ตลกร้ายใต้สะดือ
เขียนโดย Jalando
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
34) หฤหื่นหน้าห้องน้ำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 34 หฤหื่นหน้าห้องน้ำ
“ แฮ่กๆ……”
สองหนุ่มสาวหอบถี่ ลมหายใจของทั้งคู่ดังประสานกันอย่างเป็นจังหวะ บ่งบอกว่าพวกเขาสูญเสียพละกำลังไปจากเกมกามาบทก่อนอยู่พอสมควร
แม้หญิงสาวจะรู้สึกผิดที่ถูกชายอื่นซึ่งไม่ใช่สามีย่ำยี แต่เธอก็ยอมรับว่าตนรู้สึกซาบซ่านและแสนสุขกับบทเพลงกามาที่ได้ร่วมบรรเลงอยู่มิใช่น้อย
“ อา…..ลีลาของพี่บุญกอบเร้าใจมาก แถมพละกำลังก็ยังยอดเยี่ยม ว่ากันตามตรง น่าจะเหนือล้ำกว่าพี่โมทย์อยู่หลายขุมเลยทีเดียว ” สาวแหววรำพึงรำพันอยู่ภายใน เธอนึกติดใจรสสวาทของบุญกอบเข้าให้แล้ว
ยามปกติบุญกอบเป็นคนที่อึดและกระหายในกามอารมณ์เอามากๆ แต่ในวันนี้เขาทั้งมึนเมาและเหนื่อยอ่อน ด้วยต้องผจญกับศึกสวาทขนานใหญ่มาถึงหลายวาระ เขาจึงเผลอหลับใหลไปในทันทีที่เสร็จสม
“ คร่อก……ฟรี้…..”
เสียงกรนของบุญกอบดังยาวอย่างสม่ำเสมอ บอกให้รู้ว่าเจ้าของเสียงน่าจะหลับสนิทจริงๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ สาวแหววจึงรวบรวมกำลังที่มีอยู่ในกาย เพื่อดันร่างล่ำสันให้ผละออก
“ อึบ…..ตัวหนักจังเลย ”
เธอพยายามอยู่ทีสองที เธอจึงผลักไสบุญกอบได้สำเร็จ และเมื่อเธอถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ เธอจึงยันกายลุกขึ้นนั่ง พร้อมเหม่อมองใบหน้าของคู่สวาทที่สิ้นสติ
“ เอ……ทำไมเราถึงไม่หลุดออกจากฝันซักที หรือนี่จะเป็นความจริง ”
หลังจากคิดใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง เธอจึงลุกขึ้นยืน เพื่อเดินไปสำรวจประตูและหน้าต่าง ขณะที่เธอกำลังจะถึงจุดหมาย เธอก็ได้สิ้นเสียงประหลาดที่คล้ายฝีเท้าของมนุษย์
“ ตึก ตึก ตึก…..”
เธอรีบขมวดผ้าถุงที่หลุดลุ่ยให้เข้าที่ จากนั้นก็ทะยานไปที่หน้าต่าง เพื่อดูเหตุการณ์ผ่านกระจกใส ในใจบอกกับตัวเองว่า…..
“ นี่มันเสียงคนวิ่งนี่นา ใครมาวิ่งอยู่หน้าห้องเรา ”
พอสาวแหววถึงจุดหมาย เธอก็เอียงคอมองไปนอกหน้าต่าง สิ่งที่เห็น ตอกย้ำให้สมมุติฐานของเธอเป็นจริงขึ้นมาในบัดดล เพราะได้ปรากฏร่างของชายคนหนึ่งที่กำลังวิ่งหนีอยู่ไกลๆ
“ เอ๊ะ!.....มีคนวิ่งอยู่จริงๆด้วย นี่เขาหนีอะไรกันนะ ดูจากหน่วยก้าน น่าจะเป็นคนแก่ร่างผอม หรือจะเป็นลุงขี้เมาประจำห้องเช่านะ ”
แม้สาวแหววจะเห็นเพียงหลังไวๆ เธอก็พอจะจดจำได้ว่าใครคือบุคคลที่กำลังจ้ำ ด้วยเธอรู้จักทุกคนในห้องเช่าเป็นอย่างดี
สาวแหววรู้สึกมึนงงกับการกระทำของลุงขี้เมาเป็นอันมาก แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตนมาอยู่ตรงจุดนี้ด้วยวัตถุประสงค์อะไร เธอเริ่มสำรวจตรวจตราหน้าต่างและประตูตามประสงค์เดิม แรกๆเธอไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่เมื่อดูให้ละเอียดอีกหน เธอก็พบจุดบอดที่สุดเสื่อม
“ เอ๊ะ!......บานหน้าต่างห้องเรา มันปิดไม่สนิทนี่ ”
เธอลองพยายามดันสุดกำลัง แต่บานหน้าต่างก็ยังคงงับปิดไม่สนิทดังเดิม มันยังคงเหลือช่องพอให้สอดนิ้วเข้าไปได้ และที่ร้ายสุดก็คือ……บางสิ่งที่ตกอยู่บนพื้นใต้หน้าต่าง
“ เอ๊ะ!......นั่นมัน……ไม้แขวนเสื้อนี่นา ทำไมมันถึงมีสภาพแบบนั้น หรือพี่บุญกอบจะใช้เจ้าสิ่งนี้งัดหน้าต่างห้องเรา ”
นับว่าสาวสวยนางนี้หัวไวมิใช่น้อย เพียงพริบตาเดียวเธอก็เข้าใจว่าบุญกอบเข้ามาในห้องได้ยังไง และสิ่งนั้นทำให้เธอรู้ว่าบทเพลงกามาที่บรรเลงเมื่อครู่นั้นไม่ใช่ความฝันอย่างที่เธอเข้าใจ
“ ฮึ่ม……ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ” สาวแหววกัดฟันกรอดใหญ่ เธอรู้สึกเจ็บใจที่ถูกย่ำยี และเมื่อมองไปที่ใบหน้าของบุญกอบยามหลับ ความแค้นก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเป็นเท่าทวี
“ เจ็บใจนัก ไอ้เราก็อุตส่าห์ไว้ใจ เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของผัวเรา แต่ที่ไหนได้ ลับหลังก็แอบมาข่มเหงเราถึงสองครั้งสองคราว เลวที่สุดเลย ”
ความแค้นวิ่งพล่านไปทั่วทรวงอกจนกายบางเริ่มสั่นเทา ดวงตาหวานซึ้งเหลือบแลไปรอบๆ เพื่อมองหาบางสิ่งที่มาใช้สำเร็จโทษ และเจ้าสิ่งนั้นก็คือ…..มีดคมกริบที่เสียบอยู่บนชั้นวางของในโซนห้องครัว
“ ฮึ่ม อย่าอยู่เลย ไอ้บุญกอบ ” หญิงสาวก้าวไปหยิบมีดคม พร้อมมุ่งตรงมาหยุดยืนอยู่เหนือหัวของหนุ่มอีสานร่างล่ำที่กำลังหลับสนิท
สาวแหววจ้องหน้าของบุญกอบแน่วนิ่ง ดวงตางามลอบสำรวจไปทั่วสรรพเรือนกายล่ำสันของหนุ่มอีสาน ไม่ว่าจะเป็นทรวงอกอวบหนา ท่อนแขนที่ปูดโปนไปด้วยมัดกล้าม ลำคอที่โหนกนูนเป็นสัน แต่ที่ต้องตาต้องใจสาวสวยมากที่สุด เห็นจะไม้พ้นอาวุธร้ายที่อยู่ตรงกลางระหว่างขา
“ อื้อ…หือ นี่ขนาดเหี่ยวแห้ง ยังใหญ่ยาวได้ขนาดนี้ เฮือก…..สุดยอดไปเลย ” สาวแหววกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาจับจ้องอาวุธร้ายไม่วางวาย
แม้สาวสวยหน้าหวานจะเริ่มเหม่อลอย แต่ไม่นานเธอก็สะบัดศีรษะไปมาแรงๆ เพื่อทำการเรียกสติของตนเอง
“ ไม่ได้ ไม่ได้ เราจะมาหลงใหลเคลิบเคลิ้มกับเจ้าสิ่งนี้ไม่ได้ เพราะตอนนี้เรากำลังแค้นอยู่ ”
หญิงสาวพยายามกระชับมีดคมในมือให้แน่นขึ้น เพื่อหวังปลิดชีวิตหนุ่มอีสานร่างล่ำที่นอนหงายอยู่เบื้องหน้า แต่จนแล้วจนรอด เธอก็จ้วงมีดในมือลงไปไม่ได้ ด้วยระลึกนึกถึงเพลงกามาดุเดือดที่เพิ่งจบ
“ อืม…..ทำไมเราถึงฆ่าพี่บุญกอบไม่ลงนะ พอเราจะปลิดชีพเขาทีไร เป็นอันต้องนึกถึงสิ่งที่เขากระทำต่อเราทุกที เฮ้อ……”
ทันทีที่คิดได้ดังนั้น มือที่ถือมีดก็เริ่มตกลง เธอก้มหน้านิ่งอยู่อึดใจ ก่อนเดินกลับไปที่โซนห้องครัว เพื่อเก็บมีดคมเข้าที่
“ เปลี่ยนใจ ไม่ฆ่าพี่บุญกอบแล้วดีกว่า แต่ที่ไม่ฆ่า ไม่มีเหตุผลอื่นใด นอกเสียจากเราไม่อยากติดคุก เพราะคนๆนี้ ”
หลังจากที่สาวสวยเปลี่ยนใจ เธอก็ค่อยๆดึงเครื่องนอนของตนเองออกจากร่างล่ำสันของบุญกอบ พร้อมเอาไปปูนอนที่มุมห้อง เพื่อหลับต่อ ทิ้งให้บุญกอบนอนเปลือยท่อนล่างอยู่เดียวดาย
………………..
“ จิ้บ จิ้บ จิ้บ…..”
“ เอ้ก อี เอ้ก เอ้ก…..”
เสียงไก่ขันสลับเสียงนกร้องดังกังวานอยู่ในสองหูของบุญกอบ สิ่งนั้นทำให้บุญกอบรู้สึกตัวตื่น เขาเริ่มกระบวนการฟื้นจากนิทรารมณ์ด้วยการขยับเปลือกตาขึ้นลงเบาๆ จากนั้นก็เพิ่มอัตราความเร็วกลายเป็นถี่รัว และเมื่อมันถี่รัวถึงขีดสุด ก็กลับกลายเป็นลืมตาตื่น
ภาพแรกที่บุญกอบได้เห็นก็คือ……ห้องเล็กๆที่ค่อนข้างโล่ง มีเครื่องเรือนราคาถูกเพียงไม่กี่ชิ้นประจำอยู่ บ่งบอกว่าเจ้าของห้องน่าจะมีฐานะที่ไม่สู้ดีนัก ซึ่งนั่นเป็นทิวทัศน์ที่แปลกตา เพราะห้องที่เขานอนอยู่ทุกวัน มันมีข้าวของเครื่องใช้น้อยกว่านี้ แถมยังไร้ระเบียบและอุดมไปด้วยขวดเหล้าเปล่าๆนับโหล
“ เอ…..นี่มันไม่ใช่ห้องเรานี่นา เราอยู่ที่ไหนกันละเนี่ย ” หนุ่มอีสานร่างล่ำพยายามนึกทบทวนความทรงจำ แต่ดูเหมือนเขาจะจดจำเรื่องชั่วๆที่กระทำเมื่อคืนไม่ได้เลย
ขณะที่บุญกอบกำลังระลึกชาติอยู่นั้นเอง ก็บังเกิดเสียงราดน้ำขนานใหญ่
“ ซู่ๆ……..”
บุญกอบถึงกลับหูผึ่ง เพราะเขารู้ดีว่านั่นคือเสียง……คนกำลังอาบน้ำ ซึ่งก็แปลว่า….เขาไม่ได้อยู่คนเดียวในห้องนี้
“ เสียงคนอาบน้ำนี่ ใครอาบน้ำอยู่นะ ” บุญกอบหันไปมองยังประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท พร้อมขบคิดอย่างหนักหน่วง
ขณะที่บุญกอบกำลังชั่งใจว่าจะเผ่นหนีหรืออยู่ต่อ หางตาก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งที่ตกอยู่ เจ้าสิ่งนั้นทำให้เขาถึงกลับตื่นตกใจจนต้องหันหน้าไปยลแบบเต็มสองตา
“ นั่น…มัน…..”
สิ่งที่ทำให้บุญกอบดูตกใจถึงขนาดนั้นมิใช่อื่นใด นอกเสียจาก…..กองชั้นในที่เพิ่งผ่านการใช้มาอย่างโชกโชน มันล่อตาจนทำให้บุญกอบโยกย้ายร่างล่ำสันเข้าไปหาอย่างช้าๆ เมื่อถึงจุดหมาย เขาก็เอื้อมมือไปหยิบชั้นในสีขาวลายลูกไม้ขึ้นมาส่องสำรวจ ก่อนจะพล่ามรำพันออกมาด้วยอาการเหม่อลอย
“ โอ้….โห ดูจากขนาดยกทรง สงสัยว่าเจ้าของมันน่าอวบใหญ่อยู่มิใช่น้อย ”
บุญกอบสอดส่ายสายตาไปมาสลับดอมดมยกทรงไซส์ใหญ่อยู่นานหลายอึดใจ ก่อนจะหันกลับไปให้ความสนใจกางเกงในผืนบาง
“ ว้าว…..นี่มัน….อันเดอร์แวร์นี่นา ดูท่าทางเพิ่งจะถอดซะด้วย เพราะยังมีกลิ่นติดอยู่ แถมตรงบริเวณเป้าก็เหมือนมีคราบเหนียวหนืดเกาะ ท่าทางอารมณ์ของผู้ที่ใส่คงจะคุกรุ่นอยู่ไม่ใช่น้อย ”
บุญกอบยอมรับว่าเขาค่อนข้างฟินในอารมณ์เอามากๆ เพราะกลิ่นสาบที่ได้รับจากสองอาภรณ์ที่ถูกถอด มันหอมหวนจนชวนดอมดม นั่นจึงเป็นปัจจัยที่ทำให้แก่นกายของเขาคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
“ โอ้ว…..ผงาดขึ้นมาอีกแล้ว ทำไมมันเย้ายวนถึงเพียงนี้ ” บุญกอบพล่ามจบ เขาก็เริ่มใช้อุ้งมือรูดท่อนลำที่อวบใหญ่ เพื่อระบายความอัดอั้นที่สุมอก
ในทีแรกบุญกอบคิดจะสำเร็จความใคร่ใส่ชั้นในแล้วเผ่นหนี แต่พอมาคิดทบทวนดูอีกที เขาจึงเปลี่ยนแผนกลางคัน
“ ไม่เอาน่า เล่นแบบเก่า มันจะไปสนุกอะไร ไหนๆห้องน้ำที่สาวเจ้าอาบก็อยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ ลองเดินไปดูก่อนดีกว่า เผื่อปะเหมาะจะได้แอบดูสาวอาบน้ำ เหอ เหอ เหอ ”
เมื่อหนุ่มอีสานร่างล่ำพูดจบ เขาก็เริ่มแสยะยิ้มด้วยท่าทางที่ดูชั่วร้าย จากนั้นก็มุ่งตรงไปที่ห้องน้ำ โดยไม่สนว่ากายท่อนล่างของตนเองจะเปลือยเปล่าอยู่หรือไม่
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ