Crisis Revolution

8.2

เขียนโดย Cimixer

วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.50 น.

  2
  2 วิจารณ์
  3,924 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 23.19 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) EPISODE 01 : Before the storm

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

EPISODE 01 : Before the storm

 

เสียงของเหล็กกระทบกับสิ่งของรอบๆ ในห้องพักของค่ายทหารแอเรียหนึ่ง ชายหนุ่ม
ผมน้ำตาลจ้องมองเครื่องนำทางที่กำลังถูกคลื่นสัญญาณรบกวน มันส่งเสียงแสบแก้วหูเบาๆเมื่อ
ฟังใกล้ๆ ภายในห้องเงียบ มีเพียงแค่เสียงของฝนที่ตกกระหน่ำลงมาในค่ำคืนนั้น กับเสียงของ
เครื่องจักรที่กำลังทำงานอยู่ภายในนั้น
 
           ทหารส่วนใหญ่หลับไป หลังจากลงจากเฮลิคอปเตอร์ได้ไม่นานเมื่อมาถึงห้องพัก
ภารกิจที่ยาวนาน แม้แต่ความหิวก็ไม่อาจหยุดพวกเขาให้เดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงได้ หลายสิ่ง
หลายอย่างเงียบเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา บรรยากาศจะคึกคักได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาตื่น
 
           มีเพียงทหารนายหนึ่งที่นั่งพิงล็อคเกอร์พร้อมกับเครื่องนำทางที่เปื้อนเลือดแห้งกรังของ
ใครสักคน มันกำลังส่องแสงกระพริบเล็กๆ ในห้องมืดๆนั่น ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับ
เอามันไปไว้ในล็อคเกอร์ข้างๆ ของเพื่อนร่วมทีมที่เพิ่งตายจากไป มันเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดเรื่อง
แบบนี้ขึ้น และเขาเจอมันมาบ่อยเกินกว่าจะร้องไห้หรือเสียใจ
 
          บรรยากาศในห้องหนาวพอๆกับข้างนอก เครื่องทำความร้อนเสีย จึงทำให้ทหารบางนาย
ตื่นขึ้นมานั่งเล่นแทนที่จะหลับ วันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันหยุดของพวกเขาแล้ว แต่มันคงจะมีเพียงแค่วัน
เดียวที่พวกเขาจะได้ออกไปเที่ยวในเมืองใหญ่ จากนั้นก็จะกลับมาเผชิญกับสงครามเงียบนั้นอีก
วนเวียนไปเรื่อยๆ ในหนึ่งสัปดาห์ และสัปดาห์ถัดๆไป
          
           ตึง!
 
           
           เสียงโยนลักบี้ของใครสักคนที่ทุกคนต่างก็รู้จักกันดี ดังขึ้นในห้องข้างๆ ทำให้ชายหนุ่ม
ที่กำลังนั่งพิงล็อคเกอร์ ตัดสินใจปล่อยความเคว้งขว้างเอาไว้ แล้วเดินไปหาเพื่อนอีกคนที่ความ
รู้สึกก็น่าจะไม่ต่างกัน พวกเขาชินแล้ว แค่บางครั้งการสูญเสียมันก็ลดขวัญกำลังใจในการออกไป
เผชิญสงครามให้ลดลงอย่างเลี่ยงไม่ได้
          
           "ไง"
 
           
         ชายร่างสูงหยุดกิจกรรมลง พร้อมกับหันมาหาเพื่อนร่วมหน่วยที่มีสีหน้านิ่งเป็นเอกลักษณ์
ลูกลักบี้ถูกโยนลงที่เก็บ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
 
           "ทำไมนายยังไม่ไปนอนอีกพอลล์?"
 
           คำถามนั้นเหมือนเขาจะเคยได้ยินมาก่อน เขาจึงชักสีหน้าเล็กน้อย
 
           "เสียงมันดังจนคนข้างในจะตื่นกันอยู่แล้วเพื่อน"
 
           ชายหนุ่มร่างสูงยักไหล่เป็นเชิงไม่ยี่ระ ก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้อีกฝั่งของห้องที่มีไฟเปิด
ข้างในห้องมีล็อคเกอร์ขนาบสองฝั่ง กับที่โล่ง จุดที่พวกเขาเอาไว้ทำกิจกรรมยามว่าง
 
           "นายคงไม่คิดใช่ไหมว่า จะมีคนลืมเรื่องนี้ง่ายๆ"
 
           บิล เปิดประเด็นขึ้นมา เมื่อพอลล์นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของตน บรรยากาศภายในห้องเงียบ
มีเพียงเสียงของฝนภายนอกที่ตกกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย
 
           "ฉันจะฆ่าพวกมัน...สักวัน"
 
 
          
           พอลล์มองเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กำลังโกรธและกำมือแน่น เขานึกย้อนกลับไปตอนที่พวก
เขากำลังปฏิบัติภารกิจ ในเมืองเล็กๆ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่พวกเขาจะทำได้ลงคอ คือการระเบิด
ทั้งเมืองและทำการขู่ประชาชนที่มีเพียงน้อยนิด ไม่มีใครหนีไปได้ แต่กลับมีคนต่อต้าน และคน
คนนั้น มีความสามารถพอในการเอาตัวรอด และฆ่าคนในหน่วยกองทัพแดงไปถึงเจ็ดคนในครั้ง
เดียวในคืนนั้น และคนที่ตายในคืนนั้น ก็มีเพื่อนสนิทของพวกเขาด้วย
 
       ชายหนุ่มคนนั้น พวกเขาได้รับรายงานมากว่าเขาคือสปายของพวกผู้ต่อต้าน แถมมีฝีมืออยู่
พอตัว ไม่ช้าไม่นาน กลุ่มผู้ต่อต้านคงจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับกองทัพ พวกเขาต้องเตรียมรับ
มือ ก่อนที่ทุกอย่างจะลามไปทั่ว
 
       พอลล์ ยกบุหรี่ขึ้นมาสูบ ก่อนจะจุดไฟ ควันลอยขึ้นไปกระทบกับแสงที่ส่องเข้ามาภายใน
ห้องผ่านหน้าต่างระบายอากาศ บิลลุกขึ้นก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องพัก เหลือไว้เพียงพอลล์
ที่นั่งสงบอยู่ตรงนั้น
 
 
       
      ในความคิดของเขายังคงจำดวงตาคู่นั้นได้ ดวงตาที่ดุร้ายราวกับสัตว์ป่าในห้องทดลองที่เขา
เคยเจอเมื่อสองปีก่อน ชายหนุ่มฮู้ดสีเทาคนนั้นรวดเร็วเสียยิ่งกว่าคนปกติ แถมการฆ่าของเขาก็ยัง
ดูแปลกเกินมนุษย์มนาอีกต่างหาก มือที่ถือมีด แทงทะลุด้าม ก่อนจะใช้มือดึงเครื่องในออกมาด้วย
แรงที่ก็ไม่ทราบว่าแรงขนาดไหน
 
       แต่กรณีการแฝงตัวแล้วบุกฆ่าแบบนี้ เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว แต่คราวก่อนที่ว่าเป็นเด็ก กลุ่ม
ก่อนหน้านี้เกือบจับได้ แต่ก็รอดหนีออกไปได้เช่นกัน เด็กนั่นใช้ปืนคล่องแคล่วพอตัว พวกเขาจึง
เข้าไปจับไม่ได้เลย บวกกับความรวดเร็วและตีนผีของไอ้เด็กนั่น
      
       ไม่นานกลุ่มผู้ต่อต้านคงจะก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ และพวกเขาอาจจะก่อสงคราม และลามไปทั่ว
ผู้นำของกลุ่มผู้ต่อต้านยังคงเป็นปริศนา ไม่มีใครรู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร แต่ที่แน่ๆ การฆ่าผู้นำของ
พวกผู้ต่อต้าน ถือเป็นภารกิจสูงสุดที่พวกเขาพยายามทำอยู่ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะหาหนึ่งคนใน
ฝูงชนเป็นล้าน
 
        เคยมีสายรายงานถึงกิจกรรมส่วนใหญ่ของพวกผู้ต่อต้าน พวกเขามักจะฝึกฝนการต่อสู้ ไม่
ต่างจากทหารสักนิด แต่ดันเป็นหลักสูตรเก่าๆ ที่ทหารปี 20** ใช้กัน แต่ผลงานก็ดีใช่ย่อย เพราะ
พวกเขาได้เจอกับตัวมาแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ยังมีการบอกกล่าวลอยๆ อีกด้วยว่า อาจจะเป็นไปได้
ว่าไม่นาน ภารกิจที่สองร้อยสิบ ที่กองทัพแดงต้องส่งหน่วยฟอร์นิตออกไปทำในประเทศเล็กๆบน
เกาะ อาจจะมีการจัดตั้งกองกำลังป้องกันการเดินทางขึ้นสู่แผ่นดินประเทศ ไม่แน่ว่าอาจจะเจอ
พวกที่พวกเขาเจอก่อนหน้านี้ พวกเขามีชื่อที่ใช้เรียกคนพวกนั้นว่า "ซิสเดอเรีย" หรือศัพท์แปล
ก็คงประมาณว่า "ปีศาจ"
 
        
       ทั้งการเคลื่อนไหว การสังหารศัตรู สายตาที่เฉียบคม และไม่พลาดแม้แต่การแตะจับ ราว
กับพวกนั้นถูกสั่งการเอาไว้แล้ว
 
        แต่ไม่นานนี้หรอก...
 
        พอลล์สะบัดหัวไล่ความปวดหัวและเรื่องต่างๆออกไป ก่อนจะลุกขึ้น เตรียมขับรถเข้าไปใน
เมืองใหญ่ ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มกว่า เขามีเวลาถมไปที่จะใช้เวลาเที่ยวในเมืองต่อในวันพรุ่งนี้
     คนส่วนหนึ่งออกไปก่อนแล้ว มีเพียงพวกที่เหนื่อยจัดจะนอนที่นี่ พอดีกับฝนข้างนอกที่หยุด
ตกไปแล้ว เหลือแต่เพียงฝนปรอย
 
        พอลล์เดินไปหยิบเสื้อโคทมา ก่อนจะเดินไปเปิดล็อคเกอร์เพื่อเอากุญแจรถออกมา พลาง
คีบบุหรี่ไปขยี้ทิ้งบนพื้นข้างนอก ยามเฝ้าหอคอยทางเข้ายังคงยังยืนอยู่ ตามจริงทหารพวกนั้นไม่
จำเป็นต้องเฝ้า เพราะมีระบบเตือนภัยผู้ไม่ประสงค์ดีอยู่แล้ว
       เขาขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ก่อนจะเข้าไปสแกนบุคคลที่ทางเข้า แล้วขับเร่งความเร็ว
ออกมายังทางด่วนที่ผ่านอุโมงค์ไป
 
      
         แสงสียังคงตระการตาเหมือนเคยในเมืองใหญ่แห่งนี้ ในขณะที่เขากำลังมุ่งหน้าไปยังร้าน
เหล้าที่ไปประจำ ก็เห็นความผิดปกติบางอย่างตามซอกซอย เดี๋ยวนี้พวกโฮมเลสออกมาเดินเยอะ
ผิดหูผิดตา แถมป้ายที่เขียนต่อต้านประธานาธิบดีนั่นอีก เขาขับรถมาหยุดที่หน้าร้าน ก่อนจะจอด
รถไว้ในลานโซนกลาง
 
      กลิ่นของเหล้าลอยเตะจมูกอย่างเคย แสงสลัวภายในร้านเปิด พร้อมกับดนตรีเสียงคลอเบาๆ
ให้บรรยากาศย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบปีก่อนของอเมริกา พอลล์นั่งลงบนเก้าอี้หน้าเคาท์เตอร์
     บาร์เทนเดอร์เมื่อเห็นเขา ก็ชงเหล้าให้อย่างไม่ต้องรอออเดอร์ เพราะเขามาที่นี่นานกว่าสอง
ปีแล้วก็ต้องมีคนที่จำชายหน้านิ่ง ในมือคีบบุหรี่ พร้อมกับการสั่งเหล้าเมนูแปลกๆ อยู่แล้ว
    
     บรรยากาศภายในร้านดูสงบลงไปมาก เมื่อมีคนเข้ามาดื่มที่นี่น้อยกว่าทุกวันที่ผ่านมา ถ้าจะ
ให้นับคงจะบางตาไม่น้อย จนนับนิ้วได้
     แก้วเหล้าหน้าตาประหลาดถูกวางลงเบาๆ ตรงหน้าของเขา ก่อนที่พอลล์จะเริ่มถามคำถาม
บางอย่างกับบาร์เทนเดอร์ถึงสิ่งที่เปลี่ยนไปในวันนี้
 
     "เกร์ป วันนี้ทำไมคนดูน้อยลง?"
 
     บาร์เทนเดอร์หันมาหาเขา ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ
 
     
      "การฆาตกรรมที่เกิดพร้อมกันสามที่น่ะ กับการประท้วงและก่อจราจลของพวกโฮมเลส"
 
     เขายักไหล่ ก่อนจะยกเหล้าขึ้นมาดื่มสองสามอึก
 
     "แปลกใช้ได้..."
 
     "คุณเห็นคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นไหม?"
 
      เกร์ปพูดเบาๆ ก่อนจะหันไปทางชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่นั่งลึกสุดในร้าน เขาสวมแจ็คเก็ต
หนังสีดำ พร้อมกับฮู้ดสีแดงข้างในที่ปิดศีรษะอยู่และนั่งนิ่งตรงนั้นมานานแล้วกว่าหนึ่งชั่วโมง
 
      "เขามาถามถึงคุณน่ะ"
 
      พอลล์ขมวดคิ้ว ก่อนจะเพ่งมองไปยังชายหนุ่มที่นั่งหันหลังให้ตรงโต๊ะในสุด ที่มีแสงเพียงสลัว
อาจจะเป็นเพื่อนร่วมภารกิจเก่าๆ แต่ คนไหนล่ะ?
      มีคนมากมายที่เขาร่วมงานด้วย จนตอนนี้ลืมหน้าลืมตาไปหมดแล้ว
 
     
      "ขอบคุณที่บอก ...เขาอาจจะเป็นคนรู้จักฉัน"
 
       
      เขาพูด ก่อนจะดื่มให้หมด แล้วเตรียมตัวเดินไปยังโต๊ะนั้น ที่มีชายหนุ่มคนนั้นนั่งอยู่ เขายัง
คงไม่วางใจ ถ้าหากไม่ใช่คนรู้จัก คงจะเป็นอย่างอื่นเสียมากกว่า
 
      ในขณะที่เขาเดินมาหยุดอยู่ใกล้โต๊ะตัวที่สอง ห่างจากโต๊ะที่ชายคนนั้นนั่งอยู่ ฮู้ดสีเทาก็
เปิดออกเผยให้เห็นทรงผมสีน้ำตาลส้ม เสยเอียงไปข้างๆ ชายคนนั้นหันมา ก่อนจะเชื้อเชิญให้
เขานั่งลง
 
       ไม่ใช่คนรู้จัก...
 
       "ฉัน...จำไม่ได้ว่าเคยรู้จักนายนะ"
      
       เขาพูดเป็นเชิง ก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งลงฝั่งตรงข้าม เขายังคงระวังตัวอยู่เสมอตั้งแต่เดินเข้า
มาในร้านนี้ทุกครั้ง
 
       "นายเป็นใคร?"
 
       ชายหนุ่มคนนั้นมีแผลปาดที่ปาก เป็นแผลฉกรรจ์ที่ใครๆ มองคงจะสะดุดตาไม่น้อย
เขาถอนหายใจ ก่อนจะยิ้มแล้วยกบัตรประจำตัวของกองทัพขึ้นมา
 
       'เอซ ไรเกอร์' อายุ 26 ปี  เรดอาร์มี่ หน่วย ฟอร์นิต
 
      
       "ไรเกอร์? หืม... เด็กใหม่เมื่อตอนนั้น?" พอลล์ เริ่มจำได้ลางๆ
 
       ไรเกอร์ ยักไหล่ เขาคือเพื่อนร่วมทีมที่เข้ามาช้ากว่าพอลล์ถึงหนึ่งปี และตอนนั้นที่ทุกคน
กำลังจัดตั้งหน่วยขึ้นมาใหม่ ก็ได้ไรเกอร์เข้ามา ในการทำภารกิจยึดเมืองในครั้งนั้น ก่อนจะถูก
ย้ายตัวไปไว้ในหน่วยพิเศษ เพราะฝีมือของเขานั้นเก่งใช้ได้ จนไปสะดุดตาพวกคนใหญ่คนโต
เข้า เรียกได้ว่าโชคดีพอสมควร
 
       "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เพื่อนเก่า ฮ่าๆ" ไรเกอร์พูด
 
      พอลล์ยิ้มออก ก่อนจะถามถึงการย้ายหน่วยในครั้งนั้น
 
       "ก็ จะพูดยังไงดีล่ะ...ไปอยู่ ก็เหมือนไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลยด้วยซ้ำ หน่วยพิเศษที่ไม่มี
ภารกิจเข้ามาเลยสักอย่าง"
 
        พอลล์จุดบุหรี่ แล้วสูดเอาควันทำลายปอดเข้าไป ก่อนจะคีบมันไว้ในมือ
 
       "แล้ว ในไอดีการ์ดนั่นน่ะ มีชื่อหน่วยของฉันอยู่นี่ นายจะย้ายกลับมาเหรอ?"
 
       ไรเกอร์ พยักหน้า พลางเก็บไอดีการ์ดลงในกระเป๋า
 
       "ถ้ากลับมาอยู่กับพวกนายคงจะมีอะไรน่าตื่นเต้นเยอะแน่ๆ แล้ว วอลเลอร์ ล่ะ?"
 
        คำถามนั้นทำให้พอลล์หยุดชะงัก ก่อนจะหุบยิ้มลง ดวงตาหลุบต่ำลง มือวางลงบนโต๊ะ
บรรยากาศลงเพียงชั่วครู่ ไรเกอร์เมื่อเห็นสีหน้าที่แย่ลงของพอลล์ เขาก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
กับ วอลเลอร์ เพื่อนสนิทของพวกเขา
 
        "อ่า...โทษทีที่ถามแบบนั้น"
 
        พอลล์ พยายามลืมเรื่องนั้น ก่อนจะกลับมาสู่สภาพเดิม
 
        "ไม่เป็นไร มันเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานน่ะ"
 
        "เขาเป็นคนที่ดีนะ"
 
       
        
       บรรยากาศภายในร้านยังคงเปิดเสียงเพลงคลาสสิคคลอเบาๆ พวกเขาก็พูดคุยถึงสารทุกข์
สุขดิบ แล้วแต่กันไป พร้อมกับฝนที่เริ่มตกลงมาหนักเหมือนครั้งแรกที่เขายังอยู่ในค่าย
 
        แต่บรรยากาศอันเงียบสงบกว่ายี่สิบนาที ก็หมดไป เสียงอึกทึกครึกโครมก็เริ่มดังขึ้นมา
พอลล์ และไรเกอร์ หันไปมองประตูที่ถูกเปิดดังลั่น พร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดเสื้อฮู้ดสีดำ
เปียกฝนวิ่งเข้ามา พร้อมกับเพื่อนร่วมหน่วยของเขาที่วิ่งเข้ามาด้วยเช่นกัน บิล วิ่งตามชายคนนั้น
ไป ก่อนจะหันมาตะโกนบอกให้พวกเขาช่วยอีกแรง
 
        พวกเขามองหน้ากัน ก่อนจะลุกขึ้นวิ่งตามสองคนนั้นไป ไม่รู้ว่าข้างนอกนั้นเกิดอะไรขึ้น
แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้พวกเขารู้ว่านั่นคงจะไม่ใช่เรื่องดี บิลน่าจะออกมาเที่ยวคลายเครียดเหมือนกัน
แต่ก็ดันเจอเข้ากับสถานะการณ์แบบนี้ และพวกเขาก็ได้เข้าไปเอี่ยวด้วยโดยไม่ทันตั้งตัว
 
        ชายสวมฮู้ดสีดำนั้นวิ่งเร็วจนพวกเขาเกือบตามไม่ทัน เส้นทางมุ่งเข้าไปในตรอก ก่อนจะ
ลัดไปอีกทาง พวกเขาวิ่งผ่านฝูงชน ก่อนจะวิ่งผ่านถนนที่มีรถสัญจรไปมาในขณะที่ฝนตกลงมา
หนัก จนทำให้ทัศนียภาพโดยรอบ ยิ่งเป็นอุปสรรคในการหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ไรเกอร์ตัดสินใจ
วิ่งไปดักอีกทาง ในขณะที่บิลและพอลล์วิ่งตามชายคนนั้นไปยังลานจอดรถใต้ดิน
 
       ชายคนนั้น รีบวิ่งไปยังทางขึ้นไปสู่อีกทางของลานจอดรถใต้ดิน จนทำให้พวกเขาสองคน
คลาดกันกับชายคนนั้น พวกเขาวิ่งตามไป เมื่อเห็นชายคนนั้นวิ่งเข้าไปในตรอกที่สามของตึก
 
       "ไอ้เวรเอ้ย!"
 
      พวกเขาวิ่งกันจนไปถึงตรอกนั้น ก่อนจะพบว่าชายคนนั้นถูกไรเกอร์ใช้สันปืนตีเข้าที่หัว
อย่างแรง ก่อนจะจับรวบตัวไว้
 
      "บิล นี่มันเกิดอะไรขึ้น หมอนี่เป็นใคร?"
 
      บิลถอนหายใจ ก่อนจะลงไปหยิบบางอย่างในกระเป๋าของชายสวมฮู้ดออกมา มันคือปืน
เก็บเสียงและอาวุธพกอีกสองสามอย่างในขนาดที่เล็กพอจะเก็บซ่อนต่อสายตา
 
      "มันพยายามจะฆ่าจ่าสเวน ตอนที่เรากำลังเดินผ่านฝูงชน... หึ...ดูเครื่องหมายนี่สิ"
 
      กระดาษเปียกเล็กๆชิ้นหนึ่งถูกหยิบขึ้นมา มันเป็นสัญลักษณ์ของผู้ต่อต้าน พวกเขามอง
ก่อนจะตัดสินใจจับชายคนนั้นขึ้นมานั่งดีๆ แล้วเปิดฮู้ดออกให้เห็นหน้าชัดๆ
 
      ชายคนนี้ไว้ทรงสกินเฮด แถมมีรอยสักมากมาย รวมไปถึงใบหมายจับ
 
      "เราควรจะพามันไปที่กรมสืบสวนในฐานทัพ"
 
      ไรเกอร์พูด ก่อนจะจับชายคนนั้นให้ลุกขึ้น เขาไม่ปริปากเลยแม้แต่น้อย
 
      "แต่คงต้องทำให้เขาสลบก่อน ไม่งั้นยุ่งยากอีกแน่ๆ"
 
      
       พอลล์ พูดพลางยกสันปืนขึ้นแล้วสับเข้าแรงๆที่หลังคอของชายคนนั้น เส้นประสาทดับลง
ก่อนที่พวกเขาจะลากตัวชายคนนั้นกลับไปที่รถของไรเกอร์ ในขณะที่พอลล์และบิลต่างก็ขับรถ
ส่วนตัวมา พลางมุ่งหน้ากลับไปที่ฐานทัพย่อย
 
      แต่อีกมุมหนึ่งของตึก ชายคนหนึ่งยืนมองดูอยู่เงียบๆ ก่อนจะเดินหายไปในตรอกมืด
ฝนยังคงตกลงมาหนักเช่นเคย แค่ตอนนี้ หมอกเริ่มบดบังทุกอย่างบนท้องฟ้าไป ขณะที่ในเมือง
ต่างวุ่นวาย และเต็มไปด้วยความโหดร้ายของผู้คน กลุ่มผู้ต่อต้านก็เริ่มกระจายตัวออกไปเรื่อยๆ
เพียงแค่หนึ่งในพวกเขาพลาดท่าจนถูกจับไปได้ แต่นั่นคงไม่ใช่ปัญหาเท่าไรนัก
 
.........
 
 
 
 
 
       
     ในห้องพักในย่านแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืด กำลังนั่งดูทีวีบนโซฟา อากาศเย็นภายใน
ห้อง ทำให้เขาเริ่มอยากปิดทีวีลง แล้วกลับไปนอนที่เตียง แต่เสียงดังภายนอกนั้น ช่างทำให้
เขารู้สึกรำคาญ และอยากหาอะไรทำได้ดีไม่น้อย มันมีมากพอๆกับความรู้สึกอยากจะนอนพักผ่อน
หลังจากออกไปทำงานพาร์ทไทม์
 
    ก่อนที่ดวงตาจะเริ่มรู้สึกหนักอึ้ง ร่างกายเริ่มผงกหัวให้นอนลงกับโซฟาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผ้าห่ม
ยังคงสภาพเดิม แต่ทีวียังคงถูกเปิดทิ้งไว้ ท่ามกลางของเสียงฝนภายนอก บวกกับเสียงของผู้คน
ก็กลับทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว เนื่องจากความอ่อนล้าจากช่วงเช้า
 
 
    ในขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังสูบบุหรี่ นั่งมองออกไปยังหน้าต่าง ที่มีภาพของใครสักคน กำลัง
ใช้มีดแทงอีกคนซ้ำๆ ที่ไม่แน่ใจว่าชายหรือหญิงไกลออกไป เขาลุกขึ้น ก่อนจะปิดหน้าต่างลง
หลังจากที่ทิ้งบุหรี่ลงไปแล้ว
 
   
     ในเมืองที่มีแสงสีสัน สวยงามตระการตาในยามค่ำคืน กลับมีภัยเงียบของฆาตกรรมและการ
แทรกแซงขององค์กรผุดขึ้นเป็นเชื้อราและดอกเห็ด แต่ผู้คนก็ยังคงทำเป็นว่าทุกอย่างปกติดี
 
 
      ตราบใดที่พวกเขายังไม่พบเจอกับตัวจริงๆ
 
      คนข้างนอกนั่นก็จะยังถูกเมินเฉยอยู่เรื่อยไป...
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา