The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  165.62K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

132) สามกระบวนท่าพิชิตชัย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

เครดิตภาพจาก  https://wallpapercave.com

 

       งุยโฮควงมีดคู่ด้วยความชำนาญ ความเร็วในการตวัดมือสูงมากทำให้ใบมีดหมุนวนราวจักรผัน ส่วนดวงตาก็จับจ้องทุกอิริยาบถของเด็กหนุ่ม

            

 

       มาวินเองก็จ้องมีดคู่ในมือของงุยโฮเช่นกัน แต่ด้วยความที่มันหมุนเร็วเกินไป เลยทำให้มองไม่ทัน เมื่อถึงจุดหนึ่ง ชายร่างล่ำก็หยุดควง พร้อมพุ่งเข้าใส่อริร้าย เพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายสูงสุด 

 

“ คมมีดกากบาท ” 

             

 

      ในห้วงแห่งความเป็นความตาย ดวงตาของเด็กหนุ่มเหลือบไปเห็นดาบไม้สองเล่มที่ตกอยู่บนพื้น จึงหยิบมันขึ้นมากระชับไว้ในสองมือ พร้อมปล่อยกระบวนท่าเด็ดที่เพิ่งนึกออก

 

“ เพลงดาบคู่พันเข็มทิ่มแทง ” 

             

 

       คมดาบในมือซ้ายขวาพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดพายุดาบที่วิ่งเข้าใส่งุยโฮในทุกทิศทาง ยังผลให้ชายร่างล่ำเลิกปล่อยกระบวนท่า แล้วหันมาใช้มีดสั้นปัดป้องอย่างเอาเป็นเอาตาย 

 

“ เฮ้ย! นี่มัน ” งุยโฮอุทานดัง มีดสั้นในมือกวัดแกว่งไปมา เพื่อปัดป้องคมดาบที่พุ่งเข้ามา ราวกับกระแสน้ำป่าที่ทะลักไม่หยุดหย่อน

             

 

       ขณะที่งุยโฮกำลังป้องกันท่าเด็ด มาวินกลับเป็นฝ่ายปล่อยมือจากดาบคู่อย่างฉับพลัน พร้อมฉวยจังหวะที่อริมึนงง เพื่อเข้าประชิดกาย

 

“ ปึก ” 

             

 

        มาวินอัดฝ่าเท้าเข้าไปตรงกลางระหว่างขาของงุยโฮสุดกำลังจนก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วโรงฝึก เพลงเท้าที่รุนแรงและรวดเร็ว ทำให้ชายร่างล่ำถึงกับหน้าเขียว พร้อมทรุดกายลงกุมตัวเดียวอันเดียว

 

“ อุ้ก….นะ…นี่มัน ” 

           

 

       ความจุกเสียดคืบคลานเข้าหางุยโฮอย่างรวดเร็ว เขาพยายามจะฟ้องว่า…..นี่มันผิดกติกา แต่ไม่ทันได้เปล่งวาจา ก็รู้สึกถึงเงาดำที่ลอยตัวอยู่เหนือศีรษะ เมื่อเงยหน้าขึ้นมามอง ก็พบว่าสิ่งนั้นคือ………ร่างเพรียวบางของเด็กหนุ่ม

 

“ เสร็จชั้นล่ะ ท่าไม้ตายมังกรสะบัดหาง ” มาวินร่ำร้องเสียงดัง ก่อนหมุนตัวกลางอากาศหนึ่งตลบ แล้วเหวี่ยงฝ่าเท้าใส่ใบหน้าของอีกฝ่าย

 

“ เปรี้ยง ” 

            

 

       ฝ่าเท้าของมาวินเข้าเป้าเต็มสตรีม ทำให้ใบหน้าของงุยโฮสะบัดไปตามแรง พร้อมกระเด็นถอยหลังแบบไร้หลักยืน 

 

“ โครม ” 

             

 

        งุยโฮกระเด็นไกลไปกระแทกกำแพง หลังจากนั้น ร่างล่ำสันก็ร่วงลงมานอนคว่ำหน้าแน่นิ่ง

 

“ แฮ่กๆ เอาเรื่องแฮะ เจ้าหมอนี่ ” มาวินบ่นไป ก็หอบไป ทว่าใบหน้าเรียวเล็กกลับแย้มยิ้ม เพราะเขารู้ดีว่าเหลือคู่ประลองที่ต้องต่อกรอีกแค่คนเดียว

 

 

       แม้ผลแพ้ชนะจะปรากฏอยู่โทนโท่ ทว่ากลับมีหนึ่งคนที่ไม่ยอมรับผลการประลอง เขาลุกขึ้นยืน พร้อมประท้วงเสียงดัง 

 

“ ข้าไม่ยอมรับผลการประลอง มันขี้โกงเกินไป ทั้งฉกฉวยอาวุธซึ่งตกตามพื้นขึ้นมาใช้ แถมยังเตะเข้าไปที่จุดยุทธศาสตร์ของคู่ต่อสู้อีก ” 

            

 

       ทุกคนในโรงฝึกหันมองไปยังผู้ประท้วงเป็นตาเดียว คนผู้นั้นก็คือ “โอคุยาสุ” 

              

 

       ทุกสิ่งที่โอคุยาสุพูดมา ล้วนโดนใจของเหล่าลูกศิษย์หนุ่ม เพราะวิธีการที่มาวินใช้ค่อนข้างทุเรศ ขี้โกง ไม่สมศักดิ์ศรีนักรบเลยซักนิด ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทุกคนร้องค้าน 

 

“ ใช่แล้ว ท่านอาจารย์ วิธีที่มันใช้ต่อสู้นั้นน่าละอายมาก ปรับให้แพ้ไปและไล่ไปทำนาเถอะ ”       

              

 

        แม้มีเสียงโห่ฮาด้วยความไม่พอใจ เทพศาสตราก็ยังนิ่งเฉย ราวกับว่าชายชราผู้นี้ได้กลายสภาพเป็นหุ่นกระบอกไปแล้ว ส่วนมาวิน เขาได้แต่ยืนเต๊ะท่า แคะขี้หูไปพลางๆ อากัปกิริยาที่ดูเมินเฉยและไร้จิตสำนึก ยิ่งทำให้โอคุยาสุโมโหจนยกมือขึ้นชี้หน้า พร้อมตวาดลั่น 

 

“ ดูสิ ขนาดนี้แล้ว ยังทำท่ากวนประสาทได้อีก ไอ้เด็กนี่ทำให้โรงฝึกอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราต้องมัวหมอง ไล่มันออกไป ไม่ต้องให้มันมายุ่งกับพวกเราอีก ” 

 

“ ใช่แล้ว ไล่ไป ไล่ไป ไล่ไป ” ลูกศิษย์ทุกคนร่วมกันก่อหวอด

 

“ แย่แล้ว ท่านปู่ พวกพี่ๆโกรธกันหมด จะทำยังไงดี ” อากิเนะร้องถาม สีหน้าดูกลัดกลุ้ม ราวกับว่าคนที่ถูกเนรเทศเป็นตัวเธอเอง กระนั้นเทพศาสตราก็ยังนิ่งเฉย เปลือกตาทั้งสองข้างปิดสนิท 

 

“ อ้าว….ท่านปู่ ไหงเป็นงั้นล่ะ….” พอเห็นท่านปู่ทำอาการคล้ายหลับ อากิเนะก็เตรียมโวยต่อ แต่ไม่ทันได้กระทำ เทพศาสตราก็เริ่มเคลื่อนไหว เขาลืมตาขึ้นมา จากนั้นก็ตวาดก้อง

 

“ ทุกคนหยุด ” 

             

 

        ทันทีที่เสียงของเทพศาสตราดังกังวาน ก็บังเกิดคลื่นลมแผ่กระจายออกมาจากกาย แรงนั้นพุ่งเข้าใส่ทุกคนที่อยู่ในโรงฝึก แม้จะเพียงแผ่วเบา แต่ก็สัมผัสได้อย่างชัดเจน 

            

 

        พอทุกคนสงบลง เทพศาสตราก็เริ่มกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย 

 

“ จริงอยู่ วิถีการต่อสู้ของเจ้าหนูผู้นี้แปลกประหลาด พิสดารและเต็มไปด้วยเล่ห์กลที่น่ารังเกียจ ” 

            

 

        เทพศาสตราพูดถึงตรงนี้ ก็เงียบไปอึดใจ ในช่วงนั้นเอง มาวินซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกกล่าวถึง ก็เริ่มหน้าแหย พร้อมบ่นพึมพำเบาๆ 

 

“ แหม……บทจะพูด ก็จิกกัดซะเจ็บใช้ได้เลยนะ ตาลุงแกนดัฟต์ ” 

             

 

        แต่เทพศาสตราไม่สนใจ เขายังกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบดุจเดิม 

 

“ ถึงกระนั้น ในการต่อสู้ที่เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ย่อมไม่เลือกวิธีการ ขอเพียงเอาชนะและรอดชีวิต มันก็เกินพอแล้ว ดังนั้นการที่ศิษย์ของข้าจะได้ประมือกับคู่ต่อสู้แบบนี้ นับว่า…..เป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม ” 

              

 

      พอเทพศาสตราพูดจบ ทุกคนก็เงียบกริบและสิ้นถ้อยคำโดยปริยาย ด้วยเหตุผลที่ยกมานั้นเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้  ทว่าโอคุยาสุ ผู้เป็นหัวโจกกลับตีหน้าเครียดและกล่าวประท้วงอย่างต่อเนื่อง 

 

“ ฮึ่ม……แม้สิ่งที่ท่านอาจารย์พูดมา จะเป็นความจริง แต่เราก็ยากจะยอมรับในชัยชนะที่แสนทุเรศของมัน ” โอคุยาสุกัดฟันกรอดใหญ่ สายตาที่จ้องมายังมาวินเต็มเปี่ยมไปด้วยประกายอาฆาต

 

“ เอาล่ะ จะโกงหรือไม่โกงยังไง ลุงแกนดัฟต์ก็ช่วยส่งคู่ต่อสู้คนสุดท้ายออกมาได้แล้ว ขอคนที่แข็งกว่านี้หน่อย เดี๋ยวชนะง่ายไป คนดูจะไม่สะใจ เหอ เหอ เหอ ” มาวินถือโอกาสใช้สกิลปากดีที่ตนเองถนัด พร้อมบิดกายไปมา คล้ายจะคลายความเมื่อยขบ ประมาณว่าการต่อสู้ที่ผ่านมา เป็นเพียงการวอร์มอัพเบาๆ ก่อนเริ่มเอาจริง 

            

 

       เทพศาสตรายิ้มเล็กน้อย ก่อนไถ่ถามเด็กหนุ่มช้าๆ

 

“ เท่าที่ชมการต่อสู้มา นับว่าเจ้าเป็นนักสู้ที่มีฝีมือพอตัว รู้จักใช้สิ่งที่อยู่รอบข้างให้เป็นประโยชน์ มิหนำซ้ำยังมีไหวพริบปฏิภาณที่ดีเยี่ยม ว่าแต่สองกระบวนท่าที่ใช้คืออะไร ใครเป็นคนสอนเจ้า ” 

 

“ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เท่าที่ชั้นนับดู มันน่าจะมีสามท่านี่นา ก็มีเพลงดาบคู่พันเข็มทิ่มแทง มังกรสะบัดหาง แล้วก็ฝ่าเท้าพิชิตไข่นุ้ย ว่าแล้วไง สามกระบวนท่าจริงด้วย ลุงนับผิดแล้ว ” เด็กหนุ่มร้องค้าน 

 

“ เอางี้ ข้าถามแค่สองกระบวนท่าแรกก็แล้วกัน ส่วนท่าสุดท้าย เชื่อว่าเจ้าคงคิดขึ้นมาเอง ” ใบหน้าของเทพศาสตราดูแหยเล็กน้อย 

 

“ โอ๋ เก่งแฮะ รู้ซะด้วยว่าฝ่าเท้าพิชิตไข่นุ้ยนั่นเป็นท่าที่ชั้นคิดขึ้นมาเอง เอ้า ตอบก็ได้ สองท่าแรกไม่มีใครสอนหรอก ชั้นแค่เลียนแบบเพื่อนร่วมทางเท่านั้นเอง ” มาวินเลิกคิ้วสูง ท่าทางตกใจ ก่อนจะเฉลยที่มาของสองกระบวนท่าแรก 

 

“ เพลงดาบคู่พันเข็มทิ่มแทงเป็นกระบวนท่าของพี่ชายผมทอง หมอนี่ขี้หลีสุดๆ เที่ยวตระเวนจีบสาวไปทั่วแบบไม่เลือกหน้า แถมยังหลงตัวเองเป็นที่สุด ถึงอย่างนั้น เจ้านั่นก็เป็นนักดาบที่โคตรเก่งคนหนึ่ง แต่จริงๆแล้ว กระบวนท่านี้ใช้ดาบแค่เล่มเดียวนะ ชั้นดัดแปลงให้เป็นสองเล่ม จะได้รับมือยากขึ้น ” 

 

“ อืม….แล้วกระบวนท่าที่สองล่ะ ” ชายชรายิ้มน้อยๆ พร้อมเกาคาง 

 

“ กระบวนท่าที่สองเป็นของยัยโย่ง ยัยนี่บ้าพลังและออกจะขรึมๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา แต่อย่าไปแหย่ให้โมโหนะ คุณเธอจะกลายสภาพเป็นคนที่โคตรน่ากลัว บรื้อ……. ” เด็กหนุ่มพูดจบ ก็ออกอาการขนลุก เพราะภาพเหมยลี่ในเวอร์ชั่นคลุ้มคลั่งดันปรากฏขึ้นมาในหัวสมอง

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา