ก๊วนเทพวัยใสป่วนหัวใจให้ตกหลุมรัก

-

เขียนโดย เจ้าหนอน

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.37 น.

  19 ตอน
  1 วิจารณ์
  18.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 17.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) ตอนที่ 18

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                  “ฉันรักเธอนะ โนริ” เทสึพูดย้ำในสิ่งที่เขาพูดออกไปแล้ว น้ำตาของฉันไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ มันไม่ใช่น้ำตาของความเสียใจ แต่มันเป็นน้ำตาแห่งความดีใจที่กลั้นไม่อยู่ต่างหาก
                “แล้วเธอล่ะ รักฉันบ้างมั้ย?” จะถามในสิ่งที่รู้อยู่แล้วทำไมเนี่ย!
                 เมื่อเจอคำถามนี้เข้าไปฉันถึงกับพูดไม่ออก ไม่ใช่ว่าไม่รัก แต่มันพูดไม่ออกอ่ะ T^T
                “ตอบเลยๆๆๆ!!” เมื่อฉันยังคงเงียบ คนอื่นๆที่นั่งอยู่ด้านล่างก็ส่งเสียงเชียร์ให้ฉันตอบ เทสึมองฉันอย่างขอคำตอบ โธ่~แบบนี้มันยิ่งไม่กล้าตอบน่ะสิ
                “โนริ รักฉันบ้างมั้ย?” เทสึถามย้ำอีกครั้ง ฉันมองหน้าเขานิ่งจนคนถามเริ่มใจไม่ดี สักพักทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ ฉันยังคงตีหน้านิ่งต่อไป ก่อนที่จะค่อยคลี่ยิ้มส่งไปให้คนตรงหน้า
                 “ถ้าฉันไม่รักนาย ฉันคงไม่รับหมั้นนายหรอกย่ะ” ฉันตอบแบบอายๆแต่คนตรงหน้าน่ะสิ
                “ไม่อยากได้คำตอบแบบนี้อ่ะ มันครุมเครือยังไงไม่รู้ ตอบให้ชัดๆหน่อยสิที่รัก” เทสึทำหน้าออดอ้อนพลางถูหน้าอยู่กับมือฉันเหมือนลูกแมว ทำแบบนี้ขี้โกงนี่นา
                “คลุมเครือตรงไหน ฉันก็ตอบไปแล้วนี่นา>//<” อย่ามาทำหน้าแบบนั้นนะ!
                “โธ่~โนริ เห็นใจฉันบ้างสิ ฉันอยากรู้นี่นา นะๆ” เขาทำหน้าออดอ้อนพลางทำตาปริบๆอย่างน่าสงสาร เฮ้อ~
                “รักสิ รักมากด้วย” ฉันตอบออกไป คนตรงหน้ายิ่มแฉ่งก่อนจะ…
                “ทุกคนได้ยินหรือเปล่าคร้าบบบ? ควีนว่าไงนะ?” เทสึหันไปถามบรรดาคนดูที่อยู่ด้านล่าง เฮ้ยๆ!ขี้โกงอ่ะ
                “ไม่ได้ยินเลยยยยยย!!!!”  ไหงงั้นอ่ะ?
                 “เอาใหม่อีกที ดังๆด้วยนะ”  กลับบ้านเมื่อไหร่เจอดีแน่เทสึ!
                ฉันแย่งไมค์มาจากเทสึก่อนจะมองหน้าเขานิ่ง พูดก็ได้
                “ความจริงฉันไม่ได้ชอบเทสึหรอกนะ” คำพูดนี้ทำเอาทุกคนเงียบกริบ เทสึเองก็ยังคงอึ้งกับคำพูดของฉัน ใช่!ฉันไม่ได้ชอบเขาสักนิดเดียว ไม่เลยสักนิด!
                 เทสึที่อ่านใจได้เมื่ออ่านคำพูดนั่นได้เขาถึงกับทรุดตัวลงกับพื้น ใบหน้าหล่อเหลามีน้ำตาคลอเบ้า สีหน้าของเขาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ็บปวดแค่ไหน
                “แต่ว่า……..” ฉันทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าเขา มือทั้งสองข้างเอื้อมไปเช็ดน้ำตาให้เขาเบาๆเทสึยังคงสะอึกอยู่เหมือนเดิม โธ่~น่าสงสาร ^^
                 “เทสึ อย่าร้องไห้สิ” ฉันปลอบเขา ใบหน้าเหลายังคงมีน้ำตาคลอ เขาเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้ก่อนจะหลับตาลง ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นยังคงเงียบ ฉันได้ยินเสียงร้องไห้ด้วยล่ะ อะไรจะอินขนาดนั้น
                “รู้อะไรมั้ยเทสึ? ว่าทำไมฉันถึงไม่ชอบนาย” ฉันเอ่ยถามคนตรงหน้า เขาส่ายหน้าและดูเหมือนจะไม่อยากรับรู้ความจริงข้อนั้นด้วย เสียใจฉันต้องการให้นายรับรู้ความจริงข้อนั้น!
                “นั่นก็เพราะว่า……” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ เทสึก็แทรกขึ้นมาก่อน
                “ฉันไม่อยากรับรู้ความจริงข้อนั้น! อย่าพูดมันออกมานะโนริ! ฉันไม่อยากได้ยิน!!” เขาเอามือปิดหูตัวเองแน่น ให้ตาย!เขางอแงอีกแล้ว
                 “แต่นายตั้งฟังเทสึ! นายต้องฟัง แล้วยอมรับความเป็นจริง!” ฉันแกะมือของเขาออกจากหูของตัวเอง แต่มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ! ช่วยไม่ได้
                 “ฉันไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น! ฉันไม่อยาก….” ก่อนที่เขาจะพูดอะไรไร้สาระไปมากกว่านี้ ฉันก็ปิดปากเขาด้วยจูบเข้าให้ ฉันไม่สนว่าจะมีคนอยู่เยอะแค่ไหน ฉันสนแค่เขาคนเดียวเท่านั้น
                ฉันค่อยๆถอนปากออกก่อนจะมองใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้ได้แต่กระพริบตาปริบๆอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง อะไรจะขนาดนั้น
                “พร้อมรับรู้ความจริงข้อนั้นหรือยัง?” ฉันถามเริยกสติเขา เขาพยักหน้าอย่างจำใจ ก่อนจะก้มหน้าลงไหนบอกพร้อมไง
                “ที่ฉันไม่ชอบนายก็เพราะว่า…..”
                 “……”
                 “เพราะว่า ฉันรักนายไงล่ะ รักมาก และจะรักตลอดไปด้วย” เทสึเงยหน้าขึ้นมามองฉันทันที เหมือนต้องการจะบอกว่า พูดอีกทีซิ
                “ฉันบอกนายว่า ที่ฉันไม่ชอบนายก็เพราะว่าฉันรักนาย รักมาก และจะรักตลอดไป” ฉันย้ำคำพูดของตัวเอง เทสึดึงฉันเข้าไปกอดทันที ตัวเขาสั่นเล็กน้อยเพราะความกลัว กลัวว่าฉันจะพูดอีกอย่างที่ไม่ใช่แบบนี้
                “โนริ คราวหน้าคราวหลังอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ ฉันกลัว” เสียงของเขาสั่นเครือ ฉันเล่นแรงไปหรือเปล่า?
                 “อืม ฉันรักนายนะเทสึ”
                “ฉันก็รักเธอ รักมาก และจะรักตลอดไป”

                  หลังจากวันนั้นที่เราบอกรักกันจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสองเดือนเข้าให้แล้ว และวันนี้เป็นวันหมั้นของเราด้วย อะไรจะเร็วขนาดนั้น
                งานหมั้นของเราจัดที่สวรรค์ก่อนเป็นอันดับแรก ฉันที่ตอนนี้อยู่ในชุดแต่งงาน(ก็ท่านแม่อยากให้ใส่ชุดนี้ -_-^^) กำลังเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง ออ!ความจริงงานหมั้นของเราเสร็จแล้วล่ะ ที่เหลือก็มีแค่ดื่มน้ำทิพย์ที่พ่อแม่ของแต่ละฝ่ายเป็นคนปรุงเพื่อที่พีธีจะได้เสร็จสิ้น ซึ่งตอนนี้ท่านพ่อกับท่านแม่ของฉันกับเทสึก็กำลังปรุงอยู่ แล้วไอ้ที่ฉันเดินไปเดินมาอยู่เนี่ย ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะกินน้ำอะไรนั่นเร็วๆหรอกนะ แต่เพราะสายตาของคู่หมั้นที่มองมานั่นต่างหากที่ทำให้ฉันนั่งไม่ติด สายตาเขาไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
                “เลิกเดินได้แล้วน่าวอลต์ มานั่งนี่มา” ไลค์(มันเป็นชื่อเล่นของชื่อเทพของเขาน่ะ) ตบเตียงที่ว่างอยู่ข้างๆเขาเป็นเชิงให้ฉันนั่งลงข้างๆเขา ขืนนั่งลงฉันก็เสร็จเขาน่ะสิ!
                “ไม่เอาอ่ะ” ฉันส่ายหัวพึบพับทันที แต่คนอย่างไลค์น่ะหรอจะอยู่เฉยๆเมื่อโดนขัดใจ เขาเดินมาประชิดตัวฉันอย่างรวดเร็วก่อนจะรวบตัวฉันเอาไว้ในอ้อมกอด
                “ไลค์! ปล่อยนะ! เกิดมีคนมาเห็นมันจะดูไม่ดีนะ!” ฉันดิ้นพรวดพราดไปมาในอ้อมกอดของเขา บางทีฉันอาจจะสบายใจกว่านี้ถ้าชุดที่กำลังใส่อยู่ไม่ออกแนวยั่วแบบนี้น่ะ!
                ใบหน้าเหลาหันมาหอมแก้มฉันฟอดใหญ่พลางทำหน้าล้อเลียนฉันที่ตอนนี้เขินจนแทบบ้า >///<
                 ก็อกๆ!
                 เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ไลค์เลยปล่อยมือออกจากฉันแล้วเดินไปเปิดประตู ซึ่งคนที่เข้ามาคือท่านพ่อกับท่านแม่ของฉันกับไลค์นั่นเอง
                “เอ่อ ลูกรัก พ่อมีเรื่องจะบอก” ท่านลุง ไม่สิท่านพ่ออพอลโล่พูดเสียงเครียด เกิดอะไรขึ้น?
                 “มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอพะยะค่ะ?” ไลค์ถามเสียงตื่น ฉันเองก็ตกใจเหมือนกัน พวกท่านมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด หรือว่า พิธีหมั้นของเรามีการผิดพลาด! งั้นแสดงว่าฉันไม่ต้องหมั้นน่ะสิ!! ^O^
                ไลค์หันมาจ้องฉันเขม็งเมื่อฉันคิดดังเกินไป อะไรอ่ะ ก็คนมันดีใจนี่นา อีกอย่างฉันยังไม่พร้อมที่จะหมั้นหรือแต่งงานตอนนี้ด้วย
                “พิธีหมั้นของลูกสองคนเกิดการผิดพลาด” ท่านแม่เอ่ยขึ้น ถ้าฉันตาไม่ฝาด แววตาของท่านแม่ไม่ได้ดูเสียใจเลยนะ มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆถ้าท่านแม่มีแววตาอย่างนี้
                “แล้วยังไงต่อเพคะ?” ฉันเอ่ยถามอย่างสนใจ ถ้าพิธีหมั้นผิดพลาด มันต้องไม่ใช่เรื่องดีสิ แล้วทำไมทั้งสี่ท่านถึงได้ดูมีความสุขชอบกล
                 “พิธีที่เราทำไปมันไม่ใช่พิธีหมั้นแต่เป็น…..” อย่าบอกนะว่า….
                “พิธีแต่งงาน ^^” ว่าไงนะ!!
                “ท่านแม่ว่าไงนะ!!!!” ฉันถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ไอ้พิธีเมื่อกี้ไม่ใช่พิธีหมั้นแต่เป็น….
                “พิธีแต่งงาน ชัดมั้ยคุณภรรยา” ไม่จริงน่า ไลค์โกหก ทุกคนล้อเล่นใช่มั้ย?
                 “ท่านพ่อ ท่านแม่พะยะค่ะ ดูท่าว่าวอลต์จะยังช็อคอยู่ถึงได้ไม่ยอมเชื่อว่าพิธีเมื่อกี้เป็นพิธีแต่งงาน ไม่ใช่พิธีหมั้น” ไลค์หันไปพูดกับท่านพ่อท่านแม่ โอ๊ย!! ไม่ไหวอ่ะ T^T
                “วอลต์ ตั้งสติหน่อยลูก” ท่านแม่ตบหน้าฉันเบาๆเพื่อเรียกสติ ฉันกระพริบตาปริบๆก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงว่าฉันยังปกติ เหอะๆนี่แสดงว่าฉันมีสามีตั้งแต่อายุสิบแปดเลยหรอเนี่ย! ไวไฟชะมัด
                “วอลต์ นี่กี่นิ้ว?” จู่ๆไลค์ก็ชูสองนิ้วให้ดู ฉันยังปกติดีย่ะ!
                 “สองนิ้ว ถามทำไม?” ฉันหันไปถามคนข้างตัวที่ชักจะปัญญาอ่อนเข้าไปทุกที
                “เช็คความผิดปกติของสมองน่ะ” เขาตอบเหมือนเป็นเรื่องที่สมควรทำ อยากตายตั้งแต่เพิ่งแต่งงานเสร็จหรือเปล่า?
                “ลูกทั้งสองคงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย? ถ้าเราจะบอกว่าลูกทั้งสองคนเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎของสวรรค์และกฏหมายของมนุษย์”  ท่านแม่เอ่ยถามเพื่อความมั่นใจว่าเราสองคนไม่มีปัญหา ทำไงล่ะ ก็ในเมื่อมันกลับไปแก้ไข้อะไรไม่ได้แล้ว
                “ไม่มีปัญหาเพคะ/ไม่มีปัญหาพะยะค่ะ”  
                “ถ้าเช่นนั้นพ่อกับแม่ก็ขออวยพรให้ลูกทั้งสองมีความสุข มีอะไรก็ค่อยๆพูด ค่อยๆจากันนะลูก เอาล่ะ ได้เวลาส่งตัวลูกทั้งสองเข้าหอแล้ว”  เวลาประหารมาถึงซะแล้ว
                 เมื่อส่งตัวเข้าหอเสร็จ ท่านพ่อและท่านแม่ก็กลับไป ทิ้งฉันไว้กับสามีจอมเจ้าเล่ห์ที่ฉันอยากจะฆ่าเขานัก
                “ไม่ต้องมามอง อย่าคิดที่จะเข้าใกล้ฉันเชียวไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน” ฉันชี้หน้าออกคำสั่งเรียบร้อยก่อนจะเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนเพราะตอนนี้มันก็หกโมงเย็นเข้าไปแล้ว ง่วงอ่ะ
                “แล้วจะให้ฉันนอนไหนอ่ะ ไม่เอาน่าวอลต์ อย่าทำอย่างนี้สิ” ไลค์ทำท่าจะเข้ามากอดฉันแต่ฉันชี้หน้าสั่งให้เขาหยุด ซึ่งเขาก็หยุดแต่โดยดี
                “นอนบนเตียงนั่นแหละ คนละครึ่ง ห้ามล้ำเส้นด้วย” ฉันเอาหมอนข้างมาขั้นกลางเพื่อแบ่งที่นอน ถึงแม้เราจะแต่งงานแล้วก็เถอะแต่ฉันยังไม่ชินนี่นา
                “เอาอย่างนั้นก็ได้ แต่วอลต์ เรายังไม่ได้กินน้ำทิพย์กันเลยนะ” ไลค์เตือนในสิ่งที่เราต้องทำเป็นอย่างสุดท้าย อ้าว?ไหนบอกว่าพิธีมันผิดพลาดไง ไม่เห็นต้องกินเลย
                “ไม่ใช่อย่างนั้นนะวอลต์ น้ำทิพย์ต้องกินทุกพิธี โดยเฉพาะพิธีแต่งงาน” เขาอธิบาย อ๋อ~อย่างนั้นเองหรอกหรอ?
                 “แต่มันมีขวดเดียวนี่นา” ฉันพึมพำ ก็มันมีขวดเดียวอ่ะ จะกินยังไงให้ได้สองคน นอกจาก….
                 “ไลค์ นายไม่คิดที่จะ…. ทำเหมือนที่เคยทำกับฉันใช่มั้ย?” ฉันก้าวถอยหลังทันทีเมื่อเขาดื่มน้ำทิพย์รวดเดียวจนหมด ว่าแล้วว่าเขาตั้งใจที่จะทำแบบนี้! ซวยแล้วไง!!
     “กรี๊ดดดดด!!!”  ฉันกรีดร้องอย่างตกใจเมื่อไลค์คว้าฉันเอาไว้จากด้านหลัง ก่อนที่เราสองคนจะล้มลงบนเตียง ฮื่อๆ ฉันยังไม่พร้อมเลยนะ!! T^T
                “ดะ เดี๋ยว! จะไม่ให้ฉันเตรียมตัวเตรียมใจเลยหรือไง”  ฉันเอามือยันคางเขาไว้ แต่เขาก็รวบมือฉันเอาไว้เหนือหัว มืออีกข้างที่ว่างก็เชยคางฉันขึ้น หัวใจฉันแทบหยุดเต้นเมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้น ดวงตาของเขาช่างมีเสน่ห์ ชวนให้ตกหลุมพลางที่เขาสร้างไว้ ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆโน้มลงมาจนริมฝีปากเราชิดกัน จูบของเขามันเต็มไปด้วยความอ่อนหวาน อ่อนโยน หากแต่เร่าร้อน รสชาติหวานๆของน้ำทิพย์ค่อยๆไหลเข้าสู่ลำคอช้าๆ ไม่นานไลค์ก็ถอนปากออก แต่ดูท่าว่าเขายังเสียดายไม่น้อยที่ต้องถอนปากออกน่ะ
                 “อร่อยมั้ย?”  เขาถามพลางส่งยิ้มกวนๆมาให้ 
                “บ้าสิ!”  ฉันทุบอกเขาเบาๆก็คนมันเขินอ่ะ มาถามแบบนี้ฉันไม่เอาคฑาฟาดหัวเขาก็บุญแล้ว
               “โนริ วันนี้ฉันยังไม่ได้บอกอะไรบางอย่างกับเธอเลยนะ” จู่ๆไลค์ก็พูดขึ้น บอกอะไรบางอย่าง อะไรอ่ะ?
                “เรื่องอะไรอ่ะ? นายยังมีเรื่องที่ปิดบังฉันอีกหรอ?” ฉันถามกลับ ถ้าเขามีเรื่องปิดบังฉันจริงๆล่ะก็ น่าดู
                “เปล่า แค่อยากว่า…..ฉันรักเธอนะ รักมาก ฉันจะรักเธอตลอดไป ตลอดกาลและชั่วนิรันดร์” จบคำเขาก็โน้มหน้าลงมาจูบฉันอีกครั้ง เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความรัก คำสัญญาว่าเขาจะรักฉันตลอดไป
                “ฉันเองก็รักนาย รักมาก ฉันจะรักนายตราบจนความตายจะมาพรากเราจากกัน”

                ถึงแม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราสองคนอาจจะทะเลาะกันบ้าง โกรธกันบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเราสองคนก็รักกันมาก เฮ้อ~ไม่คิดเลยนะ ว่าคนอย่างฉันจะได้แต่งงานกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง  คนที่คอยอยู่เคียงข้างฉัน คอยเป็นกำลังใจให้ฉัน คอยอยู่เป็นเพื่อนเวลาที่ฉันไม่มีใคร เขาคือคนที่วิเศษที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา เขาคือคนที่ทำให้ฉันใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเจอหน้า เป็นคนที่ฉันคอยคิดถึงตลอดเวลาเมื่อเวลาเขาไม่อยู่ และเป็นคนที่….ฉันรักมากที่สุด

               ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปสักกี่ร้อยกี่พันปี ฉันก็ยังรักนายเหมือนเดิมนะ ฉันจะรักนายจนกว่าโลกนี้จะถึงซึ่งกาลดับสูญ ฉันจะรักนายจนกว่าความตายจะมาพรากเราสองคน

               ฉันรักนายนะ…..เทพบุตรสุดที่รักของฉัน……

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา