Unmate เนื้อคู่อยู่หนใด

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.17 น.

  1 บท
  0 วิจารณ์
  3,016 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2562 15.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

บทนำ

คลื่นมาแล้ว

ลูกนี้ใหญ่มาก สังหรณ์ใจว่าจะเป็นคลื่นลูกใหญ่ ผมผ่านคลื่นลูกใหญ่มาหลายลูกแล้ว แต่คลื่นลูกนี้ช่างรุนแรงเหลือเกิน ถ้าพลาดพลั้งไปต้องโดนกลืนกินแน่

กำปั้นของผมที่กำแน่นนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ พูดตามตรง ผมกำลังกลัว ตอนนี้ผมไม่มีความกล้าพอที่จะเผชิญกับคลื่นลูกนี้ แต่ตัวเองก็ไม่มีทางเลือกให้หันหลังหนีไปจากมันได้เช่นกัน

สถานที่ที่ผมกำเหงื่ออยู่ในมือ ไม่ใช่อินามุระงาซากิที่ชายฝั่งโชนันหรือนอร์ธชอร์ของฮาวาย แต่เป็นในกล่องเหล็กสี่เหลี่ยมที่ไม่มีทางหนี รถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทรสายฮันโซมง

ในท้องของผมตอนนี้กำลังเกิดพายุไซโคลนเขตร้อนลูกใหญ่ การเปลี่ยนแปลงฉับพลันของสภาพแวดล้อมในลำไส้ เกิดคลื่นในท้องของผมพร้อมๆ กับอาการโป่งพอง พวกนักเล่นเซิร์ฟหน้าแดงกับคำว่า ‘พายุกำลังจะมา’ ถือแผ่นกระดานโต้คลื่นมุ่งหน้าไปยังทะเล ผมคิดว่าพวกเขาคงเป็นบ้าไปแล้ว ถ้าพายุจะมาก็ต้องซ่อนตัวสิ ต้องไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยสิ แต่น่าเสียดาย ไม่มีทางที่จะหนีจากพายุลูกนี้ได้เลย ในรถไฟใต้ดินไม่มีสถานที่ที่ปลอดภัยเลย

——ไม่ไหวแล้ว

หัวใจร้องตะโกนจนนึกว่าออกมาจากปากโดยไม่ทันรู้ตัว เหลืออีกห้าสถานีกว่าจะถึงที่หมาย แต่ไม่มีทางเลือก ต้องลงระหว่างทางที่สถานนีหน้าแล้ว

“สถานีต่อไป คุดันชิตะ คุดันชิตะ”

เมื่อเสียงประกาศในรถไฟดังขึ้น ผมยืนยันจนมั่นใจว่าคลื่นในท้องถดถอยไปแล้วจึงลุกขึ้นยืน มือสมัครเล่น ‘โต้คลื่น’ จะนั่งอยู่กับที่จนกว่ารถไฟเกือบจะเทียบชานชาลา แต่มันเป็นวิธีที่โง่เขลา เพราะวินาทีที่ประตูรถไฟเปิดคลื่นในท้องก็จะมาจนลุกขึ้นยืนไม่ได้ แล้วจะถูกผู้โดยสารที่พยายามจะขึ้นรถไฟดันเข้ามา เสียจังหวะที่จะได้ลงจากรถไฟอีกด้วย หากเป็นอย่างนั้นจะยิ่งตกนรกลงไปขุมที่ลึกกว่าเดิม เหงื่อแตกจนกว่าจะถึงสถานีหน้า เอาแต่อ่านค่าพายที่ตัวเองก็จำไม่ได้อย่างเอาเป็นเอาตาย

ผมเข้าไปใกล้ประตู ยืนให้เส้นกลางลำตัวสบกับเส้นแนวตั้งสีดำของยางกันกระแทกขอบประตู ปลายจมูกสัมผัสกับขอบยางนั้นเล็กน้อย ความรู้สึกออกไปอยู่นอกตัวรถแล้ว เอาละ เท่านี้การเตรียมตัวพุ่งออกไปด้านนอกด้วยระยะเวลาที่สั้นที่สุดในขณะที่ประตูเปิดก็เรียบร้อย

เอี๊ยด กึก กึก กึก

ดูเหมือนว่าพนักงานขับรถไฟขบวนนี้จะฝีมือไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การตอบสนองจากเบรกนั้นรุนแรงจนตัวรถสั่น การสั่นนั้นกลายเป็นบาดแผลถึงชีวิตสำหรับผม ผมซึ่งเสียกระบวนท่าเตรียมหนีแล้วไม่สามารถใช้ขายึดพื้นเอาไว้ได้ คว้ามือจับข้างประตู ทรงตัวไว้ได้แค่ร่างกายส่วนบนเท่านั้น จะออกแรงยึดที่ขา ใส่พลังลงไปในท้องตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด

——เกือบไปแล้ว

รอดมาได้จากทั้งการสั่นสะเทือนและคลื่น ประตูเปิดออก วินาทีที่เกิดช่องว่างขึ้นสามสิบเซนติเมตร ผมก็แทงไหล่ขวาออกไปด้านหน้า ออกไปครึ่งตัว จากนั้นออกจากช่องว่างนั้นลงไปยืนอยู่บนชานชาลา ด้านหลังของผมนั้น พวกผู้โดยสารคนอื่นจะต้องตะลึงกับการลงรถไฟอันรวดเร็วของผมอยู่เบื้องหน้าประตูที่ยังเปิดไม่สุดแน่นอน

ผมมุ่งหน้าตรงไปยังบันไดเลื่อนที่เห็นอยู่ข้างหน้า เป็นพายุฝนในจังหวะที่แย่ที่สุด สิ่งเดียวที่ช่วยชีวิตไว้ก็คือที่นี่เป็นสถานีคุดันชิตะ ด้านหน้าของตู้รถไฟที่ผมขึ้นนั้นเป็นบันไดเลื่อน นอกจากนี้ หากตรงขึ้นไปจะสามารถไปถึงห้องน้ำได้ในเวลาที่สั้นที่สุด

ไม่ได้จะอวดตัวเอง แต่นี่ไม่ใช่การพบเจอกับพายุอย่างกะทันหันแบบนี้เป็นครั้งแรก ตรงกันข้าม น่าจะพูดได้ว่ามีประสบการณ์ผ่านสนามรบมาโชกโชนกว่าคนทั่วไปมาก เมื่อได้ลงไปครั้งหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสถานีไหนในหัวของผมก็บันทึกว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหนเอาไว้เรียบร้อย เพราะอัตราการ “ลงระหว่างทาง” หรือเท่ากับ “ลงรถไฟไปเข้าห้องน้ำ” นั้นมากเกินกว่า 90% ไปแล้ว

คลื่นลูกต่อไปยังไม่มา ผมก้าวเดินอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง แน่นอนว่าผมเดินขึ้นบันไดเลื่อนทางฝั่งขวา ต้องหลับตาไม่รู้ไม่เห็นเรื่องมารยาทในเวลาแบบนี้ การที่ผู้ใหญ่จำนวนมากเดินกระจัดกระจายอยู่ในตัวสถานีต่างหากที่เสียมารยาทมากกว่าเยอะ

แนวป้องกันสุดท้ายในก้นของผมมีเหล่าทหารของกล้ามเนื้อหูรูดซึ่งถูกฝึกมาอย่างดีจากประสบการณ์อันโชกโชนปกป้องอยู่ พวกเขามีความตั้งใจอันแน่วแน่ว่าต่อให้ตายก็ไม่ยอมให้ผ่านไปได้

แต่พายุในคราวนี้ลุกใหญ่มากถึงขนาดสามารถพัดความตั้งใจนั้นให้ปลิวไปได้ภายในพริบตา

——แย่แล้ว

คลื่นมันเข้ามาใกล้อีกแล้ว ถึงจะยังไม่ใช่คลื่นลูกใหญ่ที่สุด แต่จะประมาทไม่ได้ ผมเดินให้เร็วขึ้นใน “โหมดนายแบบ” พุ่งทะยานไปจนถึงห้องน้ำ โหมดนายแบบคือวิธีการเดินโดยใส่แรงลงไปที่ก้นอย่างเหมาะสม หายใจด้วยวิธีพิเศษ ‘ชู่ ชู่’ แล้วใช้ต้นขาด้านในเดินเพื่อไม่ให้กระตุ้นท้องมากเกินไป ผมนึกขึ้นมาได้เมื่อดูเทรนเนอร์ที่เคยเป็นนายแบบมาก่อนออกทีวี ผมประสบความสำเร็จก้าวผ่านอันตรายมาหลายครั้งด้วยการเดินเช่นนี้

เห็นห้องน้ำแล้ว

——เราทำได้!

เป้าหมายคือห้องน้ำเอนกประสงค์ ที่ใช้ได้ทั้งผู้ใช้รถเข็น หรือผู้เดินทางพร้อมเด็ก ผมรู้ ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงยกให้ด้วยความเต็มใจ ทว่าในท้องของผมตอนนี้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน ให้ ‘ห้องน้ำของทุกคน’ คอยแบกรับจิตใจด้านดี ผมค่อยๆ เข้าไปใกล้มันด้วยลมหายใจ ‘ชู่ ชู่’ และโหมดนายแบบ

ไฟ ‘กำลังใช้งาน’ นั้นไม่ติด โล่งอกไปที ไม่มีคนอยู่ วินาทีที่ผมคลายกังวล คลื่นลูกใหญ่ที่สุดอันน่ากลัวก็เข้ามาโจมตีท้อง แถมยังน่าเสียดายที่ตรงตามที่ผมคาดการณ์พอดี เป็นคลื่นลูกใหญ่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน โดนกลืนแน่ ความหวาดกลัวนั้นทำให้ขาพันกัน ลมหายใจหอบ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าห้องน้ำอยู่ไกลขึ้นมา

——อย่ายอมแพ้นะ!

ในใจของผม ตัวผมอีกคนกำลังตะโกนด่าอีกคนที่กำลังอ่อนแอ เป็นบุคลิกอีกแบบที่มักจะออกมาตอนเจอสถานการณ์ถึงขีดจำกัด จากการมองตัวเองด้วยมุมสูง ทำให้รู้สึกเหมือนถูกปลดปล่อยออกจากการบีบตัวของลำไส้ มันคือแผนการต่อสู้ทางจิตวิญญาณ

เป็นแค่ทฤษฎีจิตวิญญาณ และเป็นถึงทฤษฎีทางจิตวิญญาณ แผนการรบนี้ไม่สามารถผลักคลื่นลูกใหญ่กลับไปได้ แต่ดูเหมือนจะมีผลทำให้มันหยุดได้ชั่วคราว ยังไหว

ตอนนี้ผมสงบใจลงแล้วเริ่มนับถอยหลัง การยอมล่าถอยเพียงเล็กน้อยในตอนนี้สามารถตัดสินชะตาชีวิตได้ ผมจึงจินตนาการถึงการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและระยะสั้นที่สุด เพิ่มสมาธิเพื่อให้พุ่งไปยังเป้าหมายได้ตามที่คิด ที่แนวป้องกันตรงก้น เหล่าทหารกำลังพยายามจนเกินขีดจำกัดกันไปแล้ว

——5

ผมกดปุ่ม ‘เปิด’ กลมๆ นั่นอย่างแรงเหมือนคนตอบคำถามในรายการได้ หลังจากกดสวิตช์ไปแล้ว 0.5 วินาที ที่เซนเซอร์ทำงานช้านั้นก็อยู่ในการคำนวณ ประตูเริ่มเปิดออกอย่างช้าๆ และเงียบงัน

——4

ผมยื่นไหล่ขวาเข้าไปเหมือนกับตอนลงจากรถไฟ พร้อมกันนั้นก็ใช้ขาขวาแหย่เข้าไปตรงช่องว่างของประตูที่เริ่มเปิดออก การเคลื่อนไหวมือขวาและขาขวาในเวลาเดียวกันเรียกว่า ‘นัมบะ’ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการเคลื่อนไหวไร้ช่องว่างที่ใช้ในการต่อสู้โบราณของญี่ปุ่นเช่นกัน ผมเข้าไปในห้องน้ำได้ด้วยการเคลื่อนไหวของ ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ อย่างเงียบและลื่นไหล

——3

หาปุ่ม ‘ปิด’ กลมๆ ไม่เจอ สภาพมันแตกต่างจากที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ ถูกปรับปรุงหรือเปล่านะ ผมร้อนรน เหงื่อที่เปียกแก้มค่อยๆ ไหลลงมา คลื่นที่ก่อตัวสูงขึ้นมาในท้องเริ่มม้วนตัวสร้าง ‘ท่อส่ง’ แล้ว หากเป็นนักเล่นเซิร์ฟนี่คงเป็นสถานการณ์ในฝันเลยทีเดียว แต่โชคร้าย ผมไม่ใช่นักเล่นเซิร์ฟ แถมในท้องผมก็ไม่ใช่ฮาวายด้วย

——2

เจอแล้ว ผมทุบปุ่ม ‘ปิด’ ดูให้แน่ใจว่าประตูปิดสนิทแล้วอย่างช้าๆ จากนั้นหันกลับไปข้างหน้า ตามองหัวเข็มขัด เดินก้าวไปข้างหน้าพลางแกะเข็มขัดด้วยมือทั้งสองข้าง

——1

ผมเงยหน้าขึ้น เหลือก็แค่นั่งลงบนโถเท่านั้น แต่แล้วต้นขาซ้ายของผมก็เตะเข้ากับอะไรสักอย่าง จนเกือบจะข้ามเส้นไปด้วยความเจ็บปวดโดยไม่ได้ตั้งใจนั้น

——อุ่ก

ที่ผมเตะเข้าให้นั้นคือเตียงพับที่บังเอิญติดตั้งอยู่ในห้องน้ำเอนกประสงค์ ผู้ที่รู้สึกพะอืดพะอมมักจะมาใช้งาน หรือใช้เปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก ผมคิดว่าคงมีใครใช้แล้วไม่ยอมเก็บ จึงมองดูเตียงนั้น แต่ผมคิดผิด ไม่ใช่ ‘ใช้แล้วไม่ยอมเก็บ’ แต่เป็น ‘กำลังใช้อยู่’ น่าจะเป็นการแสดงออกที่ถูกต้องมากกว่า เพราะบนนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนอนอยู่

——ทำไมมีคนมาอยู่ในนี้ได้เนี่ย?

ผมนึกย้อนกลับไป 5 วินาทีที่แล้วที่ผมเข้ามาในห้องน้ำ แสงไฟ ‘กำลังใช้งาน’ มันดับอยู่แน่นอน และห้องน้ำก็ไม่ได้ปิดอยู่ด้วย แต่ในความเป็นจริงเบื้องหน้าผมมีผู้หญิงอยู่ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ภาพลวงตาที่จะหายไปเมื่อกะพริบตา ปลดปล่อยความรู้สึกมีตัวตนที่หากยื่นมือไปก็จะสัมผัสได้

ผู้หญิงคนนั้นหลับตาอยู่ แต่ถึงจะอยู่ในสภาพหลับตา ก็รู้ได้ว่าใบหน้านั้นนั้นงดงามได้รูป หากจะให้พูดว่ามันได้รูปแค่ไหน ก็งดงามได้รูปถึงขนาดแม้กระทั่งผมที่นับถอยหลังแห่งโชคชะตาถึง ‘1’ แล้วยังลืมเวลาไปได้

——ศูนย์

แต่ถึงผมจะลืม ท้องของผมยังคงจำได้อย่างแม่นยำ ว่าตอนนี้กำลังอยู่ท่ามกลางพายุ แนวป้องกันสุดท้ายในก้นกำลังพยายามจนเกินขีดจำกัด อยากจะขอพูดคำขอบคุณ แล้วก็ ลาก่อน

ผมหลับตาเหมือนกับผู้หญิงที่นอนอยู่ตรงหน้า แล้วก็ตรัสรู้

——ว่าการฝืนห้ามแม่น้ำไหลก็รังแต่จะทำให้เกิดตะกอนเพียงเท่านั้น

ดินทรายไหลออกมาจากก้นของผมราวเขื่อนแตก สายน้ำสีน้ำตาลที่ท่วมท้นเปรอะเปื้อนกางเกงในและกางเกงของผมอย่างไร้ปราณี ผมหลับตา ได้แต่รอให้พายุพัดผ่านไป

เมื่อกางเกงฝ้ายสีเบจถูกย้อมเป็นสีน้ำตาลเรียบร้อยแล้ว พายุก็ผ่านไป ผมลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ หากเป็นแค่ความฝันอันแสนยาวนานก็คงจะดี แต่นี่ยังคงเป็นในห้องน้ำเอนกประสงค์สี่เหลี่ยมขนาด 2.5 เมตร ข้างหน้านั้นมีผู้หญิงใบหน้าได้รูปราวกับรูปสลักของกรีกนอนอยู่ เมื่อทุกอย่างออกมาหมดแล้ว ผมก็สงบนิ่งลงทันที แล้วก็เริ่มเป็นกังวล

——ผู้หญิงคนนี้ หลับอยู่หรือหมดสติกันนะ

เธอนอนหลับด้วยใบหน้าที่งดงามมาก ผมเลยคิดว่าเธอกำลังนอนอยู่ แต่ก็มีโอกาสที่กำลังหมดสติได้เช่นกัน แถมในกรณีที่แย่ที่สุด อาจจะหมดลมหายใจไปแล้วก็ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบลมหายใจดูก่อน

ผมวางเรื่องที่สภาพท่อนล่างของตัวเองอยู่ในสภาพสุดเลวร้ายเอาไว้ แล้วก้าวเข้าไปใกล้ผู้หญิงที่นอนอยู่

ถูกใบหน้าของเธอดึงความสนใจ แต่ผู้หญิงคนนี้หุ่นดีมาก ชุดอาจจะยับเยินไปบ้าง แต่เธอสวมชุดสูทสีเทาอย่างดี ใต้เสื้อนอกตัวนั้นสวมเสื้อยืดสีขาวนวล ความนูนของหน้าอกวาดเส้นโค้งในอุดมคติ ถึงจะนอนหงายอยู่แต่มันก็ต้านแรงโน้มถ่วง ก้อนครึ่งทรงกลมฝาแฝดนั้นยืนกรานว่า ‘พวกเราอยู่ที่นี่’

ขายาวยืดออกมาจากกระโปรงสอบ ทั้งที่เธอไม่น่าจะใส่ถุงน่องอยู่ แต่กลับเห็นว่ามันเนียนเป็นประกาย

——มันใช่เวลามามองหลงแบบนี้รึ

ผมตัดสินใจส่งเสียงเรียกเธอ

“อะ เอ่อ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”

ก่อนอื่น มีแต่จะต้องอธิษฐานให้เธอตื่นขึ้นมาอย่างปลอดภัยเท่านั้น

“อื๋อ?”

มีปฏิกิริยาตอบสนอง โล่งอกไปที ดูเหมือนว่าอย่างน้อยๆ ก็ยังมีชีวิตอยู่ ผู้หญิงลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ กะพริบตาหลายครั้งอย่างแสบตาแล้วรู้สึกถึงตัวตนของผม

“อะ อ๊ะ อ๊า!”

ผู้หญิงคนนั้นตกใจลุกพรวดขึ้นมาเมื่อเห็นหน้าผม

——ซวยแล้ว ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้ละก็

‘กล่าวหาว่าลวนลาม’ ตัวหนังสือ 4 ตัว ผุดขึ้นมาในหัวผมทันที ‘ก็มันไม่ได้ล็อกเอาไว้นี่ครับ’ ‘ไม่คิดว่าคนที่มานอนอยู่ในห้องน้ำประหลาดกว่าเหรอครับ’ ‘จะให้ผมอดทนต่อการเรียกร้องของธรรมชาติเหรอ? ไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอครับ!’ ภาพตัวเองกำลังค้านด้วยเสียงดังในศาลลอยขึ้นมาในสมอง และได้ยินเสียงแห้งๆ เย็นๆ ‘ผิดจริง’ ของผู้พิพากษาหลังจากนั้นด้วย

ผมลนลานปิดปากผู้หญิงคนนั้นไม่ให้ตะโกนแล้วรีบอธิบาย

“ระ ระ รอเดี๋ยวสิครับ ผมไม่ใช่พวกโรคจิตหรือคนน่าสงสัยอะไรนะ!”

ผู้หญิงคนนั้นชี้มาที่หน้าผมพร้อมกับหยุดตะโกนเมื่อได้ยินเสียงพยายามแทบตายของผม แต่ยังคงจ้องมองหน้าของผมอย่างสงสัย

“ถึงจะเข้ามาในห้องน้ำแล้วคิดว่ามีผู้หญิงหน้าตาสวยอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่ด้วย แต่ผมไม่ได้คิดอะไรแปลกๆ เลยนะครับ”

ผมเองยังอึ้งว่าตัวเองพูดอะไรออกไป เพราะเป็นแบบนี้จึงมักจะถูกหัวหน้าที่บริษัทดุเอาว่า ‘ฉันฟังที่นายพูดไม่รู้เรื่องเลยสักนิด’

แต่เหมือนข้ออ้างที่ฟังดูแย่จะได้ผล ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาว่า “หื~ม” แล้วลงจากเตียง

“ช่างเถอะ ฉันจะเชื่อก็แล้วกัน ฉันเองก็ผิดเหมือนกันที่เมาแล้วมานอนเอาตรงนี้”

——โล่งอกไปที

นอกจากจะโดนให้มาทำงานในวันหยุดแล้ว ยังจะอึราดระหว่างทาง แถมถ้าจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพวกโรคจิต นอกจากคงโดนเหยียบโดนกระทืบแล้ว ยังคงถูกหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วเอาไปเผาอีกต่างหาก ผมโล่งอกที่ตัวเองไม่ค้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป

“แถมฉันยังคิดว่านายคงไม่มีเวลาว่างพอจะลวนลามคนอื่นหรอก”

ตอนนั้นเองที่ผมนึกออกว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่ และนึกออกว่าตัวเองทำเรื่องผิดพลาดน่าละอายนอกลู่นอกทาง ในความหมายที่ต่างจากการลวนลามไปแล้ว ความรู้สึกเปียกชื้นของกางเกงและกางเกงในนั้นช่างรู้สึกแย่

ทันใดนั้นผมก็รู้สึกว่าการอยู่ในสภาพน่าละอายแบบนี้กับเพศตรงข้ามสองต่อสองมันช่างทรมานขึ้นมา

——ยังไงก็กลับบ้านก่อนแล้วกัน

“นี่ รอเดี๋ยวสิ”

เธอผู้ทำให้ผมหันกลับไปหลังจากที่หันไปเตรียมจะกดสวิตช์ ‘เปิด’ ตรวจดูกับกระจกในห้องน้ำว่าเครื่องสำอางค์ไม่ได้เลอะเทอะ พลางส่งเสียงพูดกับผมผ่านกระจกบานนั้น

“มีอะไรเหรอครับ?”

“บ้านฉันอยู่ใกล้ๆ นี่ นายไปอาบน้ำที่นั่นสิ เกรี่”

——เกรี่เหรอ?

ใครกันน่ะ? แต่ในห้องปิดตายเล็กๆ แห่งนี้ นอกจากเธอแล้วก็มีแต่ผมเท่านั้น

-- อ่านต่อได้ที่ bit.ly/2Mv6nJn --

ติดตามโปรเจกต์เสี่ยวเปยและร่วมพูดคุยกับพวกเราได้ที่

https://www.facebook.com/xiaobei.fiction

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา