Revive and revenge (แฝงร่าง...ชำระแค้น)
เขียนโดย Mysteek
วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.49 น.
แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2561 18.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ตอนที่ 4 โลกาวินาศ(1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ… บทที่ 4 โลกาวินาศ (1)
..
หญิงสูงวัยผมสีเทารูปร่างผอม ในชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงินสลับขาวทั้งตัวเข้ารูป กำลังยืน
อยู่บนเวทีในห้องประชุมใหญ่ บนเวทีมีครูชายหญิงสูงวัยยืนมองนักเรียนทุกคนด้วย
แววตาอาลัย
“นักเรียนทุกคน วันนี้เป็นวันสำเร็จการศึกษา ความขยันหมั่นเพียร มานะพยายามของ
พวกเธอเป็นผลสำเร็จแล้ว ครูขอเป็นตัวแทนครูทุกคนที่นี่ แสดงความยินดีกับนักเรียน
ทุกคน หวังว่าความรู้ที่พวกเธอติดตัวไป จะนำไปใช้ได้อย่างถูกทางและเป็นประโยชน์
ต่อสังคม และพวกเธอจะได้ตอบพระคุณของพ่อแม่ที่ได้ทุ่มเทสนับสนุนพวกเธอใน
ทุกๆทาง เพื่ออนาคตของพวกเธอ..........................”
หลังพิธีสำเร็จการศึกษา เหล่าบรรดาพ่อแม่และนักเรียนที่เรียนจบก็ได้ถ่ายรูปร่วมกัน
เป็นภาพแห่งความสุข ที่จะเก็บไว้ในความทรงจำ ทว่าจู่ๆ ก็มีเสียงดังจากท้องฟ้า
ครืน ครืน
เมฆสีเทาและดำเคลื่อนเข้าปิดท้องฟ้าสีฟ้าสดใสในตอนแรก ทั้งโรงเรียนตกอยู่ในความมืด
เปรี้ยง
สายฟ้าสีเหลืองพาดผ่านท้องฟ้าเป็นแนวยาวจากฟ้าจรดดิน พร้อมกับเสียงแตกร้าวของผืนดิน
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง
สายฟ้ายังคงฟาดฟัน ลงมา ราวกับจะทำลายทุกสิ่งให้แตกสลายเป็นผุยผง
เหล่าพ่อแม่ของเด็กนักเรียนที่เรียนจบ ต่างโอบกอดครอบครัวของตนด้วยอาการ
หวาดกลัว สายตาจับจ้องไปที่หน้าต่างกระจกด้านข้าง ที่แสดงให้เห็นถึงความโหดร้าย
ของธรรมชาติ เช่นเดียวกับชาลอตในร่างของเด็กหนุ่มวัย15ปี ที่ยืนอยู่ตรงกลางโอบ
ล้อมด้วยพ่อแม่ของเขา
ตอนนี้ไฟฟ้าดับไปแล้ว มีเพียงแสงจากสายฟ้าแปลบปลาบที่ทอดลงมาเป็นพักๆ พอจะ
ทำให้เห็นว่า ทุกคนมีสีหน้าหวาดกลัว เพียงใด ครูหญิงสูงวัยผมสีเทามวยเป็นมัด เดิน
เข้ามาใกล้ครอบครัวของชาลอต แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่า
“เกิดอะไรขึ้นนะ หรือว่า โลกนี้จะถึงกาลอวสานแล้ว”
เสียงสะอื้นร้องไห้ของนักเรียนผู้หญิงหลายคนในหอประชุม ดังก้องไปทั่ว ทำให้
บรรยากาศดูน่ากลัว และโศกเศร้าในเวลาเดียวกัน
“ฮือ พวกเราจะรอดมั้ย หนูยังไม่อยากตายนะ พ่อแม่”
“ฮือ ฮือ ฮือ”
เสียงร้องไห้ ระงมไปทั่ว มีเพียงแต่ชาลอตเท่านั้น ที่พยายามตั้งสติ เขาหันไปพูดกับครู
ผู้หญิงสูงอายุ
“ครูครับ โรงเรียนเรามีหลุมหลบภัยไหมครับ หรือ มีที่ให้พวกเราหลบซ่อนอย่าง
ปลอดภัยบ้างไหมครับ”
ครูหญิงสูงวัยเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวาดๆ ว่า
“เอ่อ จะว่าไป มันก็มีอยู่ แต่ว่า.......มันอยู่ที่อาคารด้านหลังสุดของโรงเรียน ในนั้นจะมี
ทางลับไปสู่ห้องใต้ดิน แต่สถานการณ์แบบนี้ พวกเรามีกันเยอะขนาดนี้ จะไปถึงที่นั่น
ได้อย่างไร ครูว่า พวกเรารออีกสักพักไหม”
ทันใดนั้นเอง เสียงสายฟ้าฟาดลงที่หลังคาของหอประชุม
เปรี้ยง
กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด
ทั้งอาคารสั่นไหวอย่างแรง เสียงคนกรีดร้องด้วยความตกใจ หลายคนพยายามวิ่ง
ออกไปจากประตู ทางด้านชาลอตบอกให้พ่อแม่ของเขาระวังถูกคนเบียดล้ม สามคน
พ่อแม่ลูกประคองซึ่งกันและกัน แต่พวกเขาก็ถูกฝูงชนทั้งเบียดทั้งผลัก จนในที่สุดต้อง
หลบไปอยู่ริมผนังด้านหนึ่ง ปล่อยให้เหล่ามวลชนวิ่งหนีตายกันออกจากหอประชุม
เสียงปริแตกของหลังคาดังขึ้น
เปรี้ยะ เปรี้ยะ
เริ่มมีเศษชิ้นส่วนหลังคาร่วงหล่นลงมาจากด้านบน พวกเขากอดกันกลม ทั้งตกใจและ
หวาดกลัวแต่ก็ไม่ละทิ้งซึ่งกันและกัน ชาลอตตั้งสติ คว้าเก้าอี้เหล็กตัวหนึ่งฟาดไปที่
หน้าต่างกระจก จนมันแตกละเอียด ใช้ขาเก้าอี้เขี่ยเศษกระจกที่ยังติดอยู่ที่ขอบหน้าต่าง
ให้หลุดออก แล้วหันไปบอกพ่อแม่
“พ่อครับ ปีนออกไปทางหน้าต่างเลยครับ ก่อนที่เพดานจะถล่มลงมา แม่ก็ตามไปนะ
ครับ ส่วนผมจะปิดท้ายเอง”
“จะเอาอย่างงั้นหรือลูก ลูกไปก่อนไหม”
คนเป็นพ่อ เอ่ยด้วยท่าทางกังวล
“ไม่ครับ พ่อไปก่อนเลย ผมจะรอดไปให้ได้ครับ”
เด็กหนุ่มผมดำพูดอย่างเร่งร้อน พลางประคองร่างผู้เป็นพ่อให้ขึ้นไปยืนบนเก้าอี้
“พ่อ รีบเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์นะครับ”
เศษหลังคาร่วงลงมาอีกดังโครม ผนังยิ่งปริแตกร้าวมากขึ้น คนเป็นพ่อจึงรีบทำตามที่
ลูกแนะนำ เขารีบก้าวไปบนเก้าอี้ ปีนหน้าต่างแล้วกระโดดออกไปที่นอกตัวอาคาร
อย่างรวดเร็ว
ตุ้บ
“พ่อทำได้แล้ว แม่ตามมาสิ พ่อจะรอรับให้”
เขาเอ่ยพร้อมทั้งเหยียดแขนออก ชาลอตช่วยแม่ปีนขึ้นเก้าอี้ และปีนออกไปนอก
หน้าต่างจนสำเร็จ
ครืน
เสียงตัวอาคารสั่น เศษหลังคาร่วงลงมาจำนวนมาก บางชิ้นกระแทกแขนของเขา
“พ่อ แม่ วิ่งไปที่ด้านหลังอาคารก่อน มีหลุมหลบภัยอยู่ครับ”
พ่อจูงแม่รีบวิ่งออกไป แต่แม่ยังหันหน้ามามองชาลอต น้ำตาคลอ พ่อรีบดึงแขนแม่
ออกวิ่งไปทางด้านหลังอาคารต่อ แต่แม่ยังร้องตะโกนแข่งกับเสียงสายฟ้าฟาด
“ชาลอต ตามมานะ”
เปรี้ยง
สายฟ้าสีเหลืองแปลบปลาบฟาดลงมาที่ตัวอาคารซ้ำอีกครั้งจนทุกอย่างถล่มลงมา
+++++++++++++++++++
เอ่อ คือ ถ้ามีใครตามอ่านเรื่องนี้อยู่ช่วยส่ง สัญญาณด้วย
คนเขียน เริ่มรู้สึกว่า จะลงต่อดีหรือเปล่า
คือ ไม่เข้าใจ มีคนอ่าน แต่ไม่คอมเมนต์ ไม่โหวต คืออะไร
งง
ไม่งั้นคงลงบทนี้ บทสุดท้ายนะ
คงไปลงที่เวปอื่นน่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ