ข้าร้ายแล้วไงรักข้าหรือไม่เล่า
เขียนโดย กัญญาภัส
วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 00.36 น.
แก้ไขเมื่อ 8 เมษายน พ.ศ. 2561 09.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งตัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 1
ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งตัว
องค์ชายสาม"เป็นเพราะเปิ่นหวางตั้งใจหรือเพราะรสชาติของเจ้าทำให้เปิ่นหวางควบคุมตัวเองไม่ได้กันแน่"
@@@@@@
อืม...อื้อ...อะไรกันเนี่ย!
ทำไมถึงร้อนไปหมด แอร์เสียรึเปล่า!
‘อองตอง’ พยาบาลสาวสวยวัยยี่สิบหกปีรู้สึกตัวตื่นขึ้นกลางดึก ในขณะที่สมองกำลังประมวลผลอยู่นั้นเธอกลับรู้สึกเจ็บแปลบที่ใต้ท้องน้อย เจ็บจนต้องร้องออกมา
"อ๊ะ! เจ็บ เจ็บ" เมื่อเปล่งเสียงร้องออกมาเธอก็สึกถึงความผิดปกติ เธอไม่ได้พูดภาษาไทย! ทำไมเสียงที่ออกจากปากเธอถึงเหมือนภาษาจีน ไม่เหมือนล่ะนี่มันภาษาจีนชัดๆ แต่ทำไมเธอถึงพูดและฟังภาษาจีนรู้เรื่องล่ะ!
“ทำไม...อุ๊บ” ยังไม่ทันได้พูดจบ มือปริศนาก็ยื่นมาปิดปากเธอไว้เสียก่อน
“อื้อ...อื้อ” พยาบาลสาวพยายามดิ้นรนเปล่งเสียง แต่ผู้กระทำกลับไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้กล่าวสิ่งใดเพราะริมฝีปากร้อนกดลงมาที่ลำคอระหงก่อนจะลากเรื่อยมายังเนินอกอวบอิ่มเสียก่อน
ข่มขืน!เราถูกผู้ชายข่มขืน! คำแรกที่ผุดขึ้นมาในสมองเมื่อมือหนาอีกข้างกดสองมือของเธอแนบไว้บนศีรษะ อองตองพยายามเกร็งร่างกายขัดขืน แต่ยิ่งทำก็ยิ่งสิ้นไร้เรี่ยวแรง เราโดนวางยา! คำที่สองผุดขึ้นมาอีกครั้ง หากไม่โดนวางยาเธอคงไม่ร้อนรุ่มจนร่างกายอ่อนปวกเปียกแบบนี้เป็นแน่!
ร่างบางหอบหายใจหนักเป็นเหตุให้ริมฝีปากร้อนเข้าครอบครองยอดอกได้อย่างถนัดถนี่ ยิ่งเธอไร้เรี่ยวแรงขัดขืนเท่าใดบุรุษแปลกหน้าก็ยิ่งรุกเร้าหนักขึ้นเท่านั้น ริมฝีปากร้อนดูดดึงยอดอกของเธออย่างหนักก่อนจะขบเม้มฝากรอยกุหลาบจนเธอระบมไปหมด ความเจ็บเพียงเล็กน้อยทำให้พยาบาลสาวได้สติและในขณะที่เธอกำลังคิดหาทางออก ใบหน้าที่ง่วนอยู่กับเนินอกก็ผละขึ้นมา
ราวกับมีแรงดึงดูดมหาศาลเมื่อดวงตาของเธอสบกับดวงตาสีเทาเรียวรีทรงเสน่ห์ แม้จะมีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์เพียงเล็กน้อยแต่อองตองก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนี้...หล่อมาก ผิวขาวจัด คิ้วกระบี่ได้รูปรับกับจมูกที่โด่งเป็นสัน ใบหน้าเรียวยาว ริมฝีปากบางสีระเรื่อแล้วยังมุมปากที่รั้นขึ้นอย่างคนถือดีนี่อีก! หล่อขนาดนี้ขอดีๆเถอะไม่ต้องข่มขืน!
เหมือนร่างสูงจะงุนงงกับอาการตกตะลึงของเธอไม่น้อย ดวงตาสีเทาจับจ้องใบหน้าของเธอครู่หนึ่ง จากนั้นจึงก้มลงมากระซิบชิดริมใบหูด้วยน้ำเสียงแหบต่ำ
"อดทนอีกนิดเถิด เปิ่นหวางสัญญาว่าจะทำให้ครั้งแรกของเจ้าไม่ต้องทรมานมากจนเกินไปนัก!"
“เสียงนี้...อา” พยาบาลสาวรู้สึกราวกับโดนกำปั้นทุบ จากนั้นความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมทั้งหมดก็ถาโถมเข้ามา ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอกำลังเจอกับอะไร และกำลังทำสิ่งใด! ไม่แปลกสักนิดที่เธอพูดและฟังภาษาจีนโบราณรู้เรื่อง
เธอต้องการแบบนี้สินะ ’หลิงเป่าเป้ย’ ความรู้สึกสงสารระคนสมเพชเกิดขึ้นเมื่อเข้าใจถึงความต้องการของเจ้าของร่างคนเก่า พยาบาลสาวหลับตาลงช้าๆ ปล่อยร่างกายนี้ให้เขากระทำตามอำเภอใจ นี่ไม่ใช่ร่างกายของเธอ ไม่นาน...ร่างบางก็ไม่สามารถต้านทานความต้องการทางธรรมชาติ เธอปล่อยให้ร่างนี้ตกเป็นของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะเขาคือบุรุษที่เจ้าของร่างนี้ปรารถนา...
‘กงหยางเฟยเทียน’ องค์ชายสามแห่งแคว้นเหลียง บุรุษสูงศักดิ์ที่หลิงเป่าเป้ยเฝ้าเพ้อฝัน บุรุษที่ไม่เคยเหลือบพระเนตรมองนาง สำหรับพระองค์นอกจากความงดงามปานล่มเมืองแล้ว หลิงเป่าเป้ยก็เป็นเพียงสตรีเจ้าเล่ห์ มากแผนการและน่ารังเกียจเท่านั้น
@@@@@@
พยาบาลสาวรู้สึกตัวตอนรุ่งสาง ทั่วร่างปวดเมื่อยร้าวระบมไปหมด ที่ระบมมากที่สุดก็เห็นจะเป็น ส่วนนั้น! เธอรู้ในทันทีว่าทุกอย่างไม่ใช่ความฝันเพราะด้านข้างยังมีบุรุษสูงศักดิ์ผู้นั้นนอนอยู่
“หลับลึกขนาดนี้คงเพลียมากสินะ สมน้ำหน้า!ใครใช้ให้ออกแรงตลอดทั้งคืนเล่า!” พยาบาลสาวห้ามใจไม่ให้มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาไม่ได้ นี่ขนาดด้านข้างยังดูดีขนาดนี้ ไม่แปลกเลยที่เจ้าของร่างนี้คลั่งไคล้นักหนา
“หล่อแถมยังโปรไฟล์ดีแบบนี้ ห้ามไม่ให้เพ้อก็คงยาก องค์ชายสามสินะ ’กงหยางเฟยเทียน’ อืม...หล่อยิ่งกว่าพระเอกละครหลังข่าวซะอีก มองด้านข้างก็ยังหล่อ จมูกก็โด่งปากก็...แดง” พยาบาลสาวหน้าขึ้นสี คำพูดทุกอย่างติดอยู่ในลำคอเมื่อมองเห็นริมฝีปากบวมเจ่อที่ประทับรอยกุหลาบไว้กับเธอทั่วทั้งตัว
“ตอนนี้ เราคือหลิงเป่าเป้ยสินะ” แม้จะประหลาดใจกับเรื่องเหนือธรรมชาติที่เกิดโดยไม่ทันได้ตั้งตัวแต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว เมื่อฟ้าเบื้องบนมอบโอกาสให้เธอมีชีวิตอยู่อีกครั้ง เธอก็คงต้องยอมรับและดำเนินชีวิตอยู่ในร่างนี้ต่อไป
ในศตวรรษที่ 21 ‘อองตอง’ คือพยาบาลสาวสวยดีกรีเกียรตินิยมเหรียญทองนักเรียนทุนจากวิทยาลัยพยาบาล เธอเป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตพร้อมกับเด็กวัยเดียวกันมากมายในมูลนิธิพ่อแม่แท้ๆเป็นใครเธอยังไม่มีโอกาสได้รู้ รู้เพียงแต่ว่าแม่ของเธอไม่พร้อมจึงนำเธอมาทิ้งไว้ ตั้งแต่เล็กจนโตแม่ครูบอกกับเธอเสมอว่า ดีเท่าไหร่ที่แม่เธอไม่ทำแท้ง ดีเท่าไหร่ที่เขายังเมตตาสงสารถึงให้เธอได้เกิดมาบนโลกวุ่นวายใบนี้
อองตอง มุ่งมั่นที่จะเป็นพยาบาล อย่างน้อยก็ได้ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาคนไข้โดยเฉพาะคนที่ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ เธออยากให้กำลังใจให้คำแนะนำกับพวกเขา แม้ใครหลายๆคนจะตราหน้าว่าผู้หญิงที่ท้องไม่มีพ่อคือผู้หญิงใจง่าย แม้สังคมจะไม่ยอมรับแต่นั่นไม่ใช่เธอ เธอคือหนึ่งคนที่จะยืนอยู่เคียงข้างพวกเขาอย่างน้อยในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดขอแค่มีใครสักคนเข้าใจพร้อมให้คำปรึกษาและคอยเป็นกำลังใจให้คนคนหนึ่งสู้ต่อไป
เพื่อใครน่ะเหรอ...เพื่อจะได้ไม่มีเด็กโดนทิ้งขว้างอย่างเธอเพิ่มขึ้นยังไงล่ะ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นคนเลวไปหมด พวกเขามีเหตุผลด้วยกันทั้งนั้น! และด้วยเหตุนี้เธอจึงเข้าใจ ‘หลิงเป่าเป้ย’ เจ้าของร่างที่มีใบหน้าเหมือนกับเธอทุกประการ จะต่างกันบ้างก็คงเป็นสีผิวที่ขาวซีดกว่าเล็กน้อย ไม่เพียงแต่รูปร่างหน้าตาเท่านั้นที่เหมือนกัน จากความทรงจำของร่างนี้นิสัยใจคอของพวกเธอก็คล้ายคลึงกันอีกด้วย พวกเธอมีนิสัยแก่นแก้วกะโหลกะลา ชอบคบเพื่อนต่างเพศเพราะอยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ
เพียงสองอย่างที่เธอไม่เหมือนหลิงเป่าเป้ยเลยก็คือหนึ่ง ฐานะและความเป็นอยู่ในครอบครัว หลิงเป่าเป้ยผู้นี้เป็นที่รักของคนในครอบครัว เธอเป็นทายาทสายตรงของผู้นำตระกูลหลิงกับอดีตกงจู่(องค์หญิง) ตระกูลหลิงคือตระกูลขุนนางใหญ่ที่สำคัญและมากด้วยอิทธิพลตระกูลหนึ่งในแคว้นเหลียง แตกต่างกับอองตองที่ถูกทอดทิ้งและเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า อย่างที่สองก็คือ ความอิจฉาริษยา มากเล่ห์และเจ้าแผนการ ตั้งแต่เกิดมาอองตองผู้นี้ไม่เคยคิดวางยาหรือวางแผนทำร้ายผู้อื่นอย่างหลิงเป่าเป้ยเลยสักครั้ง!
หลิงเป่าเป้ยผู้นี้ช่างขลาดเขลา เพราะความรักบดบังดวงตาและความคิดทำให้สตรีที่เกลียดการแก่งแย่งชิงดีและความอิจฉาริษยาจำต้องก้าวลงไปร่วมในวังวน เหตุเพราะบุรุษที่นางปักใจเป็นที่หมายปองของสตรีทั่วทั้งแคว้น หลิงเป่าเป้ยมิได้มีศักดิ์ฐานะด้อยไปกว่าผู้ใด นางคือบุตรีของแพทย์หลวง ‘หลิงเส่าเหวิน’ แพทย์ประจำองค์หวงตี้(ฮ่องเต้)แห่งแคว้นเหลียง เป็นสตรีที่บุรุษแทบทุกคนหมายปอง นางมีใบหน้างดงามปานล่มเมือง เพียบพร้อมทั้งศักดิ์ฐานะและสติปัญญา เป็นแพทย์หญิงที่มีพรสวรรค์โดดเด่น สุขุมนุ่มลึกไม่ค่อยแสดงอารมณ์จนกระทั่งเธอได้พบกับเขา ‘กงหยางเฟยเทียน’ องค์ชายสามผู้นี้กระชากหัวใจเธอตั้งแต่แรกพบ เธอทำทุกอย่างเพื่อให้บุรุษผู้นั้นรับรู้ถึงความในใจ วางแผนมากมายเพื่อสร้างโอกาส แม้จะรู้ดีว่าพระองค์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเธอเป็นพิเศษแต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ เพราะบุรุษเย็นชาผู้นั้นก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับสตรีอื่นใด!
จนกระทั่งวันหนึ่งสิ่งที่เธอหวาดกลัวก็มาถึง เธอได้เห็นรอยยิ้มของบุรุษเย็นชาผู้นี้เป็นครั้งแรก รอยยิ้มหวานซึ้งราวกับตกอยู่ในห้วงแห่งรัก รอยยิ้มที่มีให้กับ ‘ว่านเจียวจู’ บุตรีเพียงคนเดียวของเสนาบดีฝ่ายขวา ว่านเจียวจูงดงามอ่อนหวานแม้ใบหน้าไม่ได้งดงามโดดเด่น แต่ความน่ารักสดใสรวมกับเสน่ห์ในการบรรเลงเพลงพิณทำให้นางเป็นที่หมายปอง เป็นคู่แข่งคนสำคัญที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอ!
เพราะไม่สมหวังในรักจากแพทย์หญิงผู้เปี่ยมเมตตากลับกลายเป็นสตรีเจ้าอารมณ์ แววตาที่เคยสดใสกลับแปรเปลี่ยนเป็นแววตาเคียดแค้นคิดวางแผนการต่างๆนานาเพื่อให้รอยยิ้มของบุรุษที่รักเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว หลิงเป่าเป้ยวางแผนล่อลวงองค์ชายสามให้มาพบเธอที่โรงเตี๊ยมดังใจกลางเมืองเพียงลำพัง องค์ชายสามรับปากและมาตามสัญญาเพราะเธอให้เหตุผลว่าเป็นการกล่าวลาครั้งสุดท้ายก่อนตัดใจเดินทางไปศึกษาด้านการแพทย์ที่แคว้นเกา เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามที่กล่าวเมื่อเธอลอบป้ายยาปลุกกำหนัดในขณะที่พระองค์พลั้งเผลอ ยานั้นแรงและออกฤทธิ์ได้รวดเร็วนัก เพียงไม่ถึงเค่อ(15นาที)องค์ชายสามก็เริ่มกระสับกระส่าย ไม่สามารถควบคุมตัวเองและเกิดความต้องการในเพศตรงข้ามอย่างรุนแรง หลิงเป่าเป้ยยอมมอบกายให้องค์ชายสามเมื่อพระองค์รับปากว่าจะรับเธอเป็น ‘หวางเฟย’(พระชายาเอก) แลกกับการช่วยไม่ให้พระองค์ต้องทนทรมานจากยาปลุกกำหนัด คาดไม่ถึงว่าโรคหัวใจที่แฝงอยู่ในร่างกายจะเกิดกำเริบกะทันหัน หลิงเป่าเป้ยหัวใจวายเพราะถูกกระตุ้นจากยาปลุกกำหนัด
“เธอกับชั้นตายพร้อมๆกันสินะหลิงเป่าเป้ย” พยาบาลสาวเอ่ยกับตนเอง ช่วงเวลาเดียวกับที่หลิงเป่าเป้ยสิ้นใจเธอผู้โหมเวรหนักช่วงสงกรานต์ก็ล้มลงขาดใจตายบนเตียงเพราะหัวใจวายเช่นเดียวกัน เมื่อสิ้นใจวิญญาณของเธอกลับเข้ามาอยู่ในร่างนี้แทนหลิงเป่าเป้ย แถมหลุดเข้ามาในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม!
สวรรค์คงรักเธอมาก! ให้โอกาสเธอได้มีชีวิตอีกครั้งแถมยังมอบสามีให้ทันทีโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า มิหนำซ้ำสามีป้ายแดงคนนี้ก็เกลียดเธอยิ่งกว่าอะไร!
“เฮ้อ...เราต้องอดทนอีกแล้วใช่มั้ย ต้องอดทนแล้วใช้ชีวิตที่มีตราบาปนี้ต่อไปสินะ” พยาบาลสาวถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะปล่อยน้ำตาให้ไหลผ่านลงมาเงียบๆ ยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อไป อองตองคนนี้ทำตามที่เธอต้องการแล้วนะหลิงเป่าเป้ย
“จากนี้ไป...ฉันจะเป็นหลิงเป่าเป้ยคนใหม่ในแบบที่ฉันต้องการ” พยาบาลสาวเอ่ยกับตนเองก่อนที่ความเหนื่อยล้าจะทำให้พล็อยหลับไปอีกครั้ง...
เมื่อรับรู้ถึงลมหายใจที่สม่ำเสมอดวงเนตรของบุรุษที่บรรทมอยู่ก็ลืมขึ้น
“เจ้าเสียใจเป็นด้วยรึหลิงเป่าเป้ย!” องค์ชายสามทอดพระเนตรร่างบางด้วยความรู้สึกหลายหลาย พระองค์โกรธที่นางเป็นสตรีไร้ยางอายกล้าวางยาปลุกกำหนัด นางจงใจใช้เรือนร่างงดงามยั่วยวนล่อลวงจนเกิดเรื่องงามหน้า! พระองค์อยากจะกระชากนางขึ้นมาถามนักว่าจิตใจของนางทำจากอะไร สตรีชั้นสูงที่ไหนกล้ากระทำเรื่องไร้ยางอายเช่นที่นางทำอยู่พระองค์กลับทอดพระเนตรเห็นน้ำตาที่ไหลผ่านหางตาของนางเสียก่อน เหตุใดดวงตาดอกท้อจึงไร้ซึ่งการเสแสร้ง เสียใจ ร้องไห้! นี่นางร้องไห้! สตรีมากเล่ห์เจ้ามารยาต้องการตำแหน่งหวางเฟยจนตัวสั่นกลับร้องไห้เมื่อแผนการลุล่วงอย่างนั้นรึ! ทอดพระเนตรเช่นนั้นโทสะที่มีจึงค่อยลดลงไป องค์ชายสามแสร้งบรรทมต่อจวบจนข้างกายไร้ซึ่งเสียงสะอื้นและเข้าสู่ห้วงนิทราร่างสูงทอดพระเนตรสตรีตรงหน้าอย่างค้นหา พระองค์ต้องรู้ให้ได้ว่าแท้จริงแล้วหลิงเป่าเป้ยเป็นคนอย่างไรกันแน่!
สิ่งที่ตั้งพระทัยกลับถูกเรือนร่างงดงามและผิวพรรณผุดผ่องชวนให้ไขว้เขว ยิ่งทอดพระเนตรรอยกุหลาบที่โผล่พ้นอาภรณ์ออกมากลับยิ่งกระวนกระวาย
“น่าตายนัก!เหตุใดไม่สวมอาภรณ์ให้เรียบร้อย” องค์ชายผู้เย็นชาถึงกลับลอบกลืนน้ำลาย หากจะปฏิเสธว่านางไม่งดงามคงไม่มีทางเป็นไปได้ ความงดงามของนางยากที่จะหาผู้ใดมาเปรียบ คราแรกที่ได้ครอบครองพระองค์ไม่ปฏิเสธว่าเกิดจากการกระตุ้นของยาปลุกกำหนัด แต่คราต่อมาเล่า! ที่พระองค์เคี่ยวกรำนางนับครั้งไม่ถ้วนมันเกิดจากอะไร...
"เป็นเพราะเปิ่นหวางตั้งใจหรือเพราะรสชาติของเจ้าทำให้เปิ่นหวางควบคุมตัวเองไม่ได้กันแน่"
-จบตอน-
สวัสดีค่ะ กัญญาภัส นะคะ
ขอขอบคุณรีดเดอร์ทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านค่ะ
ติตตามข่าวสารของไรท์ในเพจได้นะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ