เขาเรียกพวกผมว่าปาร์ตี้มอนสเตอร์สุดกาก...ผมก็ไม่ได้เถียงนี่!
เขียนโดย cQMan
วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 18.01 น.
แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2562 04.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ตอนที่ 5 ผมคิดว่าจะเลิกกินของเปรี้ยวๆไปซักพัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 5
ผมคิดว่าจะเลิกกินของเปรี้ยวๆไปซักพัก
ผมหลบอยู่หลังก้อนหินก้อนโต ข้างๆผมมีลูกแก้วฟรานซ่อนตัวอยู่ด้วย ส่วนหินอีกก้อนที่อยู่ใกล้ๆถูกกะโหลกเซนและไข่มังกรเดรคใช้เป็นที่กำบังร่างกาย ตรงนี้เป็นมุมมืดที่ไม่มีแสงไฟส่องถึง ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะส่งเสียงหายใจออกมา แน่ล่ะ อีกฟากของก้อนหินมีพวกมนุษย์เก้าชีวิตที่พร้อมจะเฉือนมอนสเตอร์ทุกตัวที่พบด้วยพลังพิเศษและเวทมนตร์อยู่ด้วย สิ่งที่ผมกำลังกังวลที่สุดในชั่วโมงนี้คือชะตากรรมของก้อนหินจิลที่ถูกพวกมนุษย์นั่งทับเอาไว้ ตอนนี้ก้อนหินจิลยังคงเนียนอยู่ แต่ผมไม่รู้ว่ามนุษย์จะสังเกตเห็นเขาเมื่อไหร่ นั่นทำให้รู้สึกเกร็งและเครียดจนแทบบ้า
แต่ผมจะขอยกเว้นลูกแก้วฟรานไว้นะ เพราะเขามันบ้าไปแล้ว! อ๊ากกกก! ไม่ไหวแล้วโว้ย!!!
“พึมพำอะไรของแกฟร๊ะ เดี๋ยวก็ถูกจับได้หรอก” ผมพูดเสียงรอดไรฟันเนื่องจากหมอนี่พึมพำหวี่ๆมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว
“กำลังสวดภาวนาให้จิลอยู่” ลูกแก้วฟรานพูดเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้ “เพื่อนเราต้องได้ไปภพภูมิที่ดี”
“จิลยังไม่ตายเฟ้ย” ผมอยากจะแหกปากเพื่อให้มันได้อารมณ์มากกว่านี้ แต่ผมก็ทำไม่ได้ อึดอัดโว้ยยยย!
“เอ๊ะ!” ชายหนุ่มคนหนึ่งร้องขึ้นด้วยความสงสัย “นั่นเสียงอะไรน่ะ” เขาถาม ผมสะดุ้งเฮือก ทำไมคุณพี่ถึงหูดีจังครับ งานเข้าแล้วตู!
“ดูเหมือนฉันคงต้องภาวนาให้ตัวเองด้วยแล้วล่ะ” ลูกแก้วฟรานยังบ่นงึมงำไม่เลิก ผมอยากจะกระโดดหมุนตัวถีบเจ้าหมอนี่จริงๆเลย ให้ตายสิ!
“เสียงตดของเธอหรือเปล่า” ชายหนุ่มอีกคนแซวเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงขบขัน
“บ้านนายน่ะสิ อีตาบ้า!” เธอตอบกลับด้วยความอาย
“ฉันตดเองแหละ” เสียงทุ้มต่ำของชายร่างยักษ์ดังขึ้น “เวลารู้สึกสบายใจทีไร ลมมันเดินทุกทีเลย” พวกเขาหัวเราะกันอย่างครื้นเครง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะโล่งใจที่เรายังเนียนอยู่
“กลิ่นนี่โชยมาเลย” ลูกแก้วฟรานร้องคราง ผมกระซิบบอกมันว่า เงียบบบบ! ด้วยสติที่ใกล้แตกเต็มทน
มนุษย์เริ่มสร้างกองไฟ กางเต็นท์สำหรับพักแรม และเตรียมปาร์ตี้ ขวดเครื่องดื่มมากมายถูกนำมาวางเรียงรายเต็มไปหมด มีเนื้อสดๆถูกแล่และปรุงรสด้วยเครื่องเทศวางอยู่ข้างๆกองไฟ เตรียมพร้อมสำหรับการถูกต้มและถูกย่าง พวกเขาพูดคุยกันอย่างออกรส ดูเหมือนพวกนี้เพิ่งจะจบการล่ามอนสเตอร์มาหยกๆ
ควันจากกองไฟถูกดูดขึ้นไปยังรูข้างบน จึงทำให้ไม่มีควันลอยขโมงอยู่ข้างในถ้ำแห่งนี้ มนุษย์เอ่ยปากชมว่าที่นี่ช่างมหัศจรรย์ ผมซึ่งอุปโลกน์ตัวเองเป็นเจ้าของที่แห่งนี้ก็แอบรู้สึกพอใจที่มีแขกเอ่ยปากชมบ้านของผม และในฐานะเจ้าบ้านที่ดีผมอยากจะโดดออกไปบอกกับทุกๆคนด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณที่ชมนะครับ พวกคุณชอบที่นี่ผมก็ดีใจ งั้นถ้าไม่มีอะไรกันแล้วก็เชิญไสหัวออกไปได้เลยครับ!” แต่ผมมั่นใจว่าในทันทีที่ผมทำเช่นนั้น ไม่เกินสามคำแรก ผมได้กลายเป็นเมนูของหวานอย่างพุดดิ้งสไลม์ในปาร์ตี้ของพวกเขาแน่ๆ
พวกผมได้แต่รอเวลา และจังหวะซึ่งไม่มั่นใจว่ามันจะมาหาไหม มีแผนคร่าวๆในหัวของผมสำหรับการหนีคือ แยกร่างเพื่อใช้ร่างหนึ่งเบี่ยงเบนความสนใจ แล้วใช้อีกร่างหนีออกไปจากถ้ำ ผมคิดว่าถึงแม้วิธีนี้จะไปได้สวย แต่ยังไงๆร่างแยกของผมก็ต้องถูกฆ่าตายแน่ และผมไม่แน่ใจว่าถ้าร่างแยกตายแล้วร่างหลักจะได้รับผลกระทบไปด้วยไหม มันจึงเป็นวิธีที่เสี่ยงเกินไป
หรือบางทีผมควรจะซ่อนตัวยันเช้า รอเวลาจนกว่าพวกมนุษย์จะจากไปโดยไม่สังเกตเห็นพวกเรา มันเป็นวิธีที่น่าจะปลอดภัยมากกว่า แต่ก็รับประกันความปลอดภัยไม่ได้เต็มร้อย เพราะผมไม่รู้ว่าไอ้เจ้าลูกแก้วเพี้ยนจะทำเรื่องบ้าๆขึ้นมาเมื่อไหร่ แถมยังมีคนที่ทนกับความกดดันนานๆได้ไม่ดีอย่างไข่มังกรเดรคอีกต่างหาก
กะโหลกเซนส่งสายตามาทางผมเพื่อบอกว่า เดรดใกล้จะคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว หมอนี่สติแตกและพร้อมมีเรื่องสุดๆ!
ไม่นานนักพวกมนุษย์ก็เริ่มเมาจากพิษสุราที่พกกันมา ผมรับรู้ได้ผ่านสำเนียงพูดของพวกเขาที่เหมือนลิ้นจะพันกันอยู่ในปาก นั่นทำให้แผนแรกที่ผมคิดมีโอกาสสำเร็จเพิ่มมากขึ้น แต่ผมอยากรอให้แน่ใจมากกว่านี้ เพราะถ้าเกิดพวกเราโชคดี พวกมนุษย์เมาหลับไปเสียก่อน พวกเราก็สามารถหนีรอดออกไปได้อย่างชิลๆโดยไม่ต้องออกแรงเลยด้วยซ้ำ
“เกมนี้มันสมจริงดีนะ…เอิ้ก กินเหล้าแล้วเมาได้ด้วย” ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยเสียงคนเมา ลูกแก้วฟรานพยายามชะโงกหน้าออกไปมอง มันสะกิดให้เขาอยู่นิ่งๆไว้ แต่เหมือเอาปุ๋ยไปใส่ให้รั้วเหล็ก เพราะมันไร้ประโยชน์สิ้นดี!
“นี่แหละเหตุผลที่ทำให้คนวัยทำงานเลือกเล่นเกมนี้” ชายอีกคนออกความเห็น เสียงเขาดูดีกว่าคนแรก หมอนี่คงจะคอแข็งพอสมควร และน่าจะเป็นคนที่สร้างปัญหาให้กับแผนการหนีของผมอย่างมาก “ได้มาดริ๊งกันได้บรรยากาศดีๆ ได้หนีเมียมานัวเนียกับสาวๆ ไม่เสียสุขภาพ ไม่เสี่ยงโดนเมียแหกอก แถมยังเหมือนกับได้ยืดเวลาพักผ่อนหย่อนใจจากความเป็นจริงอีก เพราะเวลาในเกมเร็วกว่าความเป็นจริงหลายเท่าตัวเลย”
ผมสารภาพตามตรงว่าผมเข้าใจที่พวกเขาคุยกันไม่ถึงครึ่ง
“เกมติดอันดับหนึ่งของเกมที่มีคนเล่นเยอะที่สุดในโลกไปแล้วด้วย ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเรื่องนี้แน่ๆ” เสียงของเด็กผู้หญิงที่ผมมั่นใจว่าเธอไม่ได้เมาแน่ๆดังขึ้น แย่แล้วสิ!
“แต่ระบบเกมเขาก็ดีจริงๆนะ” เสียงนี้เป็นเสียงเมาๆของผู้หญิง “NPCหล่อๆเกลื่อนเมืองไปหมด เห็นแล้วมันกระชุ่มกระชวยดีจริงๆ”
“นั่นไม่เกี่ยวกับระบบเกมแล้ว!” มีคนร้องขัดขึ้น ผมรู้สึกว่าหมอนี่กับผมมีอะไรบางอย่างที่คล้ายๆกัน
“แต่ฉันกลับชอบพวกมอนสเตอร์ในเกมนี้นะ” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นบ้าง “เห็นทางผู้พัฒนาเกมบอกว่ามอนสเตอร์เกือบทั้งหมดถูกควบคุมด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง ทำให้พวกมันมีความคิดเป็นของตัวเอง และตัดสินใจได้ฉลาดพอๆกับมนุษย์เลย นั่นล่ะคือสิ่งที่ทำให้เกมนี้น่าตื่นเต้น”
“หนุ่มหล่อก็ทำให้เจ้ตื่นเต้นเหมือนกัน” เป็นเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มที่พยายามดัดให้หวานใสและแหลมเล็กเหมือนหญิงสาว แต่ทำได้ไม่ค่อยดีนักดังขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา บางทีอาจจะมีใครไปบีบไส้ติ่งของเขาเอาไว้
“ถูกต้องที่สุดเลยค่ะเจ้” หญิงสาวขาเมาหัวเราะถูกใจ
“เกมที่ทางผู้พัฒนาเกมจะไม่เข้ามาแทรกแทรงเหล่าผู้เล่นโดยตรง เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมายที่สมจริง พร้อมด้วยระบบแลกเปลี่ยนเงินจริงเป็นเงินในเกมแล้วก็ยังถอนเงินในเกมออกไปเป็นเงินจริงได้อีก บวกกับความแฟนตาซีอย่างมอนสเตอร์ในตำนานต่างๆ เวทมนตร์และความสามารถพิเศษที่ช่วยเพิ่มความสนุกในการผจญภัย แถมมอนสเตอร์ที่มีความคิดเป็นของตัวเองแถมยังพัฒนาความแข็งแกล่งได้เหมือนพวกเราอีก NPCก็ดูไม่ต่างอะไรกับพวกเราเลยซักนิดทั้งความคิดและความสามารถในการยกระดับตัวเอง รางวัลของกลุ่มที่จบเกมนี้ได้ก็ล่อตาล่อใจไม่เบา ไม่แปลกหรอกที่ยอดเพลเยอร์จะถล่มทลายขนาดนี้” ชายหนุ่มคนหนึ่งออกความเห็น และความเห็นของเขาทำให้ผมต้องมานั่งประมวณข้อมูลอย่างยากเย็น แต่สุดท้ายผมก็ไม่เข้าใจอะไรเลยอยู่ดี
“พูดถึงความสมจริงแล้วก็…ฮุ๊ฟ” ชายคนหนึ่งส่งเสียงแปลกๆออกมา เพื่อนๆพากันร้องลั่น
“นี่นายกำลังจะอ้วกใช่ไหมเนี่ย!” หญิงสาวคนหนึ่งกรีดร้อง
“คิดว่า…ฮุ๊ฟ!” ชายคนนั้นพยายามกลั้นน้ำหมักที่ใกล้ทะลักออกทางปาก
“ยี้ ไปไกลๆเลยนะยะ!”
“มาช่วยฉันพยุงหมอนี่ไปอ้วกหน่อยเร็วเข้า!” เพื่อนหนุ่มของชายที่เมาแอ๋ร้องลั่นอย่างรีบเร่ง พวกเขาพากันวิ่งเข้ามาพยุงเพื่อน เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทางพวกผม ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมไม่ได้ทันที่จะตั้งตัวพวกมนุษย์ก็มาถึงก้อนหินที่เราอยู่ซะแล้ว ตรงนี้เป็นมุมมืด ถึงผมจะไม่แน่ใจนักแต่ก็คิดว่ามนุษย์คงสังเกตเห็นเราไม่ได้ง่ายๆแน่ ชายเมาแอ๋เอามือเท้าหินซึ่งเป็นแหล่งหลบซ่อนของพวกผม ก่อนจะก้มหัวลงมาแล้วก็
“อ้วกกกกกกก….”
สายน้ำอมฤตไหลรดลงมาจากด้านบน โรยตัวอย่างงดงามลงสู่พื้นผิวอันเรียบเนียนของ…ลูกแก้วฟราน ชะโลมร่างกายกลมกลึงของมอนสเตอร์ผู้โชคดีไปทั่วทุกสัดส่วน เปลี่ยนจากลูกแก้วใสๆให้กลายเป็นก้อนกลมๆที่ส่งกลิ่นเหม็นเปรี้ยวออกมาอย่างรุนแรง
ฟรานเหมือนช็อกจนสติหลุดลอยไปแล้ว ฟราน! แข็งใจไว้! นายอย่าตายนะ!!!
“เสร็จยังเพื่อน” เพื่อนของชายเมาแอ๋ถามอย่างเป็นห่วง พร้อมกับลูบหลังให้
“เสร็จละ…ฮุ๊ฟ! ฉันคิดว่ามีต่อก๊อกสองนะ…อ้วกกกกกกกก!” ฝันร้ายของฟรานยังไม่จบ ของเหลวชนิดเดิมไหลซ้ำลงมายังร่างของเขา ผมมองดูเพื่อนด้วยสายตาสงสารจับใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากขยับออกห่างอย่างรังเกียจ
ผมไม่ผิดนะ! เป็นคุณคุณจะอยู่เหรอถามหน่อยเถอะ!
“เสร็จละๆ เอาฉันกลับไปที่กองไฟที เอิ้ก” แล้วมนุษย์ก็พากันกลับไปตามเดิม ท่ามกลางบรรยากาศอัน…เหม็นเปรี้ยวที่แผ่ขยายไปทั่วทั้งพื้นที่หลังก้อนหิน
ผมคิดว่าตอนนี้ เพื่อนลูกแก้วได้จากเราไปแล้ว ลูกแก้วฟรานแน่นิ่งไม่ไหวติงเหมือนโดนเทพแห่งอาหารมื้อเก่าและเทพแห่งกลิ่นเหม็นเปรี้ยวช่วยกันสูบเอาวิญญาณออกจากร่างของเขาไป สู่สุขคติเถอะนะเพื่อนรัก…
“พูดถึงความสมจริงแล้วก็อดนึกไม่ได้…” พวกมนุษย์ชวนคุยกันต่อ ด้วยเสียงที่เหมือนกำลังจะเล่าเรื่องสยองขวัญ “ว่าในป่าใหญ่มืดๆแบบนี้ บรรยากาศเงียบๆแบบนี้ มันจะต้องมีพลังงานบางอย่างที่เรียกว่า…”
“อย่าพูดถึงผีเชียวนะ!” เพื่อนหญิงของเขารีบร้องห้ามเสียงสั่น “เดี๋ยวมันก็โผล่มาจริงๆหรอก”
“เฮ้! ฉันยังไม่ได้พูดถึงเลยนะ เธอนั้นแหละที่พูดถึงมันน่ะ” เพื่อนชายทำเสียงยียวน
“โผล่มาเลย ถ้าเป็นผีผู้หญิงฉันจะจับปล้ำซะให้เข็ด!” ชายหนุ่มแสดงความหื่นออกมา นี่ขนาดผีเอ็งยังไม่เว้นเลยรึ!!!
“ถ้าเป็นผู้ชาย เจ้ขอนะ” เสียงทุ้มที่ถูกดัดของชายหนุ่มดังออกมาบ้าง
แค้นนนนน...
จู่ๆ เสียงอันเยียบเย็น แผ่วเบา และเคียดแค้นก็ดังแทรกผ่านความมืดมิดเข้าไปในโสดประสาทของทุกๆคน มันดังสะท้อนก้องถ้ำก่อนจะค่อยๆเงียบหายไป ชวนให้รู้สึกขนลุก
“ส…เสียง…เสียงใครอ่ะ” เด็กผู้หญิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
“ใครกำลังเล่นตลกบ้าๆอยู่น่ะ พวกฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ!” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเครียด ไม่มีใครตอบกลับเขา
แค้นนนนนน…
เสียงอันเยียบเย็นแฝงความแค้นเอาไว้อย่างเข้มข้นดังขึ้นอีกครั้ง พวกมนุษย์พากันร้องครางอย่างหวาดกลัว
“ส…เสียงใครน่ะ! ออกเลยมานะ!” ผู้หญิงในกลุ่มนั้นพยายามพูดขู่ แต่เธอก็กลัวเกินกว่าจะปั้นเสียงให้มันดูโหดได้
และในจังหวะเวลาดีๆแบบนี้ ผมอยากแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับต้นตอของเสียงอันขนพองขยองเกล้า เหม็นเปรี้ยวฟราน เพื่อนของเรานั่นเอง!
“แค้นนนนน… พวกแกทุกคน…” ลูกแก้วฟรานตัวสั่นเทาไปด้วยความโกรธ เขาเหมือนกับลูกแก้วโดนวิญญาณร้ายที่จมกองอ้วกตายสิงสู่ น้ำเสียงของเขาฟังดูเคียดแค้นพอจะทำให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นได้
“หรือว่าจะเป็น…” เสียงของชายหนุ่มที่ชวนคุยฟังเหมือนเขากำลังจะร้องไห้ “ผี!!!”
“พวกแกทุกคนจะต้องตาย!!!” เสียงของลูกแก้วฟรานดังก้องไปทั่วถ้ำอย่างโกรธแค้น พวกมนุษย์กรีดกันดังลั่น เกินครึ่งนั้นพากันเสียสติไปแล้ว ไข่มังกรเดรคหัวเราะชอบใจเสียงดังลั่น พอมันประสานเข้ากับเสียงอันแค้นเคืองของลูกแก้วฟราน กับเสียงกรีดร้องเสียขวัญของมนุษย์ มันยิ่งทำให้บรรยากาศดูหลอกหลอนอย่างบ้าคลั่ง!
ผมกับกะโหลกเซนเห็นพ้องต้องกันว่า นี่คือจังหวะของพวกเราแล้ว!
กะโหลกเซนพ่นควันออกมาจากปากอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้การมองเห็นเป็นไปได้ยากมากขึ้น และช่วยเพิ่มบรรยากาศความน่ากลัว ในขณะเดียวกันลูกแก้วฟรานก็เอาแต่พร่ำบอกว่า “แค้น…แค้นเหลือเกิน” ผมก็ช่วยพูดอะไรที่มีเข้ากับบรรยากาศได้เป็นอย่างดีว่า “ฉันจะตามหลอกหลอนพวกแกทุกคนไปทุกที่ ฮ่าๆๆๆ”
พอรวมเข้ากับเสียงหัวเราะของไข่มังกรเดรคที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งทำให้เหมือนกับถ้ำนี้ถูกกองทัพผีร้ายล้อมเอาไว้ พวกมนุษย์ยิ่งเสียสติกันเข้าไปใหญ่ พวกเขาลุกขึ้นยืนอย่างเสียขวัญ ชายหนุ่มที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้ากลุ่มพยายามประคองสติ และบอกกับทุกคนว่า “ใจเย็นๆก่อน อยู่ใกล้ๆกองไฟเอาไว้”
พวกคุณทุกคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าก้อนหินจิลเพื่อนผมเป็นคนทึ่มๆ แต่เปล่าเลย ในทันทีที่พวกมนุษย์ละสายตาจากเขา เขาก็ใช้ความสามารถ “ซัดฝุ่น” ใส่กองไฟจนมันดับมอดไป ซึ่งเป็นการกระทำที่ต้องบอกได้เลยว่า เฉียบ!
พึบ!
เสียงกรีดร้องดังอีกระรอก พวกเขาเหมือนพร้อมจะเป็นบ้าได้ทุกเมื่อ ไฟดับลงแล้ว หมอกควันที่ลงหนาจัดอย่างไม่เป็นธรรมชาติทำให้พวกมนุษย์แทบมองอะไรไม่เห็น แล้วลูกแก้วฟรานก็ทำสิ่งที่ผมไม่ได้คาดคิด คือเขาพยายามตะเกียกตะกายขึ้นไปบนก้อนหินเพื่อไปยืนโชว์ตัวบนนั้น ก่อนจะพยายามใช้ความสามารถเรืองแสงออกมา เขาคงคิดว่าความสามารถนั้นอาจจะฆ่ามนุษย์หรือทำให้พวกเขาตาบอดได้ แต่ถ้าหมอนั่นใช้มันคงจะให้ผลตรงกันข้าม ซึ่งทำให้ที่พวกเราทำมาสูญเปล่าหมด
ผมต้องรีบหยุดเขาแล้ว!
แต่ดูเหมือนจะไม่ต้องทำอย่างนั้น แสงที่สว่างมาจากตัวเขาสว่างอยู่แค่ครู่เดียวก่อนจะดับไปเพราะลูกแก้วฟรานเกิดอาการคลื่นไส้อย่างฉับพลัน “แหวะ…”
“ส…แสงอะไรน่ะ!” มีคนร้องถาม
“ผีแน่ๆ! ต้องเป็นผีแน่ๆ!!!” อีกคนกรีดร้องอย่างหวาดกลัว หัวหน้ากลุ่มบอกให้ใจเย็นๆก่อน ลูกแก้วฟรานทำท่าเหมือนจะเรืองแสงอีกครั้ง ผมพยายามจะปีนขึ้นไปหยุด แต่กะโหลกเซนกลับเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ เขาพยายามกระโดดขึ้นไปหาลูกแก้วฟราน
และในจังหวะที่ฟรานเรืองแสงนั้นเอง
หัวกะโหลกของมนุษย์ก็เคลื่อนร่างไปทาบทับบนร่างของฟรานเอาไว้ ทำให้เกิดเป็นภาพของกะโหลกมนุษย์กำลังเรืองแสงติดๆดับๆต่อหน้ามนุษย์เกือบสิบชีวิต กะโหลกเซนพูดออกมาสั้นๆ แต่หลอนประสาทว่า “ฉันจะตามหลอกหลอนพวกแก!” ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
เพียงเท่านั้นพวกมนุษย์ทั้งหมดก็ทิ้งข้าวของ กรีดร้อง แล้ววิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกไปจากถ้ำอาถรรพ์นี้อย่างเร็วที่สุด ไข่มังกรเดรคเปล่งเสียงฮาลั่น ผมได้ยินเสียงถอนหายใจของก้อนหินจิลดังขึ้นอย่างโล่งอก กะโหลกเซนโดนลงมาจากก้อนหินโดยมีเหม็นเปรี้ยวฟราน…ผมหมายถึงลูกแก้วฟรานกระโดดตามลงมาด้วย
“อยากอาบน้ำอ่ะ” เขาครางอย่างน่าสงสาร “แหวะ…”
“รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ” ผมรีบเสนอเมื่อเห็นจังหวะเผ่น “ถ้าเจ้าพวกนั้นได้สติย้อนกลับมาอีกจะแย่เอานะ”
“แต่ฉันชอบฉากเมื่อกี้ชะมัด ขำจนท้องจะแข็งแล้วเนี่ย ฮ่าๆๆๆ” ไข่มังกรเดรคหัวเราะอย่างสะใจในขณะที่ลูกแก้วฟรานร้องไห้อย่างเจ็บช้ำ
“หมดกัน ความใสบริสุทธิ์ของฉัน” เขาคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด ผมอยากจะเข้าไปปลอบใจเขา แต่กลิ่นตัวเขาแรงเกินไป เปรี้ยวเกินไป และชวนคลื่นไส้มากเกินไป แค่เดินผ่านๆผมยังอยากจะคายเนื้อหมาป่าออกมาเลยเนี่ย
ไม่นานพวกเราก็จำใจทิ้งบ้านแสนสุขออกมา ถึงจะเศร้าแค่เราก็ต้องมีชีวิตต่อไป แล้วการเดินทางไปในความมืด โดยไร้ซึ่งจุดหมายใดๆก็ได้เริ่มต้นขึ้น…
มนุษย์คนที่นั่งทับผมไม่ได้ตัวหนักอย่างที่ผมคิด…เด็กสาวไว้เปียในชุดจอมเวทย์น่ารักดีนะ : ก้อนหินจิล
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ