ่า'โอจิน'ที่มีบ้านหลังใหญ่หรือบางคนอาจจะเรียกว่าคฤหาสน์ที่อยู่ในตัวเมืองเล็กๆของอณาจักรอันโอราฬที่มีชื่อว่า อณาจักร'มูโทเปีย'แห่งนี้
อณาจักร'มูโทเปีย'แม้จะเป็นอณาจักรที่ยิ่งใหญไม่แพ้ใครในทวีปแห่งนี้ แต่ก็เป็นอณาจักรที่ปกครองอณาประชาราษฎร์ด้วยความไม่เป็นธรรมพอควร ก่อนหน้านี้ ข่าวลือแห่งการทารุณกรรมกับประชาชนยังมีให้ได้ยินอยู่เนืองๆ และรวมทั้งข่าวลือที่ต้องการกำลังพลทหารที่มาจากประชาชนทั้งอณาจักรเพื่อไปรบกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็เคยได้หนาหูมาตั้งแต่อดีตก่อนหน้านี้ จนกระทั่งปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ข่าวลืออีกต่อไป
และเป้าหมายในการทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านนั้นก็ชัดเจนแล้วว่า ต้องการยึดครองดินแดนของอีกสองอณาจักรในทวีปแห่งนี้ เพื่อขยายขอบเขตของอณาจักรมูโทเปียให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรกว่าที่เป็นมา แต่ทว่า อณาจักรมูโทเปียยังมีจุดอ่อนที่สำคัญที่จะอย่างไรก็ไม่น่าจะเอาชนะอีกสองอณาจักรนั้นได้ นั่นก็คือ
อาณุภาพของอาวุธแห่งการทำลายล้างของอณาจักรมูโทเปียนั้น กลับยังไม่อาจเทียบเท่ากับสองอณาจักรที่ได้กลายมาเป็นชาติอริศัตรูในขณะนี้ได้
ปราสาทริโทเนีย ที่เป็นปราสาทที่คอยรวบรวมแหล่งความรู้และพัฒนาวิทยาการต่างๆมาอย่างช้านานนั้น ได้อยู่ภายใต้อาณัติของอณาจักรมูโทเปียมาอย่างยาวนานแล้ว นับตั้งแต่กษัตริย์ในอดีตที่มีมาก่อนหน้านี้ถึงสามพระองค์ และล้วนแต่เป็นมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ที่ทรงเคยปกครองประชาราษฎร์ด้วยความเที่ยงธรรมมาถึงครึ่งศตวรรษ จนกระทั่งปัจจุบันที่วิสัยทัศน์ของกษัตริย์คนใหม่ได้แปรเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ และมีจุดประสงค์ความต้องการที่จะใช้งานปราสาทริโทเนียให้เป็นองค์กรในการสืบค้นหาอาวุธทำลายล้างที่จะเอามาใช้ต่อกรกับอีกสองอณาจักรให้จงได้
แต่ทว่า อาวุธทำลายล้างที่ปราสาทริโทเนียได้ศึกษาแล้วว่าจะสามารถต่อกรหรือเอาชนะอาวุธทำลายล้างของอีกสองอณาจักรนั้นได้ กลับไม่ได้มีอยู่ในปัจจุบันนี้แต่อย่างใด แต่มันกลับเคยมีอยู่ในแผ่นดินแห่งนี้เมื่อในครั้งอดีตกาลหลายร้อยปีผ่านมาแล้ว หรือกล่าวได้ว่าเคยมีอยู่เมื่อในสมัยสงครามครั้งเก่าโบราณ ก่อนหน้าของยุคสามกษัตริย์ผู้เป็นสามมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่มันจะสาปสูญหายไปจนไร้ร่องรอยจวบจนปัจจุบัน
และอาวุธที่ว่านั้นก็คือ ผลึกคริสตันชนิดหนึ่งที่ถูกเรียกว่า
'เนตรมณีนาคาสามเศียร' หรือเรียกสั้นๆว่า 'เนตรมณีนาคา'
เนตรมณีนาคาสามเศียรเป็นผลึกคริสตันชนิดหนึ่งที่มี 6 ชิ้น หรือเท่ากับจำนวนดวงตาของนาคาที่ม่ีสามเศียร เมื่อนำเนตรมณีนาคานี้มาประกอบกับปืนใหญ่ที่ทำตามสูตรลับในอดีต ก็จะกลายเป็นอาวุธทำลายล้างอันทรงพลังที่ยากจะมีสิ่งใดต่อกรได้
และในปัจจุบัน ริโทเนีย ปราสาทแห่งวิทยาการ ก็ได้รับคำสั่งให้ใช้วิทยาการย้อนเวลาไปสู่อดีตเพื่อนำเนตรมณีนาคานี้กลับมาสู่ยุคปัจจุบันของอณาจักรมูโทเปียให้จงได้
โดยต่อมาทางกษัตริย์ได้จัดตั้ง'หน่วยล่าเนตรมณีนาคา'ขึ้นมาในปราสาทอีกแห่งหนึ่งทีมีชื่อว่า
ปราสาท'มูเทล'
ปราสาทมูเทล จะเป็นปราสาทที่ใช้ ฝึก วางแผน และคอยส่ง นักรบพิเศษให้เดินทางไปสู่อดีต โดยได้รับการสนับสนุนจากปราสาทริโทเนียตามคำสั่งของกษัตริย์แห่งมูโทเปียอีกทีหนึ่ง
ทว่า เหล่าผู้อาวุโสเก่าแก่ของปราสาทริโทเธียกลับได้คาดคำนวณเห็นถึงลางแห่งหายนะในกาลเวลาข้างหน้าของทวีปแห่งนี้ จึงได้ก่อตั้งภาคีลับขึ้นมาภายในโดยใช้ชื่อว่า
ภาคี'สลายเนตรนาคา' เพื่อจุดประสงค์ลับที่แตกต่างออกไป
จุดประสงค์ลับที่ตรงกันข้ามกับคำสั่งของกษัตริย์แห่งมูโทเปียนี้ก็คือ แทนที่จะค้นหา 'เนตรมณีนาคาสามเศียร'เพื่อนำกลับมายังยุคปัจจุบัน แต่กลุ่มภาคี'สลายเนตรนาคา'นี้จะไปค้นหา'เนตรมณีนาคาสามเศียรเพื่อนำมาทำลายให้สิ้นซาก !
แต่การที่จะทำลายให้สิ้นซากนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องรวบรวมเนตรมณีนาคานี้ให้ครบ 6 ชิ้นก่อน จึงจะสามารถทำลายให้สิ้นซากไปทั้งหมดในคราวเดียวได้ เพราะเนตรมณีนาคานี้ไม่สามารถจะแยกทำลายได้ทีล่ะชิ้น ซึ่งน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก
เฮริออสพยามย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์อันล่าสุดที่มันได้เผชิญกับ ผู้ที่มีฉายาว่า 'มังกรวิหคไฟ' ผู้ที่เป็นบุคคลในอดีตกาลที่ได้คอยรวบรวม'เนตรมณีนาคามาไว้ในกำมือของตัวเองจนเกือบจะครบถ้วนได้อยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะถูกมันทำลายแผนการณ์ไปอีกหลายครั้งเช่นกัน จนกระทั่งล่าสุด'มังกรวิหคไฟ'ก็ได้ตามมาจนทันมัน และได้ทำลายใบหน้าของมันจนยับเยินอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้
หนึ่งในปัญหาคาใจที่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีใครให้คำตอบกับมันได้ว่า ใยจึงมีอาวุธวิเศษอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า'เศวตรคฑา' หรือคฑาสีเงินอีกอันปรากฏขึ้นมาในอดีต ทั้งที่'เศวตรคฑา'ของมันอันนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในยุคปัจจุบัน หรือที่จริงก็เพิ่งถูกสร้างขึ้นในปราสาทริโทเนียได้เพียงไม่นานเท่าไรนัก
และที่สำคัญ 'เศวตรคฑา' ใยจึงตกไปอยู่ในมือของผู้ที่มีฉายาว่า'มังกรวิหคไฟ'ผู้นั้นกันล่ะ ?
"ท่านผู้เฒ่าบากูล" เฮริออสเอ่ยขึ้น " ท่านยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนกับข้าเลยนะ ว่าทำไมคฑาของข้าถึงไปอยู่กับมันผู้นั้นได้" มันจ้องหน้าผู้เฒ่า ก่อนจะกล่าวต่อไปอีกว่า
"ท่านผู้เฒ่า เศวตรคฑานั้นอยู่ที่ข้าตลอดเวลานับตั้งแต่ที่ข้าได้เป็นเจ้าของมัน ไม่ว่าจะยามกิน ยามนอน ข้าก็ไม่เคยทิ้งมันให้อยู่ห่างจากตัวเลยสักครั้งเดียว มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะมีคฑาที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วปรากฎขึ้นพร้อมๆกันแบบนี้ ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ ?"
ผู้เฒ่าบากูลเหลียวมามองหน้าเฮริออส ก่อนจะหันกลับไปถอนใจคราหนึ่ง
"เฮริออส บางครั้งบางเรื่องบางราวข้าก็ไม่สามารถจะให้คำตอบที่ชัดเจนกับเจ้าได้ ยิ่งโดยเฉพาะเรื่องนี้ ใช่แล้วล่ะ เศวตรคฑาของเจ้าเพิ่งถูกสร้างขึ้นในยุคปัจจุบันนี้ ย่อมไม่น่าจะมีอันที่สองที่เหมือนกันขนาดนี้ได้ และยิ่งไม่น่าเป็นไปได้ ที่มันจะไปโผล่ในยุคอดีตอย่างนั้น"
ผู้เฒ่าบากูลเหลียวหน้ามามองเฮริออสอีกครั้ง "เฮริออส เจ้าเคยบอกว่าได้เคยปะทะกับเจ้ามังกรวิหคไฟนั่นอยู่หลายครั้ง และในทุกครั้งที่ปะทะกัน เจ้าเองกลับรู้สึกว่ามันผู้นั้นราวกับล่วงรู้ถึงวิชายุทธของเจ้าแทบจะทุกอย่างด้วยใช่หรือไม่ ?"
เฮริออสลืมตาโตขึ้นมองหน้าท่านผู้เฒ่า
"ใช่แล้ว และในคราวที่ข้าถามครั้งนั้น ท่านก็บอกว่า วิชายุทธของข้าแท้ที่จริงมีรากเหง้ามาจากอดีต หากว่ามีใครที่ไหนแยกแยะวิชายุทธของข้าได้อย่างชัดเจน เขาผู้นั้นก็น่าจะเป็นยอดปรมจารย์คนหนึ่งของยุคเลยทีเดียว หรือว่า... หรือว่าครั้งนี้ท่านจะมีแนวคิดใหม่ที่แตกต่างไปจากครั้งก่อนหรือท่านบากูล ?"
ผู้เฒ่าบากูลนิ่งเงียบไปชั่วครู่ราวกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ก่อนจะตอบอย่างช้าๆว่า
"แนวคิดแบบหนึ่งที่ข้าสงสัยว่าจะเป็นไปได้ก็คือ ในเมื่อเราย้อนเวลากลับไปในโลกเมื่อ 700 ปีก่อนได้ คนในอดีตเมื่อ 700 ปีก่อนก็น่าจะเดินทางข้ามมายังยุคอนาคตที่พวกเราอยู่ได้เช่นกัน เจ้าคิดว่าแนวคิดนี้เป็นไงบ้างล่ะเฮริออส ?"
เฮริออสถึงกับหน้าแปรเปลี่ยนไปทันที
"ท่านผู้เฒ่า... หมายความว่ามันผู้นั้นได้ข้ามเวลามาหาพวกเราโดยไม่ให้เรารู้ตัวหรือ มัน... มันจะฉลาดได้ถึงขนาดนั้นเชียวหรือ แต่ถ้ามันทำอย่างงั้นได้ เรื่องของคฑานั่นก็หมายความว่า....?!"
"ความหมายอย่างหนึ่งที่ข้าอยากจะบอกเจ้าก็คือ เศวตรคฑานั้นถ้าอยู่ในมือใครและถ้ามันเข้าใจถึงวิธีใช้งานคู่กับลูกแก้วมังกร มันก็จะสามารถข้ามเวลาไปมาเช่นเดียวกับเจ้าได้ และยังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง ที่คฑาอันนั้นจะถูกสร้างขึ้นที่นี่ เป็นคฑาที่สร้างให้เหมือนของเจ้า หรือกลับกันอาจสร้างของเจ้าให้เหมือนของมัน จากนั้นอันหนึ่งก็ถูกนำกลับไปสู่อดีต !"
เฮริออสเมื่อได้ยินแบบนั้นแล้ว ก็อดจะตระหนกขึ้นมาไม่ได้
"อา... จุดประสงค์นั้นเพื่ออะไรกันล่ะ หรือว่าจะมีการ...?"
"เจ้าพอจะมองเห็นแล้วใช่ไหม ?" ผู้เฒ่าพูดแทรกขึ้นมา "เหตุการณ์และสาเหตุอันยอกย้อนแปลกประหลาดนี้ อาจจะหมายถึงการมีเชื้อร้ายในหมู่พวกเราภาคี'สลายเนตรนาคา' เชื้อร้ายที่รู้ทันพวกเรา เชื้อร้ายที่คอยสืบหาตัวตนที่แท้จริงของพวกเรา เชื้อร้ายที่อาจจะรับคำสั่งโดยตรงมาจากพวกศัตรูของเรา หรืออาจจะมาจากกษัตริย์ของเรานี่เอง !"
ผู้เฒ่าบากูลหยุดไปชั่วครู่ขณะที่เหม่อมองไปยังความเวิ้งว้างของท้องทะเลก่อนจะกล่าวต่อไป
"และนี่ยังไม่นับพวกที่'ปราสาท'มูเทล' ที่เกิดจากการจัดตั้งของกษัติริย์เราเอง ซึ่งวันหนึ่งพวกเราเองก็อาจจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้อย่างแตกหักกับพวกมันได้ ทั้งในโลกปัจจุบัน และในโลกแห่งอดีตกาล...!"
คำกล่าวของผู้เฒ่าบากูลทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่ทำให้เฮริออสตื่นตะลึง แต่มันก็กลับเก็บซ่อนความรู้สึกหลายๆอย่างไว้เพียงภายใน
มันยังคงคิดว่า ยอดนักรบอย่างมัน จะอย่างไรก็จะต้องไม่สับสนกับสิ่งต่างๆที่น่าคลางแคลงใจจนถึงกับลืมเลือนเป้าหมายหรือภาระกิจหลักที่สำคัญของมัน และนั่นคือ ภาระกิจลับของภาคี 'สลายเนตรนาคา' ที่มันได้รับคำสั่งมาตั้งแต่แรกเริ่ม
ภาระกิจลับที่มันจะต้องกลับไปค้นหาและรวบรวมคริสตันทั้ง 6 ชิ้นให้พบ และนำมาทำลายให้จงได้ นั่นล่ะคือภาะกิจของมัน !
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆนี้นะครับ)
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา