WITCHFORD
เขียนโดย นางแกงพเนจร
วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 22.12 น.
แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562 22.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) II
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหน้าบ้านเลขที่ 47 หมู่บ้านโคลเวอร์เอนด์ ถนนวิคตอเรียกรีน เมืองวิทช์ฟอร์ด – บ่าย
“อู้หูว!! …สวยจัง” “มีสนามเด็กเล่นด้วย” เสียงเด็กสองคนดังเจี้ยวจ้าวออกมาจากในรถยนต์ 4 ประตู เปิดท้ายได้ สีน้ำเงิน ยี่ห้อฮุนได i20 ที่จอดอยู่หน้าบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทรงอังกฤษร่วมสมัยผสมผสานกับการตกแต่งภายนอกแบบชนบทอังกฤษโบราณด้วยอิฐก้อนใหญ่ทาสีส้มทั้งหลัง ส่วนอื่น ๆ ของบ้าน เช่น กระเบื้อง หลังคา หน้าต่าง และประตูบ้าน ถูกทาด้วยสีน้ำตาลเนื้อไม้แทน ดูสวยงามกลมกลืนดี มีสนามหญ้าและรั้วประมาณหัวเข่าบริเวณหน้าบ้านเล็กน้อย
“เด็ก ๆ อย่าวิ่งสิคะ” น้ำเสียงหวานใสดังออกมาจากปากของหญิงสาวสวยแบบไร้ที่ติ รูปร่างสูง เจ้าเนื้อกำลังดี ผมลอนยาวสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาวอมเหลือง แต่งตัวสวยดูทันสมัย เธอคือ โกโรน่า รัมเบีย หลังจากที่เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงเปิดประตูรถลงไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่ได้กลับมานาน บ้านสวยขึ้นเป็นกองเลยนะครับพี่” เสียงทุ้มนุ่มของหนุ่มหล่อหน้าเข้ม รูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อชัดเจนจากการออกกำลังกาย ผมสั้นสีดำ ผิวเข้มสีน้ำผึ้ง ใส่เสื้อโปโลราคาแพงกับกางเกงสแล็คขายาวสีครีม เขาคือ ไฟดี้ รัมเบีย สามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของโกโรน่า ทั้งคู่เปิดประตูลงจากรถพร้อมกัน
“คุณพ่อ คุณแม่ ครับ ผมขอพายาร่าไปเดินเล่นหน่อยนะครับ” เสียงแหลมของเด็กผู้ชายตัวน้อย อายุราว ๆ 8 ปี ผมสั้นสีน้ำตาลเข้ม ผิวเข้มสีน้ำผึ้ง แต่งตัวหล่อสมวัย ชื่อ เคาน์ตี้ รัมเบีย ลูกชายคนโตของสามีภรรยา
“ได้เลยไอ้เสือ แล้วอย่าพาน้องไปไหนไกลล่ะ” หนุ่มหล่อลูบหัวลูกชายอย่างอบอุ่น
“ดูแลน้องด้วยเข้าใจไหมครับ?” สาวสวยพูดต่อกับลูกชายของเธอ เด็กชายพยักหน้าก่อนที่จะเดินเข้าไปจูงมือเด็กหญิงตัวน้อย ยาร่า รัมเบีย น้องสาวของเคาน์ตี้ ลูกสาวคนเล็กของสามีภรรยา อายุราว ๆ 7 ปี ผมยาวสีดำ ผิวขาวอมเหลือง แต่งตัวชุดกระโปรงเจ้าหญิงสีเหลือง ออกไปวิ่งเล่นกัน
ไฟดี้และโกโรน่ามองไปรอบ ๆ หมู่บ้านที่เป็นเหมือนฉากถ่ายทำภาพยนตร์เพราะมันสวยงามแบบนั้นจริง ๆ ก่อนที่สุภาพสตรีอีกคนจะเปิดประตูลงจากรถฮุนได
“พี่เพิ่งตกแต่งเสร็จเมื่อปลายปีที่แล้วเอง ดีแล้วที่มาอยู่ด้วยกัน ทำบ้านใหม่จะได้ช่วยกันใช้” เสียงหวานนิ่ม ๆ ดูอารมณ์ดีของหญิวสาวผู้ดีหน้าหวาน ตาดุ รูปร่างใหญ่แต่ไม่อ้วนและไม่สูงมากนัก ผมยาวสีบลอนด์ขาวถึงกลางหลัง ผิวขาวผุดผ่อง แต่งตัวหรูด้วยชุดราคาแพง เธอคือ คาเนลิส รัมเบีย พี่สาวแท้ๆของไฟดี้ เจ้าของบ้านเลขที่ 47
“บรรยากาศรอบ ๆ น่าอยู่มากเลยนะคะ คาเนล เด็ก ๆ ต้องชอบมากแน่ ๆ” โกโรน่าพูดกับพี่สาวของสามีด้วยชื่อเรียกสนิทสนม สายตาของเธอกวาดไปรอบ ๆ บ้านของคาเนลิสตั้งอยู่ทางขวาภายในวงเวียนส่วนลึกสุดของหมู่บ้าน
“ชนบทก็แบบนี้แหละ เงียบสงบไม่ค่อยมีความวุ่นวายเท่าไหร่” สาวตาดุตอบกลับ
“ขอบคุณพี่มากเลยนะครับ ช่วงนี้ผมกับครอบครัวคงต้องรบกวนพี่ไปก่อน” ไฟดี้หันมาพูดกับพี่สาวด้วยสายตาของผู้นำครอบครัวที่กำลังรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไร ยังไงที่นี่ก็ยังเป็นบ้านเธอเหมือนกันอย่าลืมสิ” คาเนลิสตบบ่าน้องชายเบา ๆ
“แล้วนี่เด็ก ๆ เดินเล่นไปถึงไหนแล้วล่ะ?” สาวตาดุถามขึ้นเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ ไม่เห็นวี่แววหลาน ๆ ของเธอ
“เคาน์ตี้พาน้องไปไหนอีกแล้วนะ” สาวสวยสีหน้ากังวลเล็กน้อยพร้อมกับบ่นพึมพำ
“ไม่เป็นไร ไปช่วยสามีเธอขนของเถอะ ฉันจะไปตามหลาน ๆ เอง” คาเนลิสจับไปที่ต้นแขนของโกโรน่าอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะปรี่ตัวออกมา
สามแยกตัดเข้าวงเวียน หน้าบ้านเลขที่ 4 หมู่บ้านโคลเวอร์เอนด์ ถนนวิคตอเรียกรีน เมืองวิทช์ฟอร์ด – บ่าย
บ้านเลขที่ 4 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทรงอังกฤษร่วมสมัยผสมผสานกับการตกแต่งภายนอกแบบชนบทอังกฤษโบราณคล้ายกับบ้านของคาเนลิส เพียงแต่อิฐก้อนใหญ่ที่เป็นโครงสร้างของบ้านถูกทาด้วยสีขาวทั้งหลัง และส่วนอื่น ๆ เช่น กระเบื้อง หลังคา หน้าต่าง และประตูบ้าน ถูกทาด้วยสีเขียวมิ้นท์แทน ทำให้ดูโดดเด่นกว่าบ้านทุกหลังในโคลเวอร์เอนด์ ร่วมถึงพื้นที่รอบตัวบ้านกว้างกว่าบ้านหลังอื่นและมีรั้วที่สูงจนทำให้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว ภายในบ้านมีสายตาลึกลับจ้องมองออกมาจากริมหน้าต่างสีเขียวมิ้นท์ชั้นล่าง สายตาคู่นั้นกำลังมองไปที่เด็กชายและเด็กหญิงที่กำลังเดินผ่านเข้ามา
“เคาน์ตี้ น้องว่าเราออกมาไกลเกินไปแล้วนะ เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่เป็นห่วง” เสียงเล็ก ๆ ในลำคอจากเด็กหญิงชุดกระโปรงเจ้าหญิงสีเหลือง
“เพิ่งถึงหน้าสามแยกเอง ยาร่า ขอเดินอีกหน่อยนะ เราตกลงกันไว้ว่าจะเล่นเป็นนักสำรวจไงจำไม่ได้เหรอ ไม่ต้องกลัวนะ ถ้ามีอะไรพี่จะปกป้องน้องเอง” เสียงแหลมของเด็กผู้ชายพูดตอบ เด็กหญิงพยักหน้าตอบรับพี่ชายก่อนที่ทั้งสองคนจะสะดุดหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านสีขาว โดดเด่นและสวยงามเหมือนกับปราสาทเจ้าหญิงในหนังสือนิทาน
“บ้านหลังนี้สวยจังเลย เคาน์ตี้” ยาร่าพูดด้วยความรู้สึกที่ใสบริสุทธิ์
ทั้งคู่หยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่งราวกับถูกบ้านหลังนี้สะกดเอาไว้ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านเบา ๆ เป็นระยะ
“พี่ได้ยินเสียงคนเรียกเรานะ” เคาน์ตี้ได้ยินเสียงผ่านสายลมที่ฟังดูเหมือนมีใครในบ้านหลังนี้เรียกชื่อพวกเขาอยู่ “แวะเข้าไปดูกันเถอะ มาจับมือพี่” ก่อนที่จะหันไปคว้ามือน้องสาวแล้วพากันจูงมือเดินเข้ามาโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาลึกลับกำลังจ้องพวกเขาแบบไม่กระพริบตาจากริมหน้าต่างชั้นล่าง
“เข้ามาสิ...” เสียงในสายลมดังชัดเจนยิ่งขึ้นในโสตประสาทหูของเด็กน้อยทั้งสองคน พวกเขาเดินเข้ามาถึงประตูหน้าบ้านและกำลังจะ....
“เคาน์ตี้! ยาร่า! มาทำอะไรตรงนี้ลูก” เสียงหวานนิ่มดังขึ้นก่อนที่จะคว้าแขนของเด็ก ๆ ไว้อย่างเบามือ
“คุณป้าคาเนลิส” ยาร่าเอยชื่ออีกฝ่ายด้วยความสับสนและตกใจตามประสาเด็ก
“ออกมาไกลเกินไปแล้วนะคะ คราวหลังอย่าผ่านมาแถวนี้โดยที่ไม่มีป้าหรือคุณพ่อคุณแม่เข้าใจไหมคะ มันอันตรายนะลูก” หญิงสาวตาดุอุ้มหลายสาวขึ้นก่อนที่จะจับมือหลานชายไว้อย่างอ่อนโยน
“ผมขอโทษครับคุณป้าคาเนลิส” เด็กชายพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรครับ เรากลับบ้านกันดีกว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงแย่แล้วนะ” คาเนลิสพาเด็ก ๆ ม้วนตัวกลับและเฉียดสายตาจ้องเข้าไปที่หน้าต่างสีเขียวมิ้นท์ชั้นล่างราวกับรู้ว่ามีใครอยู่ตรงนั้น
สายตาจากริมหน้าต่างในบ้านยื่นใบหน้าออกมาเผยให้เห็นรูปหน้าคมเข้มแบบสาวละติน ดวงตาคู่นี้แข็งกร้าวอย่างเห็นได้ชัดภายในชั่วพริบตา
15 นาทีต่อมา หน้าบ้านเลขที่ 47 หมู่บ้านโคลเวอร์เอนด์ ถนนวิคตอเรียกรีน เมืองวิทช์ฟอร์ด – บ่าย
หญิงสาวตาดุเดินกลับมาพร้อมกับเด็กน้อยแสนซุกซนทั้งสองคน เป็นจังหวะเดียวกับที่สาวสวยผู้เป็นแม่เดินออกมาจากบ้านพอดี เธอและสามีช่วยกันขนข้าวของส่วนตัวของทุกคนจากรถยนต์เข้าไปไว้ในบ้านอย่างรวดเร็ว
“พากันไปถึงตรงไหนมาครับ แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปไหนไกล รู้ไหมคุณแม่กับคุณพ่อแล้วก็คุณป้าเป็นห่วงนะ” โกโรน่ารีบโผเข้าไปหาลูก ๆ ของเธอพร้อมกับนั่งย่อเข่าจับมือเด็ก ๆ ไว้อย่างอ่อนโยน
“พวกเราไปเล่นเป็นนักสำรวจมาครับ ผมขอโทษนะครับที่ทำให้คุณแม่เป็นห่วง” เสียงเล็ก ๆ ตอบเบา ๆ ออกจากปากเด็กผู้ชาย
“ไม่ได้นะครับ คราวน่าถ้าจะเล่นเป็นนักสำรวจต้องมีคุณแม่เป็นผู้นำทีมเข้าไหมคะ เคาน์ตี้ ยาร่า?” สาวสวยยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้กับเด็ก ๆ เธอเป็นคุณแม่ที่ฉลาดมาก
“เข้าใจครับ” “เข้าใจค่ะ” เด็ก ๆ ยิ้มออก
“ขอบคุณมากนะคะ คาเนล ว่าแต่เด็ก ๆ เดินกันไปถึงตรงไหนเหรอ?” โกโรน่าหันไปพูดกับพี่เขยสาวของเธอ
“ไปถึงตรงสามแยกข้างหน้าเอง ไม่ไกลหรอก” คาเนลิสตอบกลับอย่างนุ่มนวล ยิ้มอ่อน ๆ
“ตรงบ้านสีขาวสวย ๆ หลังนั่นเหรอคะ?” สาวสวยนึกภาพตาม
“ใช่จ่ะ เออนี่ แล้วสามีของเธออยู่ไหนล่ะ เก็บของเหรอ?” สาวตาดุรีบเปลี่ยนเรื่องเหมือนไม่อยากคุยเรื่องบ้านหลังนั้นเท่าไหร่
“ไฟดี้ออกไปเดินเล่นค่ะ เห็นบอกว่าจะเดินทะลุข้างหลังหมู่บ้านไปตรงแถวฟิลด์เอนด์ เขาบอกว่ามีตลาดวันนี้” โกโรน่าตอบกลับ
“เลือดนักสำรวจของหลาน ๆ นี่ได้พ่อมาจริง ๆ ด้วยสิ” สาว ๆ หัวเราะเบา ๆ เป็นครอบครัวที่ดูอบอุ่นและเรียบง่ายก่อนที่สายตาของคาเนลิสจะสื่อความหมายอะไรบางอย่าง
ตลาดสดริมถนน หมู่บ้านฟิลด์เอนด์ ถนนวิคตอเรียกรีน เมืองวิทช์ฟอร์ด – บ่าย
บรรยากาศครึกครื้นไม่เงียบเหงา ต้องยกให้หมู่บ้านฟิลด์เอนด์ในวิทช์ฟอร์ดเท่านั้น เพราะมีตลาดสดภายในใจกลางของหมู่บ้านริมสองฝั่งถนน เนื่องจากมีบริษัทขนส่งที่สร้างโรงงานเก็บของสดขนาดใหญ่ติดกับหมู่บ้านจึงทำให้ชาวเมืองผลันตัวไปเป็นพ่อค้าแม่มากมาย ที่นี่คือตลาดของสดที่ราคาถูกและคุณภาพสูงที่สุดในวิทช์ฟอร์ด
หนุ่มหล่อหน้าคมเข้มสูงล่ำเดินชมตลาด เขามองซ้ายมองขวายิ้มอารมณ์ดีอยู่คนเดียว นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้กลับมาที่นี่ ไฟดี้หวนคิดถึงสมัยวัยเด็กของเขาขึ้นมาทันที จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างชักจูงแล้วเขาย้ำเท้าเร็วขึ้น หนุ่มหล่อเลี้ยวขวาเดินเข้าไปในตรอกลึกแคบข้างซอกตึกแถว มันลึกพอที่จะทำให้เสียงรบกวนในตลาดเบาบางลง ไฟดี้ปลายตามองลงพื้นข้างหน้าเขาเห็นเข็มกลัดสีเงินรูปดอกไม้บางอย่าง
“มันสวยใช่ไหมล่ะ?” เสียงเล็กแหบสุดเซ็กซี่พูดขึ้นขณะที่หนุ่มหล่อยังคงจ้องมองเข็มกลัดดวงตาไม่กระพริบ
“สวย” ไฟดี้ราวกับตกอยู่ในภวังค์ เขากำลังตกหลุมรักเจ้าเข็มกลัดชิ้นนั้น
“มันคือเข็มกลัดแบล็คดาเลียน่ะ คุณชอบไหมคะ?” เสียงเล็กแหบพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ชอบ” หนุ่มหล่อตอบแบบไม่ลังเลราวกับว่าเข็มกลัดชิ้นนี้ทำให้เขาลืมเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตไปแล้ว
“ถ้าชอบก็หยิบมันขึ้นมาสิ คุณจะได้เป็นเจ้าของมันไงคะ” ในที่สุดเจ้าของเสียงสุดเซ็กซี่ก็ปรากฏตัวออกมา เธอยืนห่างจากเขาประมาณ 5 เมตร หญิงสาวหน้าสวย ตาโตราวไข่ห่าน จมูกโด่ง ริมฝีปากอวบอิ่มกำลังดี รูปร่างบอมบางและเห็นสัดส่วนชัดเจนจนน่าหลงใหล ผมลอนยาวสีน้ำตาลอ่อน ผิวเข้มสีน้ำผึ้ง แต่งกายโชว์ผิวด้วยชุดเซ็กซี่ มินาส อูไม คือชื่อของเธอ “ไม่อยากได้มันแล้วเหรอ?” ความเซ็กซี่ของเธอไม่ใช่แค่เสียงเพราะทุกอย่างในตัวเธอล้วนเซ็กซี่เช่นกัน
“อยาก” ไฟดี้พยักหน้าก่อนที่จะย่อเข่าก้มตัวลง
“แล้วจะรออะไรล่ะ หยิบมันขึ้นมาเราจะได้รู้จักกันมากขึ้น ฉันอยากรู้จักคุณนะคะ” เสียงเล็กแหบของเธอทรงพลังและเร้าร้อนที่สุดในตอนนี้ “หยิบสิ... หยิบสิคะ... หยิบเลยค่ะ” เนื้อเสียงนิ่งเหมือนกับทะเลสาปและลึกราวมหาสมุทร ยากที่จะต้านทาน
“อย่าหยิบนะไฟดี้!” เสียงตวาดนุ่มลึกดังขึ้นก่อนที่หนุ่มหล่อยื่นมือขวาออกไปเก็บเข็มกลัด มันทรงพลังมากพอจนทำให้เขาหยุดนิ่งได้ เสียงของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา คาเนลิส รัมเบีย
“รัมเบีย เธอมายุ่งอะไรด้วย ออกไป!” เสียงแหบตวาดกลับจากสาวเซ็กซี่
“ไฟดี้เป็นน้องชายของฉัน! ...ไฟดี้ลุกขึ้น” คาเนลิสเสียงแข็งกร้าวขึ้นผิดกับตอนพูดคุยปกติลิบลับ
“นี่ไฟดี้หรอกเหรอ แหมไม่เจอกันนาน โตขึ้นมาเป็นหนุ่มหล่อล่ำได้ขนาดนี้เชียว” ท่าทางมีจริตของมินาสรวมกับน้ำเสียงเล็กแหบยียวนกวนประสาทพอสมควร
“ในเมื่อรู้แล้วก็ถอนมนต์สะกดซะ มินาส” สาวตาดุยังคงเสียงแข็งกร้าว
“เรื่องอะไรล่ะ นี่มันเหยื่อของฉัน ถึงจะเป็นไฟดี้ก็เถอะแต่ถ้าหล่อแบบนี้ฉันไม่ถือ” สาวเซ็กซี่ออกจริตอย่างเปิดเผยก่อนที่นัยน์ตาของเธอจะแวววาวราวกับหยดน้ำหวานในเกสรดอกไม้ นั่นทำให้ไฟดี้เริ่มขยับตัวอีกครั้ง
“หยุดนะมินาส! ไฟดี้อย่าหยิบนะ!!” คาเนลิสร้อนรนราวกับรู้ทันว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร เธอเริ่มขึ้นเสียง คราวนี้เสียงของเธอไม่สามารถหยุดน้องชายเอาไว้ได้ สาวตาดุจึงตัดสินใจ
“พึบ” เธอกวาดมือซ้ายออกจากตัว อำนาจทรงพลังบางอย่างเหนี่ยวรั้งผลักหนุ่มหล่อกระเด็นออกไปทันที ร่างของเขาตกลงพื้นทำให้เริ่มได้สติ
“คาเนลิส!! กล้าดียังไงมายุ่งเรื่องของฉัน” มินาสตวาดเสียงแหบก่อนที่จะสาวเท้าพุ่งเข้าหาอีกฝ่าย
"โอ๊ยยย"
คาเนลิสยื่นมือขวาออกไป อำนาจทรงพลังบางอย่างกระแทกเข้าใส่อีกฝ่ายจนกระเด็นล้มลงไปกับพื้น สาวตาดุเริ่มสังเกตว่าน้องชายของเธอฟื้นคืนสติแล้วจึงยกมือซ้ายขึ้น แสงระยิบระยับเบาบางแผ่คลุมเป็นกำแพงกั้นระหว่างตัวเธอกับน้องชายทันที
ไฟดี้กลับมามีสติโดยสมบูรณ์ เขามึนงงและลุกขึ้นยืนเกาหัวมองซ้ายมองขวาเล็กน้อย ในสายตาของเขาหนุ่มหล่อกลับยืนอยู่คนเดียวในตรอก
“คิดว่าตัวเองมีพลังสูงแล้วจะใช้ยังไงกับใครก็ได้อย่างนั้นเหรอ! พลังของเธอสู้เพื่อนฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ!” สาวเซ็กซี่ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางอารมณ์เสีย
“ที่ผ่านมาเธอทำแบบนี้กับผู้ชายในเมืองหรือแม้นักท่องเที่ยว ฉันไม่เคยขวาง ไม่เคยฟ้องสภา แต่นี่น้องชายฉัน ฉันยอมไม่ได้” สาวตาดุขึ้นเสียงกลับ ทั้งสองคนปะทะวาจากันโดยที่ไม่ทันสังเกตว่าไฟดี้เดินออกจากตรอกไปแล้วตอนนี้
“แล้วยังไง ปัญหาของเธอ ไฟดี้ไม่ใช่ปัญหาของฉัน น้องชายเธอน่ากินออก เธอควรดีใจนะ ฮาฮาฮา” มินาสพูดจากวนประสาท
“ฉันจะไม่พูดซ้ำสองนะ มินาส อย่าแตะต้องคนในครอบครัวของฉันอีก” คาเนลิสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“สั่งฉันเหรอ อ๋อลืมไป เธอคือคาเนลิสประธานนักเรียน... คาเนลิสผู้สูงศักดิ์... คาเนลิสผู้ยุติธรรม... คาเนลิสผู้ทรงพลัง... ฉันกับมิลรู้ทันเธอนะ คาดหวังอยากจะเป็นมาดักซ์ซาจนตัวสั่น เสแสร้งเป็นคนดี นังตอแหลเอ้ย!” สาวเซ็กซี่พูดด้วยจริตที่กวนประสาทถึงขีดสุด ด้วยท่าทางที่เธอแสดงออกมาอย่างชัดเจน
สาวตาดุตัวสั่นยืนกุมมือจ้องอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ เธอสูดหายใจเข้าออกลึกขึ้น
“เงียบ พูดไม่ออกเลยเหรอ รับความจริงไม่ได้ล่ะสิ” สิ้นเสียงแหบสุดเซ็กซี่ของมินาส ลมหมุนขนาดเล็กปกคลุมรอบตัวเธอจนผมของเธอพลิ้วไสว อำนาจบางอย่างของเธอสื่อออกจากผ่านกระแสลม หญิงสาวก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ “เก็บพลังอำนาจที่เธอมีไว้ปกป้องครอบครัวเถอะ อย่ามาสาระแนเรื่องของคนอื่น!” สาวเซ็กซี่ขอท้าชนด้วยอำนาจกับอีกฝ่าย
“ตู้ม!!!!!”
“อ้ากกกก” ร่างของมินาสกระเด็นกลับที่พื้นอีกครั้งด้วยแรงระเบิดทางพลังงานมหาศาล ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมรอบข้างแตกออกเป็นวงกลมราวกับมีลูกโปร่งล่องหนขนาดใหญ่ถูกเป่าออกมาจากจุดศูนย์กลางนั่นก็คือคาเนลิส สาวตาดุแถบไม่ขยับตัวด้วยซ้ำ
สาวเซ็กซี่ในสภาพพ่ายแพ้กองกับพื้นหันกลับมามองอีกฝ่ายด้วยสายตาโกรธแค้น สิ่งแวดล้อมรอบข้างค่อย ๆ หุบกลับมาประกอบชิ้นส่วนเหมือนกับกลีบดอกไม้ที่หุบกลับเข้าหาเกสรทันที
“คาเนลิส นังบ้า!” มินาสตวาดเสียงเล็กแหบและกรีดร้องราวกับเด็กน้อยที่งอแง
“คนที่บ้าคือเพื่อนรักของเธอต่างหาก ส่วนเธอน่ะมันร่าน!” สิ้นเสียงของคาเนลิสระเบิดบอลลูนทางพลังงานทำงานอีกครั้ง คราวนี้มันส่งผลเป็นวงกว้างและรุนแรงกว่าครั้งแรกหลายเท่า
“ตู้ม!!!!!!!!!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด”
ตรอกพังยับเยินและหุบกลับมาประกอบชิ้นส่วนจนดูเป็นปกติอีกครั้ง สาวเซ็กซี่กรีดร้องก่อนที่จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยอำนาจของเธอได้ทันท่วงที เช่นเคย สาวตาดุยังคงยืนอยู่ที่เดิม กุมมือแน่นและไม่ขยับตัวเลยสักนิด เธอหายใจช้าลงนั่นหมายความว่า อารมณ์ของเธอเย็นลงแล้วตอนนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ