GHOST

9

                “เร็วเข้า!” เลโกน่าลากสาวหน้าคมลงบันไดมาถึงชั้นล่างของคฤหาสน์ สีหน้าของเธอค่อนข้างกังวลและตื่นตระหนกพอสมควร ร่างพลังงานสีเขียวแสนสง่าบินเข้ามาขนาบข้างตัวเธอระหว่างที่เธอกำลังวิ่งออกจากคฤหาสน์ตรงบริเวณกลางห้องโถง แต่แล้วจู่ๆเปลวไฟมากมายลุกลามมาจากด้านหลังของพวกเธอ มันเผาผลาญคฤหาสน์ทั้งหลังอย่างรวดเร็วเหลือไว้เพียงแค่บริเวณกลางห้องโถงเท่านั้น พวกเธอถูกล้อมด้วยอาณาเขตเปลวไฟอันร้อนระอุ สองสาวไม่มีทางเลือกนอกจากจะหันหลังกลับไป

“คิดว่าจะได้ออกไปจากที่นี่อย่างนั้นเหรอ?” เสียงของหญิงสาวร่างบางแววตาอำมหิตสวมใส่ชุดสีดำเป็นประจำค่อยๆเดินลงมาจากบันไดชั้นสองของคฤหาสน์อย่างช้าๆ เธอจ้องมองไปที่สองสาวแบบไม่ละสายตาแม้แต่นิดเดียว

“ลาไมย! เธอต้องหยุดการกระทำบ้าๆนี่ซะ เชื่อฉันเถอะ สิ่งที่อยู่กับเธอมันคือ ลิธ ไม่ใช่ จิน ยิ่งเธอใช้มัน มันก็จะยิ่งกลืนกินเธอ เข้าใจไหม? หยุดฆ่าคนโดยเปล่าประโยชน์สักทีแล้วกลับไปกับฉัน” สาวหน้าหวานพูดจาหวาดล้อมอีกครั้งเผื่อจะทำให้อีกฝ่ายใจอ่อนแต่ดูท่าจะไม่เกิดผลอะไรตามที่เธอคาดหวัง สองสาวเต็มใจและเตรียมตัว หรือนี่อาจจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของพวกเธอแล้วก็ได้ ไอร้อนจากเปลวไฟมหาศาลแผ่ซ่านไปทั่วทุกบริเวณ มันกำลังเผาผลาญคฤหาสน์หลังนี้ทั้งเป็น พวกเธอรู้สึกได้ว่าอากาศกำลังค่อยๆหมดไป ขณะที่อีกฝ่ายยืนนิ่งหน้าตาเฉยจ้องมองมาที่พวกเธอตลอดเวลา

“Skia!” ลาไมยพูดชื่อบางอย่างด้วยสีหน้าที่จริงจังกว่าครั้งไหนๆ ร่างพลังงานสีดำกับรอยยิ้มน่าสยดสยองของมันคืบคลานเข้ามาประจันหน้าทั้งสองสาว

“Zelena!” เลโกน่าตัดสินใจสู้ตายเช่นกัน ร่างพลังงานสีเขียวแสนสง่าเข้ามาขวางหน้าอีกฝ่ายไว้ทันที จังหวะนี้ Skia เริ่มก่อนมันใช้สี่แขนของมันกระชากทุบตีภูติสาวอย่างรุนแรงและเหวี่ยงจนกระเด็นออกไป Zelena จึงใช้พลังสร้างอักขระโบราณสีเขียวที่กำแพงจากนั้นก็ดีดตัวเด้งกลับไปหาอีกฝ่ายแต่ดันถูกเปลวไฟที่พุ่งมาในจังหวะนั้นเล่นงานแทน Skia ปล่อยเปลวไฟพุ่งเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้ Zelena หลบได้ทันปีกสองคู่ของมันกระพือเร็วขึ้น Zelena อ้อมเข้าด้านหลังพร้อมกับดึงพลังงานสีเขียวออกมา Skia รู้ทันจึงใช้แขนซ้ายสวนเข้าไปที่หน้าท้องจากนั้นลูกไฟอันร้อนแรงสองลูกพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายเต็มๆจนกระเด็นไปกองกับพื้น Zelena ไม่ยอมแพ้ง่ายๆมันใช้ความเร็วพุ่งเข้าไปอีกรอบพร้อมกับสร้างพลังงานสีเขียวรูปร่างคล้ายอวนดักปลาตวัดดักจับอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แต่ Skia กลับหลบการจับกุมได้ทั้งหมด มันสวนหมัดคืนไปสามมัดจนอีกฝ่ายกระเด็นออกไปอีกครั้ง จู่ๆแผ่นอักขระสีเขียวทรงกลมปรากฏขึ้นตรงหน้า Skia จำนวนหนึ่ง มันแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงพลังงานพุ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างต่อเนื่องจน Skia เสียท่า Zelena สร้างแผ่นอักขระสีเขียวทรงกลมขึ้นมาใหม่ให้มีจำนวนเยอะขึ้นล้อมตัว Skia ไว้ทุกทาง ขณะที่แผ่นอักขระเริ่มเรืองแสง Skia ระเบิดพลังเพลิงออกมาทำลายล้างทุกสิ่งจนแผ่นอักขระทั้งหมดถูกทำลายลงไป เลโกน่าสังเกตเห็นสีหน้าของลาไมยที่แทบจะแยกเขี้ยวฉีกร่างเธอเป็นชิ้นๆได้เลย Skia พุ่งเข้าหา Zelena สร้างลูกไฟอัดใส่อย่างต่อเนื่อง โล่พลังงานสีเขียวปรากฏขึ้นป้องกันลูกไฟไว้ได้ทัน Skia ไม่รอช้าปล่อยหมัดจากแขนขวาพุ่งเข้ามาที่แก้มซ้ายของภูติสาวเต็มๆ Zelena แม้ถูกอัดแต่ก็ยังใช้โล่พลังงานป้องกันการจู่โจมของอีกฝ่ายโดยที่ไม่ลดระดับพลังของตัวเองลงเลยแม้แต่น้อย มันใช้จังหวะเพียงชั่วพริบตาสร้างโซ่ตรวนพลังงานตวัดใส่ขาของอีกฝ่ายแล้วกระชากจน Skia ล้มลงไป มันดึงโซ่ให้แน่นขึ้นแล้วเหวี่ยงร่างพลังงานสีดำไปกระแทกกับพื้นแบบซ้ายทีขวาที Skia พยายามใช้ไฟเผาทำลายโซ่พลังงานแต่ก็ถูกวงแหวนพลังงานสีเขียวรัดมือทั้งสี่ของมันเอาไว้จนทำให้ไม่สามารถดิ้นหลุดได้ ตอนนี้ชัยชนะเริ่มเอนเอียงไปทาง Zelena แล้ว มันจึงใช้โอกาสนี้เผด็จศึกด้วยการสร้างแผ่นอักขระโบราณสีเขียวทรงกลมขนาดยักษ์ ประทับข้างบนและข้างล่างล้อมตัวของ Skia ไว้ก่อนที่พลังงานสีเขียวจากแผ่นอักขระจะพุ่งเข้าถาโถมใส่ร่างพลังงานสีดำอย่างรุนแรงจนถึงที่สุด จน Skia กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ลาไมยน้ำตาไหลรินขณะที่สีหน้าของเธอไม่ได้ลดความโกรธเกลียดลงแม้แต่น้อย แววตาของเธอยังคงจ้องมองไปที่การต่อสู้ตรงหน้าโดยไม่ละสายตา

                เหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะจบลงแต่แล้วพลังไฟมหาศาลที่ร้อนแรงจนแทบจะเหมือนกับไฟนรกได้ผุดขึ้นมาจากทุกอณูของอากาศเผาผลาญ Zelena อย่างรุนแรงจนร่างของมันแทบจะดับสลาย เลโกน่าตัดสินใจดึงร่างพลังงานของเธอกลับมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะสายเกินไป Skia ลอยขึ้นกลางอากาศอย่างสง่าท่ามกลางเพลิงปีศาจและแววตาโกรธเกลียดเช่นเดียวกับร่างทรงของมัน เลโกน่าเริ่มถอดใจ เธอรับรู้ได้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ความตายใกล้ตัวเธอมากที่สุดแล้ว

“แต่ถึงยังไงฉันก็ต้องขอบใจเธอมากนะที่ช่วยฆ่าอเซวิสให้ฉัน” ประโยคที่ออกมาจากปากลาไมยทำเอาสองสาวยืนอึ้งไปตามๆกัน

“จริงอยู่ที่เราเหลือกันแค่สองพี่น้อง ฉันกับพี่ชายรักกันมากนะ แต่บางครั้งเขาก็ไม่เคยฟังสิ่งที่ฉันพูด ไม่เคยชอบในสิ่งที่ฉันทำ ฉันอยากให้เขาตาย และเธอก็ทำให้เขาตาย ตอนนี้ฉันคือคนเดียวที่จะแข็งแกร่งที่สุด ไม่ต้องแบ่งพลังนี้ให้กับใครทั้งสิ้น” ลาไมยพูดขณะที่เธอกำลังเดินเข้ามาใกล้สองสาวขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับรอยยิ้มน่าขนลุกแปลกๆของเธอ

“อีโรคจิต!” เอวาตะโกนใส่หญิงสาว

“จะพูดอะไรก็พูดเถอะ เดี๋ยวก็ไม่ได้พูดแล้ว” ลาไมยหยุดเดินร่างพลังงานของเธอเคลื่อนเข้ามาอยู่ข้างกายเธอ แววตาของมันลุกเป็นไฟพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“หลบมาอยู่ข้างหลังฉัน” เอวาทำมือกันร่างสาวหน้าหวานไว้แล้วหันไปพูดกับเธอ เลโกน่ารับฟังในสิ่งที่เธอบอกแล้วถอยหลังลงมาสองก้าว เธอรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในตัวของสาวหน้าคมคนนี้

เอวาหลับตาลงแล้วถอนหายใจยาวๆก่อนที่จะ “Bodus” ชั่วพริบตาที่คำพูดนี้ออกจากปากเธอ กลุ่มก้อนแสงสีขาวปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของหญิงสาวทันทีก่อนที่มันจะก่อตัวจนเป็นรูปร่างคล้ายเทพีจากสรวงสวรรค์ สง่างามและน่าเกรงขาม ร่างกายและปีกสีขาวทั้งสองข้างมีกว้างกว่าลำตัวถึงสามเท่า แววตานิ่งๆแต่ดูมีนัยยะแอบแฝงทุกครั้งที่กวาดสายตา ลาไมยอึ้งไปสักพักแล้วก็เริ่มตั้งสมาธิ เธอไม่สามารถถอยหลังได้อีกแล้วตอนนี้

“Skia!!!!!!!!!!!” สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ร่างพลังงานสีดำชูสี่แขนของมันขึ้นเหนือศีรษะทันทีก่อนที่เปลวไฟมหาศาลรอบๆตัวจะเคลื่อนไหวเข้ามารวมตัวเป็นกลุ่มก้อนเปลวไฟขนาดยักษ์ราวกับลูกอุกกาบาต Skia ฉีกยิ้มดีใจอย่างถึงที่สุด มันตัดสินแพ้ชนะด้วยพลังทั้งหมดของมันตอนนี้ เอวายิ้มบางๆก่อนที่จะหลับตาแล้วชูแขนทั้งสองออกขนาบข้างลำตัวอย่างช้าๆ ร่างพลังงานสีขาวสลายเข้าไปในตัวของเธอจากนั้นลำแสงสว่างเจิดจ้าที่มีอนุภาพรุนแรงบังเกิดขึ้นออกมาจากร่างของเธอแทน มันสว่างจ้ารุนแรงจนสามารถทำลายลูกไฟอุกกาบาตได้อย่างง่ายดาย Skia ไม่อาจทนต่อแสงสว่างจ้านี่ได้ร่างของมันกำลังสลายเช่นด้วยกับลาไมยที่กรีดร้องด้วยความเจ็บแค้นก่อนที่ร่างของเธอจะถูกทำลายกลายเป็นผุยผงภายในลำแสงนี้ทันที เปลวไฟมหาศาลที่เผาผลาญคฤหาสน์มอดดับอย่างรวดเร็ว ลำแสงสว่างเจิดจ้าค่อยๆลดลงเรื่อยๆและหายเข้าไปในร่างของเอวา สองสาวรอดตายในที่สุด คฤหาสน์ที่น่าขนลุกแห่งนี้หลงเหลือไว้เพียงแค่เศษซากตอดำผุพังเท่านั้น

                “เป็น ROYAL-JIN ตัวแรกในชีวิตที่ฉันเคยเจอเลยนะ” เลโกน่านั่งอยู่ตรงบริเวณหน้าคฤหาสน์กับสาวหน้าคม ขณะที่เธอพูดอาการของเธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอยังตะลึงค้างกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้

“ปกติเขาก็ไม่ชอบแสดงตัวหรอก ยกเว้นในเวลาที่ฉันต้องการจริงๆ เขามาพร้อมกับความกล้าหาญของฉันเสมอ” เอวาหันไปพูดกับสาวหน้าหวานข้างเธอ

“เจ๋ง” เลโกน่าพยักหน้าตามพลางชื่นชมไปด้วย

“หลังจากนี้เธอจะไปทำอะไรเหรอ?” เลโกน่าถามต่อ

“ฉันก็คงเตร่ๆอยู่แถวนี้แหละ ก็นะ ยังไม่มีที่ไป” เอวาถอนหายใจแล้วแหงนมองท้องฟ้ายามราตรีที่อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะสว่างจ้าไปด้วยแสงพระอาทิตย์

“มาอยู่กับฉันไหม?” เลโกน่าท่าทางตื่นเต้นกับคำถามนี้

“มันจะดีเหรอ?” เอวาสวนขึ้นมา เลโกน่าทำหน้าสงสัย

“คือฉันหมายถึงแบบCSD คอยไล่ล่าร่างทรง ออกกฎหมายการใช้จิน...” เอวาอธิบายในสิ่งที่เธอคาใจ

“555 โอเค อย่างแรกเลยนะ หน่วยของฉัน JUC ไม่ได้ไล่ล่าร่างทรง ใช่เราควบคุมการใช้จินก็จริง แต่ไม่ได้ไล่ล่าร่างทรงทุกคน เราจะเข้ามายุ่งเฉพาะเมื่อร่างทรงควบคุมจินและสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วไป ตามนโยบายของท่านนายก บุคคลพวกนี้ต้องถูกควบคุม” เลโกน่าอธิบายต่อ

“ฟังดูแล้วก็ดูก่ำกึ่งดีเนอะ เป็นดาบสองคม” เอวาทำหน้าหยี

“ทุกอย่างก็เป็นดาบสองคมทั้งนั้น ตั้งแต่พวกอิตาลีค้นพบตัวตนของจิน หลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นดาบสองคมหมด โลกนี้ไม่เหมือนเดิมอีกเลยเธอว่าไหม?” เลโกน่าถามสาวหน้าคม

“ก็จริงนะ ไว้ฉันจะเก็บไปคิดแล้วกัน เลโกน่า” เอวาให้คำตอบกับเธอซึ่งก็ไม่ผิดจากที่เลโกน่าคาดการณ์ไว้เท่าไหร่

“อื้ม” สาวหน้าหวานลุกขึ้นยืน

“นั่นเธอจะไปไหน?” เอวาถามเธอ

“กลับไปที่ศูนย์บัญชาการน่ะ ต้องไปรายงานตัว” เลโกน่าหันมายิ้มให้กับสาวหน้าคม

“ฉันมาจากกลุ่มผีม่านหมอก” เอวาก้มหน้าพูด

“กลุ่มกบฏทางตอนเหนือเหรอ?” เลโกน่าตกใจเล็กน้อย เธอถามกลับให้แน่ใจ

“อื้ม” เอวายังคงก้มหน้าตอบ

“เอาเถอะ เธอคงมีเหตุผลสินะเอวา ยังไงก็อย่าลืมเก็บเรื่องที่ฉันถามไปคิดด้วยนะ” เลโกน่าส่งยิ้มให้กับสาวหน้าคมด้วยความจริงใจ

“ให้ไปส่งไหม Zelena ของฉันไปส่งได้นะ 555” สองสาวหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ถึงแม้ว่าเรื่องราวระหว่างมิตรภาพของทั้งสองคนจะดูแปลกๆ แต่มันก็จบได้อย่างสวยงาม และนี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นสำหรับการเดินทางครั้งใหม่ของทั้งสองคน