The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
130) เกมที่พลิกไปพลิกมา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://wallpaperaccess.com
แต่ไม่ทันจะได้ตั้งหลัก งุยโฮก็รุกไล่เข้ามาอีก คมมีดทั้งซ้ายขวารัวใส่ไม่หยุด ทำให้มาวินร้องเหวอ พร้อมยกสองมือขึ้นมาปัดป้อง
“ เฮ้ย! ”
“ ปึ้ก ปึ้ก ปึ้ก……. ”
มาวินใช้สองมือปัดป้องพายุคมมีด ทว่าความเร็วในการโจมตีกลับทวีขึ้นเรื่อยๆจนเด็กหนุ่มเริ่มตั้งรับไม่ทัน เขาจึงถีบสวนไปที่กลางลำตัวของงุยโฮ
การสวนกลับที่คาดไม่ถึง ทำให้งุยโฮตกใจจนคิ้วกระตุก แต่ลูกถีบนั้นไม่ได้ระคายผิว เพราะชายหนุ่มร่างล่ำยกขาซ้ายขึ้นมากันได้ทัน กระนั้นก็ต้องเซถอยหลังไปหลายก้าวอยู่ดี
ทั้งสองหยุดต่อสู้ชั่วขณะและหันมาจ้องหน้าแน่วนิ่ง ด้วยรับรู้ถึงความน่ากลัวของอีกฝ่าย โดยเฉพาะมาวินถึงกับหน้าซีดเผือดและเหงื่อตก ภายในใจแอบขบคิด
“ ฝีมือของหมอนี่ไม่ธรรมดา ประมาทไม่ได้เลย ”
ทางฝั่งงุยโฮก็รู้สึกทึ่งเช่นกัน เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครต้านทานการรุกไล่ของเขาได้นานขนาดนี้ ทว่าภายนอกกลับยังนิ่งและไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา
การต่อสู้ที่ดุเดือด ทำให้ผู้ชมแทบลืมหายใจ ส่วนเทพศาสตราก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อันเป็นกิริยาที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็น สร้างความประหลาดใจแก่อากิเนะอย่างมากมายจนอดถามไถ่ไม่ได้
“ อากิเนะเห็นท่านปู่นั่งยิ้มอยู่นานสองนาน ชอบใจอะไรเหรอคะ ”
“ หึๆ ก็จะไม่ให้ปู่ดีใจได้ยังไงล่ะ อากิเนะ เจ้ารู้มั้ยว่าคู่ต่อสู้แต่ละคนที่ข้าเลือกมีคุณสมบัติยังไง ”
อากิเนะทำหน้างง เพราะเธอแทบไม่เคยมาเยือนโรงฝึก จึงไม่รู้ฝีไม้ลายมือของทุกคน
เทพศาสตราเห็นอากิเนะนิ่งอึ้งไปหลายอึดใจ ชายชราผมขาวจึงยิ้มให้หลานสาวนิดหนึ่ง ก่อนอธิบายด้วยน้ำเสียงที่สั่นน้อยๆ คล้ายขบขัน
“ เคนจิ ผู้เป็นคู่ต่อสู้คนแรก เขามีจุดเด่นที่ความเร็วและความคล่องตัว แต่เจ้าหนูนี่กลับไวกว่า สุดท้ายมันก็ใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของเคนจิที่ไม่ค่อยอึดและเอาชนะไปได้ ”
อากิเนะรับฟังอย่างสงบ พร้อมพยักหน้ารับคำ เทพศาสตราจึงทิ้งเวลาให้ผ่านไปครู่หนึ่ง ก่อนบรรยายต่อ
“ ส่วนอาเบะ ผู้เป็นคู่ต่อสู้คนที่สอง เขามีร่างกายแข็งแกร่งจนไม่มีใครทำอันตรายได้ แต่เจ้าหนูนั่นใช้เวลาไม่นาน ก็หาจุดอ่อนของอาเบะเจอ บ่งบอกถึงไหวพริบปฏิภาณที่ดีเยี่ยม ”
อากิเนะรู้สึกสับสน เพราะในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เธอไม่เคยเห็นมาวินแสดงความฉลาดออกมาเลย ถึงกระนั้นเทพศาสตราก็ยังสาธยายต่อ
“ ส่วนงุยโฮนั้น เขาเป็นยอดฝีมืออันดับสองรองจากโอคุยาสุ ฝึกวิชามาตั้งแต่เล็ก ชำนาญเพลงยุทธ์และมีพื้นฐานการต่อสู้ที่แน่นมาก นอกจากนี้ ยังฝึกฝนร่างกายจนสมดุลทั้งกำลังและความเร็ว ผิดกับเจ้าหนูที่ดูจากการออกท่าทาง ก็รู้ทันทีว่าเพิ่งฝึกวิชาได้ไม่นาน การตั้งกระบวนท่ายังอ่อนด้อยและไร้พลัง ทว่ามันกลับต้านทานการรุกไล่ของผู้ชำนาญยุทธ์ได้หลายสิบกระบวน เจ้าไปแปลกใจบ้างเหรอว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ”
“ เอ่อ……หลานไม่ทราบค่ะ ” อากิเนะยิ่งงงหนักกว่าเดิม เพราะเธอไม่ใช่นักสู้มืออาชีพ อันที่จริง สาวสวยไม่เคยฝึกต่อสู้เลยด้วยซ้ำ จึงไม่เข้าใจในสิ่งที่เทพศาสตราอธิบาย
เทพศาสตราลอบเป่าลมหายใจ คล้ายนึกระอาที่หลานสาวแสนสวยไม่ยอมเอาดีทางด้านการต่อสู้ ทั้งที่มีปู่เป็นถึงนักสู้ระดับปรมาจารย์ และเมื่อทำใจยอมรับความจริงอันโหดร้ายได้ ชายชราผมขาวจึงอธิบายต่อด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“ สาเหตุที่เจ้าหนูสามารถต้านทานการรุกไล่ของงุยโฮได้ เพราะมีสายตาที่ดีเยี่ยม แถมยังวิเคราะห์และอ่านสถานการณ์ได้อย่างเฉียบคม นับว่าเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่เลวเลยทีเดียว หึๆ ”
แม้ว่าอากิเนะจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ดูจากท่าทางระรื่น อันเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เกิดขึ้นกับท่านปู่ผู้เงียบขรึม ก็พลอยทำให้เธอดีใจจนยิ้มแก้มปริไปอีกคน
งุยโฮเป็นชายร่างล่ำสันที่มีผิวสีแทน ใบหน้าคมเข้มแลออกไปในโทนดุดัน เมื่อนำมาประกอบกับผมหยักศกสีดำสนิทที่ยาวประบ่า ยิ่งขับเน้นให้ดูคล้ายแรมโบ้จนจอมปากเปราะอย่างมาวินอดแซวไม่ได้
“ น่านไงล่ะ ก็คิดอยู่แล้วว่าเหมือนใคร ดูยังไงก็แรมโบ้ดีๆนี่เอง ญาตินายเคยเป็นทหารพ่ายศึกจากสงครามเวียดนามรึเปล่า ” เด็กหนุ่มไถ่ถามอย่างจริงจัง ราวกับว่าเรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่งยวด
งุยโฮถึงกับเอ๋อไปชั่วขณะ แม้เขาจะเป็นคนเงียบขรึมปานใด แต่เมื่อเจอความบ้าที่ไร้ขีดจำกัดของนายลิงหัวเขียว ก็ทำให้อดออกปากไม่ได้
“ นายพูดเรื่องอะไร ชั้นงง ”
“ อ้าว……นี่ลืมกำพืดของตัวเองได้ยังไง บรรพบุรุษของนายเป็นถึงยอดนักรบในตำนานชนิดที่คนเดียวสู้ได้ทั้งกองทัพเลยนะเฟ้ย นายนี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุกชะมัด ” มาวินแสร้งทำเป็นผิดหวัง พร้อมต่อว่าอย่างรุนแรง
งุยโฮเริ่มโมโห ซึ่งก็ควรจะเป็นเช่นนั้น ลองคิดดู มันจะอยุติธรรมแค่ไหน ที่อยู่ดีๆต้องมาโดนด่าสาดเสียเทเสียจากเรื่องราวที่ไม่รู้ว่าคืออะไร มิหนำซ้ำ ยังเป็นคำด่าจากคนที่ตนเองอยากกระทืบ ความโกรธนั้นก็เลยเพิ่มเป็นเท่าทวี ชายร่างล่ำจึงนิ่วหน้าและคำรามดัง
“ เจ้าหนู แกเลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว ลงไปนอนวัดพื้นซะ ”
สิ้นเสียงคำรามที่เกรี้ยวกราด ร่างล่ำสันของงุยโฮก็พุ่งทะยานเข้าใส่มาวิน คมมีดจากสองมือทิ่มแทงได้เร็วกว่าเดิม แต่การโจมตีที่ขาดสติย่อมบั่นทอนความแหลมคม ทำให้เด็กหนุ่มหัวเขียวได้ใจ และเริ่มยิ้มออกมา
พอพายุคมมีดเข้าถึงตัว มาวินก็โยกหลบไปทางซ้ายทีขวาทีอย่างใจเย็น ส่งผลให้การโจมตีด้วยอารมณ์ไม่ต้องกายของเด็กหนุ่มแม้แต่แผลเดียว
“ สำเร็จแน่ หึๆ ” มาวินนึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ก่อนก้มหัวหลบคมมีดที่ปาดตวัดและโต้กลับด้วยท่าไม้ตายประจำตัว
“ พยุหะกรงเล็บแมวป่า ”
กรงเล็บนับสิบจากสองฝ่ามือพุ่งใส่งุยโฮอย่างรวดเร็ว ทุกดอกกระแทกเข้าจุดสำคัญบนร่างกาย ทำให้ชายร่างล่ำผงะถอยหลังไปหลายก้าว
“ ปึก ปึก ปึก…… ”
“ นี่แน่ะ นี่แน่ะ นี่แน่ะ ” มาวินตะโกนดัง พร้อมรัวกรงเล็บใส่สุดกำลัง
จังหวะที่มาวินกำลังจะคว้าชัย ชายร่างล่ำก็กลับคืนสติและหลุดจากโทสะ เลยถีบตัวถอยหลังสุดกำลัง เพื่อหลบให้พ้นวิถีของกรงเล็บ แต่เด็กหนุ่มหัวเขียวไม่ยอมปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอย จึงตามติด หวังขยี้ต่อ
“ จะไปไหน แรมโบ้ นายหนีไม่พ้นแน่ ”
มาวินคิดรุกไล่ต่อ เพื่อเผด็จศึก แต่สัญชาตญาณกลับสั่งให้ถอยหนี เพราะประสบกับดวงตาที่เจิดจรัสของอีกฝ่าย
“ เฮ้ย แววตาแบบนี้ มันหายโกรธแล้วนี่หว่า เอาไงดีนะ ” มาวินนึกสับสน ช่วงที่กำลังลังเล การเคลื่อนไหวก็พลันช้าลงจนเปิดช่องให้งุยโฮปลดปล่อยท่าไม้ตายสูงสุดออกมา
“ คมมีดกากบาท ”
สิ้นเสียงกู่ร้อง งุยโฮก็ฟาดมีดสั้นทั้งสองข้างให้ไขว้กัน วินาทีต่อมา เด็กหนุ่มก็เห็นประกายแสงรูปกากบาทพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ เฮ้ย ”
ด้วยปฏิภาณที่ว่องไว จึงทำให้เด็กหนุ่มตัดสินใจกระโดดถอยหลังสุดกำลัง พร้อมยกสองแขนขึ้นกันลำตัว อันเป็นเป้าหมายของประกายแสงประหลาด
“ เปรี้ยง ”
เมื่อประกายแสงรูปกากบาทกระทบกายเพรียวบางของมาวิน ก็เกิดเสียงปะทะดังสนั่นไปทั่วโรงฝึก ด้วยความแรงของมัน ทำให้เด็กหนุ่มปลิวไปไกลถึงห้าเมตร ก่อนจะร่วงล้มลงไปกลิ้งโคโล่กับพื้น
“ โครม ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ