koku-soja
เขียนโดย TsuKiTsuKi
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.23 น.
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561 12.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ซีบิล
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความมาแล้วมาแล้ว มาช้าเพราะติดเหล่าออเจ้ายิ่งนัก คอมเมนต์ติชมกันได้ ไม่ได้ตรวจคำผิดเช่นเคย หากเจอเม้นบอกได้เลย เรื่องนี้ไม่ได้ดราม่า อะไรนักหนาเนื่องด้วยคนเขียนชอบนิยายแนวฟิลกู๊ด ก็เลยแต่งสนองนีดตัวเองกิกิ
ตอนที่5 ซีบิล
พี่เขยมาส่งผมที่หน้าโรงเรียน ก่อนเลยไปหาพี่ชายผมที่นัดไว้ที่ลานจอดรถ ส่วนผมขอลงมาก่อนเนื่องด้วยยังไม่อยากเจอหน้าพี่น้อง ด้วยเพราะผมยังไม่อยากโดนพี่น้องซักฟอกเท่าไร่
ผมเรียนอยู่ที่ซีบิลครับ บ้านผมเรียนที่นี่ทุกคนคุณพ่อคุณแม่ผมก็จบที่ด้วย ซีบิลมีทั้งการเรียนการสอนแบบหลักสูตร การสอนแบบเฉพาะ วิชาชีพต่างๆ แต่ส่วนมากที่มาสมัครกันจะเน้นไปที่การแสดง นักร้อง ไอดอล
ผมยืนมองรถพี่เขยที่ขับออกไปจนลับตา ยังไม่ทันจะได้ออกเดินมือถือของผมก็ดันขึ้น ผมคิดว่าคนเป็นพี่น้องคนใดคนหนึ่งของผมโทรมาถามว่าอยู่ไหนแล้ว ผมเลยกดรับโดยไม่ได้มองหน้าจอ
“(สอบเสร็จโทรหากูด้วย)”เสียงของเจ้ากรรมนายเวรของผมเอง ผมตกลงปลงใจเรียกโคคุโอะว่าเจ้ากรรมนายเวร
“สอบเสร็จไม่ว่าง ที่บ้านนัดกันกินเลี้ยงวันนี้สอบวันสุดท้าย” ผมตอบตามความจริง
“(แดกกับที่บ้านหรือไปแดกกันต่อกับไอ้เหี้ยโทชิ)”
“กินกับพวกพี่น้องจริงๆ จะไปไหนได้ข้างหลังผมมันยังไม่หายดี” ถึงกินยาไปแล้วถึงจะเดินได้ แต่ข้างในผมก็ยังคงเจ็บอยู่บ้าง
“(ก็ไม่รู้จักพอเอากับกูเสร็จไปเอากับไอ้เหี้ยโทชิต่อ)” ผมไม่รู้จะตอบเรื่องนี้ยังไง เดี๋ยวพูดไม่ถูกใจจะพาลซวย ปลายสายคงเห็นผมเงียบไปเลยเอ่ยขึ้นมาอีก
“(ไอ้เหี้ยโทชิไปด้วยรึเปล่า)”
“มาครับ พี่โทชิมารับพวกผมก็เป็นเจ้ามือ” ผมตอบตามความจริง
“(มึงไม่ได้แดกคนเดียวมันคงไม่ตายหรอก แต่ถ้ามึงไม่มาหากู กูจะหาคนในครอบครัวมึงมาแทนมึง จะว่าไปพี่น้องมึงไปสอบกันหมด งันคนแทนมึงควรเป็นแม่มึง)” เสียงปลายสายทำผมอารมณ์เสีย เขาไม่ควรจะพูดถึงแม่ของผม
“อย่าเอาคนแม่มาเกี่ยว ไม่ให้กูกินข้าวไปกูก็ไม่กิน..พูดดีๆกูก็รู้เรือง มึงอยากทำอะไรก็บอกกูดีดีอย่าเอาครอบครัวก็มาเกี่ยว” เขาไม่ดีใส่ผมก่อน ผมก็ไม่จำเป็นต้องดีกับเขา
“(กับโทชิเรียกพี่แทบทุกคำ ที่กับผัวอย่างกูมึงพูดมึงพูดกู)” ผมที่มัวแต่คุยโทรศัพท์ ไม่ได้สนใจว่ามีคนเข้ามาข้างหลัง คนที่เดินเข้ามาจากด้านหลังจับข้อมือทีไม่ได้ถือมือถือ ทำเอาผมสะดุ้งเมื่อมีมือมาจับข้อมือผม แต่เมื่อผมหันกลับมาก็พบว่าเป็นคนที่ผมกำลังคุยด้วย ผมรีบมองไปรอบตัวเองเพื่อจะขอความช่วยเหลือก็ไม่พบนักเรียกของซีบิลอยู่เลย ผมแปลกใจเลยเปิดช่องให้โคคุโอะดึงมือถือผมไปกดปิดเครื่อง
“มือถือผม”..ผมไม่กล้าจะสู้สายตาเขา...ถึงผมจะพยามไม่คิดเรื่องที่เกิดที่โรงแรม แต่ผมก็ยังไม่กล้าจะมองเขาเต็มตา ผมยังลืมเรื่องที่เกิดเมื่อวานไม่ได้ แผลมันยังสดใหม่เกินไป
“มาตั้งแต่ตอนไหน”ผมถามชายตรงหน้าที่ลากผมเดินเข้าไปในมุมที่ไม่มีคนผ่านมา ยิ่งเดินเข้ามาก็ยิ่งเงียบและดูน่ากลัวแต่ชายคนนั้นก็ยังไม่หยุดยังคงพาผมเดินเข้ามา
“ก็ทันเห็นมึงเดินแยกกับชู้มึง”
“ใครชู้”เมื่อผมย้อนถามกลับชายคนนั้นก็หยุดเดินและหันมามองผมด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
“มึงไปค้างกับใครมาล่ะ”
“ก็ไม่ใช่ชู้ ถ้าพูดกันจริงๆพี่โท..”ผมยังไม่ทันได้พูดชื่อโทชิครบมือหนาข้างที่ไม่ได้จับมือผมก็ตบลงมาที่หน้าผม ผมเซและล้มลงตามแรงตบแผลที่ยังไม่หายจากเมื่อวานก็ยังมีวันนี้ก็ได้เพิ่มมาอีกแผล ผมรับรู้ได้จากรสสนิทภายในปากและคาวของเลือด ผมก้มหน้ามองพื้นผมทั้งกลัวในอารมณ์ของโคคุโอะ
“อยู่กับกูอย่าได้พูดชื่อผู้ชายคนอื่น หรือชู้ของมึงให้กูได้ยิน” น้ำเสียงกระด้างที่เต็มไปด้วยอำนาจที่อยู่สู้กว่าทำให้จาจาดูเหมือนจะตัวหดลงไปเยอะที่เดียว
“ผม..คือ..ผมต้องไปเตรียมตัวสอบ” ตัวผมที่กองอยู่กับพื้นดินเอ่ยปากพูดกับอีกคนโดยไม่มองหน้า
ร่างหนายืนมองเด็กชายที่กองอยู่กับพื้นก่อนละสายตามามองนาฬิกาเรือนหรูบนข้อมือตัวเอง
“มึงยังเหลือเวลาอีกชั่วโมง กว่าจะถึงเวลาเข้าห้องสอบมึงจะรีบแรดไปหาชู้มึงรึไง ปล่อยให้ชู้มึงอยู่กับน้องมึงไป ส่วนมึงลุกแล้วตามกูมาอย่าได้ช้า”
NNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNNN
ผมถูกลากมาที่คฤหาสน์ที่ไม่ไกลจากซีบิล ผมถูกเขาพามามีเซ็กซ์อีกครั้ง ครั้งนี้มันต่างจากครั้งที่แล้วอย่างเห็นได้ชัดมันรุนแรงถึงจะร้องขออย่างไรเขาก็ไม่สนใจ ครั้งแรกที่มีอะไรกันถึงจะรุนแรงแต่ตอนที่สอดใส่เข้ามาเขาก็อ่อนโยนกับผมอยู่บ้าง พอเสร็จกิจเขาก็จากไปโดยไม่สนใจผมไม่ได้พูดอะไร
แผลเก่ายังไม่ทันหายแผลใหม่ก็ได้มีแถมยังหนักกว่าเก่าอีก ผมฝืนร่างกายที่บอบช้ำจากการมีเซ็กซ์ ที่ไม่มีทั้งตัวช่วยอย่างเช่นสารหล่อลื่น หรือถุงยาง หรือการโอโลมจากอีกฝ่าย การกระทำที่รุนแรงไม่คิดถึงฝ่ายรับอย่างตัวผม ร่างกายที่ก็ยังไม่ได้ทำความสะอาดร่างกาย ยังมีสิ่งตกค้างที่เขาเหลือทิ้งไว้ในตัวของผมทำเอาผมไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่นัก ช่องทางที่มีอาการเจ็บขัดทำให้การเดินของผมไม่สามารถที่จะเดินเร็วได้ ที่กล่าวมาคือแผลจากการมีเซ็กซ์แผลในร่มผ้า ส่วนภายนอกก็มีทั้งรอยตบที่แก้มทั้งสองข้างปากที่บวมแดงเพราะแรกตบทำให้ปากแตก ทั้งยังมีรอยบีบที่เห็นได้ชัดอีก ไม่แค่คอแต่ข้อมือหรือกระทั้งแขนก็มีรอยนิ้วบีบอยู่ด้วย
ร่างกายของผมประท้วยเบาๆให้ผมพัก แต่ผมไม่สามารถที่พักได้ผมพยามเดินให้เร็วที่สุดเท่าที่ร่างกายของผมจะไหว ผมมาถึงห้องสอบสายไปเจ็ดนาที่ แต่ก็โชคดีว่ากฏของการสอบให้เรทได้เต็มที่สิบห้านาที ผมเลยโชคดีได้สอบ นาทีที่ผมมาถึงผมก็รับรู้ได้ถึงสายตาของแฝดของผมที่มองอยู่ (จริงๆมันก็ทั้งห้องนั้นละที่มอง แต่พวกนั้นไม่ใช่คนที่ผมต้องแคร์ตัดทิ้งไป)
แฝดของผมมองมาที่ผมทั้งคู่ดูตกใจที่เห็นสภาพของผมที่ปากแตกบวมเจ่อ ใบหน้าที่มีรอยแดงช้ำทั้งสองข้าง ไม่รวมถึงชุดของผมที่ยับยู่ยี่ราวกับผ่านอะไรที่รุนแรงมา ด้วยพี่น้องของผมก็รู้ดีว่าผมเป็นคนเนี๊ยบเรื่องชุดแคไหน
ผมเดินมานั่งที่โต๊ะที่ลงทะเบียนว่าเป็นของไซโซและหลังจากทำสอบวิชาแรกเสร็จจะมีเวลาพักเบรก10นาที แฝดทั้งสองของผมก็เดินเข้ามาถามผมที่ยังนั่งอยู่บนโต๊ะสอบ
“เกิดอะไรขึ้น”เสียงของแฝดทั้งสองถามผมพร้อมเพียงกันด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“อุบัติเหตุ..กับมีคนหาเรื่อง”ผมบอกผ่านๆไม่อยากโฟกัสมากหนัก ผมกอดแฝดทั้งสองที่ยืนอยู่แล้วน้ำตาของผมก็ไหลออกมา ผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงไหล ตอนที่ถูกผู้ชายคนนั้นกอดไม่ว่าจะรุนแรงยังไง ไม่ว่าเขาจะทรมานยังไงผมก็ยังไม่มีน้ำตาไหล การได้กอดแฝดทำให้ผมมีแรงที่จะทำเรื่องนี้ต่อไป ถึงจะโดนกระทำแค่ไหนก็ตามที่ มือของแฝดทั้งสองของผมทั้งลูบผมทั้งเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างอ่อนโยน และอบอุ่นมันทำให้ผมเหมือนได้รับการเยียวยา มันทำให้ผมเข็มแข็งขึ้น
“จาจาไปกินเลี้ยงไม่ได้นะ จาจาต้องไปหาหมอให้ดูแผลและก็ตรวจร่างกาย” ผมโกหกพี่น้องของผม ทั้งที่ผมไม่อยากจะโกหก
“เดี๋ยวพาไปก็ได้” พี่ชายของผมไซโซเอ่ยออกมา
“ไม่ได้..จาจาต้องไปคนเดียว เห็นหมอว่ามันเกี่ยวกับอาการที่เวทย์มนตร์หาย ถ้าคนอื่นไปด้วย เขาจะตรวจเรื่องเวทย์ไม่ได้ กระแสเวทย์ของพี่น้องมันคล้ายกันจะทำให้เขาสับสนได้” ผมต้องหาเรื่องมาพูดกับแฝด เดี๋ยวคงต้องส่งเมล์ไปเตี้ยมกับพี่เขยและพ่อด้วย
“แวะมาแผล็บเดียวก็ไม่ได้เหรอ...แค่แผล็บเดียวก็ได้นะ” น้ำเสียงของแฝดคนที่สายถามออกมาอย่างเว้าวอนทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะตกลง แม้รู้ว่าตัวเองอาจต้องเจ็บหนัก
“แค่แผล็บเดียวนะ”พอผมพูดออกไปไซโซกับซินก็ยิ้มทำเอาคนในห้องที่เห็นพี่ชายกับน้องผมยิ้มเอามือทาบอกกันเลยที่เดียว^^
เสียงกริ่งหมดเวลาในการสอบดังขึ้นมือถือของผมก็สั่นตามกริ่งบอกเวลาที่ดัง
คนที่โทรเข้ามาไม่ต้องดูก็รู้ว่าใครเพราะผมตั้งเสียงเรียกเข้าต่างจากของคนอื่นเอาไว้ อย่างไรก็ตามผมไม่ได้รับสายนั้นเพราะแฝดทั้งสองของผมลากผมออกมา
ผมมาถึงก็พบพวกพี่ๆกับน้องๆที่เรียนอยู่ที่นี่และพี่โทชินั้งอยู่ในโรงอาหารแล้ว แล้วทันที่ที่ทุกคนที่เห็นสภาพผมก็รุมถามทันที่ และถึงแม้พี่โทชิจะไม่ได้พูดหรือถามอะไร แต่สีหน้าของพี่เขาก็มืดครึมลงหลายส่วน ตัวผมที่ไม่รู้จะตอบคำถามพี่น้องยังไงก็เลยหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ว่า
“น้องเจ็บแก้ม เจ็บปากไม่อยากพูด “ ผมพิมพ์ใส่มือถือให้พี่น้องผมดู ทุกคนก็มองหน้ากัน ผมยังไม่ทำจะได้ทำอะไรต่อผมก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบสังหรของผมมันกำลังเตือน ผมรีบหันกับไปมองด้านหลังก็เห็นใบหน้าของคนที่โทรมาหาแล้วผมไม่ได้รับเมื่อครู่ ผมเห็นสีหน้าของเขาได้ชัดแม้จะไกลใบหน้านั้นบอกผมว่าผมจะมีปัญหาแน่นอน ผู้ชายคนนั้นไม่หยุดแค่มองมาที่ผม เขายังเดินมาทางนี้ ผมต้องรีบ ต้องรีบ
“เค้าต้องไปแล้วนะ นัดหมอไว้ ถามพี่โทชิหรือแฝดก็ได้ “ ผมรีบพิมพ์บอกพวกพี่น้อง ให้พี่น้องดูแล้วผมก็รีบเผ่นออกจากที่นั้นทันทีก่อนที่ชายคนนั้นจะเดินมาถึงโรงอาหาร
ผมรีบเดินเท่าที่สังขารผมจะไหวผมเดินออกมาจากโรงอาหารอีกนิดจะเดินถึงเขา แต่เมือเราเดินสวนกันเขากับเดินเลยผมไป ผมมองเขาด้วยสายตาสับสนไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แต่ผมต้องสกัดเขาไว้ เขาอาจเข้าไปหาพี่น้องผม ผมรีบส่งข้อความหาเขา เพราะว่าหากโทรหาเค้าถึงผมจะพูดเสียงเบาแต่พี่สาวคนโตของผมต้องได้ยินแน่ด้วยระยะขนาดนี้พี่สาวของผมได้ยินได้อย่างสบาย ความสามารถของคนที่จะเป็น”ฮิเมโกะ”ในอนาคต”
“ถ้าคุณไม่ต้องการผมแล้วผมจะกลับ กลับไปหาพี่โทชิที่บ้าน“ เขาไม่ชอบพี่โทชิ เพราะงันแล้วขอโทษนะพี่เขยที่ต้องเอาพี่มาอ้าง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ