Practical Lover ขอโทษครับ...นักรักมือใหม่

6.0

เขียนโดย BeautifulworlD

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.27 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,829 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มีนาคม พ.ศ. 2561 22.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ชายแปลกหน้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เว็บขีดเขียน 

เก็จแก้วเดินมายังที่จอดรถตรงที่เลิศวริศบอกว่าจะมารับระหว่างที่เธอเดินไม่ทันสังเกตก็มีรถคันนึงขับออกมา

 “ระวังครับคุณ” 

ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมาคว้าเธอไว้

“เกือบไปแล้วนะครับ”

 ชายหนุ่มหน้าตาเหมือนพระเอกเกาหลีพูดขึ้น เก็จแก้วเงยหน้ามองผู้ชายแปลกหน้า

    “เออขอโทษนะคะดิฉันไม่ระวังเอง”

หญิงสาวตอบอย่างลนลาน

“ไม่เป็นไรจะข้ามถนนต้องระวังนะครับอย่ามัวแต่เหม่อ” 

ร่างสูงพูดพร้อมยิ้มให้เธอ

 “คุณไม่เป็นไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”

"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ"

เก็จแก้วพูดและเริ่มเดินไปยังที่จอดรถเลิศวริศยืนพิงอยู่ที่รถสปอร์ตคันหรูสีดำของเขาดูโดดเด่นมากเนื่องจากสวมสูทสีดำซึ่งตัดกับผิวขาวจัดผมดำสนิททำให้เธอไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้เลยเขาเดินมาตรงหน้าเธอ

“เก็จแก้วผู้ชายเมื่อกี้ใคร?”

ยังไม่ทันที่เธอจะอธิบายเลิศวริศก็พูดตัดบทว่า

 “ช่างเถอะ เธอจะยืนคุยกับใครก็ไม่เกี่ยวกับฉัน”

“แค่อย่าไปทำอะไรให้เสื่อมเสียก็แล้วกัน”

พูดจบเขาก็เดินขึ้นรถ เก็จแก้วยืนนิ่งนี่เธอกำลังโดนเขาต่อว่าหรอเขายังไม่ได้ฟังเธออธิบายเลยนะ

 “นี่ยัยบื้อขึ้นรถสิ”

ระหว่างที่อยู่ในรถฉันพยายามนั่งเงียบๆไม่อยากให้เกิดการปะทะคารมกับพี่ริชตั้งแต่วันที่เขาบุกเข้าห้องนอนเและเรื่องจูบความรู้สึกของฉันสับสน ฉันพยายามบอกกับตัวเองว่า เขาแค่แกล้งก็เท่านั้น

 “นี่ยัยเตี้ย” เสียงของชายหนุ่มที่นั่งข้างเธอเรียก

“ถึงแล้วลงมาสิจะนั่งเป็นแม่ย่านางรึไง” เก็จแก้วสะพายกระเป๋าก้าวลงจากรถ

“เอ๊ะ..นี่ไม่ใช่ที่บ้านนิคะ"?เก็จแก้วถามด้วยความสงสัย

“ฉันไม่ได้บอกเธอว่าจะมารับเธอกลับบ้านสักหน่อย ตามมาอย่าถามมาก”

 เลิศวริศเดินนำหน้าโดยไม่สนว่าเธอจะเดินตามทันหรือไม่เขาเดินไปที่ตู้ขายตั๋วภาพยนตร์พร้อมทั้งกดซื้อตั๋วออกมา2ใบ จากนั้นก็ยื่นตั๋วให้เธอ

“รอนี่นะฉันจะไปซื้อป๊อปคอร์นเผื่อเธอจะหิว” เก็จแก้วก้มมองดูตั๋วในมือ

“คืนโหดหวีดสยอง”

 นี่มันเรื่องผีแน่ๆเขากำลังแกล้งเธอใช่ไหมเพราะเขาน่าจะรู้ว่าเธอขวัญอ่อนแต่เด็กเลิศวริศร้ายกาจมากแกล้งเธอแบบนี้ แสดงว่าที่เขาจูบคงเพราะอยากแกล้งให้เธอตกใจ เธอต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว จะปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายกระทำอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้

“นี่ยัยเตี้ยมาดูหนังนะไม่ใช่มานั่งกินแบบนี้ ไม่กลัวกลับไปอ้วน เตี้ย ดำ แบบเดิมหรอ”

 เลิศวริศพูดกับหญิงสาวที่นั่งข้างกาย

 “บ่นเป็นลุงแก่ๆไปได้ พี่ริช ก็แก้วกลัวเลยต้องกินไงละ“กรี้ดๆๆ ผีมาแล้ว”

 เก็จแก้วยกกล่องป๊อปคอร์นบังหน้าเลิศวริศนั่งมองยัยโง่นี่หวังว่ากล่องแค่นี้จะบังผีได้รึไง

ตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่องเก็จแก้วเอาแต่กินขนมกับน้ำที่เขาซื้อมาแทบจะไม่ได้ดูหนังเลย เลิศวริศคิดในใจ

ผมตั้งใจพาเธอมาเที่ยวเพื่อเป็นการไถ่โทษที่ผมทำรุนแรงกับเธอเมื่อวันนั้นบวกกับผมอยากลองทำเหมือนที่วัยรุ่นคนอื่นๆทำกันแต่ยัยโง่นี่กลับมานั่งกินแบบนี้แถมเอาแต่ปิดตาละถามผมว่าผีไปรึยังมันช่างสนุกๆสุดๆ

“โอ๊ย…..อิ่มจังพี่ริชหนังสนุกเน้อะ”

 คนตัวเล็กที่กินขนมคนเดียวจนหมดพูดขึ้น

 “กินขนาดนี้ไม่อิ่มก็บ้าแล้ว”เลิศวริศว่าเธอ

 “พี่ริชไม่สนุกหรอ” เก็จแก้วเดินบิดขี้เกียจออกมาจากโรงหนัง

เลิศวริศทำเป็นไม่สนใจเธอละเดินนำหน้าไป

“อะไรของเขาลากเรามาดูแท้ๆ” แม้ว่าจะนั่งกินทั้งเรื่องก็เถอะ เก็จแก้วพึมพำ

ระหว่างทางเดินไปยังที่จอดรถบรรยากาศรอบตัวมืดมากไม่เพียงแสงสว่างจากภายนอกเล็กน้อยเท่านั้นเลิศวริศเปิดประตูเข้าไปตรงที่นั่งคนขับ เก็จแก้วก็มานั่งข้างๆเขาเธอกำลังมองหาสายรัดเข็มขัดนิรภัยเนื่องจากมืดมาก

แต่เลิศวริศไวกว่าเขาคว้าเธอมาใกล้ประกบปากและจูบเธออย่างกระหายพี่ริชทำแบบนี้อีกแล้วแต่ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมเก็จแก้วยกฝ่ามือและตบไปที่หน้าหล่อๆของเขาเธอพลาดเลิศวริศจับข้อมือเธอไว้แน่น

จากนั้นก็ดึงเธอเข้ามาจูบอีกครั้งปากและลิ้นของเขาขยับจนเธอเผลอจูบตอบ"พี่ริชพอเถอะค่ะอย่าทำแบบนี้"เก็จแก้วรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออกไป 

 เลิศวริศชะงักทันทีเมื่อเห็นน้ำตาของเก็จแก้ว "พี่ขอโทษแก้ว"

เก็จแก้วนั่งนิ่งไม่ตอบเขาทั้งสองถูกความเงียบครอบงำเลิศวริศขับรถกลับมาถึงบ้านเก็จแก้วรีบลงจากรถและเข้าไปในบ้านทันที

บ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้กลางป่าของทางภาคเหนือเป็นบ้านของคุณยายอรุณไร 

“พี่แก้วมาเล่นแต่งงานกันไหม”

เก็จแก้วมักมาเที่ยวที่บ้านของคุณยายบ่อยๆเนื่องจากบ้านติดกันคุณยายใจดีและมักมีขนมอร่อยๆให้ทานเสมอ เด็กๆแถวนั้นจึงมารวมตัวและเล่นด้วยกัน

“พี่แก้วน้องเนยอยากเล่นเป็นแต่งงาน” แต่ไม่มีใครเป็นเจ้าบ่าวได้เลยเพราะมีแต่เด็กผู้หญิง

 “นั่นไงดูคนนั้นสิพี่แก้ว” หลานคุณยายอรุณไรมาเที่ยวเราไปชวนเขาดูไหม

 “ได้สิเนยรออยู่นี่นะเดี๋ยวพี่ไปชวนเอง”  

“มาเล่นเป็นเจ้าบ่าวของเราทีได้ไหม”

เด็กผู้หญิงตัวดำๆอ้วนๆแก้มยุ้ยทักเด็กชายที่อยู่ตรงหน้า แม้จะยังเด็กแต่เด็กชายก็มีผิวขาวตัวสูงคิ้วเข้ม

“โหหลานชายของคุณยายหล่อจัง"ชื่อพี่ริชใช่ไหมคะ” น้องเนยทักพร้อมเรียกเพื่อนๆมาดู

“ให้เป็นเจ้าบ่าวกับยายอ้วนเตี้ยดำคนนี้นะหรอ...ไม่ละน่าเกลียดขนาดนี้”

                    เด็กชายพูดละเดินจากไปทันที โดยที่ไม่รู้เลยว่าตนเองทำให้เด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้เสียใจเก็จแก้วตั้งใจว่าเมื่อโต            

                           ขึ้นเธอจะทำให้ชายหนุ่มหันกลับมามองเธอให้ได้

ภายในห้องนอนที่มืดมิดเก็จแก้วสะดุ้งตื่นมากลางดึก

“ฝันบ้าอะไรนี่” นี่เธอฝันถึงตอนสมัยเด็ก ฝันร้ายที่หลอกหลอนเธออาจเป็นเพราะโดนเลิศวริศจูบ

 "จูบหรอพอๆฉันจะไม่คิดถึงเขาอีกแล้ว…พี่ริชใจร้าย”

 ไม่ว่าจะเป็นสมัยก่อนหรือปัจจุบันเขาก็ยังใจร้ายกับเธอไม่เปลี่ยน

เลิศวริศเพิ่งออกจากห้องประชุมผู้ถือหุ้นในการขยายตลาดไปยังประเทศอินโดนีเซีย

"คุณริชคะ” เลขาสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่เขาเรียก

“ครับ คุณโสภิศ”“

“เมื่อกี้คุณหญิงโทรมาฝากบอกว่าให้คุณริชแวะรับคุณแก้วไปลองชุดงานเลี้ยงด้วยกันนะค่ะพอดีคุณหญิงรถติดอยู่ต่างจังหวัดยังมาไม่ถึง จะขอไปเจอที่ร้านเลย”

 “อ๋อ..ได้สิ"เลิศวริศรับคำอย่างอารมณ์ดีงั้นคุณโสภิศมีเอกสารอะไรเอาเข้ามาให้ผมเซ็นเลยเดี๋ยวผมจะได้รีบไป”

เขาหาทางปรับความเข้าใจกับเก็จแก้วมาหลายวันแล้วแต่เธอหลบหน้าทั้งๆที่เขาอุส่าห์ขับรถกลับไปนอนบ้านทุกวัน เพื่อจะรอไปส่งเธอตอนเช้าแต่เธอกลับออกไปเช้ากว่าแถมตอนเย็นกลับมาเธอก็จะอ้างขอตัวไปอ่านหนังสือทำให้เขาแทบไม่มีโอกาสได้เจอ

อาจารย์หนุ่มหล่อ ร่างสูงก้าวเข้ามาในห้องเรียนเรียกเสียงกรี้ดจากบรรดานักศึกษาทั้งสาวแท้และสาวเทียม

“ว้ายตาย….นี่นะหรออาจารย์พีรดนย์…งานดีงานละเอียดมากเลยอ่ะ”

ซินดี้ที่นั่งข้างๆเก็จแก้วส่งเสียงกรี้ดตาม จนเก็จแก้วเงยหน้าขึ้นมาและสบตากับอาจารย์หนุ่มพอดี เขาคือผู้ชายที่ช่วยเธอเมื่อครั้งก่อนที่ลานจอดรถ พีรดนย์ ก้าวเข้ามาหน้าชั้นเรียน

 “สวัสดีครับนักคึกษาทุกคน ผมชื่อพีรดนย์จะมาสอนวิชาการเขียนแทนอาจารย์พิกุลที่ลาคลอดครับ แต่ก่อนที่ผมจะสอนพวกคุณเขียนอะไรสิ่งที่พวกคุณต้องเริ่มทำคือหาวรรณกรรมภาษาอังกฤษร่วมสมัยที่ชอบหรือสนใจมาอ่านพร้อมทั้งเขียนบรรยายความรู้สึกต่อเรื่องที่อ่านและรวบรวมส่งผมที่โต๊ะก่อนวันศุกร์นี้นะครับดังนั้นวันนี้ผมจะให้พวกคุณไปค้นคว้าอย่างอิสระครับเชิญ”

 “เห๋"อาจารย์มาถึงก็สั่งงานแบบนี้เลยหรอ” ซินดี้บ่นพึมพำ

 “แต่ช่างเถอะแกคนหล่อสั่งเราต้องทำตาม ปะยัยแก้วไปห้องสมุดกันเถอะ”ซินดี้ลากเก็จแก้วให้ลุกขึ้นพร้อมกับเสียงโทรศัพท์หญิงสาวหยิบขึ้นมาและกดรับ

“พี่ริชมีอะไรคะเก็จแก้วรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเย็นชา”

“วันนี้ไปรอที่เดิมนะ” เลิศวริศพูดเพียงเท่านั้นและตัดสายไป

“ใครอะแก?” ซินดี้ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นพลางหยิบมือถือไปดู

 “ว้ายพี่ริชของชั้น” เขาจะมารับหรือแก

“งั้นวันนี้ฉันไปอยู่รอเป็นเพื่อนนะ”

                 “แกอยากไปด้วยกันไหมละซินดี้”เก็จแก้วถาม

                “อุ๋ย...ได้หรอแก”ซินดี้ถามอย่างตื่นเต้น“ไปสิไปว่าแต่ไปไหนอะแก?"

“ไปเป็นแฟนฉันไง” เก็จแก้วพูดขึ้นพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์

“ตายชะนีตกต้นไม้”ซินดี้อุทาน

 “แกจะให้สาวสวยแบบฉันไปเป็นแฟนแกหรอ นังบ้า”

 

 เลิศวริศมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย เขามายืนรอเก็จแก้วแต่กลับตกเป็นเป้าสายตาซะเอง สักพักเขาก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งเดินกระหนุงกระหนิงมาทางนี้ เขาจำหน้าผู้ชายคนนั้นได้เขาคือคนเดียวกันที่อยู่กับเก็จแก้วในรถคนนั้นเขาจึงแอบเดินตามทั้งสองคนไป

“นี่นังชะนี แกจะให้ฉันทำอะไรกันแน่หา”

ซินดี้ถามเก็จแก้วด้วยความงุนงงว่าเพราะอะไรเพื่อนสาวของเธอถึงต้องการให้เขาแกล้งเป็นแฟน

“ไม่มีอะไรมาก แค่แกล้งเป็นแฟนกับฉันให้พี่ริชเห็น”

 เก็จแก้วตอบแต่ซินดี้ยังไม่เข้าใจ

“อ้าวทำไมต้องหลอกพี่ริชด้วยละ?”

เก็จแก้วอึกอักเมื่อนึกถึงตอนโดนเลิศวริศจูบ

 “ก็..ก็ …เขาชอบมาวุ่นวายกับฉันนะสิ”

 เลิศวริศได้ยินชัดเจนทุกประโยคนี่เก็จแก้วว่าเขาชอบมาวุ่นวายกับเธอหรอ เปล่าสักหน่อยเขาไม่ได้วุ่นวายที่ทำเพราะคุณแม่สั่งต่างหากไม่ใช่เพราะเขาอยากจะมา นี่เก็จแก้วคิดจะหลอกเขางั้นหรอรวมถึงเรื่องที่เข้าใจผิดในรถวันนั้นอีก หากผู้ชายที่ยืนข้างเธอไม่ได้ชอบผู้หญิงจริงเขาคงต้องพิสูจน์อะไรบางอย่างแล้ว เลิศวริศเดินออกมาจากพุ่มไม้

“แก้วมาละหรอพี่มารออยู่สักพักละ” เก็จแก้วหน้าซีดที่อยู่ๆหมาป่าอย่างเลิศวริศก็โผล่ออกมา เธอรีบเกาะแขนซินดี้ทันที  เลิศวริศทักทายพร้อมส่งยิ้มแสนน่ารักให้กับซินดี้ที่ยืนข้างเก็จแก้ว

 “นี่คุณเป็นเพื่อนของเก็จแก้วหรอครับ” เลิศวริศถามซินดี้พร้อมทั้งส่งสายตาให้

 “ใช่ ค่ะ …ครับ ผมชื่อศรัณย์” ซินดี้ตอบอย่างเขินอายตัวบิดไปมา

“ชื่อเพราะจังนะครับผิวก็ดีด้วย” เลิศวริศพูดพลางยกมือจับมือซินดี้มาแตะที่ริมฝีปาก ซินดี้หน้าแดงสุดๆเพราะความเขิน

 “น้องศรัณย์ครับ พี่ขอตัวเก็จแก้วไปก่อนนะครับพอดีมีธุระทางบ้าน" เลิศวริศพูดขึ้นพร้อมสบตาซินดี้อีกครั้ง

"ได้ค่ะพี่ริชจะพายัยแก้วไปไหนก็ไปเลยค่ะ”

ซินดี้ลืมตัวเผลอตอบออกไปเก็จแก้วตกใจไม่คิดว่าเพื่อนสาวจะแพ้เสน่ห์เพียงเล็กน้อยของเลิศวริศ

“ว้าวสวยมากเลยค่ะ คุณแก้วเหมาะกับชุดนี้มาก”

เสียงของเจ้าของห้องเสื้ออย่างคุณรัชนกชื่นชม ถ้ารู้ว่าคุณหญิงมีหลานสาวสวยขนาดนี้ งานแฟชั่นโชว์การกุศลครั้งนี้คงขาดคุณแก้วไม่ได้เลย “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ”

หญิงสาวตัวเล็ก ผิวขาวอมชมพู ภายใต้ชุดราตรีลูกไม้สีชมพู ตัดกับผมสีดำที่รวบขึ้นหลวมๆและริมฝีปากแดงเอิบอิ่ม อ่าวนั่นคุณหญิงนันนภัสมาพอดี

“เป็นไงมั่งจ้ะหนูแก้ว ชุดใส่พอดีไหมลูก ขอโทษที่ป้ามาช้าไปหน่อยพอดีรถขาเข้ากรุงเทพติดมากเลย”

คุณหญิงนันภัสถามด้วยความห่วงใย

 “ชุดสวยมากเลยค่ะคุณหญิงป้าขอบพระคุณมากนะคะ”

เก็จแก้วยกมือไหว้ขอบคุณคุณหญิงป้าที่กรุณาจัดการเรื่องชุดในเธอ เก็จแก้วแม้จะเป็นลูกสาวผู้ว่าแต่ก็ไม่เคยได้ออกงานใหญ่โตเลยสักครั้ง

 “งั้นเดี๋ยวป้าขอไปดูตาริชก่อนนะไม่รู้ว่าเป็นไงมั่ง คุณหญิงนันนภัสพูดไม่ทันขาดคำผ้าม่านของห้องแต่งตัวหรูอีกฝั่งก็เปิดขึ้นเลิศวริศอยู่ในชุดสูทสีดำสนิทตัดกับสีผิวที่ขาวจัดของเขา

“ว้าว คุณริชยังกับนายแบบเลยค่ะ” รัชนกชื่นชม

 “นั่นสิเหมาะสมกันมากเลยค่ะคุณหญิงดิฉันอยากจะขอถ่ายรูปคุณริชกับหนูแก้วไว้โปรโมทร้านได้ไหมคะ”  

   “ยินดีเลยค่ะคุณนก” คุณหญิงนันนภัสบอก

“มาๆเด็กๆมาถ่ายรูปกันนะ

คุณหญิงนันภัสเป็นคนจัดแจงให้ทั้งสอง

“ขยับมาใกล้กันหน่อยสิลูก”

เลิศวริศถือโอกาสโอบเอวเก็จแก้วดึงเธอเข้ามาใกล้ หลังจากลองชุดเสร็จเก็จแก้วตั้งใจจะกลับพร้อมคุณหญิงแต่เลิศวริศกลับบอกว่าเขาไม่อยากขับรถกลับคนเดียวอยากให้เธอไปนั่งเป็นเพื่อนเขาซึ่งคุณหญิงนันภัสก็เห็นดีด้วย เก็จแก้วกลับมานั่งข้างคนขับอย่างเลิศวริศอีกครั้งเธอพยายามสงบปากสงบคำไม่พูดอะไรกับเขาเป็นดีที่สุด

“ไม่ได้เอาปากมาหรอ”เลิศวริศพูดขึ้น แต่เก็จแก้วยังเงียบ

“เธอนี่ยังไงกันนะผู้ใหญ่พูดด้วยก็ไม่ตอบ”เลิศวริศยังกวนประสาทไม่เลิกแถมยังขับไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางกลับบ้านเก็จแก้วอดไม่ได้จึงถามว่า

 “นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนิคะ”

“เอาปากมาละหรอในที่สุดก็พูดสักที”เลิศวริศแขวะเธออีกแล้วเพราะปากแบบนี้ไงเธอถึงไม่อยากเสวนากับเขา

“พี่หิว ขอแวะหาอะไรกินหน่อย”รถมาจอดอยู่ที่ริมถนน

“จะกินอะไรหรอคะ”เก็จแก้วถามเลิศวริศไม่ตอบพลางดึงมือเธอมาจับเดินไป

“นี่ไงละ”

ร้านข้าวต้มข้างทางนะหรอเก็จแก้วอึ้งคนที่สมบูรณ์แบบอย่างเขาจะมานั่งกินข้าวต้มข้างถนน

“จริงๆพี่ก็ไม่ได้หิวอะไรหรอก แค่อยากใช้เวลาอยู่กับคนแถวนี้”

 นั่งสิเลิศวริศบอกเธอนั่งพลางลุกไปตักน้ำดื่มบริการเธออย่างดี

“พี่ริชกินคนเดียวเถอะค่ะแก้วไม่หิว” เก็จแก้วบอกกับเขา

 “ไม่กินจริงหรอ ผัดผักบุ้งอร่อยมากเลยนะ ไข่ก็ด้วย ปลากระป๋องก็แซ๊บ”

เก็จแก้วนั่งกลืนน้ำลายทำเป็นไม่สนใจ

“ลองชิมหน่อยไหม” เลิศวริศขยับมานั่งฝั่งเดียวกับเธอมือคีบตะเกียบจะป้อนให้

 “อ้ามมมมม…”

 เก็จแก้วเผลออ้าปากเพราะความอยากกินเลิศวริศดึงตะเกียบหนี

 “นี่พี่ริชแกล้งน้องหรอ” เก็จแก้วพูดพลางตีมือเขา

“ไหนบอกว่าไม่หิวไง”

“มีคนป้อนก็ต้องกินสิ” เก็จแก้วตอบเสียงงอนๆ

 “โอ๋ๆ อะป้อนใหม่นะครับคนดี” เลิศวริศถือตะเกียบป้อนเธออีกครั้ง

“พี่ริชบ้า” เก็จแก้วพูดแก้เขินแต่กินข้าวต้มที่เลิศวริศป้อนแต่โดยดี

รถสปอร์ตสีดำขับเข้ามาจอดในบ้าน เก็จแก้วปลดเข็มขัดนิรภัยออกก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ

เลิศวริศกลับไวกว่าคว้ามือเธอไว้

"ฝันดีนะเก็จแก้ว"ชายหนุ่มพูด พร้อมกับโฉบลงมาหอมแก้มเธอ

 "เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกยัยเตี้ย"

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา