ก๊วนเทพวัยใสป่วนหัวใจให้ตกหลุมรัก

-

เขียนโดย เจ้าหนอน

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.37 น.

  19 ตอน
  1 วิจารณ์
  18.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 17.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) ตอนที่ 13

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                 Chota’s Talk
                 ผมมองร่างบางอย่างไม่เชื่อสายตา เธอยังสติดีหรือเปล่าถึงได้ขอให้โกเซนช่วยอะไรแบบนั้น ผมว่าบางทีเธออาจเหนื่อยจนนอนละเมอก็ได้
                “นะโกเซน ขอร้องล่ะ ช่วยลบความทรงจำระหว่างฉันกับเทสึที” โนริเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อเราสองคนยังคงเงียบ ผมกับโกเซนมองหน้ากันอย่างจนปัญญาไม่ใช่ว่าทำไม่ได้แต่ว่าไม่อยากทำต่างหากล่ะ
                 “คิดดูอีกทีดีกว่านะโนริ บางทีเธออาจจะยังไม่พร้อม….” ยังไม่ทันที่โกเซนจะพูดจบ โนริก็แทรกขึ้นมาก่อน
                 “ถ้าฉันไม่พร้อม ฉันจะขอให้ช่วยหรือไง หรือว่าพวกนายจะผิดสัญญาที่ให้ไว้กับฉัน” โนริมองเราสองคนด้วยสายตาผิดหวัง ให้ตายเถอะ!! ถ้ารู้ว่าเธอจะให้ช่วยอะไรแบบนี้ ผมไม่สัญญากับเธอแน่ๆ
                 ผมกระตุกแขนโกเซนเป็นเชิงว่า อย่าทำ เธอจะรู้มั้ยนะ ว่าเมื่อเธอลืมเทสึลืมไปแล้ว เธอจะไม่ได้ความทรงจำพวกนั้นกลับคืนมาอีก ตลอดกาล….
                “แต่เธอไม่มีทางได้ความทรงจำที่สร้างร่วมกับเทสึกลับคืนมานะ” ผมพยายามโน้มน้าวเธอให้เปลี่ยนใจเธอต้องเจ็บปวดที่จำคนรักของตัวเองไม่ได้
                 “ถ้าฉันอยากเก็บความทรงจำระหว่างหมอนั่นเอาไว้จริงๆ ฉันไม่ขอร้องพวกนายให้ช่วยลบความทรงจำฉันหรอก” เธอเอ่ยขึ้นเบาๆ ผมแน่ใจล้านเปอร์เซ็น ว่าโนริไม่อยากลืมเทสึ แล้วทำไมเธอถึงทำแบบนี้?
                 เราสามคนต่างคนต่างเงียบ ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่เปลี่ยนใจหรอ? ผมว่ามันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้สิ
                 “เธอแน่ใจแล้วหรอว่าอยากทำอย่างนี้?” คนข้างตัวผมถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ อย่าบอกนะว่า….
                 โนริพยักหน้าเป็นเชิงว่าเธอมั่นใจ แต่ผมดูออกว่าเธอไม่อยากทำมัน แววตาของเธอดูเศร้ากว่าที่เคยเป็น
                กึก!!
                 ผมคว้ามือโกเซนเอาไว้เมื่อหมอนั่นมันจะช่วยโนริจริงๆ แกคิดจะทำบ้าอะไรเนี่ย!!!
                “แกแน่ใจนะ ว่าจะช่วย?” ผมถามเสียงเรียบ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่คิดว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด
                “อืม แกไม่ต้องเป็นห่วง ฉันเชื่อว่าโนริอยากจะทำอย่างนี้จริงๆ” โกเซนจ้องเข้ามาในดวงตาของผม สุดท้ายผมก็ต้องปล่อยมือโกเซนออก แล้วอ้อมไปอยู่ด้านหลังโนริ
                 “พร้อมนะ?” ผมถามขึ้นเบา ๆโนริพยักหน้าเพื่อยืนยันว่าเธอพร้อมผมเลยวางมือลงบนบ่าเล็กของเธอ ก่อนร่ายเวทย์หลับใหล ร่างบางของโนริทรุดตัวลงในอ้อมกอดของผม โกเซนวางมือเหนือศีรษะโนริ ก่อนที่จะร่ายเวทย์ดึงความทรงจำระหว่างเทสึและเธอออกมา
                 ภาพที่เราสองคนเห็นอยู่ตรงหน้า คือภาพรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ที่โนริและเทสึต่างมอบให้กันและกัน เป็นภาพที่น่าเก็บไว้เป็นความทรงจำ แต่ในเมื่อเธอเลือกที่จะลืมเขา เราสองคนก็ต้องลบความทรงจำของเธอเกี่ยวกับเทสึให้หมด ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบัน
                 ภาพตรงหน้าค่อยๆเลือนหายไปตามจังหวะการร่ายเวทย์ของโกเซน จนกระทั่งมันหายไปในที่สุด
                ผมอุ้มร่างบางไว้ในอ้อมแขนก่อนจะวางเธอลงบนเตียง เธอจะปวดหัวไปสักสองสามวันเพราะความทรงจำที่ลบไปมันก็มากอยู่เหมือนกัน ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าโกเซนมันลบหมดหรือเปล่า
                 “แกลบหมดป่ะว่ะ??” ผมเอ่ยถามเพื่อนตัวเองที่หอบหายใจพลางเอามือกุมหน้าอก ผมเลยเดินไปพยุงมันกลับห้อง
                “อืม ถ้าความทรงจำยัยนั่นกลับมาจริงๆก็ไม่ได้เป็นเพราะฉันลบไม่หมดหรอก” โกเซนพูดพลางเอนตัวลงนอน หมายความว่าไง?
                 “ถ้าไม่เป็นเพราะแกลบความทรงจำไม่หมด แล้วมันเป็นเพราะอะไร??”  ผมถามกลับ
                 “มันก็เป็นเพราะ ยัยนั่นไม่อยากลืมเทสึมันน่ะสิ แต่เอาเถอะ จะจำได้หรือไม่ มันก็ไม่เกี่ยวกับเราสองคนหรอก” ผมพยักหน้าเข้าใจ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้เธอจำเรื่องของเทสึได้ เพราะไม่งั้นคนที่เจ็บปวดก็คือเขาสองคน
                “ว่าแต่ เรานอนกันเถอะ เพื่อนเลิฟ~” โกเซนทำเสียงออดอ้อนก่อนจะดึงผมลงไปนอนด้วย เฮ้ยๆ!! แกไม่ได้คิดอะไรกับฉันใช่มั้ยเนี่ย!!!
                 “แกปล่อยฉันเลย ฉันจะไปนอนข้างล่าง” ผมทั้งถีบทั้งดันโกเซนที่กอดผมแน่น ฉันคนนะโว้ย! ไม่ใช่หมอนข้าง!!
                 “จะลงไปนอนทำไมข้างล่าง เย็นจะตายชัก นอนด้วยกันนี่แหละอุ่นดี ^^” ยังจะมายิ้ม เกิดโนริเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาเจอมันจะเกิดอะไรขึ้น!!
                 “อุ่นไปคนเดียวเหอะ ปล่อยเฟ้ย! จะไปนอนข้างล่าง” ผมเอามือดันหน้าโกเซนที่ยื่นมาหาผมจนจะจูบกันอยู่แล้ว
                 ทุกคนอย่าเพิ่งจิตนาการไปไกล ที่โกเซนมันทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เราสองคนก็เล่นกันแบบนี้ประจำ ซึ่งส่วนใหญ่คนรุกก็จะเป็นโกเซน ส่วนผมก็ต้องยอมมันอยู่เรื่อย เพราะมันไม่ยอมปล่อยผมง่ายๆแน่จนกว่าผมจะยอมมัน -_-^^
                “แหม~ที่รักขา~ วันนี้เซนไม่ทำรุนแรงหรอกนะ จะจัดให้นุ่มนวลที่สุดเท่าที่เคยลองมาเลยนะค่า~ มามะที่รักมาให้เค้าจูจุ๊บหน่อยเร็ววว~” 
                พลั่กกกกกก!!!! โครมมมมม!!!!
                อวัยวะที่เรียกว่าเท้าของผมยันโครมเข้าให้ที่บั้นท้ายของโกเซน จนมันไปจูบกับพื้นเป็นที่เรียบร้อย อยากจูบนักใช่มั้ย จูบกับพื้นไปเลยไป๊!!
                “โอ๊ยยยยย!! ไอ้บ้าโชตะ!! ล้อเล่นนิดเดียวเอง ไม่เห็นต้องใช้กำลังกันเลย” โกเซนร้องโอดโอยเมื่อโดนบาทาผมเข้าให้ สมน้ำหน้า!!
                “ใครใช้ให้แกล้อเล่นอะไรน่าขนลุกแบบนั้นเล่า!! แค่นี้ยังน้อยไป”  เล่นอะไรน่าขนลุกขนาดนี้ผมคงเล่นด้วยหรอก
                 “นอนข้างล่างไปเลย ไม่ต้องขึ้นมานะ ถ้าขึ้นมาแกโดน”  ผมชี้หน้าคาดโทษโกเซนเอาไว้ ก่อนจะล้มตัวลงนอน ง่วงๆๆ ฮ้าวววว~Zzzzz –O-

                 พลั่กกกกก!!!
                “โอ้ยยยยยย!!! แกถีบฉันทำไมเนี่ย!!!” ผมร้องโอดโอยเมื่อโกเซนมันถีบผมตกเตียง เป็นเช้าที่เท่าไหร่แล้วที่ผมต้องตื่นมาพร้อมกับความเจ็บปวดแบบนี้เนี่ย!!!
                “ก็ฉันปลุกแกตั้งนานแล้วยังไม่ลุกอีกนี่หว่า จะว่าไปมันก็ดีเหมือนกันนะ ฉันจะได้ออกกำลังกายตอนเช้าด้วยไง ^^” 
                “อยากออกกำลังกายมากใช่มั้ย? ถ้างั้นแกอย่าอยู่เลยยยยย!!!”  ผมไล่เตะโกเซนทั่วบ้านส่วนมันก็วิ่งหนีพลางล้อผมที่กลายเป็นหมาบ้าไปแล้ว แกตายยยยยยย!!!!!!!!!
                “นายสองคนทำอะไรกันน่ะ??” เสียงหวานดังขึ้นขัดจังหวะการไล่ล่าของผม เราสองคนหันไปทางต้นเสียงก็เจอโนริยืนกุมขมับที่ประตูห้อง
                “เราสองคนทำให้เธอตื่นหรือเปล่า??” โกเซนถามขึ้น โนริส่ายหน้าก่อนจะเดินมาหาเราสองคน ผมจึงไปพยุงเธอแล้วพาไปชั้นล่าง
                “แผลเป็นยังไงบ้าง?” ผมถามก่อนจะสำรวจแผลที่โดนแทงของเธอ
                “ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ขอบใจมากนะ” โนริส่งยิ้มมาให้ เราสองคนจึงสบายใจไปเปลาะหนึ่ง
                 เราสามคนนั่งทานอาหารเช้าร่วมกันก่อนจะพาโนริไปสูดอากาศบริสุทธิ์นอกบ้าน โดยพาไปที่ไทรแองเจิล สถานที่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ และธรรมชาติ ผมคิดว่าเธอน่าจะอาการดีขึ้น เลยเลือกพามาที่นี่
                 “ว้าววววว~ สวยจังเลย ไม่น่าเชื่อว่าที่สุดขอบโลกมนุษย์จะมีที่สวยๆแบบนี้ด้วย” โนริหมุนตัวไปมาท่ามกลางดอกไม้นานาชนิด พอเห็นภาพแบบนี้แล้ว มันก็ชวนให้นึกถึงนางฟ้าตัวน้อยๆที่บินว่อนไปมาเหนือฟากฟ้า น่ารักจัง ^^
                “อย่าขยับตัวให้มากนักสิ เดี๋ยวแผลก็ฉีกหรอก” โกเซนปรามโนริที่ยังคงหลงใหลในมวลดอกไม้ จนโกเซนต้องจับให้อยู่นิ่งๆ เป็นผู้หญิงที่เหมือนเด็กจริงๆเลย
                 “มาที่สวยๆทั้งทียังจะให้อยู่นิ่งๆอีกหรอ ไม่เอาน่าทำแบบนั้นฉันก็เบื่อแย่สิ” โนริงอแงก่อนจะลากผมกับโกเซนไปเดินเล่น เอาเถอะๆตามใจสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน
                เราสามคนเดินไปที่น้ำตกสีรุ้ง รอบน้ำตกเต็มไปด้วยต้นไม้หายากและพบเพียงที่นี่เท่านั้น มีสัตว์น้อยใหญ่มากมายต่างก็มากินน้ำที่นี่ อะแฮ่ม!! ทุกคนอย่าคิดไปไกลว่าน้ำตกสีรุ้งมันจะมีเจ็ดสีจริงๆ มันก็เหมือนน้ำตกทั่วไปแหละครับ เพียงแต่มันวิเศษกว่าน้ำตกธรรมดา
                โนริเอามือกวักน้ำขึ้นมาเล่น แต่ไม่วายสาดน้ำใส่ผมกับโกเซนอีก แต่ถึงแม้เราจะสาดคืนเธอก็ไม่เปียกอยู่ดี เพราะเธอเอาน้ำมาเป็นเกราะป้องกันน่ะสิ เสียเปรียบอ่ะ T^T
                “อย่าทำแบบนั้นเซ่! เราสองคนเสียเปรียบนะ!” โกเซนโวยวายที่ไม่สามารถเอาชนะโนริได้ ซึ่งเธอก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยอมหยุดเล่นแต่โดยดี
                “ไม่อยากไปโรงเรียนเลยอ่ะ อาจารย์ต้องบ่นหูชาแน่ๆที่ฉันหายไปโดยไม่บอกกล่าวอย่างนี้น่ะ” โนริบ่นพลางนั่งลงบนโขดหินข้างน้ำตก ส่วนผมกับโกเซนก็ลงมาลอยคออยู่ในน้ำตกเป็นที่เรียบร้อยด้วยฝีมือโนริที่โยนเราสองคนลงมา -_-^^
                 “ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปสิ ไม่มีใครเขาว่าเธอซะหน่อย” โกเซนพูดขึ้นพลางปีนไปนั่งบนก้อนหินที่อยู่ข้างๆตัวเอง
                “ถ้าทำแบบนั้นได้ฉันทำไปแล้ว เอาเถอะๆยังไงก็ต้องไปอยู่ดี” โนริบอกปัดพลางผลักโกเซนลงน้ำอีกรอบ หมอนั่นโวยวายใหญ่เลยก่อนจะลากโนริลงมาด้วย
                 เราสามคนเล่นน้ำพลางไล่จับกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ความจริงมีแค่ผมกับโกเซนมันเท่านั้นแหละที่ไล่จับกันอยู่ ส่วนโนริก็ไปนั่งหัวเราะคิกคักบนก้อนหินโน้น~ ไปนั่งอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่??
                เมื่อเล่นกันจนพอใจแล้วเราก็ไปส่งโนริที่บ้านของเธอ เพราะเอาลูกสาวเขามากักขังจนจะเข้าวันที่สองอยู่แล้ว อีกอย่างเทสึ หมอนั่นคงไม่พอใจเท่าไหร่ที่พาว่าที่ภรรยาในอนาคตของตัวเองมากักขังแบบนี้ -_-^^
                 “เจอกันที่โรงเรียนนะ โกเซน โชตะ” โนริบอกลาเราสองคนก่อนจะเดินเข้าบ้านไป เราสองคนเลยกลับมาบ้านตัวเองเพื่อบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หวังว่าคงไม่เรื่องที่น่าเป็นห่วงให้กังวลอีกนะ

                 ฉันทำหน้าสงสัยทันทีเมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วเจอผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก ใครกันนะ?
                “คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?” แม่บ้านคนหนึ้งเดินไปถามเขาคนนั้น ดูจากข้างหลังเขายังหล่อเลย แต่รู้สึกไม่ถูกชะตายังไงไม่รู้
                ฉันเดินกลับขึ้นห้องเพราะรู้สึกเหนื่อย คงเป็นเพราะฉันไปเที่ยวเล่นกับสองหนุ่มนั่นแหละมั้ง ก็ดูที่ที่สองคนนั้นพาไปสิ มันน่าวิ่งเล่นจะตาย ใครจะไปอยู่เฉยได้ล่ะ
                 “กลับมาอย่างปลอดภัยสินะ” เมื่อเข้าห้องมาฉันก็เจอกับเพื่อนอีกคนที่คอยช่วยเหลือฉันตอนไปนรก เบิร์น ฟินิกส์…..
                “แน่นอน ขอบใจมากนะที่คอยช่วยน่ะ” ฉันเข้าไปกอดเธอเอาไว้ซึ่งเธอก็กอดตอบมาเมื่อโล่งใจที่ฉันสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้จะเกือบตายก็เถอะ T^T
                “ฉันเป็นห่วงแทบแย่กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปซะแล้ว” เบิร์น ฟินิกส์พูดพลางทำสีหน้าโล่งใจ ฉันไม่ตายง่ายๆหรอกน่า
                 “ว่าแต่ เธอไม่คิดที่จะกลับร่างมนุษย์เลยหรือไง เจอกันที่ไรเธอชอบมาในร่างนี้ทุกที” ฉันบ่นอย่างเอือมๆอย่างน้อยก็น่าจะมาในร่างปกติบ้างสิ
                 “อยากเห็นหรอ?” เบิร์น ฟินิกส์เอียงคอถามอย่างน่ารัก กรี๊ด!! ยัยนี่ทำแบบนี้แล้วน่ารักอ่ะ ^^
                 “อยากสิ เร็วๆเลย เปลี่ยนร่างเดี๋ยวนี้เลยนะ” ฉันเร่ง เธออมยิ้มนิดหน่อยก่อนที่จะทำตามที่ฉันขอ
                 วิ้งๆๆๆ!
                ร่างของเบิร์น ฟินิกส์ค่อยๆเปลี่ยนไปที่ละนิด จนสามารถเห็นรูปร่างหน้าตาตอนเป็นมนุษย์ของเธอได้อย่างชัดเจน
                “นึกแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้จริงๆด้วย” ฉันเอ่ยขึ้น ดวงตาสีกรมหันมามองฉันอย่างสงสัย
                “….??”
                “ก็ฉันพอจะรู้แล้วว่าเธอกับโซโซ เมโลดี้เป็นคนคนเดียวกัน” ฉันเฉลย โซพยักหน้าก่อนจะถามขึ้น
                “แล้วเธอหายไปไหนมาตั้งสองอาทิตย์ ทุกคนเป็นห่วงเธอมากเลยนะ โดยเฉพาะเทสึ หมอนั่นใกล้จะขาดใจอยู่ร่อมร่อแล้ว” โซพูดขำๆเมื่อพูดถึงคนที่ชื่อเทสึ
                 “เทสึ? ใครหรอ?” เมื่อจบคำถาม โซถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน อะไรของยัยนี่?
                 “อย่ามาล้อฉันเล่นน่าโนริ เธอถามอะไรของเธอเนี่ย?” โซถึงไปเหงื่อแตก เมื่อฉันถามคำถามที่ควรถามออกไป
                 “ใครจะมีอารมณ์มาล้อเล่น ก็ฉันไม่รู้นี่นาว่าใครชื่อเทสึ แล้วเขาเป็นใครหรอ?” ฉันถามย้ำอีกครั้ง โซมองหน้าฉันอย่างสงสัยปนประหลาดใจ ทำไมมองฉันอย่างนั้นล่ะ?
                “โนริ เธอเป็นอะไรไปน่ะ? โดนทำร้ายจนความจำเสื่อมไปแล้วหรอเพื่อนฉัน!” โซถึงกับพุ่งเข้ามาสำรวจฉันทันทีที่ตัวเองตกใจเสร็จ ใครความจำเสื่อมกันย่ะ!!
                “เฮ้ๆ! ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย เธอพูดบ้าอะไรเนี่ย” ฉันแกะมือโซที่ตอนนี้จับหน้าฉันหันซ้ายหันขวาอย่างไม่เชื่อสายตา การที่ฉันไม่รู้จักใครสักคนมันเป็นเรื่องที่น่าตกใจขนาดนี้เลยหรอ?
                “เธอต่างหากเป็นบ้าอะไร เทสึเขาเป็นเพื่อนสนิทเธอนะ! อย่ามาอำฉัน แล้วก็ไม่ต้องมาทำแกล้งลืมเทสึเลยนะ!” โซขึ้นเสียง ฉันไม่รู้จักเขา ไม่ใช่ว่าลืมเขาสักหน่อยยัยบ้า!
                “ก็ฉันไม่รู้จักเขาจริงๆ เธอมองตาฉันสิว่าฉันโกหกหรือเปล่า” ฉันจับเพื่อนตัวดีให้หันมามองฉัน โซถึงกับนิ่งไปเลยทันทีเมื่อพบว่าฉันไม่ได้โกหก
                 “โนริ เธอ….จำเขาไม่ได้จริงๆหรอ?” โซถามเสียงแผ่ว ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าคนที่ชื่อเทสึเป็นใครกันแน่ ยัยนี่ถึงได้พูดเหมือนกับว่าฉันกับเขาสนิทกันมากขนาดนั้น
                “ฉันว่าฉันไม่รู้จักเขามากกว่า สรุปแล้วเขาเป็นใครอ่ะ?” ฉันถามย้ำ โซกลืนน้ำลายคงคออย่างยากลำบาก เป็นอะไรไปอ่ะ?
                 “นี่เธอ….” โซเงียบไปอีกครั้งก่อนจะมีสีหน้าเป็นกังวล มองฉันอย่างไม่เชื่อสายตา ก็บอกแล้วว่าอย่ามองฉันแบบนั้น
                “ไม่มีอะไรหรอก เธอพักผ่อนเถอะ ฉันไม่กวนแล้ว” โซเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย อ้าว?มาทำให้อยากแล้วจากไปได้ไงอ่ะ ไอ้เพื่อนนิสัยไม่ดี!
                “ก็ดีเหมือนกัน กลับดีๆนะ ^^” ฉันส่งยิ้มให้เพื่อนที่ตอนนี้ดูจะซึมไปเลย เป็นอะไรน่ะ?
                โซสยายปีกสีดำออกก่อนที่บินออกไปทางหน้าต่าง ฉันเลยไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะเดินลงมาชั้นล่างเพื่อหาอะไรทาน ถึงแม้ฉันจะไม่หิวก็เถอะ
                เมื่อลงมาที่ชั้นล่างฉันก็ไม่เจอใครเลย ไปไหนหว่า???
                ฉันเดินไปที่ห้องครัวซึ่งเจอผู้ชายคนหนึ่งกำลังทำอาหารอยู่ ผู้ชายที่ฉันเจอก่อนจะกลับขึ้นห้องหนิ เขาเป็นใครน่ะ? แล้วทำไมถึงได้ไปทำอาหารล่ะ ดูจากการแต่งตัวแล้ว เขาไม่น่าจะใช่พ่อครัวหรือพ่อบ้านเลยนะ ออกจะเป็นผู้ดีด้วยซ้ำ
                คนที่ฉันพูดถึงเขามีผมสีทองสว่าง สูงกว่าฉันเป็นคืบ ดูแล้วคงจะเพลย์บอย เจ้าชู้น่าดู ก็ในขณะที่เขากำลังทำอาหารเขายังคุยโทรศัพท์ หยอดคำหวานเฉยเลย เห็นแล้วไม่สบอารมณ์เลยแฮะ เป็นอะไรไปนะฉัน?
                “ทำอะไรน่ะ??” ฉันเอ่ยถาม เขาคนนั้นหันมามองฉันก่อนจะชูทัพพีให้ดู
                “ก็ทำอย่างที่เคยทำปกติไง ^^” เขาส่งยิ้มมาให้ ดวงตาสีมรกตฉายแววฉงนเมื่อฉันมองเขาเหมือนคนแปลกหน้า ก็แปลกหน้าจริงๆนี่นา
                “ปกติ? เราสองคนรู้จักกันด้วยหรอคะ”
                 เคร้ง!
                ทัพพีที่เคยอยู่ในมือของเขาถึงกับหล่นลงพื้นเหมือนช็อคกับคำตอบของฉัน ฉันทำหน้างงก่อนจะเดินไปหยิบทัพพีที่ตกพื้นขึ้นมาก่อนจะส่งคืนให้เขา
                 “คุยโทรศัพท์ตอนทำอาหารมันไม่ดีนะคะ เพราะฉะนั้นวางสายก่อนดีกว่าค่ะ” ฉันเตือนเขาด้วยความหวังดีก่อนจะเดินไปดูว่าเขากำลังทำอาหารอะไร ว้าว~ข้าวต้มกุ้งใส่สาหร่าย น่ากินจัง ^^
                 “ว้าว~ คุณเป็นคนทำหรอคะ น่าอร่อยจัง” ฉันหันไปส่งยิ้มให้คนข้างตัวที่ทำหน้าเหมือนยังช็อคไม่หาย เป็นอะไรของเขา?
                “คุณคะ เป็นอะไรหรือเปล่า?” ฉันโบกมือผ่านหน้าเขา ก่อนที่เขาจะกระพริบตาแล้วส่ายหน้า แปลกคน
                “โนริ….เธอจำฉันไม่ได้หรอ?” คนข้างตัวถามด้วยน้ำเสียงที่ตกใจปนเศร้า จำไม่ได้หรอ? ฉันว่าฉันไม่เคยเจอเขาด้วยซ้ำ
                “เอ๋? ทำไมถามอย่างนั้นล่ะคะ ฉันเพิ่งเคยเจอคุณเป็นครั้งแรกเองนะ” ฉันถามกลับอย่างงงๆ แววตาของเขาเหมือนเจ็บปวดเลย เขาเป็นอะไรไป??
                 “เอ่อ..ปะ เปล่าครับ ผมว่าเราไปทานอาหารดีกว่านะครับ” เขาเปลี่ยนเรื่องไปเฉยๆพลางส่งยิ้มมาให้ แต่รอยยิ้มของเขามันเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
                 เขาคนนั้นตั้งโต๊ะจัดเตรียมทุกอย่างโดยที่ผู้หญิงอย่างฉันได้แต่ดู เขาทำงานแบบนี้เป็นด้วยหรอ?
                “เชิญครับ คุณผู้หญิง” เขาเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่ง ฉันส่งยิ้มแทนคำขอบคุณไปให้ก่อนจะนั่งลง ส่วนเขาก็นั่งฝั่งตรงข้าม
                เราสองคนนั่งทานอาหารกันเงียบๆแต่ดูเหมือนคนตรงข้ามจะทานไม่ค่อยลง เพราะเขาเอาแต่มองฉันอย่างเดียว ฉันทำให้เขาอึดอัดหรือเปล่านะ?
                “โนริ” เขาเอ่ยเรียกฉันเบาๆ ฉันเลยเงยหน้าขึ้นมองเขา เรียกทำไมอ่ะ?
                “คะ?” ฉันถามอย่างงงๆ เรียกแล้วเงียบทำไมอ่ะ
                “เธอ….จำฉันไม่ได้…จริงๆหรอ?” เขาเอ่ยถามเป็นครั้งที่สอง อีกแล้วกับคำว่าจำไม่ได้หรอ? เขาเป็นใครกันนะถึงได้ถามแบบนั้น แถมเรียกฉันซะสนิทด้วย
                “จำไม่ได้? ฉันเคยรู้จักคุณอย่างนั้นหรอคะ?” ฉันวางช้อนลงพลางจ้องหน้าเขา ฉันมั่นใจว่าฉันไม่เคยเจอเขามาก่อนแน่ๆ ถ้าเคยเจอฉันก็ต้องรู้จักเขาสิ แต่นี่อะไร แม้แต่ชื่อฉันยังไม่รู้จักเลย
                 “เธออย่ามาล้อเล่นนะโนริ! ฉันไม่ตลกนะ!” เขาตวาด ฉันถึงกับสะดุ้ง ก็คนมันไม่รู้จักอ่ะ
                “คุณมองหน้าฉันสิ แล้วจะรู้ว่าฉันล้อเล่นหรือเปล่า” ฉันมองหน้าเขาและต้องการให้เขามองหน้าฉันด้วย ฉันไม่ได้โกหกจริงๆนะ! ฉันไม่รู้จักเขา และฉันก็มั่นใจมากด้วยว่าไม่เคยรู้จักเขามาก่อน
                 เขาถอนหายพลางลูบหน้าตัวเองเหมือนคนสิ้นหวังในชีวิต พลางมองฉันด้วยแววตาที่เจ็บปวดจนฉันเองก็เจ็บปวดไปด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร
                ฉันเอื้อมมือไปกุมมือเขาเอาไว้ ฉันไม่อยากให้เขาเป็นแบบนี้ เพราะอะไรกันนะ?
                “ถึงเราจะไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เราก็ทำความรู้จักกันได้นี่นา คุณอย่าเครียดนักสิ” ฉันเอ่ยขึ้นเบาๆหวังว่าเขาจะสบายใจขึ้น แต่มันกลับทำให้คนตรงหน้ารู้สึกเศร้าเหมือนเดิม
                “ถ้าเธอยังจำฉันไม่ได้แบบนี้ ฉันก็นึกไม่ออกจริงๆว่าจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง” เวลาผ่านไปเกือบห้านาทีเขาก็เอ่ยในสิ่งที่ไม่คาดคิด เขาพูดอะไรของเขาน่ะ?
                “คุณพูดอะไรของคุณน่ะ อย่าพูดแบบนั้นสิคะ” 
                “โธ่โว้ย! ใครเป็นคนทำแบบนี้กับเธอเนี่ย! ฉันจะไปฆ่ามัน!” จู่ๆเขาก็ลุกพรวดพลาดออกจากห้องทานอาหารไป เฮ้ยๆ!! ใครที่ไหนจะมาทำอะไรฉันห๊ะ! ตาบ้า! ฉันไม่รู้จักนายไม่ใช่ว่าลืมนายซะหน่อยนะ!!
                “คุณจะบ้าหรอ! ไม่มีใครทำอะไรฉันทั้งนั้น เราสองคนไม่เคยรู้จักกัน! ฉันไม่ได้ลืมคุณ แต่ฉันไม่เคยรู้จักคุณต่างหาก!” ฉันพยายามอธิบายให้เขาฟัง แต่ปัญหาคือเขาไม่ฟังเลยน่ะสิ!
                 “เธอลืมฉัน! เราสองคนรู้จักกันแล้วก็เพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแล้วด้วย!!” เขาตวาดก้อง เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กงั้นหรอ?
                “โอ๊ยยยย!!” ฉันกุมศีรษะเมื่อรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง เหมือนหัวจะระเบิดเลย!!
                 “โนริ!!” เขาทำท่าจะมาดูอาการฉัน แต่ความรู้สึกบางอย่างบอกว่าฉันต้องถอยห่างออกจากเขา ไม่งั้นฉันอาจต้องเจอกับความเจ็บปวดและความทรมาน ความรู้สึกนี่มันอะไรกัน!!
                “อย่ามาแตะตัวฉันนะ!!” ฉันตวาดออกไป ร่างสูงถึงกับชะงักค้างอยู่กับที่ ส่วนฉันก็ถอยห่างออกจากเขาทันที ไม่ไหว อยู่กับเขาแล้วฉันรู้สึกแปลกๆเหมือนกับว่าฉันกลัว กลัวว่าจะรู้ความจริงบางอย่างที่อยู่ลึกภายในจิตใจ มันคืออะไรกัน!!!
                “คุณกลับไปซะ แล้วอย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ฉันวิ่งกลับขึ้นห้องทันทีโดยไม่หันกลับไปมองร่างสูงที่ได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่เอาแล้ว ฉันอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ไม่ได้แล้ว!!
ปัง!
                ฉันปิดประตูอย่างแรงเหมือนจะเรียกสติตัวเองให้กลับคืนมาเข้าสู่ความเป็นจริง ตอนนี้ฉันบอกตัวเองได้แค่ว่า ต้องอยู่ห่างจากเขา เพราะยิ่งอยู่ใกล้ฉันก็ยิ่งสับสน วุ่นวาย แล้วก็กลัวไปหมด ให้ตาย! ฉันใกล้จะเป็นบ้าอยู่ร่อมร่อแล้วนะ!!

                Tetsu’s talk
                หัวใจของผมเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้นๆเมื่อพบว่าเธอคนนั้น…..ลืมผมไปแล้ว
                ผมมาหาโนริที่บ้าน แต่ไม่เจอเธอเลย จนกระทั่งเธอกลับมาแต่เหมือนเธอจะไม่เห็นผมอยู่ในสายตาเลยสักนิดถึงได้เดินผ่านผมขึ้นห้องไปเฉย
            ‘เราสองคนรู้จักกันด้วยหรอค่ะ?’
                คำถามที่เธอถามออกมามันเหมือนมีดที่กรีดลงกลางใจผม ทีแรกผมนึกว่าเธออาจจะล้อเล่น แต่ตราพันธะที่ถูกถอนไปบ่งบอกได้อย่างดีว่าเธอพูดจริง
                โนริอาจจะให้ใครบางคนลบความทรงจำของเธอเกี่ยวกับเรื่องของผม ซึ่งมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยเธอได้…
                 ….โกเซนยังไงล่ะ!!!
                 ผมอยากฆ่าหมอนั่นให้ตายคามือ แต่ถึงฆ่าไปโนริก็จำผมไม่ได้อยู่ดี เธอลืมไปหมดแล้ว ทุกเรื่องที่เราเคยทำร่วมกัน เธอ…ลืม…ไปหมดแล้ว….
                “เป็นไรไปว่ะเทสึ? แกดูซึมๆไปเลยนะ” คาโต้ถามขึ้น ตอนนี้เราอยู่ในผับหรูแห่งหนึ่งซึ่งมันเป็นคนชวนผมมา ผมที่มึนๆกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลยตอบตกลงอย่างมึนๆ
                “เปล่า”  ผมบอกปัด ก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากอย่างไม่รู้จักเมา ผมเหนื่อยเกินไปผมอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเพียงความฝันที่แสนเจ็บปวด พอตื่นทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ดูท่าว่ามันคงไม่เป็นอย่างนั้น
                เมื่อดื่มไปได้สักพักผมก็พบว่าตัวเองแทบทรงตัวไม่อยู่ นั่งคอพับคอเอียงอยู่ที่โซฟาโซน VIP แล้วผมจะกลับยังไง?
                “ไหวป่ะว่ะเทสึ เดี๋ยวฉันให้คนไปส่ง”  คาโต้ถามขึ้นเมื่อเห็นท่าไม่ดีเพราะผมไม่เคยดื่มหนักขนาดนี้ ผมเลยพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย ความจริงผมน่าจะกลับเองแล้วขับรถไปชนเสาไฟฟ้าตายดีกว่า ผมไม่อยากอยู่โดยที่ไม่มีโนริ ถึงแม้เธอจะอยู่ แต่ผมก็รู้สึกว่าเธอหายไปแล้ว
                 คาโต้กับเซจิหิ้วปีกผมไปที่รถก่อนที่พวกมันจะไปส่งผมที่บ้าน ผมยังไม่อยากกลับเลยแฮะ
                “พวกแกจาปายหนายก้านต่อม้าย?”  ผมถามเสียงยาน ดูท่าว่าผมจะไม่ไหวแล้ว
                “ถึงไปเราก็ไม่เอาแกไปด้วยหรอก เป็นอะไรไปว่ะ ปกติแกไม่เคยดื่มแบบลืมโลกขนาดนี้เลยนะ”  เซจิถามด้วยความสงสัย พลางพยายามจับผมให้อยู่นิ่งๆ
                “ม่ายด้ายเปนอารายนี่นา เหอะๆ โดนคนร้ากลืมแบบนี้ เจ็บปวดชะมัดเลยยยย~”  ไม่รู้อะไรดลใจผมให้พูดออกไปแบบนั้น แต่ผมอยากจะปลดปล่อยออกมาดังๆให้รู้แล้วรู้รอด ผมทรมาน ผมเจ็บปวดแค่ไหนไม่มีเข้าใจหรอก!!
                “เฮ้ยๆ! ตั้งสติหน่อยสิเทสึ!! แกไปมีคนรักตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?”  คาโต้ถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นผมร้องไห้เป็นครั้งแรก ผมเจ็บจนไม่รู้จะอธิบายยังไง
                “ฮึก! เธอลืมฉ้านปายแล้ว เธอจามฉ้านม่ายได้แล้ว ฮื่อๆ” ผมระบายอย่างสุดจะทน คงทุเรศน่าดูถ้าใครมาเจอผมในสภาพนี้
                “ใจเย็นๆเทสึ จำไม่ได้อะไรกัน เล่ามาสิ” ผมเล่าเรื่องเธอให้ฟังโดยไม่ปกปิดแม้แต่น้อย คาโต้กับเซจิถึงไปเงียบไปเลย คงไม่คิดว่าคาสโนว่าอย่างผมจะมีคนรัก แล้วก็มานั่งดื่มเหล้า ร้องไห้เหมือนคนบ้าเพียงเพราะว่าเธอลืมผมอย่างนั้นสินะ
                “เธออาจจะความจำเสื่อมก็ได้เทสึ อย่าคิดมาก เธอต้องจำแกได้”  เซจิปลอมผมไม่มีทาง!! เธอไม่มีวันจำผมได้!!
                “ไม่มีทาง! เธอลืมฉันไปแล้ว” ผมปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้มอย่างไม่มีคิดจะสนใจเพื่อนสองคนที่มองมาอย่างเป็นห่วง ผมทรมานเหลือเกิน ทรมานจนอยากจะตายจากโลกนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอด
                “โนริ  ทำไมเธอถึงลืมฉัน เธอรู้บางมั้ยว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน เธอได้ยินหรือเปล่าว่า….ฉันรักเธอ!”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา