สาบสมิง

-

เขียนโดย ลูกคนเดียว

วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 10.39 น.

  30 ตอน
  3 วิจารณ์
  26.86K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2562 11.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) บทที่สี่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

              ชานนท์อยู่ในชุดสีกากี เขากำลังจิบกาแฟพร้อมทั้งนั่งมองบรรยากาศยามเช้าอยู่หน้าห้องประชุม ห้องประชุมเก่าขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ทำจากไม้มะค่าทั้งหลัง อาคารแห่งนี้ถูกสร้างมาเกือบจะครบยี่สิบปีแล้วจากป้ายบอกวันเวลาที่ติดอยู่หน้าห้องเหนือบานประตู เพิ่งจะแปดโมงครึ่ง หลังจากเข้าแถวแนะนำตัวแล้ว กัมปนาทก็เดินมาพร้อมยื่นเอกสารให้แล้วบอกให้เขาเตรียมตัวเข้าร่วมการประชุมการจัดค่ายลูกเสือพิทักษ์ป่ากับคุณครูของโรงเรียนหนองเสือร้อง ชานนท์ตอบรับแล้วปลีกตัวมานั่งอ่านรายละเอียดของค่ายเงียบๆคนเดียว ชายหนุ่มพลิกดูเอกสารพลางจิบกาแฟ ตอนอยู่ที่ทำงานเก่า เขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งของวิทยากรค่ายเยาวชน ชานนท์จึงไม่ได้เป็นกังวลสำหรับงานแรกที่ได้รับมอบหมาย

                บรรยากาศยามเช้าเย็นจัด หมอกลอยอ้อยอิ่งปกคลุมอยู่เหนือขุนเขาไกลลิบ ชายหนุ่มดื่มกาแฟจนหมดแก้วเป็นเวลาเดียวกันกับที่ผู้ร่วมการประชุมทั้งจากโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ประจำค่ายเยาวชนของอุทยานแห่งชาติเองเดินทางมาถึงห้องประชุม เขายิ้มรับให้กับทุกคนแล้วพาตัวเองเข้ามานั่งอยู่ภายในห้องซึ่งเปิดหน้าต่างนั้น เก้าอี้ของเขาหันออกหาประตู ชานนท์จึงสะดุดตาทันทีที่หญิงสาวร่างระหงในชุดสีกากีเช่นกันก้าวเข้ามานั่งตรงกันข้ามกับเขา หล่อนยิ้มให้ตามมารยาท ส่วนเขายิ้มตอบจากใจจริง

                “สวัสดีค่ะ”                                                                    

                “สวัสดีครับ”

                ทั้งคู่ทักทายกันได้เพียงแค่นั้นก่อนที่ทุกคนจะทยอยเข้าห้องประชุม กัมปนาทนั่งลงข้างกายเขา เมื่อเห็นว่าทุกคนมาพร้อมกันแล้วจึงดำเนินการจัดประชุม การประชุมดำเนินไปอย่างน่าเบื่อหน่ายคล้ายกับการประชุมอื่นๆ มีการกำหนดกิจกรรมรวมทั้งตัววิทยากร นอกจากนั้นยังช่วยกันหารูปแบบและแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบระหว่างทั้งสองฝ่าย ในที่สุดเมื่อการประชุมใกล้จะสิ้นสุดลงเขาถึงได้รู้จักชื่อของหญิงสาวคนนั้น

                “ครูจอมขวัญจะเป็นผู้ประสานงานของทางโรงเรียนค่ะ”

                ครูสูงอายุท่านหนึ่งกล่าวแล้วหันไปทางหญิงสาว จอมขวัญยิ้มรับ ส่วนกัมปนาทเองก็หันมาทางชานนท์แล้วเอ่ยขึ้น

                “ส่วนทางผมจะให้ผู้ช่วยชานนท์เป็นคนควบคุมกำกับค่ายนี้ครับ มีอะไรคุยกับชานนท์ได้เลยครับ”

                ชนนท์เองก็ปฏิบัติตัวเช่นเดียวกันกับหญิงสาวเพียงยิ้มรับเล็กน้อย

                หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ชายหนุ่มก็ก้าวยาวๆตามร่างระหงของจอมขวัญ เขาร้องเรียกเบาๆ ครูสาวหันมาทำหน้าฉงน

                “ผมอยากจะขอเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ของคุณครูไว้ติดต่อเรื่องงานนะครับ”

                จอมขวัญยิ้มตื่นๆ

                “ได้ค่ะา”

                หล่อนยื่นโทรศัพท์ให้ ชานนท์จัดการครู่เดียว ไลน์ของหญิงสาวก็อยู่ในเครื่องเขา

                “พอดีผมเพิ่งมาทำงานใหม่ หากมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยล่วงหน้าเลยนะครับ”

                “ขวัญก็ด้วยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักและได้ร่วมงานกันนะคะ”

                “เช่นกันครับ”

                “งั้นขวัญขอตัวก่อนนะคะ”

                หญิงสาวเดินไปไกลแล้ว กัมปนาทเพิ่งเดินออกมาพร้อมเห็นภาพชายหนุ่มกำลังมองตามร่างจอมขวัญ เขายิ้มกับตัวเอง

                “สวยใช่มั้ยล่ะ”

                “อะไรนะครับหัวหน้า”

                กัมปนาทบุ้ยปากไปยังหญิงสาวที่กำลังขึ้นรถ

                “ครูจอมขวัญไง สวยใช่มั้ย”

                “สวยครับ”

                “รู้ไว้เถอะ ว่านั่นแหละ ลูกสาวคนเดียวของตาเฒ่าจอมพล”

                แล้วหัวหน้าของเขาก็หัวเราะเบาๆพร้อมเดินจากไปอีกคน

 

                จอมภพนั่งพิงพนักเก้าอี้ไม้ ทอดสายตามองไร่กว้างสุดลูกหูลูกตา พี่ชายของจอมขวัญสร้างกระท่อมส่วนตัวไว้บนเนินเขาเตี้ยๆแต่วิวสวยงาม สามารถมองเห็นไร่ของพ่อจรดถึงขุนเขาทะมึนอันเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติอย่างชัดเจน ชัชวาลยกอาหารมื้อกลางวันมาให้ หมูป่าผัดเผ็ดสีแดงเข้ม กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ

                “แกทำอาหารน่ากินเหมือนเดิมเลยนะชัช”

                ชัชวาลไม่ได้ตอบอะไร เพียงวางสำรับกับข้าวลงบนโต๊ะไม้สัก

                “เหลือเนื้อหมูอีกเยอะมั้ย”

                จอมภพพูดพลางตักหมูป่าผัดเผ็ดเข้าปาก แล้วเขาก็สูดปากเบาๆอย่างเผ็ดร้อน

                “หมดแล้วครับนาย”

                “อะไรกัน แกเอาเนื้อมาน้อยเหลือเกินชัช”

                “ถ้านายอยากกิน ผมไปซื้อในตลาดมาให้ได้ครับ”

                ชายหนุ่มโบกมือ

                “ซื้อมาจะอร่อยเท่ายิงเองเหรอ” เขาเว้นระยะ ตักหมูเคี้ยวอีกคำ แม้ว่าจะกินหมูป่ามาสามมื้อแล้วแต่เขาก็ไม่เบื่อเลย “ฉันว่าจะยิงมันมากินอีก”

                ชัชวาลมองเจ้านายของเขา

                “แต่ช่วงนี้พวกหมูไม่ค่อยออกมามากเท่าไหร่นะครับนาย ไอ้ตัวนี้ มันถือว่าตัวเองแน่เลยกล้าเข้ามาในไร่ของเรา”

                “ใครบอกแกล่ะว่าฉันจะรอให้มันเข้ามา”

                ชัชวาลตกใจเล็กน้อย

                “นายจะเข้าไปล่าในป่าเหรอครับ”

                จอมภพผงกหัวพร้อมตอบรับ

                “ใช่ ฉันอยากกินเนื้อตัวอื่นบ้างนะชัช”

                “แต่ในป่ามันอันตรายมากนะครับ”

                “กลัวอะไรล่ะชัช ปืนเรามีเยอะแยะ”

                “แต่พวกเจ้าหน้าที่ลาดตระเวณกันเข้มแข็งมากเลยนะครับ”

                คราวนี้จอมภพหันมายิ้มอย่างพึงพอใจ

                “นั่นคือความสนุกของการล่าครั้งนี้เลยล่ะชัช”

                “แต่ถ้าถูกจับได้ละก็”

                “ไม่เอาน่าชัช แกอย่ากลัวไปหน่อยเลย ฉันรู้ว่าแกพาฉันหลบเจ้าหน้าที่พวกนั้นได้”

                ลูกน้องคนสนิทนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ จอมภพเห็นชัชวาลมองไปยังขุนเขาเบื้องหน้า สายตามีแววพรั่นพรึง

                “แกกลัวอะไรหรือชัช”

                “เปล่าครับนาย ผมไม่เคยกลัวอะไร ผมแค่เป็นห่วงนาย”

                “ไม่เป็นไรน่าชัช เรายังมีเวลาคิดกันอีก ฉันยังไม่ไปตอนนี้หรอกน่า”

                “ครับนาย”

                “มาเถอะชัช มากินข้าวกัน”

 

                แดดร่ม ลมโชยพัดอ่อนๆ บรรยากาศเริ่มขมุกขมัวทั้งที่เพิ่งจะย่างเข้าห้าโมงครึ่งเท่านั้น หน้าหนาวมืดเร็วเสมอ ชานนท์กำลังเลือกซื้อผลไม้ในตลาดนัดวันจันทร์

                “อ้าวคุณชานนท์ มาซื้อผลไม้เหรอคะ”

                เสียงใสดังขึ้นจากทางด้านหลัง เขาเอี้ยวหน้ากลับไปมองพอเห้นว่าเป็นจอมขวัญ ชานนท์จึงหมุนตัวกลับพร้อมส่งยิ้มให้

                “ครับ คุณจอมขวัญมาซื้อกับข้าวเหมือนกันเหรอครับ”

                เขาถามพลางเหลือบมองตะกร้าใส่อาหารซึ่งหญิงสาวสะพายไหล่ไว้ หล่อยยิ้มพยักหน้า

                “ค่ะ วันนี้ขวัญว่าจะทำอาหารให้พ่อกินซะหน่อย”

                ด้านหลังของจอมขวัญ หญิงวัยชรามองเขาอยู่อย่างพินิจพิเคราะห์ ชายหนุ่มยิ้มให้พร้อมทั้งยกมือไหว้

                “สวัสดีครับ”

                ป้านวลยิ้มรับ ไหว้ตอบ

                “ค่ะ สวัสดีค่ะ”

                “นี่ป้านวลค่ะ ญาติผู้ใหญ่ของขวัญเอง” หล่อนแนะนำ จับแขนหญิงสูงวัยอย่างสนิทสนม ป้านวลหัวเราะเบาๆพูดขัดเล็กน้อย “แล้วนี่ก็คุณชานนท์ เป็นผู้ช่วยคนใหม่ของอุทยาน”

                “ญาติที่ไหนกันคุณขวัญ ป้านวลเป็นแม่บ้านต่างหาก”

                “ป้านวลเป็นญาติผู้ใหญ่ของหนูเสมอค่ะ”

                จอมขวัญยังยืนยันหนักแน่น ทำสีหน้าจริงจังจนหญิงชราอดปลื้มใจไม่ได้ ชานนท์ลอบมองอาการนั้น จอมขวัญช่างแตกต่างกับบิดาของหล่อนอย่างสิ้นเชิง หญิงสาวสดใสสมวัย ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมเล่ห์กลใดทั้งสิ้น สิ่งที่สะกดสายตาของเขาไว้ได้ไม่ใช่ความสวยของใบหน้า หากแต่เป็นรอยยิ้มกว้างรวมทั้งลักษณะนิสัยที่อ่อนน้อมของหล่อน แต่อีกใจหนึ่งของเขาก็ย้ำเตือนว่าอย่าเพิ่งไว้ใจหญิงสาวคนนี้ หล่อนอาจจะมีบางอย่างอยู่เหนือความคาดหมายของเขาก็ได้ ต้องจับตาดูต่อไป ชายหนุ่มบอกตัวเอง

                “คุณชานนท์ซื้อเสร็จแล้วเหรอคะ”

                เขาชูถุงผ้า

                “ครับ เหลือแค่ผลไม้อย่างเดียวครับ”

                “ใช้ถุงผ้าด้วยเหรอคะ”

                “ใช่ครับ ช่วงนี้ต้องตามเทรนด์ถุงผ้าให้ทันครับ เขารณรงค์กันอยู่”

                “ดีค่ะ คุณชานนท์ใช้ถุงผ้า ขวัญเองก็ใช้ตะกร้าเหมือนกัน เป็นเทรนด์ยุคสมัยของป้านวล”

                หญิงสูงวัยค้อนขวับ

                “แหมคุณขวัญ”

                ทั้งหญิงสาวและชายหนุ่มหัวเราะพร้อมกัน

                “เรียกผมว่านนท์เฉยๆก็ได้ครับ”

                “ได้ค่ะ คุณนนท์เฉยๆ”

                “เอิ่ม”

                ชานนท์กะพริบตาปริบ ส่วนหญิงสาวหัวเราะเสียงใส หลังจากนั้นทั้งหมดก็เลือกซื้อผลไม้ ตะวันลับเหลี่ยมเขาแล้ว อากาศเย็นลง

                “คุณขวัญรีบกลับหรือเปล่าครับ”

                ช่วงหนึ่งชานนท์ถามขึ้น

                “ทำไมคะ”

                “พอดีผมว่าจะชวนคุณขวัญไปกินบัวลอยตรงร้านหัวมุมถนนครับ”

                หญิงสาวครุ่นคิดนิดหน่อยก่อนพยักหน้า

                “ได้ค่ะ แต่ไม่เกินหกโมงครึ่งขวัญต้องขอตัวนะคะ ต้องรีบกลับไปทำกับข้าว”

                “ได้ครับ”

                ผู้ช่วยหนุ่มยิ้มกว้าง

               

                บัวลอยหอมกรุ่น ควันฉุย วางเบื้องหน้าทั้งสาม แล้วคนนำมาเสริฟก็ตอนกลับไปยืนนิ่ง ใช้สายตาจ้องมองชายหนุ่มอย่างพิศวงกึ่งพอใจ

                “ใครอ่ะพ่อ”

                เด็กสาววัยรุ่นถามบิดาซึ่งกำลังตั้งใจทำบัวลอยถ้วยต่อไป ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว มองตามเสียงลูกสาว

                “คุ้นๆแต่พ่อไม่แน่ใจ เหมือนจะเคยๆเห็นหน้าอยู่”

                หล่อนพยักหน้านิดหน่อย

                “เอ็งมีอะไรหรือเปล่า”

                “เปล่าจ้ะพ่อ แค่ไม่คุ้นหน้าเลยถาม”

                “เอ็งเพิ่งกลับมาจากในเมืองจะไปรู้จักใคร ตอนนี้บ้านเรามีคนแปลกหน้าเข้ามาเยอะแยะ ทั้งนักท่องเที่ยวแล้วก็พวกที่มาอยู่ถาวร ไปๆ เอาถ้วยนี้ไปให้ลุงอ่ำ”

                “จ้ะ”

 

                ดูท่าคุณชานนท์จะชอบกินบัวลอย จอมขวัญนึกอยู่ในใจพร้อมทั้งขำท่าทางการกินของชายหนุ่ม ชานนท์กินอย่างรวดเร็ว เวลาเพียงไม่นานบัวลอยของเขาก็พร่องไปครึ่งหนึ่ง ส่วนของหล่อนและป้านวลเพิ่งจะตักไปได้สี่ห้าคำเล็กเท่านั้น

                “คุณชานนท์คงชอบกินบัวลอย”

                หล่อนเอ่ยขึ้น ชานนท์ยิ้มรับพยักหน้า

                “ครับ ตอนผมอยู่ที่ทำงานเก่า คนที่นั่นจะกินบัวลอยตอนหน้าหนาวแบบนี้ครับ”

                “แล้วคนที่นั่นกินเร็วเหมือนคุณนนท์หรือเปล่าคะ”

                เขาแทบสำลัก ส่วนหล่อนหัวเราะคิก

                “คนที่นั่นกินเร็วกว่าผมอีกครับ แล้วก็กินจุกว่าผมด้วย”

                ชายหนุ่มพูดจบก็สั่งบัวลอยอีกถ้วยทันที หญิงสาวทำตาโต

                “ระวังเป็นเบาหวานนะคะคุณผู้ช่วย”

                ชานนท์ยิ้มกว้าง เป็นคนยิ้มง่ายจริงนะ ผู้ช่วยคนนี้ ป้านวลซึ่งสังเกตทั้งคู่โดยไม่ได้พูดอะไรรำพึงในใจแล้วหันมาพินิจจอมขวัญ คุณขวัญเองก็ดูมีความสุข หัวเราะเสียงใสกว่าทุกครั้ง ในอดีตมีคนเพียงไม่กี่คนที่ทำให้หญิงสาวหัวเราะได้มากขนาดนี้ คงมีเพียงพี่ชายผู้แสนจะวางมาดดุดันของหล่อนละกระมัง ป้านวลแอบถอนหายใจเบาๆ แล้วก็ไอ้หนุ่มนี่อีกคน

                แดดจางหายไปแล้ว ความขมุกขมัวเริ่มแทนที่ แต่ทั้งคู่ยังคงคุยกันอย่างออกรส เหมือนรู้จักกันมานานปี

                “แล้วคุณนนท์รู้ได้ยังไงคะว่าบัวลอยร้านนี้อร่อย”

                จอมขวัญถามขึ้นหลังจากกินคำสุดท้ายแล้ววางช้อนลง

                “ผมเคยมาฝึกงานที่นี่ตอนบรรจุใหม่น่ะครับ” เขาตอบ “แล้วบังเอิญได้ยินคนที่อุทยานพูดกันว่าร้านนี้อร่อยก็เลยมาลองชิม แล้วก็ติดใจ ตั้งใจว่าถ้าได้กลับมาทำงานที่นี่อีกจะมากินอีกให้ได้”

                “โห ถ้าลุงย้อยได้ยินคงปลื้มใจน่าดู”

                “ใครกันครับ ลุงย้อย”

                “อ้าวก็คนทำบัวลอยให้เรากินไงค่ะ นั่นแหละมือหนึ่งของอำเภอเลย”

                “มิน่าล่ะ ถึงทำอร่อยขนาดนี้”

                ป้านวลสะกิดแขนจอมขวัญ หล่อนหันมองแล้วนึกขึ้นได้

                “เห็นทีขวัญคงจะต้องขอตัวก่อนนะคะ ยังต้องกลับไปทำกับข้าวอีก”

                ชานนท์ยิ้มอีกรอบ

                “ครับ มื้อนี้ผมขอเลี้ยงคุณขวัญนะครับ”

                หญิงสาวคิดอยู่ครู่จึงตอบรับ

                “ได้ค่ะ แต่ว่าครั้งหน้าให้ขวัญเลี้ยงบ้างนะคะ ถือเป็นการต้อนรับผู้ช่วยอุทยานคนใหม่”

                ชานนท์เพิ่งเรียกเด็กสาวมาคิดเงิน

                “แหม ผู้ช่วยก็เป็นแค่ตำแหน่ง นอกเวลางานผมก็เป็นประชาชนเหมือนคุณขวัญแหละครับ”

                “ถึงงั้นก็ต้องเลี้ยงค่ะ เอาไว้ขวัญจะทำกับข้าวเลี้ยงต้อนรับคุณนนท์เอง”

                “งั้นก็ขอบคุณล่วงหน้าเลยละกันครับ”

                แล้วเขากับหล่อนก็แยกจากกันง่ายๆ ชานนท์กลับบ้านพักพลางครุ่นคิดถึงตัวของจอมขวัญ ส่วนหล่อนจะคิดเหมือนเขาบ้างไหม ชายหนุ่มไม่รู้ แต่ยังมีเด็กสาวอีกคนที่ลอบมองตามเงาหลังของเขาไป เด็กสาวคนนั้นพูดกับตัวเองเบาๆ

                “ที่แท้ก็เป็นผู้ช่วยคนใหม่ของอุทยานนี่เอง หล่อไม่เบาเลยนะ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา