พ่ายรักกลลวงใจ (นสพ.ไลต์ ออฟ เลิฟ)
3) คำทำนาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“โอ๊ย! เจ็บนะ มือหนักชะมัด!”
คนโดนประทุษร้ายยกมือบางคลำป้อยๆที่หน้าผากของตัวเอง ก่อนร้องออกมาเหมือนเจ็บเสียเต็มประดาทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ปอถักทอถูกเพื่อนสาวคนสนิทแจกมะเหงกเพียงเบาๆเคาะที่หน้าผากบางเท่านั้น เพราะอันนาสาวน้อยหน้าตาน่ารักแต่ดูมั่นใจกระฉับกระเฉงเกรงว่าเพื่อนสาวหน้าหวานของตัวเองจะเดินชนกับป้ายขนาดใหญ่เท่าตัวคนที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าหน้าร้านเบเกอร์รี่ซึ่งตั้งอยู่ในห้างดังที่เป็นจุดหมายของพวกเธอจนได้รับบาดเจ็บไปเสียก่อนต่างหาก
“ก็แกมัวแต่เหม่อนี่นา”
คนหวังดีประสงค์ร้ายนิดๆไหวไหล่ไม่ยี่หระกับหน้ามู่ทู่ของเพื่อนแต่กลับหยิกแก้มนุ่มของเพื่อนสาวเบาๆแล้วลากร่างเล็กบางของปอถักทอเข้าไปยังร้านเบเกอรรี่เจ้าประจำที่มีมุมส่วนตัวด้านในร้านซึ่งเป็นมุมโปรดของพวกเธอ ก่อนสั่งขนมเค้กพร้อมด้วยเครื่องดื่ม รอจนพนักงานที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเข้ามาเสิร์ฟทุกอย่างเรียบร้อย คนอยากรู้ใจแทบขาดจึงเอ่ยถามออกมา...
“ตกลงหมอดูบอกว่าไงบ้าง”
อันนาถามออกไปด้วยความอยากรู้ เพราะก่อนที่เธอกับเพื่อนจะเดินทางมาที่ร้านเบเกอรี่แห่งนี้ ปอถักทอได้แวะเข้าไปให้ผู้หยั่งรู้อนาคตที่อยู่ไม่ไกลกับมหาวิทยาลัยที่พวกเธอเพิ่งจบการศึกษาทำนายดวงชะตาในอนาคตอันใกล้
“ก็...”
ปอถักทอยกแก้วนมชมพูของโปรดขึ้นจิบพลางนึกถึงบทสนทนาระหว่างตัวเองกับแม่หมอที่ใครๆต่างร่ำลือในเรื่องของความแม่นยำกันนักหนา หญิงสาวที่กำลังคิดไม่ตกกับอนาคตข้างหน้าว่าจะได้เดินไปทางไหนจึงเป็นอีกหนึ่งคนที่ตัดสินใจเข้าไปปรึกษาเรื่องที่ตนเองกังวลกับผู้ที่ถูกเรียกว่าหมอดู
“ตั้งจิตให้นิ่งแล้วอธิษฐาน ใช้มือซ้ายสับไพ่เท่าอายุ หยิบไพ่ออกมาเก้าใบ แล้วถามเรื่องที่หนูอยากรู้”
“ไม่ต้องกลัว ไพ่ไม่ใช่ตัวกำหนดชะตาชีวิตของใคร แต่ไพ่สามารถพยากรณ์เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตให้เรารับรู้ เพื่อเป็นแนวทางการใช้ชีวิต หากเป็นเรื่องไม่ดีเราก็หาทางป้องกันผ่อนหนักให้เป็นเบา แต่สุดท้ายแล้วทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำของเราทั้งนั้นนะแม่หนู”
“คือ หนูจะได้อยู่ที่นี่เหมือนเดิมหรือต้องกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดคะ?”
“ดวงแม่หนูต้องพลัดพรากจากที่อยู่เดิม ต้องเดินทางไกล หรืออาจต้องย้ายไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง”
“แล้วหนูจะได้ทำงานแบบที่หนูตั้งใจหรือเปล่าคะ?”
“ไม่ใช่สิ่งที่แม่หนูถนัด แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ หยิบไพ่ขึ้นมาอีกใบสิแม่หนู”
“นี่ค่ะ”
“อืม...แม่หนูจะได้เจอคนที่แม่หนูเฝ้ารอคอยมานาน การงานจะพาให้ได้มาพบเจอกัน แต่แม่หนูจะเจอกับปัญหาและอุปสรรคค่อนข้างมาก จงใช้ความดีและความอดทนฝ่าฟันมันไปให้ได้นะ แล้วแม่หนูจะพบกับความสุข”
และนั่นก็เป็นประโยคสุดท้ายที่ปอถักทอพูดคุยกับแม่หมอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอสบายใจกับคำตอบที่ได้ถามไปก่อนหน้า หรือเป็นเพราะคำทำนายสุดท้ายของแม่หมอมันทำให้เธอดีใจจนลืมเลือนความกังกลเรื่องอื่นๆที่เคยมีมากันแน่
“นี่! ไอ้ปอ แกเหม่ออีกแล้วนะ ตกลงหมอดูว่าไงบ้าง เล่ามาซะดีๆ”
คนอยากรู้ใจแทบขาดโวยวายออกมาอีกรอบเพราะอยู่ดีๆเพื่อนสาวของตัวเองก็นั่งเหม่อ อมยิ้มน้อยๆ แววตาลอยๆเหมือนคนกำลังมีความสุขอะไรสักอย่าง ท่าทางแบบนั้นยิ่งกระตุ้นให้อันนาอยากรู้มากขึ้นไปกว่าเดิม
“ก็ไม่มีอะไรมาก แม่หมอบอกว่าฉันจะพลัดพรากจากที่อยู่เดิม หรือไม่ก็ต้องย้ายไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง”
“แสดงว่าแกไม่ต้องกลับไปช่วยพี่ปัทม์ทำงานที่รีสอร์ทน่ะสิ แล้วแม่หมอว่าไงต่อ”
อันนาถามเพื่อนออกไปอย่างยินดี เพราะนอกจากปอถักทอจะได้ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพต่อไปเป็นเพื่อนเธอ หญิงสาวรู้ดีว่าปอถักทอยังไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านที่จังหวัดภูเก็ต ไม่ใช่เพราะเพื่อนของเธอมีปัญหาครอบครัว เพราะปอถักทออยู่กับพี่ชายเพียงสองคนและพี่ชายก็รักน้องสาวคนสวยคนนี้มาก อีกทั้งฐานะของปอถักทอก็จัดอยู่ในหมวดมหาเศรษฐีเพราะที่บ้านของเธอทำธุรกิจรีสอร์ทหรูและยังเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย แต่เป็นเพราะปอถักทอไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบคุณหนูที่มีคนคอยเอาอกเอาใจและอยู่ในสายตาของพี่ชายตลอดจนเธออาจกลายเป็นคนที่อ่อนแอดูแลตัวเองไม่ได้ ปอถักทอจึงอยากลองใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาในโลกกว้างที่ไม่มีปีกของพี่ชายอย่างนิลปัทม์คอยคุ้มกันดูบ้างก็เท่านั้น
“ก็แค่นี้แหล่ะ ไม่มีอะไรแล้วนี่”
“อย่ามาปิดบังไอปอ ถ้าแค่นี้จริงๆ แกคงไม่เดินเหม่อ นั่งใจลอยแบบนี้หรอก เล่ามาให้หมดเลยนะแก”
‘เบื่อคนชอบรู้ทันจริงๆ’
“ก็ไม่มีอะไร แค่แม่หมอบอกว่าฉันจะได้เจอคนที่ฉัน...รอ...รอมานาน แค่นั้นเอง”
ปอถักทอเอ่ยบอกเพื่อนออกไปเสียงเบา ใบหน้าหวานก้มต่ำปิดบังความแดงเรื่อของสองแก้มนวล
“เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแกจะได้เจอกับเจ้าชายของแกน่ะ สุดยอดไปเลย”
เพราะปอถักทอกับอันนาเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นปีที่หนึ่ง สองสาวคู่ซี้จึงไม่เคยมีความลับใดๆต่อกัน ทุกเรื่องของอันนาปอถักทอรับรู้ทุกเรื่องราว เช่นเดียวกับปอถักทอที่ไม่เคยมีเรื่องปิดบังเพื่อนสาวคนสนิท แม้แต่เรื่องที่เธอแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งมานานและยกให้ผู้ชายคนนั้นเป็นดั่งเจ้าชายที่อยู่ในความฝันแสนหวานของเธอ อันนาก็รู้เรื่องนี้ดีเพียงแต่อันนายังไม่เคยเห็นตัวจริงของชายในฝันของเพื่อนคนนั้น
“เบาๆสิแก คนอื่นหันมามองกันหมดแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นจริงอย่างที่แม่หมอบอกหรือเปล่า”
ปอถักทอรีบเอามือปิดปากของอันนาอย่างรวดเร็ว เพราะเพื่อนของเธอตะโกนออกมาอย่างดีใจจนเธอกลัวว่าลูกค้าโต๊ะอื่นๆจะคิดว่าพวกเธอสองคนไม่ปกติ และถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าจะเป็นจริงอย่างที่แม่หมอทำนายไว้หรือเปล่า แต่ตอนนี้หัวใจของเธอกลับลอยไปไกลถึงอีกฝั่งของโลกนานแล้ว นานหลายปีแล้วด้วย
“แต่ฉันว่ามีสิทธิ์เป็นไปได้นะ เพราะใครๆก็บอกว่าหมอดูคนนี้แม่นเว่อร์”
‘ฉันก็ขอให้เป็นแบบนั้น’
ปอถักทอไม่ได้ตอบอะไรออกไป หญิงสาวได้แต่เหม่อลอยภาวนาอยู่ในใจว่าขอให้คำทำนายของแม่หมอคนนี้เป็นจริงและขอให้คนที่เธอเฝ้ารอคอยคนนั้นเป็นคนเดียวกันกับคนที่เธอกำลังจะได้พบเจอ
ตืด ตืด
“ฮัลโหล อันนาพูดค่ะ โอเคค่ะ อันนาจะรีบไป ได้ค่า ด่วนที่สุดค่ะ”
“มีอะไรหรือเปล่าอันนา?”
ปอถักทอที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองเอ่ยถามออกมาเมื่อได้ยินบทสนทนาของเพื่อนสาวที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องด่วน
“มีงานเข้าน่ะสิ พี่ที่ออฟฟิศโทรมาว่ามีอีเว้นท์ด่วน สตาฟไม่พอเลยให้ฉันรีบเข้าไปช่วยน่ะ”
“อือ...งั้นแกรีบไปเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน ขอนั่งอีกสักพัก เดี๋ยวฉันก็กลับแล้ว”
ปอถักทอเอ่ยบอกกับเพื่อนให้คลายกังวลเมื่อเห็นสีหน้าเหมือนไม่สบายใจของเพื่อนสาวที่ต้องทิ้งเธอไว้คนเดียว เธอเคยชินกับเหตุการณ์แบบนี้เสียแล้ว และเข้าใจดีว่างานของเพื่อนไม่มีเวลาที่แน่นอนตายตัว เนื่องจากบริษัทที่อันนาทำงานอยู่ตั้งแต่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยรับจัดงานอีเว้นท์ งานแสดงโชว์ และงานออกบูธต่างๆ ที่มักมีปัญหาให้แก้ไขเฉพาะหน้าอยู่ร่ำไป แม้แต่เธอเองก็ยังเคยเข้าไปช่วยกู้สถานการณ์อยู่หลายครั้ง
“โอเค งั้นฉันไปก่อน ส่วนแกกินหมดแล้วก็รีบกลับเลยนะ อย่าเถลไถล เข้าใจไหม?”
“เข้าใจคร่าคุณแม่”
ปอถักทอเอ่ยล้อเลียนคนที่เป็นห่วงเป็นใยทำเหมือนเธอเป็นเด็กเล็กๆทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเธอกับอันนาก็อายุเท่ากัน เพียงแต่อันนาเติบโตมาโดยลำพังต้องดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย เลยทำให้บางครั้งอันนาก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าก็เท่านั้น แถมบางทีอันนาก็ชอบเรียกชื่อเธอว่า ‘ยัยหนูปอ’ เหมือนเธอยังเป็นเด็กน้อยอีกต่างหาก
“เดี๋ยวเหอะ! รีบกลับล่ะ ฉันไปแล้วนะ แล้วเจอกัน”
“แล้วเจอกัน”
ปากบอกเพื่อนว่านั่งต่ออีกสักพักแต่พอไม่มีอันนาอยู่ด้วย ปอถักทอก็ตัดสินใจจ่ายเงินแล้วเดินออกมาจากร้านเบเกอร์รี่หลังจากที่สองสาวล่ำลากันได้ไม่นาน หญิงสาวกะว่าจะเดินดูของไปเรื่อยๆแล้วค่อยกลับไปยังคอนโดหรูของตัวเอง แต่เดินเล่นได้เพียงครู่เดียวโทรศัพท์มือถือที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปผลไม้รุ่นล่าสุดของปอถักทอก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“สวัสดีค่ะพี่ปัทม์ ตอนนี้ปออยู่ที่ห้างค่ะ อีกเดี๋ยวปอก็กลับคอนโดแล้วค่ะ ได้ค่ะ หือ? พี่ปัทม์จะไปล่องเรือเหรอคะ? ไปที่ไหนบ้างคะ? แล้วมีใครไปบ้าง? ไปนานไหม? โอ้โห! นานจัง แหม! ก็ปอเป็นห่วงพี่ปัทม์นี่นา พี่ปัทม์มีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่าคะ? แน่ใจนะคะ อืม..ค่ะ ปออยู่ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ปัทม์เที่ยวให้สนุกนะคะ ปอก็รักพี่ปัทม์มากค่ะ สวัสดีค่ะ”
ปอถักทอเดินคุยโทรศัพท์กับพี่ชายไปเรื่อยๆอยู่พักใหญ่จนไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองเดินมาใกล้กับประตูทางออกที่เชื่อมต่อกับลานจอดรถที่หญิงสาวจอดรถมินิคูเปอร์คู่ใจเอาไว้
*******************************************************
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ภัคเอากลับมารีอัพใหม่ ยังไงภัคฝากติดตาม ฝากทิ้งคอมเม้นต์พูดคุยกันด้วยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ