ผมน่ะไม่ใช่ผู้กล้าแต่เเป็นหัวหน้าต่างหาก
เขียนโดย Kaneken0
วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 11.57 น.
แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) จุดเริ่มต้นที่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความภายในป่าแห่งหนึ่งมีเนินทุ่งหญ้าที่ถูกล้อมรอบ
โดยต้นไม้สูงเป็นวงกลมบนยอดเนินนั้น ถูกจับจองโดยต้นไม้ที่มี
โพลงขนาดพอให้คนเข้าไปได้อยู่ต้นหนึ่ง
ซึ่งขณะนี้มีเด็กชายอายุราว14-15ปียืนทำท่าทางสับสน มองซ้ายมองขวาอยู่หน้าโพรง
“ที่นี้มัน…..ที่ไหนกัน หัวหน้ากับบ้าน หายไปไหน?”่ในขณะที่กำลังจะใช้ความคิด
อยู่นั่น
<นี่------->
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากความว่างเปล่า
“หืมมมม...เหมือนได้ยินเสียงใคร”เด็กชาย
หันมองรอบๆตัวจึงได้พบว่าที่นี่นั่นมีเพียงต้นหญ้าและต้นไม้เท่านั้น
<เธอน่ะ------>
“มีเสียงคนอยู่จริงๆด้วย น่ารอดแล้วเรา”
เมื่อแน่ใจแล้วว่ามีเสียงคนเรียกตัวเองอยู่นั้น
ด้วยความหวังว่าจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ จึงขานตอบอย่างรีบร้อน
“เธออยู่ตรงไหนหรอ ออกมาหน่อยได้รึเปล่า”ขณะที่กำลังพูดเขาก็หน้าซ้ายขวาหาเจ้าของเสียง แต่ที่นี่ก็ยังคงมีแต่ทุ่งหญ้า
<เราอยู่ตรงนี้----->
เสียงของหญิงสาวดังตอบกลับมาแต่ถึงอย่างนั้นแล้ว รอบๆตัวของเด็กชายก็ยังคงว่างเปล่าไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตใดๆทั้งสิ้น
เอ….หรือเราจะหูฟาดไม่น่าใช่ หรือจะเป็นต้นไม้นี่ ที่คุยกับเรา
เด็กหนุ่มพึมพัมในใจ ขณะมองดูต้นไม้ด้านหลังอย่างตั้งใจ หลังจากแน่ใจแล้วว่าต้องเป็นต้นไม้นี้ แน่ๆที่คุยกับตัวเองอยู่
“คุณต้นไม้ยักษ์ ที่นี้ที่ไหนหรอครับ”เด็กชายแหงนหน้าพูดเสียงดังใส่ต้นไม้ยักษ์
<จะ จะ เจ้าเด็กโง่เราไม่ใช่ต้นไม้นะ แล้วทำไมถึงได้คิดว่าเป็นต้นไม้ที่พูดกับเจ้ากัน!!>
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้งเพียงแต่ ครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจซักเท่าไหร่ที่ถูก นำไปเทียบกับต้นไม้
“เฮ้ คุณผู้หญิงมาว่าคนอื่นโง่ ทั้งๆที่ตัวเองยังไม่ยอมโผล่หน้าออกมามันเสียมารยาทนะ”เด็กชายเมื่อถูกต่อว่า จึงสวนกลับไปในทันที
<ฮึ! มันก็จริงนี่ มาเปรียบเทียบ เทพธิดาอย่างเรากับต้นไม้แบบนี้ ก็เสียมารยาทเหมือนกันนั้นแหละ>
“เอาละ ๆ เอาเป็นว่าผมผิดเอง ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ท่านเทพธิดาผู้สูงส่ง”เนื่องจากรู้สึกตัวว่าถ้ายังเถียงกันต่อ คงไม่เป็นอันทำอะไรเป็นแน่ จึงขอโทษส่ง ๆ
เพื่อจบบทสนทนานี้ลง
“แล้ว ตอนนี้ท่านเทพธิดาผู้ยิ่งใหญ่จะออกมา ให้ความช่วยลูกแกะหลงทางตัวน้อย ๆ
ให้ไปถึงเมือง เบเรนเนีย ได้รึเปล่า”เด็กชายยังคงรอยยิ้มไว้ที่ใบหน้าขณะที่กำลังพูดให้อีกฝ่ายพอใจที่สุด
<อืม ๆเจ้าเองก็เป็นเด็กดีนี้ เอาละ เราจะช่วยเจ้าเองเด็กน้อย แล้วเมือง
เบเรนเนีย เนี่ยอยู่ที่ไหนกันละ>
“ไม่รู้หรอก”เอาจริง ๆตอนนี้อยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย แล้วไอเมืองนั้นน่ะ หน้าตาเป็นยังไงก็ยังไม่เคยเห็นเลยซ้ำ
<อืมมม งั้นตอนนี้เราอยู่ส่วนไหนของ การ์เด้น ออฟ เดอะ ก๊อดเดส ละ>
“เอ…...สวนอะไรนะ”อยู่ดี ๆ ก็มีชื่อสถาณที่ประหลาด ๆมาอีกแล้ว
<เอ…..เอาจริงดิ นายน่าจะมีกล่องผนึกใช่มั้ย>ถึงจะมองไม่เห็นหน้าก็เถอะ แต่คงทำสีหน้า ประมาณเจ้าเด็กนี่โง่สินะ อยู่ละสิ
“ถ้าเป็นที่ ที่เจอกล่องแปลก ๆ นี่ละก็เราไม่ได้อยู่แถวนั้นหรอกนะ พอเอากล่องกลับ บ้านพร้อมหัวหน้า แล้วโดนสั่งให้ไปเปิดกล่องใน โพลงต้นไม้ยักษ์นี่เสร็จออกมาก็อยู่ที่นี้แล้วละนะ แล้วต่อจากนั้นก็เป็นตอนนี้ละ”เอาจริง ๆตอนนี้ตัวเองยังงงเลย
“เฮ้อ…..คงต้องลองเดินสุ่ม ๆดูละนะ แล้วจะออกมาได้รึยัง คุยกันมาตั้งนานยังไม่เห็นหน้าเลยนะ”
<เอ่อ….คือก็นั้นแหละ ใช่นั้นแหละเราอยู่ในตัวนายหนะ>
เอ๊ะ!
เอ๊ะ!
“ไม่ต้องมา เอ๊ะ เลยที่ว่าอยู่ข้างในตัวผมเนี่ยอธิบายมาเลยนะ!”
<ใจเย็น ๆสิเด็กน้อย เดี่ยวตัวเราเทพธิดาผู้สูงส่ง จะอธิบายให้ฟัง แต่เรื่องมันค่อนข้างยาวเราเดินไปคุยไป กันดีกว่าไม่งั้นอาจจะได้ติดอยู่ในป่าตอนกลางคืนเอา นะ>
อะไรของยัยนี่ กันทั้ง ๆที่ไม่ได้เดินเองแท้ ๆ แต่ก็จริงนั้นแหละในป่าตอนกลางคืน มัน ไม่น่านอนหรอก
“เอาเป็นตามนั้นก็แล้วกัน”และการเดินทางของผมและเทพธิดาแปลกหน้าก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ในระหว่างเดินหาทางออกจากป่าแบบสุ่ม ๆก็ฟังเรื่องราวของเทพธิดาที่อยู่ในร่างตัวเองไปพลาง จะว่าไปเรียกแต่เทพธิดา ๆจริงแล้วยัยนี้มีชื่อมั้ยนะ?ลองถามดูดีกว่า
“นี่ ผมฉันยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลยนะ”
<นี่เจ้า ไม่รู้จักเราจริง ๆหรอ>
“ความจริงแล้วผมก็พอมีความรู้เรื่องตำนานอยู่บ้างแต่เธอไม่ใช่หนึ่งในนั้นแน่นอน เพราะผมพึ่งจะไปที่ซากวิหารที่เจอเธอเมื่อวานนี้เอง แล้วเช้านี้ก็อย่างที่เล่าให้ฟังหัวหน้าก็ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับที่นั้นเลย”ก็ตามนี้ละนะ
<เรามีนามว่าเอเลเนีย บุตรี แห่ง เทพีแห่งแสงสว่างและความมืด อัลเทเซีย>
“ผม เซซิล แคมเบล“อยากมีชื่อเท่ ๆต่อหลังเหมือนกันแฮะ ต้องหาไว้ซักชื่อสองชื่อละกัน
“สรุปแล้วเธอคือเทพธิดาในเรื่องที่เล่ามา?”
<ถูกแล้ว และเราเองก็ไม่รู้ว่าเวลาผ่านมานานแค่ไหนแล้วเหมือนกัน แล้วเจ้าละ?>
“ไม่เลย ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลยด้วย”จากที่ฟังมา ช่วงเวลานั้น [สิ่งชั่วร้าย]ต้องการกลืนกินโลกใบนี้ มอบพลังให้สิ่งมีชีวิตใด ๆก็ตามที่เข้าร่วมกับตนสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นได้กลายเป็น[เผ่าพันธุ์นอกรีต]และเริ่มกวาดล้างทุกสิ่งที่ต่อต้าน ดิ อีเวิลธิง เผ่าพันธุ์ทั้งหมดในตอนนั้น ได้แก่ มนุษย์ คนแคระ เอลฟ์ คนยักษ์ ปีศาจ มังกร รวมกันเป็นกองกำลังต่อต้าน เทพีอัลเทเซียที่คอยดูแลโลกนี้อยู่ในตอนนั้น ก็ได้ให้กำเนิดเอเลเนียเพื่อเข้าช่วยเหลือในสงครามนั้น หลังจากผ่านไปหลายปีกลุ่มต่อต้านสามารถเอาชนะ
เผ่าพันธุ์นอกรีตได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครสามารถปลาบ [สิ่งชั่วร้าย]นั้นได้เลย
เอเลเนียจึงได้สร้างกุญแจผนึกทั้ง5ขึ้นมาและเพื่อสร้างกุญแจทั้ง6จึงทำให้เธอ อยู่ในสภาพบัจจุบันที่ต้องอยู่ในร่างของผมจนกว่า จะฟื้นพลังได้ซึ่งเงื่อนไขในการฟื้นพลังก็คือ
ตามหากุญแจทั้ง6คืนมานั้นเอง และนั้นก็ยุ่งยากเกินไปถ้าจะถามว่าทำไม ก็เพราะกุญแจถูกส่งมอบให้ทั้ง6เผ่า เพื่อส่ง สิ่งชั่วร้าย ไปผนึกไว้ในอีกโลก และกุญแจก็น่าจะอยู่กับแต่ละเผ่า ตอนนี้เวลาก็ไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้จะหาคนที่ถือกุญแจผนึกในตอนนี้ยากเกินไป ก็จนกว่าจะได้เบาะแสละนะ
“ยังไงตอนนี้ก็ทำอะไรกับเรื่องของเธอไม่ได้ ในอนาคตถ้ามีเบาะแสอะไรบ้างค่อยคิดกันอีกที”
<เอ๋!!!! แสดงว่าเราต้องติดอยู่ในร่างของเจ้าไปเรื่อย ๆแบบนี้งั้นหรอ>
ถึงจะไม่เห็นสีหน้าก็เถอะ แต่ก็พอจะเดาได้ละนะ
“แล้วมีทางเลือกอื่นมั้ยละ ทางนี้เองก็ลำบากเหมือนกันนะ แค่จะหาทางไปเมืองยังไม่ทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”อาใช่แล้วถึงที่เล่ามาจะดูยิ่งใหญ่ก็เถอะแต่ยังไงตอนนี้ก็ถือไร้ประโยชน์สุด ๆ ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี้ย เพราะไอหัวหน้าบ้านั่นแท้ ๆ
<งั้นเจ้าคิด ว่าหัวหน้าที่เจ้าพูดถึงจะรู้อะไรบ้างรึปล่าว>หลังจากปรับอารมย์ได้ เอเลเนียก็เหมือนจะนึกถึงเรื่องของหัวหน้าของเซซิล ที่น่าจะรู้อะไรบางอย่างขึ้นมา
“อืม..บางทีหัวหน้าอาจจะรู้อะไรบางอย่างจริง แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะตามหาอีกนั้นแหละ”
<เห้อออ ถ้าอย่างนั้นก็คงทำอะไรไม่ได้ละนะ>
ดูเหมือนว่าเธอยอมรับสภาพแบบนี้ได้แล้วสินะ
“ไม่ต้องห่วงถ้ามีเบาะแสของกุญแจละ ผมสัญญาว่าจะช่วยก็แล้วกันตอนนี้คงต้องขอให้ทนไปก่อน”
<หึ หึ เราเทพธิดา จะขอรับคำสัญญานั้นไว้เองตัวเจ้าไม่สามารถกลับคำพูดที่ให้ไว้กับเราได้หรอกนะ555>
“คร้าบ คร้าบ ไม่ผิดสัญญาหรอกคร้าบท่านเทพธิดา”ดูเหมือนจะอารมย์ดีขึ้นมาหน่อยแล้วละมั้ง ยังไงก็ดีแล้วละ
หลังจากที่ตอบกลับ เอเลเนียเสร็จ เซซิลก็หยุดลง
“เจอคนละ ประมาณ 10คนได้มั้ง”ถึงจะเดินมาค่อนข้างไกล แต่ความจริงแล้วสำหรับการเดินป่าแล้วก็นับว่าใช่เวลาไม่นานนัก ได้เจอคนอื่นเร็วแบบนี้ก็ค่อนข้างโชคดีละนะ
“ลองเข้าไปดูใกล้ ๆก่อนดีกว่าถ้าเป็นคนไม่ดีจะได้วางแผนก่อน”ถึงจะเป็นโจรจริง ๆ
ก็จะถามทางไปเมือง เบเรนเนียให้ได้อย่างน้อยก็ เมืองที่ใหล้ที่สุดก่อนก็ดี
<อื้ม ดูจากท่าทางแล้วคงไม่มีความคิดที่จะหนีสินะ ใช้ได้เลยนี่>
“เพราะว่าจำเป็นต้องถามทางละนะ ถ้าเป็นปกติคงจะหาทางเลี่ยงการต่อสู้ละนะ”
จะไปเสียแรงโดยไ่จำเป็นเนี่ยไม่เอาด้วยหรอก
หลังจากตัดสินใจได้แล้วก็ค่อย เข้าไปใกล้ ๆคนกลุ่มนั้นเพื่อแอบฟัง ใกล้แค่นี้คงพอแล้ว
“เรียบร้อยดีนะพวกแก ถ้างานนี้พลาดละก็ไม่จบแค่เจ็บตัวแน่”
“ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้ตามคำสั่งแล้วครับ หัวหน้า”
“ดีละ งานนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดยังไง ก็ต้องเอาคืนพวก ตระกูลเบเรนให้ได้”
“แต่หัวหน้า จับตัวเด็กตระกูลเบเรนแบบนี้จะไม่เป็นไรจริง ๆนะหรอ”
“หา!!!”
ชายตัวเล็กที่โดนตะคอกใส่ ตกใจจนสะดุดขาตัวเองล้มหงายหลังลงไป
“ม มะ ไม่มีอะไรครับ ๆ เป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบมากเลยครับ”
“เหอะ!”
ชายที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าดูจะพอใจขึ้นมาบ้างแล้ว ก็ได้ออกคำศั่ง
“ไปทุกคนประจำที่ งานนี้จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด เข้าใจมั้ย”
‘’’’’’ครับ’’’’’’
อ่าชัดเจนเลย จากที่ฟังบทสนทนาเมื่อกี้ดูเหมือนจะ วางแผนลักพาตัวคุณหนูตระกูลใหญ่อยู่และแน่นอนว่า เจ้าพวกนี้เป็นกลุ่มโจรละ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ