นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1

8.0

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.

  53 ตอน
  0 วิจารณ์
  35.74K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) ตอนที่ 10 การประลองยุทธ์ 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

สนามประลอง เวลา 10.14 น.

     "ตัวเล็กแบบนั้นจะชนะได้เหรอ" อาถิงพูดลอยๆขึ้นมา

     "นายอย่าดูถูกนักสู้จาก ตระกูลจันพิลา สิ" เฟรมหันหน้ามาพูดกับอาถิง

     "รู้จักเธอเหรอ" อาชินถาม

     "เปล่า แต่ฉันรู้จักตระกูลเธอ ซึ่งเป็นตระกูลนักสู้สายมวยไทยที่เก่าแก่มากในกองทัพเลย" เฟรมตอบ

     เมื่อทั้งสองคนเดินลงมาพร้อมกับทำความเคารพพันเอกแบรดลีย์ ตรงหน้าพวกเขาคือโต๊ะที่มีอาวุธหลากหลายชนิดให้เด็กทั้งสองเลือกเพื่อประลองกัน ซึ่งลีเซลอตเตนั้นเขาหยิบปืน 9 มม. สองกระบอกขึ้นมาและส่วนจินตหรานั้นเธอคว้าคันธนูออกมาแล้วเดินขึ้นสังเวียนทันที เมื่อเห็นอาวุธของอีกฝ่ายอาชินก็ทำหน้างงทันทีโดยเฉพาะกับเฟรมที่ดูเหมือนว่าเขาจะหน้าแตกนิดๆ

     "เธอใช้ธนูนะเพื่อน ดูท่าจะไม่ใช่นักสู้นะ" อาถิงพูด

     "ตระกูลเธอเป็นสายนักสู้จริงๆนะเพื่อน แต่ที่เธอเลือกใช้ธนูเนี่ยฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" เฟรมตอบ

     ทั้งจินตหรากับลีเซลอตเตต่างอยู่ที่สังเวียนแล้วโดยมีทหารยศนายร้อยทำหน้าที่เป็นกรรมการ ทั้งสองจับอาวุธมั่นเพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อครูฝึกให้สัญญาณ ในความคิดของอาชินนั้นเขาอดชื่นชมในตัวจินตหราไม่ได้แม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีส่วนสูงกว่าและเป็นเพศตรงข้ามเธอก็ไม่แสดงท่าทีกังวลหรือหวาดกลัวแต่อย่างใด ที่สำคัญจินตหราไม่ได้มีท่าทีจะสนใจเสียงพูดคุยของคนบนอัฒจันทร์แต่เสียงก็เงียบลงเมื่อพันเอกแบรดลีย์เริ่มพูดอีกครั้ง

     "ฟังให้ดีนะการประลองนี้ไม่มีกติกาใดๆทั้งสิ้นเพราะในสงครามไม่มีกติกา ดังนั้นฉันอยากให้พวกนายจินตนาการว่าอยู่ในสงครามกำลังสู้กับข้าศึกไม่ใช่เพื่อนยุวชนทหารด้วยกัน เรื่องอาวุธนะไม่ต้องไปกังวลถ้าโดนฟันหรือโดนยิงพวกนายจะแค่รู้สึกแสบคันเท่านั้นไม่เป็นอันตราย.... เริ่มการประลองได้"

     สิ้นคำสั่งของพันเอกแบรดลีย์แล้ว ทหารยศนายร้อยซึ่งน่าจะทำหน้าที่เป็นกรรมการก็เดินมายืนกั้นกลาง โดยกรรมการนั้นมองทั้งฝ่ายลีเซลอตเตกับฝ่ายจินตหรา ไม่กี่นาทีกรรมการก็ทำสัญลักษณ์มือฟันลงตรงกลางเป็นสัญญาณขึ้น เมื่อกรรมการถอยหลังไปไม่ถึงเสี้ยวลมหายใจฝ่ายนักมือธนูก็เปิดฉากโจมตีใส่ลีเซลอตเตทันที ลูกธนูไฟธาตุอัสนี 4 ดอกพุ่งเข้ามาแบบระยะประชันชิดแต่ทว่าลีเซลอตเตเอียงตัวหลบไปทางขวามือของเขาแม้จะหลบได้แต่มีธนูดอกหนึ่ง มันเฉี่ยวโดนแก้มเขานิดหนึ่งแม้จะไม่มีบาดแผลแต่เด็กชายรู้สึกแสบคันมาก แก้มขาวๆกลายเป็นรอยแดงคล้ายๆผื่นคัน

     ลีเซลอตเตชักปืนสองกระบอกยิงตอบโต้เช่นกัน กระสุนอัคคีจากปลายกระบอกพุ่งเข้าหาจินตหราหลายนัดแต่ทว่าเธอไม่ได้เอียงตัวหลบแต่ใช้คันธนูปัดกระสุนออกไปแทน จากนั้นเธอก็เริ่มเคลื่อนไหวร่างกายพร้อมกับกระหน่ำธนูจำนวน 10-20 ดอกอย่างรวดเร็วสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนที่ชมอยู่บนอัฒจันทร์อย่างมาก ทางด้านลีเซลอตเตนั้นเขารู้ตัวดีว่าไม่สามารถหลบธนูที่พุ่งมาแบบนั้นได้หมดแต่ใช้อัดพลังเข้าที่ตัวปืนและยิงสวนกลับทันที กระสุนอัคคีจำนวนมหาศาลพุ่งทะยานเข้าประทะกับลูกธนูซึ่งมีประทะโดนแต่ก็มีพุ่งผ่านมาทางฝั่งของกันและกัน ลีเซลอตเตใช้แขนขวาปัดธนูไปตามสัญชาตญาณทำให้เขารู้สึกแสบร้อนมาก    

     เช่นเดียวกับตัวของจินตหราที่แม้เธอนั้นจะปัดกระสุนไปหลายนัดก็ยังโดนที่ขาอ่อนของเธอ ความแสบร้อนที่ขาทำให้จินตหรานั้นเสียหลักทรุดลงกับพื้นแต่เธอใช้คันธนูยันร่างกายไว้ได้ ทำเอาผู้ชมนั้นนั่งลุ้นกันเพราะต่างก็ยังไม่ยอมใครเลยส่วนในทางของลีเซลอตเตนั้นมัวแต่สนใจรอยแดงที่แขนขวาจึงแทบไม่สนใจฝ่ายของจินตหรา ในขณะที่จินตหราก็พยายามจะลุกขึ้นให้ได้เธอใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาของเธอที่มันไหลเพราะรู้สึกแสบร้อน

     "จินอย่าล้มนะ ลุกขึ้นสู้สิ" เสียงตะโกนดังขึ้นจากอัฒจันทร์

     อาชินหันไปทางขวามือของเขาเพราะต้นเสียงมาจากตรงนั้น ซึ่งเจ้าของเป็นเด็กชายผมสีดำผิวขาวอยู่แถวสี่ของอัฒจันทร์การที่เขาส่งเสียงเชียร์แบบนี้คงน่าจะเป็นเพื่อนกันแถมยังดึงดูดความสนใจของคนที่อยู่บนอัฒจันทร์ แต่เด็กชายไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้นเพราะโฟกัสที่เพื่อนบนสนามประลองมากกว่า หลังจากที่ได้ยินเสียงจากเพื่อนแล้วจินตหราจึงลุกขึ้นมายืนได้โดยใช้มือทั้งสองจับคันธนูได้ตามปกติ ตรงพอดีกับที่ลีเซลอตเตตั้งตัวได้พอดีแขนผิวขาวของเขาเป็นสีแดงพอๆกับบริเวณขาอ่อนของจินตหรา

     ทั้งสองจ้องหน้ากันแบบไม่ยอมละสายตาซึ่งลีเซลอตเตลดปืนของเขาลง ในขณะที่ฝ่ายจินตหรานั้นเตรียมง้างธนูเช่นกันเหล่ายุวชนทหารที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์นั่งเกร็งร่างกายตามๆ กันไม่เว้นแม้แต่กับอาชินที่เขาก็นั่งลุ้นเหมือนว่าใครจะชนะ ทางคนในสนามประลองไม่ยอมขยับร่างกายเพื่อรอจังหวะให้ฝ่ายตรงข้ามเสียจังหวะ ซึ่งไม่กี่เสี้ยวหายใจเมื่อมีสายลมประทะเข้ากับใบหน้าของจินตหราผมเข้าทิ่มตาซ้ายของเธอเล็กน้อย ซึ่งลีเซลอตเตก็ยกปืนข้างขวาขึ้นมายิงไปหนึ่งนัดทันที

     แม้ว่าจะเสียจังหวะแต่จินตหราก็ใช้สมาธิสุดท้ายง้างธนูใส่อีกฝ่ายเช่น ทั้งกระสุนและลูกธนูสวนทางกันโดยตัวลูกธนูนั้นลีเซลอตเตยิงกระสุนอัคคีทำลายก่อนจะพุ่งถึงตัวเขา ส่วนจินตหรานั้นเธอไม่สามารถปัดกระสุนได้จึงรับกระสุนเข้าที่ท้องเต็มๆและทรุดลงกับพื้นเวทีแต่ก็ยังใช้คันธนูยันร่างกายไม่ยอมล้มเต็มตัว ลีเซลอตเตอึ้งที่เห็นอีกฝ่ายไม่ยอมล้มซึ่งเขาเห็นได้ชัดเจนว่าดวงตาของเธอนั้นมีน้ำตาคลอเพราะเจ็บแสบแต่ก็ไม่ยอมร้องสักเอะ

     พันเอกแบรดลีย์ยืนปรบมือขึ้นสร้างความงุนงงนให้กับเหล่ายุวชนทหารอย่างมาก ไม่ใช่แค่นั้นเหล่าครูฝึกต่างก็ปรบมือพร้อมกันเช่นกัน ไม่นานนักก็มียุวชนทหารกลุ่มหนึ่งปรบมือตามครูฝึกทั้งจินตหรากับลีเซลอตเตต่างยืนสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่นานนักทหารหมอก็ขึ้นเวทีมาพาทั้งสองไปทำการปฐมพยาบาล พันเอกแบรดลีย์จ้องมองมาที่เด็กหญิงชื่อจินตหราอย่างสนใจปกติแล้วการจะหาหญิงอ่อนโยนนั้นมันหาไม่ยากแต่หญิงหัวใจชาตินักรบแกร่งแบบนี้หายากยิ่งกว่า แสบร้อนขนาดนั้นเด็กพลเรือนจะร้องเสียงดังบ้านแตกไป 6-7 หลังแต่เด็กคนนี้นอกจากไม่ยอมร้องแล้ว ยังไม่ยอมล้มกับพื้นด้วยและกลับมายืนสู้ต่อได้ด้วยใจนักสู้อย่างมาก

     "ถึงเธอจะไม่ใช่นักสู้เหมือนคนในครอบครัว แต่ใจนักสู้มากอ่ะ" อาถิงพูดชื่นชม

     "งืม ดูจะลักษณะทางกายภาพน่าจะแสบร้อนมาก.... ขอละอย่าให้คนต่อไปเป็นฉันเลย" เฟรมพูด

     "ถ้านายไม่ใช่คู่ต่อไปคิดว่าใครได้ละ" อาชินหันมาถาม เฟรมทำท่าคิดอยู่สักพักหนึ่ง

     "นายไงเพื่อน"

     อาชินจ้องมองหน้าเพื่อนของเขาในทำนองว่าไอ้คำตอบเนี่ยคิดอย่างนั้นจริงๆหรือแค่อยากกวนเท้าเขากันแน่ ระหว่างทั้งสามกำลังสนทนากันนั้น พันเอกแบรดลีย์ก็ทำการซุ้มคัดเลือกคู่ประลองคู่ที่สองต่อโดยไม่สนใจเสียงพูดคุยของยุวชนทหารบนอัฒจันทร์แม้แต่น้อยมันมีบางส่วนก็นั่งเกร็งตัวว่าตัวเองจะถูกเลือกไหม ในส่วนตัวของเด็กชายนั้นเขาไม่ได้มีปัญหานะถ้าต้องลงประลองแต่ถ้าได้ลงสังเวียนจริงๆไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงอยากประลองวัดฝีมือกับแดเนียล ฟอร์ด อาชินอยากรู้ว่าระหว่างวิชาต่อสู้วูซูกับดาบใครจะเหนือกว่ากัน

     ภาพบนหน้าจอปรากฏขึ้นอีกครั้งซึ่งดูเหมือนว่าคำขอของเขาจะเป็นจริง ภาพคู่ประลองลงสังเวียนคู่ที่สองคือตัวของอาชินเองซึ่งอาถิงหันไปมองเฟรม แน่นอนว่าเฟรมนั้นไม่สบตาใครไม่ว่าจะเป็นอาถิงหรืออาชินก็ตาม และที่ไฮไลกว่านั้นคือคู่ประลองของเขาก็ดันเป็นคนที่เขาอยากประลองด้วย แดเนียล ฟอร์ดนั้นเอง เสียงพูดคุยเริ่มดังมากกว่าคู่แรกเสียด้วยซ้ำไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร

     "คู่ประลองคู่ที่สองลงมาที่สังเวียนเดียวนี้" พันเอกแบรดลีย์ออกคำสั่งเสียงดัง  เสียงพูดคุยจึงเงียบสงบลงอีกครั้งซึ่งแน่นอนว่าอาชินรีบลุกจากที่นั่งโดยที่ไม่รอให้ครูฝึกสั่งรอบที่สอง

                                     

                                                        +++++++++++++++++++++++++++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา