หวานใจ จอมราชันย์ (หยกสีคราม)
เขียนโดย เพียงฟ้า
วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.09 น.
แก้ไขเมื่อ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) พระสนม?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความปึกๆๆๆๆ!!!
เสียงของนิ้วที่ดีดลงแป้นพิมพ์ดังขึ้นรัวๆ ก่อนจะหยุดลงพร้อมกับเสียงหวาน
"เย้!!" ร่างน้อยที่นั่งอยู่หน้าจอมาไม่ต่ำกว่าแปดชั่วโมงแล้ว กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ที่ทำงานเสร็จลุล่วงไปด้วยดี ทั้งยังเสร็จทันก่อนวันส่งในอีกสองวันข้างหน้านี้ด้วย
ร่างบางเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอนนุ่มอย่างเสียดาย ใจจริงแล้วเธออยากที่จะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงไม่ต้องลุกไปไหนทั้งนั้น แต่เช้านี้ดันมีน้ดกับพี่หลิวลี่ซะนี้
ร่างบางเดินหยิบผ้าเช็ดตัวพาดบ่าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป หลังจากที่ชำระร่างกายจนสะอาดแล้ว ร่างบางจึงหยิบผ้าขนหนูผืนบางมาคลุมกาย แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเก้าเท้าออกจากห้องน้ำเลย ร่างบางหงายลงไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว
ตุ๊บบบ!!!
"โอ๊ยยย~~~~~~~"
ความรู้สึกเจ็บแปล๊บ ลามไปทั่วศรีษะร่างบางยื่นมือลูบศรีษะบริเวณที่ถูกกระแทก เลือดสีแดงฉานไหลนองอาบฝ่ามือของเธอแทบจะทำให้ เจ้าตัวเป็นลมหมดสติ นางฝืนประคองตัวเองที่ใกล้จะหมดสติเดินออกจากห้องน้ำ ในหัวคิดหาแต่โทรศัพท์เพื่อจะโทรขอความช่วยเหลือ ก่อนที่ตัวเองจะหมดสติไป ในขณะที่ร่างบางเดินเลียบไปพนังห้องน้ำ นี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่า ห้องน้ำนี้กว้างเหลือเกิน ใบหน้าสวยเผยรอยยิ้ม เมื่อเห็นประตูอยู่ใกล้เพียงเอื้อม มือบางสั่นเทายื่นสัมผัสลูกบิดประตู แต่ดูเหมือนเรี่ยวแรงที่มีจะไม่สามารถทำให้บานประตูตรงหน้าเปิดได้เลย ร่างบางเริ่มหอบหายใจแรง เมื่อรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่สะดวก ภาพตรงหน้าเริ่มที่จะพร่าเบลอ หญิงสาวยังไม่ย่อท้อที่จะพยายาม มือบางเลื่อนจับลูกบิดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่สติสัมปชัญญะทั้งหมดจะหายไป
...........................................................................................
เปลือกตาที่ปิดอยู่ค่อยๆเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตาทั้งสองข้างกระพริบถี่รัวเมื่อเเสงสว่างจากภายนอกทำให้แสบตา ดวงตากลมโตหรี่ลงปรับแสงที่ส่องเข้ามา จนเมื่อเริ่มชินแล้วก็สอดส่ายสายตาไปทั่วห้อง
"นี้ฉันยังไม่ตายหรอเนี้ย?" น้ำเสียงเปล่งออกมา แหบแห้งจนสุดทานทน ลำคอระหงราวถูกทาบด้วยไฟ น้ำ? เป็นสิ่งแรกที่นางนึกถึง
" น้ำ..ขอน้ำหน่อย..." สาวน้อยเอ่ยขอน้ำ เมื่อเห็นเงาผู้หญิงคนนั้นวิ่งมาทางนาง แต่คงเพราะสมองถูกกระทบกระเทือนหนักไปหน่อยทำให้เธอเห็นอะไรแปลกๆที่ต่างไป
ผู้หญิงคนนั้นเทน้ำใส่ถ้วย พลางประคองนางลุกอย่างอ่อนโยน เยว่เออร์ดื่มน้ำจนหมดจอกก็ยังรู้สึกว่าลำคอแห้งผาก หญิงนั้นราวกับรู้ใจ รีบเทน้ำให้นางได้ดื่ม
" ขอบคุณ" เยว่เออร์บอกเธอคนนั้นก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรง
.........................................................................
หลังจากที่ได้พักผ่อนอีกครั้งอย่างเต็มที่ ร่างบางก็รู้สึกกลับมามีเรี่ยวเเรงนิดหน่อย แต่ก็ยังดีกว่า ที่จะไม่มีแแรงอะไรเลย ได้เเต่คอยนอนรอรับความช่วยเหลืออย่างเดียว
ร่างบางลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง เธอเพิ่งจะสังเกตุเห็นว่า เตียงนี้เป็นเตียงไม้โบราณ ทำจากต้นกู่เจิง
>หายากมากๆเลยนะเนี้ย? ไม้กู่เจิงสมัยนี้<
มือบางลูบไล้ไปมาบริเวณหัวเตียงอย่างชื่นชม
> ฝีมือแกะสลักนี้ก็สุดยอดของปรมาจารย์เลย<
รอยยิ้มหวานผุดขึ้นบนใบหน้าขาวซีด ดวงตากลมโตละจากสิ่มที่สนใจตรงหน้า เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาในห้อง
ดวงตากลมโตเบิกค้างอย่างตกใจ ก่อนจะหลุดก๊ากออกมา ทำเอาหญิงสาวที่เพิ่งเข้ามางงไปพักใหญ่เลยทีเดียว
" เล่นอะไรกันนะคะคุณพยาบาล? ถึงตรุษจีนแล้วหรอคะ"
ร่างบางเอ่ยถาม แต่ก็ยังมีหลุดขำมาบ้าง เมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นสวมชุดจีนโบราณตั้งแต่ผมจรดปลายรองเท้า
" พระสนมกล่าวอะไรนะเพคะ ตรุษจีนอะไรกันเพคะ?"
สาวน้อยตรงหน้านั่งลงก่อนจะถาม สีหน้าบ่งบอกว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่ เยว่เออร์พูดสักนิด เยว่เออร์นิ่งไปซักสามวิ
" หึ! หึๆๆ คุณพยาบาลคะ ไม่เอานะค่ะ พระสนง สนมอะไรกัน ไม่ใช่ซีรีย์จีนย้อนยุคนะคะ?"
สาวน้อยขมวดคิิ้วหมุ่น เยว่เออร์ถอนหายใจดัง เมื่อเห็นว่า ผู้หญิงคนนั้นยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด ตอนแรกๆมันก็สนุกอยู่หรอก แต่พอนานๆมันก็ชักจะหวั่นๆยังไงไม่รู้
>นี้ฉันคงไม่ได้มาอยู่ในโรงพยาบาลบ้าหรอกนะ?<
พอคิดได้ดังนั้น ร่างบางจึงลุกขึ้นจากเตียง คิดจะออกไปข้างนอก เพื่อจะได้แน่ใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ถ้าอยู่โรงพยาบาลบ้าจริงนะ เธอจะโวยให้ลั่นเลย คอยดูสิ?
เยว่เออร์เดินไปตามทางข้างหน้าเรื่อยๆโดยมีผู้หญิงสวมชุดจีนโบราณเดินตามไม่ห่าง
" ตามมาทำไมอะ?" เยว่เออร์หันไปถาม หญิงคนนั้นขมวดคิ้ว ก่อนจะปรายยิ้ม
" แล้วพระสนมจะไปไหนหรอเพคะ ให้ซวงสี่ประคองท่านนะ" หญิงคนนั้นไม่พูดเปล่า ทั้งยังเอามือมาจับแขนเยว่เออร์อีกด้วย เยว่เออร์ดึงแขนตัวเองออกมาอย่างรวดเร็ว
" สนง สนมอะไรกันคะ? ไปเล่นกับคนอื่นนู้นน~~~ ไป!"
เยว่เออร์บอกนางพลางไล่ให้นางไป ก่อนจะเดินไปต่อโดยไม่สนใจเธออิีก
มือบางจับม่านที่หล่นลงมาเปิดออก เพียงแค่เมื่อดวงหน้าสวยยื่นออกไปเท่านั้น ร่างบางยืนนิ่งค้าง ดวงตากลมโตสุกสกาวเบิกโพล่งด้วยความตกใจ ริมฝีปากบางซีดเผือกอ้าปากพะงาบๆเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ร่างกายกลับร่วงหล่นลงบนพื้น สติทั้งหมดที่มีอยู่หายวับไปทันที ซวงสี่ร้องเรียกนางด้วยความตกใจ
" พระสนม!! พระสนม ทรงเป็นอะไรไปเพคะ?!!"
" กริ๊ดดดดดดดดดดดด~~~~~~~~~~"
ร่างบางสดุ้งตื่น กรีดร้องสุดเสียง พลอยทำให้คนที่อยู่ข้างๆตกใจไปด้วย
" เป็นอะไรไปเพคะ?" ซวงสี่มองหญิงสาวที่หอบหายใจแรงบนเตียงด้วยความเป็นห่วง ผิดกับสายตาที่อีกฝ่ายจ้องมองลงมา
" ไม่ใช่ความฝัน..มะ..มั..มันคือ..ควะ..ความจริง" ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ซวงสี่ส่ายหน้า เมื่อไม่สามารถจับใจความคำพูดของนางได้
"หิวน้ำหรอเพคะ?"
" ฉัน!! ฮวาเยว่เออร์...ขะ..ข้ามภพ!!" เยว่เออร์ดูเหมือนจะไม่สนใจอีกฝ่ายแต่อย่างใด มือบางยกแขนเรียวขึ้นมอง หัวคิ้วขมวดเข้าชนกันแน่น ฉับพลันมือบางก็เลื่อนเข้าจับที่ต้นคอ
" แผล? ไม่มี?"
เยว่เออร์หันมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านล่าง พลางกระซิบถามน้ำเสียงสั่น
" เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?"
"พระสนมเพคะ"
"สนม? พระสนมหรอ!!" ร่างบางเอ่ยถามน้ำเสียงตกใจ ซวงสี่ที่ดูจะไม่ค่อยเข้าใจนายตัวเองว่าเป็นอะไร รีบร้อนออกจากห้องไปทันที เยว่เออร์เห็นนางวิ่งออกไป ก็ไม่ได้สนใจ กลับคิดว่าดีซะอีก นิ้วเรียวลูบไล้ไปตามต้นเเขนก่อนจะหยิกเนื้อตัวเองแรงๆทีหนึ่ง ร่างบางสดุ้งโหยงด้วยความเจ็บ
"โอ๊ย! เจ็บ..ไม่ใช่ฝันจริงด้วย ฉันหลงยุคจริงๆ ข้ามมาได้ไงว่ะ"
เยว่เออร์เอ่ยถามตัวเอง นางส่งเสียงหัวเราะเหมือนอย่างคนเสียสติ ใช่!! นางต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
อาจเพราะสมองได้รับการกระทบกระเทือนมากไป..
รอยยิ้มหวานเริ่มหายไปจากใบหน้า เสียงหัวเราะเริ่มหยุดลง เมื่อความคิดหนึ่งพุ่งเข้ามาในหัว
>แล้วถ้าเกิดว่านางไม่ได้บ้าละ... เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ คือความจริงงั้นหรอ?!!<
ยังไม่ทันที่จะค้นหาคำตอบให้ตัวเองได้ ซวงสี่ก็วิ่งกลับเข้ามาข้างในด้วยสีหน้าตื่นๆ ตามมาด้วยชายชุดดำลายแดง สวมหมวกเหมือนอย่างชุด หมอหลวง อย่างในซีรีย์จีนที่นางเคยดู
หนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้นเดินเข้ามาใกล้เธอ เยว่เออร์ถอยรนหนีจนหลังติดกำแพง
" จะทำอะไร? อย่ะ..อย่าเข้ามานะ!!" ร่างบางเอ่ยถาม สีหน้าตื่น แขนเรียวยกขึ้นเป็นการ์ดป้องกันตัว
"พระสนม ใจเย็นๆพะยะค่ะ" ชายแก่ตรงหน้าเอ่ยเสียงทุ้มแต่ฟังแล้วให้ความรู้สึกสบายใจ เยว่เออร์ลอบกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น สองแขนค่อยๆลดต่ำลง ชายแก่พยักหน้าพลางส่งยิ้มให้เธออย่างพอใจ
" ทีนี้ กระหม่อมขอบังอาจ วัดชีพจรให้นะพะยะค่ะ"
ชายแก่คนนั้นซึ่งดูท่าจะเป็นหมอหลวงที่เก่งมากๆคนหนึ่ง ก้มลงหยิบผ้าเล็กๆรูปทรงสีเหลี่ยมผืนบางขึ้นมา
ซวงสี่เดินอ้อมชายคนนั้น มาที่ข้างเตียงก่อนจะจับมือของเยว่เออร์ยื่นไปให้หมอหลวง ชายคนนั้นวางผ้าผืนบางลงบนข้อมือให้ พลางทำท่าวัดชีพจรเหมือนอย่างในซีรีย์
>เห็นท่าจะจริง เรื่องของวิธีการแตะเนื้อต้องตัวสนมของฮ่องเต้?<
หมอหลวงทำท่าครุ่นคิด สีหน้าเรียบเฉยเริ่มส่อแววกังวลนิดๆ เยว่เออร์เอียงคอมองชายคนนั้นพลางเหลียวมองซวงสี่ด้วย สักพักหมอหลวงก็เก็บผ้าเช็ดหน้าลง
" เป็นอย่างไงบ้าง ท่านหมอ อาการของพระสนม?" ซวงสี่เอ่ยถาม
ชายแก่ถอนหายใจ " ตามอาการจากที่ข้าตรวจแล้ว ร่างกายของพระสนมปกติดี เพียงแต่ อาจเป็นเพราะบริเวณศรีษะได้รับการสะเทือนอย่างรุงแรง จึงอาจทำให้ ความทรงจำขาดหายไป"
" ท่านหมอหมายถึงความจำเสื่อมงั้นหรอคะ?" เยว่เออร์โพล่งขึ้นอย่างตกใจ
หมอหลวงส่ายหน้า " กระหม่อมไร้ความสามารถ ไม่อาจวินิจฉัยโรคได้อย่างแท้จริง ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ คือจ่ายยาตามอาการเท่านั้น" หมอหลวงว่าก่อนจะหันไปจดรายการยา ยื่นให้ซวงสี่
" ไปเบิกยาตามนี้ ต้มยาให้พระสนมทานวันละสามครั้ง หากยาหมดเมื่อไหร่ ค่อยไปแจ้งข้า แล้วข้าจะกลับมาตรวจอาการให้พระสนมอีกทีหนึ่ง"
" ค่ะ ขอบคุณมากคะ ท่าน หมอ "
"ไม่เป็นไร " หมอหลวงว่าก่อนจะเก็บของ
" ข้าไปส่งคะ" ซวงสี่ว่าแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับหมอหลวง
เยว่เออร์ชะเง้อคอมองจนเเน่ใจแล้วว่าพวกเขาไปไกลแล้ว ร่างบางก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
" เยว่เออร์นะเยว่เออร์ นี่เธอล้มแรงขนาดไหนกันเนี้ยยย?"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ