Our Promise...
เขียนโดย มากิโตะ
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 17.41 น.
แก้ไขเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2562 20.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
บทนำ
...ทำไมกันนะ?...
...ชอบดูถูกกันจังเลย...
...ชอบกล่าวหากันอยู่เรื่อย...
...ชอบเห็นคนอื่นทำผิดพลาด...
...ชอบหมาหมู่...
...ชอบกดขี่คนอื่น...
...คิดว่าตัวเองเก่งนักรึไง?...
...คิดว่าตัวเองเป็นใคร?...
...คิดว่าตัวเองดีกว่าใครเลยใช่ไหม?...
...ได้...
...งั้นกูจะทำให้พวกแกได้เห็น...
"ว่าคนที่โง่อย่างกูก็ทำในสิ่งที่กูหวังได้!!"
'ใครหน้าไหนที่มาขัดขวางทาง กูจะกำจัดให้ออกไปให้พ้นทาง
ใครก็ตาม ที่มาดูหมิ่นกูและเพื่อน กูจะทำให้มันอับอายกว่าที่กูได้รับ'
"อ่านใจคนได้ก็ไม่ได้ดีเลยนะ..."
"...ไม่ได้อยากรู้ซะหน่อย...มันเข้ามาในหัวเอง..."
"...ขอโทษนะที่ทำให้รำคาญ..."
"จะไม่มาให้เห็นหน้าแล้วล่ะ..."
"...คนที่ไร้ค่าคนนี้จะออกไปจากชีวิตเธอเอง..."
____________________________________________________________
Warning!!!!!!!!!!
เนื้อหาด้านล่างนี้ค่อนข้างSpoilเนื้อเรื่อง
(รีด:แล้วเขียนมาทำไมเนี่ย??)
สำหรับบางคนที่อ่านเนื้อเรื่องแล้วไม่เข้าใจสถานการณ์มึนงง
และต้องการข้อมูลต่างๆเพื่อปรับความเข้าใจอย่าง
แรงส์
ถ้าสงสัยงงไม่ไหวแล้วมาหาอ่านตรงข้างล่างนี้ได้
ถ้าอ่านหมดก่อนจะไม่อยากอ่านต่อละ555
บทนำมีแค่ข้างบนที่ขีดเส้นไว้แล้วนะครับ
พวกซีงานยุ่งมากทั้งงานนอกและในโรงเรียนชาติเศษๆถึงจะมาอัพ
(ไนท์:ถ้าซีมาอัพนี้ปาฏิหารฮะ555)
ถ้างงมากๆcommentเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ภาพตัวละครไนท์กำลังหาเวลาวาดและปั่นนะครับเพราะไม่ค่อยอยากไปCopyรูปมาไม่พอ
ลายเส้นไม่เหมือนกันหาความMix and Matchของตัวละครมิได้
แต่ฉากประกอบอาจจะมีหาจากเน็ตบ้างให้ไซน์ทำบ้างนะครับ
2แฝดจินตอนนี้กลายเป็นนักเรียนนอกไปอีก2คนตอนนี้เลยเหลือซีที่ยังเรียนไทยค่ะ
มีลูกมือมาพิมพ์บ้างสลับกันดูแล
เรื่องนี้จะยาวมากบอกเลยตรงนี้จะมีการเพิ่มแทรกเกร็ดต่างๆในนิยาย
ตอนนี้ซีเวียกำลังโดนโรงเรียนบังคับเรียนทั้งชั้น
ออกสื่อมากไม่ได้ซะด้วย
แต่แอบมีอยากระบายมาฝาก
ตอนนี้คงจะหายไปนาน
ถ้าจบจากโรงเรียนไทยแล้วซีอาจจะว่างไปซักพัก
ระหว่างนี้ก็คงมีแต่พวกผมเอวาลันมาช่วยเอานิยายลง
แต่พวกผมเองก็โดนเหมือนซี(ถึงจะน้อยกว่าก็เถอะ)
คงจะไม่ได้มาประจำ
ต้องขออภัยในอย่างสูงใน ณ ที่นี่ด้วย
Makito
ในปี 6238 A.S.C. โลกนั้นเกิดวิวัฒนาการมากมายจนเกิดเทคโนโลยีใหม่ๆตามมามากมายเพื่อนอำนวยความสดวกสบายของผู้คน โลกปัจจุบันมีspeciesหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น speciesที่หายากนั้นอันได้แก่ แวมไพร์ ไลแคน จิ้งจอกชิสึเนะ นางไม้ ไซเรน และ เอลฟ์เหมันต์ จึงมีการอนุรักษ์สายพันธุ์ของตนเอาไว้และมีการพัฒนาการแก้ไขพันธุกรรมสามารถทำให้เพศเดียวกันที่แต่งงานกันมีลูกได้ โลกกำลังพัฒนาต่อไปไม่มีสิ้นสุด
และเช่นกัน โลกเบื้องหลังแห่งความมืดนั้นก็ขยายเร็วเช่นกัน นเรื่องของลัทธิทางสาสนาและวิทยาสาสตร์เจริญก้าวหน้าไปพร้อมๆกันต่างคนต่างแซงกันไปแวงกันมา ปีศาจแห่งความมืดเป้นทั้งผู้นอกรีตและผู้ทำผิดกฏหมาย ทำสาสตรืความรุ้ไปใช้ในทางที่ผิด ใช้วิทยาสาสตรืลงทุนสร้างในสิ่งที่อันตรายและไม่ถุกต้อง
ปัจจุบันคนหนึ่งคนไม่จำเป้นต้องทำงานได้เพียงแค่งานเดียว สามารถเลือกทำได้หลายงานขึ้นไปตามความสามารถและความต้องการจากใจจริง ผุ้มากความสามารถไม่ใช่ว่าได้เปรียบเสมอไป เพราะยิ่งมีความสามารถมากก้ยิ่งเป็นจุดสังเกตมากและมีงานเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ถึงจะเก่งแต่ก้จะมีความรับผิดชอบมาให้แบกรับเพิ่มขึ้น
เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป้นแวมไพรืเลือดบริสุทธิ์ที่หาได้ยากและแทบจะไม่หลงเหลือแล้ว เะอเกิดที่ประเทศญี่ปุ่นที่เจริญก้าวหน้าอย่างมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก สมัยเด็กเธอถูกดูถูกดูแคลนจากกลุ่มเพื่อนหลายคน พวกเขาเป็นเด็กที่มีIQสูงมากจึงกลายเป้นบุคคลที่กระทรวงวิทยาสาสตร์ต้องการ แต่ตอนนั้นหารู้ไม่ว่าIQสูงก้ย่อมมีผลข้างเขียงเช่นกัน
เธอชอบการอ่านหนังสือมาก เธอใฝ่ฝันว่าอยากเป็นหมอรักาาโรคต่างๆและวิจัยเรื่องโรคที่รักาาไม่หายให้หายได้เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นยาต้านไวรัสคนก่อนๆได้ แต่เธอคิดว่าคงได้แค่คิดเพราะการเรียนของเธอนั้นถ้าเทียบกับเด็กวัยเดียวกันนั้นเธอเป็นเด็กที่เรียนได้ไม่เก่งเลย ถึงแม้ว่าจะเป้นเด็กพฤติกรรมดีเรียบร้อยแต่ก้ไม่มีใครสนใจในสิ่งดีๆนั้นเลย
"...จงเป็นคนดี เหมือนที่เจ้าอยากได้ความดีนั้นจากผู้อื่น..."
คำสอนของผู้เผยพระวจนะ ที่โบสถ์คริสเตียนแห่งหนึ่ง สอนเธอไว้ เมื่อต้องการสิ่งใดจากผู้อื่นให้เราทำสิ่งนั้นต่อเขาก่อน รักศัตรูเหมือนรักตนเอง เธอนำมาใช้แต่ก็ไม่เคยเห็นผลลัพท์ที่เขาบอก เธอไม่เข้าใจถึงสังคมปัจจุบัน ยิ่งวิทยาสาสตร์พัฒนามากเท่าไหร่ความสะดวกสะบายนั้นด้วย จากการมีสาสนาเพื่อทำให้ทุกคนหยิดหลักเป้นคนดี คนก้หันไปหาความสบายนั้นและให้ความสนใจมากกว่าจะพัฒนาสิ่งที่คอยช่วยเหลือให้เราเป้นคนดี
"ถึงคนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่าง ลูกต้องเป็นคนดีและเชื่อฟังคำสอนของพระเจ้า..."คำสอนของบิดามารดาทุกครั้งที่เะอร้องไห้กลับบ้านเพราะโดนเพื่อนรังแกและว่ากลับเมื่อเธอหวังดีไม่อยากให้เพื่อนโดนดุ แต่เพื่อนกลับโกรธเธอ
การพัฒนาของเทคโนโลยีมันก้ไม่ได้ดีไปซะหมดหรอก
ถึงแม้ว่าทุกวันๆจะสะดวกสะบายไปเสียหมด แต่ก้เหมือนจะสบายเกินไปจนแทบไม่ต้องทำอะไร แล้วยังงั้น เราเกิดมาเพื่ออะไรล่ะ? สะบายอย่างเดียวหรอ? ไม่มีทาง โลกนี่ไม่มีอะไรสบายหรอก ถ้าเราไม่พยายามและแลกเปลี่ยนเอง ความคิดเกินเด็กนั้นทำให้เพื่อนรุ่นเดียวกันรังเกียจเธอ
"นี่ เป็นอะไรป่าว?"
เมื่อตอนม.ต้น เธอถูกแกล้งจนความอดทนถึงขีดสุดและหนีไปหลบอยู่ที่ป่าหลังโรงเรียน เด็กผู้หญิงที่ใส่เครื่องแบบเดียวกับเธอก้มลงมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง สำเนียงที่ออกจะเป็นคนจีนนั้นทำให้พูดญี่ปุ่นแปลกๆแต่ก้สามารถเข้าใจได้
"ฮึก มะ ไม่เป็นไร"เธอรีบเช็ดน้ำตาออกและนั่งกอดเขาตนเอง คนตรงหน้านั่งลงที่พื้นหญ้าข้างขวาของเธอ"ทำไมมาร้องไห้คนเดียวตรงนี่หล่ะ? ยังไม่เลิกไม่ใช่หรอเวลาเรียนน่ะ?"
"แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่?"เด็กหยิงย้อนถามคนตรงหน้า เขาไหว่ไหล่อย่างไม่สนใจ"ภาคบ่ายfree time เลยมาเดินเล่นก่อนกลับบ้านน่ะ"
ฟืบ
"อ่ะ เราชื่อยู่เฟิง เลิ่ง ยู่เฟิง ยินดีที่ได้รู้จัก"มือใหญ่นั้นยืนลูกอมมาให้เธอก่อนจะแนะนำตัว เธอยิ้มอย่างมีความสุข"เราชื่อโคซาเมะ ไซกิ โคซาเมะ ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกัน"
ความสัมพันธ์นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้
...เธอน่ะ เหมือนฉันมากเลยนะ คิดเหมือนกัน นิสัยคล้ายกัน บางครั้งเหมือนคิดว่าเราอาจจะเป็นแฝดกันก็ได้... แต่ต่อจากนี้เราคงจะไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ ขอโทษนะ ถ้าเป็นไปได้อยากจะเจอ อยากคุย อยากเล่น อยากกอด... กับเธออีกสักครั้ง ฉันจะพิสูทธิ์ให้ทุกคนเห็น ว่าถึงแม้ฉันจะเรียนไม่เก่ง แต่ฉัน...จะเป็นหมอให้ได้ และไม่เห็นแก่ตัวเหมือนพวกคนเก่งแต่เหลิงตัว!
.
.
.
เรื่องนี้เกิดในปี 6238 A.S.C. ที่ประเทศอังกฤษ เมืองCambridge หมู่บ้านนางเอกอยู่เมืองเล็กๆเมืองWitchford ทำงานที่โรงพยาบาลในตัวเมองใหญ่ของCambridge(ไกลมากกก)และโรงพยาบาลในตัวเมืองของตัวเองด้วย ทำ2โรงพยาบาล ยุคนั้นเทคโนโลยีก้าวไกลมาก อะไรที่ไม่มีจริงจงกลับไปดูแท็กใหม่และจำคำนี้ไว้ อนาคตไม่แน่นอนไม่มีอะไรที่จะคงอยู่ดังเดิมได้ตลอดไป เพราะฉะนั้นสถานที่ใหม่อะไรใหม่โผลก็คือการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและการพัฒนาของคนและเทคโนโลยี
พวกผีในเรื่องนี้ถือว่าเป็นคนแต่ต่างเผ่าพันธ์และสัญชาติ อีกทั้งยังมีการสร้างบอทมาเพื่อเพิ่มสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย ในยุคนั้นบอทจะมีบทบาทมากขึ้นในการใช้ชีวิตและทำงานและพัฒนาสิ่งต่างๆ แต่ก็ใช่ว่าจะสะดวกไปเสียหมด เพราะบอทเองก็มีข้อเสียเรื่องของการถูกป้อนข้อมูล ถึงแม้ถูกสร้างมาให้เหมือนมนุษย์มากเช่นไรก็ยังคงความเป็นบอทความเป็นเครื่องยนต์ และต้องการคำสั่งจากคน
ไม่เคยเจอfantasyผสมscifiก็ต้องเจอเพราะเขียนมาแล้ว(555) ความลงตัวของการใช้ความคิดที่ได้ข้อมูลจากรอบกายอาจจะผสมปนเปมั่วไปบ้างแต่ก็พอจะทำมุกได้อยู่ เรื่องนี่ไม่ซีเรียสมากพยายามใส่มุก และเนื่องด้วยเป็นเรื่องในอนาคตจึงปรับในสิ่งที่คิดว่าความเป็นไปได้ที่คาดคะเนว่าน่าจะเกิดแล้วออกมา
บอทนั้นใช้ไปในทางที่ดีก็จะเกิดผลดีแต่หากใช้ไปในทางที่ไม่ดีก็จะเกิดเหตุร้ายอย้่างใหญ่หลวงได้เช่นกัน ในยุคนั้นบอทถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์สร้างขึ้นและต้องการคำสั่ง การที่จะป้อนข้อมูลของความรู้สึกมนุษย์เข้าไปได้เป้นการยากและแทบจะเป็นไปไม่ได้ มในโลกจึงมีบอทเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่จะสามารถรู้สึกจริงๆได้และบอทที่ถูกพัฒนาความคิดนั้นเป็นสิ่งผิดกฏหมายหากมิได้รับอนุญาติเพราะบอทอาจจะจุดชนวนสงครามได้
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากและในการแพทย์ก็เช่นกันจึงทำให้หน้าที่ของหมอรักษาโรคนั้นน้อยลงแต่แพทย์ที่มากขึ้นคือจิตแพทย์เพราะเรื่องมนุษยธรรมเป็นเรื่องยากและแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกรักษาให้หายอย่างง่ายดายเหมือนรักษาร่างกาย และต่อมาก็มีการแตกแขนงสายของจิตเวชไปอีก เช่น จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น จิตแพทย์ผู้ใหญ่ จิตแพทย์การบำบัด จิตแพทย์ทางเพศ/ความจำ/สมอง ฯลฯ
เรื่องนี้ดำเนินดดยความที่ว่าในยุคแห่งเครื่องกลสุขสบายนี้ ยังมีเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาเพียบพร้อมไปเกือบทุกอย่าง แต่เธอตระหนักได้ว่า ความสุขสบายทั้งหมดนี่ดีจริงๆแล้วหรือ หากทุกอย่างperfectไปหมดแล้วจะพัฒนาอะไรได้อีกล่ะ? สบายไปหมดแล้วเกิดมาจะมีความหมายอะไร? ให้ป้อนข้อมูลพวกบอทพวกนั้นอย่างเดียวหรอ? เธอเหมือนเด็กยุคเก่าที่ชอบค้นคว้าอ่านหนังสือพูดคุยสนทนาและมีมิตรสัมพันธ์ที่ดี แต่คนรอบข้างนั้นไม่ยอมรับเะอและแบนเธอออกจากกลุ่มคนนั้น
เธอถูกมองว่าเป็นพวกนอกคอก จะไม่สมหวังความฝันเป็นคนโง่และทำอะไรไม่ได้สักอย่าง เมื่อถึงอารมณ์ขีดสุดทำให้เะอตัดสินใจไปเรียนที่เมืองนอกตั้งใจเรียนสึกษาสิ่งต่างๆจนครบหลักสูตรและสามารถเป็นในสิ่งที่เะอฝันและต้องการประสบความสำเร็จวันนี้
แต่สมัยตอนเรียน นอกจากประสบการณ์ที่ไม่หน้าจำก็มีคนๆหนึ่งที่เธอยังไม่เคยลืมและคิดถึงมาตลอดนอกจากพ่อแม่และอาจารย์์ เพราะคนๆนั้นก็เป็นคนหนึ่งที่คิดเหมือนเะอแค่รายนั้นเป้นคนเย้นชาและไม่ค่อยบอกอารมณ์ให้เห็นบ่อย คนที่มห้กำลังใจเะอมาตลอดแต่ตอนสุดท้ายผิดใจกันเพราะมีคนไปพูดข้อตวามผิดๆจนเข้าใจผิดกัน
ในยุคนั้นนอกจากมีคนดีแล้วก้ต้องมีคนชั่วซึ่งมากมายขึ้นเหลือเกิน และผันตัวไปเป้นกบฏก็มาก เจ้าหน้าที่ๆคอยสังเกตการณ์และจัดการคือกระทรวงกลาโหม ปราบปรามและกำจัดผู้ทำผิดกฏหมาย แบ่งออกตามหน่วยงานต่างๆ โดยนหลักๆก็มี ทหาร ตำรวจ และ สายตรวจเบื้องหลัง
ในยุคนี้เกิดการพัฒนาของมนุษย์ที่สามารถทำงานได้มากกว่า1งานขึ้นไปตามความสามารถเพื่อเพิ่มบุคลากรในการทำงานมากขึ้น และการทดแทนทรัพยากรมนุษย์
ในแผนที่โลกยุคนั้นจะมีบางส่วนหายไปและโผล่ขึ้นมาบ้างจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกเอง มีการใช้วิทยาการการควบคุมทรัพยากรมนุษย์และธรรมชาติ และรวมไปถึงการสร้างพลังงานไม่สิ้นสุดด้วย เช่นการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่มีการใช้วงจรเก็บทั้งรังศีของดวงอาทิตย์ รับพลังงานแสง รับพลังงานความร้อนและพลังงานแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้าจนมากพอที่จะเรียกได้ว่ามหาศาล
ในบางประเทศที่คนสายพันธ์ที่ไม่สามารถดดนแดดได้นอนเท่าไหรจะมีการกางบาเรียantyแสงอาทิตย์และเก็บไปเป้นพลังงานได้ นอกจากนี้งานเกี่ยวกับอวกาศก็ยังมีเพิ่มมากขึ้นเป้นเท่าตัวไม่ว่าจะการสร้างยานอวกาศการสร้างดวงจันทร์ดวงใหม่ในการใช้งานรับพลังงานจากนอกโลก การสำรวจระบบสุริยะและหาแร่ใหม่ๆจากนอกดลกมาใช้เป็นต้น
ในยุคนั้นสามารถกำหนด หลีกเลี่ยง สร้างการปรับเปลียนอากาศได้เพื่อปรับสมดุลย์ไม่ให้คนร้อนเกินไปแล้วหนาวเกินไปได้ แต่ก็จะใช้เพียงช่วงเกิดเหตุหการณ์จวนจริงๆเช่น หน้าแล้ง ภัยน้ำ พายุ ฯลฯ
บางอย่างที่ร่างกายเจ็บป่วยไม่จำเป้นต้องไปหาหมอเสมอไป กินยาก้สามารถหายได้เลยเพื่อความสะดวกตามคำเรียกร้องและการคิดค้นขึ้นได้ของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆที่ผ่านมา
การขึ้นเครื่องบินหรือเรื่องความกดอากาศจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปเพราะมีระบบปรับสมดุลย์ร่างกายติดตั้งไว้แทบทุกที่ทุกพาหนะ และระบบsafetyที่เนี้ยบมากๆ
ยุคนั้นคนส่วนใหญ่จะทำงานที่บ้านทำงานในคอมออกมาเวลาเข้าออฟฟิสและไปเที่ยวเท่านั้น การศึกษาจะเหมือนกันเป็นโซนๆทวีปไป นักเรียนไม่จำเป็นต้องเรียนจบทุกแีไม่จำเป็นต้องทำตามค่านิยมหากสามารถทำงานได้มีความรู้และความสามารถมากพอก็จะสามารถสมัครงานได้เลยเพื่อไม่เป้นการเสียเวลาและไม่เป้นการกั๊กเด็กหรือการตัดโอกาสของเด็ก
เด็กในยุคนั้นถูกหัวหน้าประเทศส่งเรียนด้วยทุนรัฐบาลทุกคนเพราะสำหรับประเทศแล้วเด็กคือผู้ที่จะนำความรู้ใหม่ๆมาพัฒนาและช่วยเหลือบ้านเมืองได้อย่างมีปประสิทธิภาพมากขึ้นจริงๆและมีความริเริ่มสร้างสรรค์ได้อีกด้วย
ทุกประเทศในยุคนั้นถือว่าเป็นเพื่อนกันหมดไม่มีการแข่งขันช่วยเหลือกันทุกฝ่าย ร่วมมือกันพัฒนาโลกไปด้วยกันไม่แกงแย่ง แต่ก็ชอบมีคนที่มีความคิดไม่ดีมาปกครองและพากันหายไปเยอะเช่นกัน เรื่องของEQถือว่าสำคัญมากในยุคนั้นและการจะทำงานต้องๆก็จะมีการทดสอบเช่นกัน
กลุ่มคนร้ายในยุคนั้นคือชาวSFIC ย่อมาจาก Silent Ferocious Insurgent Cutthroat (อารมณ์แบบisisอ่ะนะ) จุดประสงค์ขององค์กรนี่คือกวาดล้างรัฐบาลและยึดครองประเทศเพื่อการทำสงคราม โดยอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนให้ได้อยู่อย่างอิสระไม่ถูกกดขี่ กลุ่มคนพวกนี้มาจากคนที่ถูกเนรเทศออกจากประเทศและต้องไปอยู่ในที่ๆถูกจัดไว้ให้เป็นการกักขังตลอดชีพ เกิดก่อกลุ่มขึ้นและร่วมมือกับเหล่าฆาตกรมากมายจนเป็นองค์กรใหญ่
ที่ตัวเองนอกจากทำงานหมอแล้วก็ทำงานที่กระทรวงกลาโหมด้วยเพราะนางสาเหตุเดียวคือ อยากช่วยคน อยากให้คนมีความคิดดีอยากให้เขาประสบความสำเร็จและมีความสุข อยากปกป้องคนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรจากลูกหลงการต่อสู้ ตามความรู้สึกจากใจของตนเอง
เรื่องนี้อ่านแล้วงงมากแต่ก็คงไม่งงเท่าคนแต่งอ่ะนะ เพราะตอนนี้ไรท์กำลังจะม่องเพราะไข้หวัดกินแล้ว@w@
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ