ปาฏิหาริย์รักข้ามพิภพ

-

เขียนโดย Richa

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 10.03 น.

  14 ตอน
  0 วิจารณ์
  14.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 10.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) อนันดา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ณ บริเวณทางเข้าสู่อาณาเขตของบ้านและรีสอร์ทของครอบครัวหญิงสาว ชายหนุ่มแปลกหน้าหยุดยืนนิ่งสนิทราวกับกลายเป็นรูปปั้นไปอย่างกะทันหัน แม้หญิงสาวจะวิ่งตามมาด้วยความรวดเร็วแต่ก็ยังช้ากว่าเขามาก เธอตามมาได้ทันเพราะเขาหยุดรอหรือเพราะเขาไม่สามารถเข้าสู่อาณาบริเวณพื้นที่ส่วนตัวของเธอได้ 

“มันอยู่ข้างในนั้น ผมจะเข้าไปกระชากคอมันออกมา แล้วฉีกเลือด ฉีกเนื้อมันให้ขาดเป็นชิ้น ๆ” ชายหนุ่มพูดออกมา มันเป็นเสียงที่ฟังเหมือนเสียงคำรามมากกว่าจะเป็นเสียงบ่นพึมพำ 

“นี่คุณ คุณจะบ้าไปแล้วเหรอ คุณจะทำร้ายน้องชายของฉันไม่ได้นะ” หญิงสาวเดินอ้อมไปหยุดอยู่ด้านหน้าของเขาพลางผลักอกของเขาอย่างแรง แม้ว่าหญิงสาวจะออกแรงจนสุดกำลังของเธอแต่เรี่ยวแรงนั้นไม่ต่างจากการผลักวัตถุขนาดใหญ่ เขานิ่งสนิทราวกับหินผาไม่ยอมขยับเขยื้อนจากแรงผลักของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย

“คุณยังคิดว่ามันเป็นน้องของคุณอีกเหรอ นี่มันทำร้ายคุณนะ” ชายหนุ่มหันไปมองหน้าหญิงสาวด้วยแววตาที่ยังเกรี้ยวกราด

“ผมจะเข้าไปกระชากคอมันออกมา” เขาพยายามจะเดินเข้าไปด้านในอีกครั้งแต่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นมาฉุดรั้งหรือปิดกั้นเขาไว้ไม่ให้ย่างกรายเข้าไป 

“เดี๋ยวนะ!! คุณจะทำอะไรน้องชายของฉัน ฉันจะไม่มีวันยอมให้คุณเข้าไปทำร้ายเขาเด็ดขาด” หญิงสาวยืนเผชิญหน้ากับชายผู้กำลังโกรธเกรี้ยวอย่างเด็ดเดี่ยว แววตาที่เกรี้ยวกราดนั้นจ้องมาประสานกับแววตาใสเศร้าของเธอ แววตาสีเขียวเป็นประกายเจิดจ้าคู่นั้นเหมือนกำลังมีเปลวไฟลุกไหม้อย่างร้อนแรง หญิงสะดุ้งตกใจอีกครั้งกับแววตาคู่นี้ มันเหมือนไม่ใช่แววตาของมนุษย์หรือเขาไม่ใช่มนุษย์ 

เสียงแหวกกิ่งไม้ดังมาจากทางด้านหลังของหญิงสาว เธอหันไปมองตามสัญชาตญาณและเห็นนายใบ้ซึ่งคงพยายามตะเกียกตะกายจนหลุดพ้นออกมาจากกอไผ่ขนาดใหญ่นั้นได้สำเร็จแล้ว นายใบ้ในสภาพเสื้อผ้าฉีกขาดเป็นริ้วจนมองเห็นเลือดซิบเป็นทางตามใบหน้าและแขนขา เสื้อตัวที่ขาดวิ่นนี้เคยเป็นเสื้อเก่าของธาร แม่ของน้ำได้นำเอาไปบริจาคให้นายใบ้ใส่ด้วยความเวทนาสงสาร ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นเสื้อที่ผ่านการตัดเย็บมาเป็นอย่างดีต่างจากสภาพที่เป็นในตอนนี้ ส่วนกางเกงขาสั้นเลยเข่าที่นายใบ้ใส่อยู่มันก็เคยเป็นกางเกงของธารเช่นเดียวกันและสภาพของมันก็ไม่เหลือความเป็นเนื้อผ้าชั้นดีอีกต่อไปแล้วเช่นกัน 

หญิงสาวหันไปมองดูนายใบ้ในท่านั่งยอง ๆ ก้มหน้าลงที่พื้น ชูมือพนมขึ้นเหนือศีรษะพลางพึมพำอะไรบางอย่างที่น้ำไม่อาจจะจับใจความได้ อะไรบางอย่างที่ไม่อาจเล็ดลอดออกมาเป็นเสียงให้ได้ยิน 

“นายใบ้เป็นอะไรไป” หญิงสาวลงไปนั่งยอง ๆ อยู่ข้างนายใบ้ พลางก้มลงไปมองดูใบหน้าที่หวาดกลัวนั้น นายใบ้ยังคงพยายามซ่อนใบหน้าของตัวเองไว้ภายใต้แขนทั้งสองข้างที่ชูขึ้นในท่าพนมมือเหนือศีรษะท่าทางของนายใบ้นั้นดูเหมือนคนที่กำลังหวาดกลัวกับอะไรบางอย่าง อย่างสุดฤทธิ์!! 

“นายใบ้ ไม่ต้องกลัวนะ นี่น้ำเอง” เสียงที่อ่อนโยนและคุ้นเคยของหญิงสาว ทำให้นายใบ้เงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มอันซีดเซียวเริ่มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของนายใบ้ แต่แววตาของความหวาดกลัวก็ยังไม่ได้จืดจางหายไป 

นายใบ้ละสายตาจากหญิงสาวไปเพียงเสี้ยววินาที เขาจ้องมองไปยังใบหน้าของหนุ่มลาวผู้มีตาสีเขียวคนนั้น ทันทีทันใดนั้นเองนายใบ้ก็ล้มตัวลงไปนอนกองอยู่กับพื้นพร้อมกับมีอาการชักดิ้นชักงออย่างรุนแรง แววตาที่เคยหวาดกลัวตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นอาการของคนที่ช็อกสุดขีด นายใบ้ล้มตัวลงนอนกองกับพื้น ตาค้าง ปากอ้ากว้างและบิดเบี้ยว แขน ขาและร่างกายทุกส่วนมีอาการเกร็งไปพร้อมกัน น้ำลายเริ่มไหลเยิ้มออกมาจนฟูมปาก 

“นายใบ้ นายใบ้เป็นอะไรไป” น้ำตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงด้วยความตกใจ 

นายใบ้กลิ้งหลุน ๆ ตามพื้น หญิงสาวพยายามจะจับศีรษะของนายใบ้ให้อยู่นิ่ง ๆ แต่ก็ไม่สำเร็จ นายใบ้ดิ้นพล่านอย่างขาดสติ เกลือกกลิ้งไปมาอยู่บนพื้นดินที่ผสมปนเปไปด้วยเศษดิน กิ่งไม้และใบไม้แห้ง จนเกินกำลังที่เธอจะหยุดยั้งไว้ได้ 

“นี่คุณ มาช่วยฉันหน่อยซิ” หญิงสาวชำเลืองมองไปยังชายหนุ่มแปลกหน้าผู้มีนัยน์ตาสีเขียว  

“คุณช่วยอุ้มนายใบ้ไปที่รีสอร์ทหลังนั้นทีซิ” หญิงสาวชี้มือไปยังบ้านพักของรีสอร์ทริมน้ำที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุมากที่สุด ชายหนุ่มได้แต่มองดูโดยไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือใด ๆ  

“นี่คุณ มาช่วยฉันหน่อยซิ เร็วเข้า!! ฉันพยุงนายใบ้คนเดียวไม่ไหวนะ” หญิงสาวหันไปมองเขาด้วยแววตาอ้อนวอนอีกครั้ง ขณะที่กำลังพยายามจะประคองศีรษะของนายใบ้ไว้อย่างทุลักทุเล 

ชายหนุ่มนั่งลงช้อนร่างนายใบ้ขึ้นสู่อ้อมแขนเหมือนอุ้มเด็กน้อยวัยแบเบาะ นายใบ้ยังคงนอนดิ้นทุรนทุรายอยู่ในอ้อมแขนของเขา แต่อ้อมแขนนั้นแข็งแรงพอที่จะต้านทานพละกำลังของนายใบ้ได้ แต่ชายแปลกหน้ากลับหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ยอมขยับเขยื้อนเหมือนเช่นเคย 

“ผมเข้าไปข้างในไม่ได้ ณ ที่แห่งนี้มีเวทมนตร์ป้องกันห้ามไม่ให้ผู้ไม่ใช่มนุษย์เล็ดลอดเข้าไป” ชายหนุ่มแปลกหน้าผู้มีนัยน์ตาสีเขียวเอ่ยขึ้นให้หญิงสาวได้ยินอย่างชัดเจน 

“คุณว่าอะไรนะ ฉันไม่เข้าใจ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความงุนงง 

“ทางเดียวที่ผมจะเข้าไปได้คือได้รับคำเชิญจากผู้เป็นเจ้าของบ้านที่มีตัวตนอย่างแท้จริง” 

“ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด คุณพูดถึงเรื่องอะไร ทำไมต้องหาข้ออ้างที่จะช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนด้วย” หญิงสาวยังคงทำหน้างุนงงสงสัยและกระวนกระวายใจไปพร้อม ๆ กัน 

 “ผมเข้าไปข้างในไม่ได้ เพราะผมไม่ใช่มนุษย์!” ชายหนุ่มไม่ใส่ใจที่หญิงสาวตำหนิเพราะเธอยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร

“งั้น คุณเป็นตัวอะไร” 

“ผมเป็นนาคราช พ่อของคุณได้สร้างเกราะป้องกันนี้เอาไว้ อมนุษย์ผู้มีฤทธิ์เดชเหนือธรรมชาติทุกชนิดจะไม่สามารถเข้าสู่บริเวณบ้านพักและรีสอร์ทของคุณได้ นอกจากว่าเขาผู้นั้นจะได้รับอนุญาตให้เข้าไป โดยการกล่าวคำเชิญจากเจ้าของบ้านผู้มีตัวตนเท่านั้น ซึ่งก็คือคุณ!!”  

“โอเค ไม่ว่าคุณจะเป็นนาคราชหรือเป็นตัวอะไรก็แล้วแต่ ฉันก็ไม่สนใจ แต่คุณต้องช่วยพานายใบ้เข้าไปนอนยังรีสอร์ทหลังนั้น ตกลงว่าฉันอนุญาตให้คุณเข้าไปข้างในได้” หญิงสาวกล่าวอย่างรีบร้อน 

“คุณแน่ใจเหรอเพราะถ้าผมได้รับอนุญาตให้เข้าไปแล้ว ผมจะมีสิทธิ์ทุกอย่างในทุกตารางนิ้วของบ้านคุณ” 

“ตกลงตามนั้นถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ ตอนนี้ช่วยนายใบ้ก่อน” หญิงสาวตอบอย่างรีบร้อย 

“คุณต้องพนมมือขึ้น เอ่ยชื่อและสกุลของตัวเองเพื่อยืนยันว่าคุณคือเจ้าของบ้านที่มีตัวตนและอนุญาตให้ผมนาคราชหนุ่มนามว่าอนันดาเข้าสู่ภายในอาณาบริเวณบ้านของคุณได้” 

“อย่านะพี่น้ำ อย่าเชิญศัตรูเข้าบ้าน” เสียงของธารดังขึ้นในระยะใกล้ ใบหน้าอ่อนเยาว์คล้ายบิดาก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า 

“ธาร นายมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” หญิงสาวหันไปเผชิญหน้ากับน้องชาย 

“ก็ตั้งแต่พี่คุยกับคนแปลกหน้าที่ริมหาดโน้นแล้ว” ธารตอบ สายตาจ้องมองไปยังหนุ่มลาวผู้มีตาสีเขียวอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มผู้นั้นก็จ้องมองธารอย่างไม่ละสายตาเช่นเดียวกัน 

“ก่อนหน้านี้เราไม่ใช่ศัตรูของเจ้า แต่ตอนนี้เจ้าได้สร้างศัตรูขึ้นแล้ว”  ชายหนุ่มแปลกหน้าค่อย ๆ วางร่างที่ดิ้นทุรนทุรายของนายใบ้ลงกับพื้น พร้อมกับพึมพำด้วยภาษาประหลาดบางอย่างที่มนุษย์ไม่อาจจะเข้าใจ นายใบ้ก็หายจากอาการสั่นหรือชักดิ้นชักงอในทันที น้ำลายที่ไหลยืดออกมาจากปากก็ค่อย ๆ หยุดจนหมดไป ดวงตาที่เคยเบิกค้างได้ปิดสนิทลง เหมือนคนที่กำลังนอนหลับฝันอย่างมีความสุขสงบที่สุดในชีวิต 

“นายใบ้ นี่คุณทำอะไรนายใบ้” หญิงสาวนั่งคุกเข่าลงกับพื้นประคองศีรษะของนายใบ้ขึ้นมาอย่างรุกลี้รุกรน 

“นายใบ้ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวคืนนี้หรือพรุ่งนี้เช้าก็หายดี” ธารตอบกลับมาราวกับว่ารู้สาเหตุการป่วยพิลึกของนายใบ้ 

“นายรู้ได้ยังไง” น้ำหันไปถามน้องชาย 

รู้เพราะผมอยู่ตรงนั้น ผมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายบ้าและนายใบ้ ผู้ชายคนนี้เขาก็อยู่ที่นั่นเช่นเดียวกัน” ธารชี้มือไปทางเขา หนุ่มลาวผู้มีตาสีเขียว หรือนาคราชหนุ่มนามว่าอนันดา

“นี่มันเรื่องอะไรกัน” น้ำซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างน้องชายและคนแปลกหน้าโดยมีนายใบ้นอนนิ่งสงบอยู่แทบเท้าของพวกเขา เธอกำลังงงงันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาทั้งสองแสดงออกเหมือนเคยเจอและรู้จักกันมาก่อนหน้านี้ 

“มึงมันขี้ขลาดตาขาว รังแกได้แม้กระทั่งมนุษย์ผู้หญิงผู้ไม่มีทางต่อสู้ หยาบช้า เลวทราม สมควรแล้วที่มึงต้องกลายเป็น 'นาคชั้นต่ำ'”   

ธารพุ่งตัวออกมาจากอาณาบริเวณของรีสอร์ทด้วยใบหน้าแดงก่ำเหมือนคนที่กำลังโกรธสุดฤทธิ์ เขาชาร์ตเข้าใส่อนันดาที่ตั้งรับไว้พร้อมอยู่แล้ว ทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่เป็นการต่อสู้ของนักมวยคนละรุ่น ธาร ยังคงเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่ปร่างผอมบางกว่า ส่วนสูงยังไม่เต็มสัดส่วนนัก กล้ามเนื้อยังคงดูไม่เป็นมัดกล้ามแข็งแรง ต่างจาก อนันดา ซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่และแข็งแกร่งกว่ามาก เขาคือชายหนุ่มผู้มีพลังกำลังและแข็งแรงเต็มวัย 

แววตาที่เกรี้ยวโกรธของอนันดาลุกโชติเป็นเปลวเพลิง ผิวสีขาวซีดของเขาเปล่งประกายขาวผุดผ่อง ผิวสีน้ำผึ้งของธารก็เปล่งประกายเข้มข้นขึ้น แววตาสีเขียวของอนันดาเปล่งประกายไฟเจิดจ้า แววตากลมโตสีน้ำตาลไหม้ของธารก็เปล่งประกายไฟเจิดจ้าเช่นเดียวกัน การต่อสู้ระหว่างสองอมนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้น ณ จุดนี้

อนันดาผลักธารด้วยแรงอันมหาศาลจนธารกระเด็นกลิ้งหลุน ๆ ไปตามพื้นดินบริเวณทางเข้ารีสอร์ท อนันดากระโดดตามไปกระชากคอเสื้อของธารขึ้นมา ธารเอาศีรษะกระแทกเข้าที่ใบหน้าของอนันดาอย่างแรงจนอนันดาถอยไปด้วยความมึนงง แล้วธารก็กระโดดตัวลอยพร้อมยกศอกขึ้นกระแทกเข้าที่ศีรษะของอนันดาอย่างรวดเร็วจนอนันดาล้มลงกองกับพื้น ธารวิ่งเข้าใส่เพื่อจู่โจมต่อด้วยการเตะ แต่อนันดากลิ้งหลบและถีบตัวกระโดดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ธารไม่รีรอ เขาวิ่งตามเข้าไปจู่โจมต่อด้วยหมัดขวา แต่ช้ากว่าอนันดาที่ตั้งการ์ดรับไว้อย่างรวดเร็ว อนันดาสวนกลับจนธารผงะถอยหลัง อนันดาหมุนตัวศอกกลับและธารล้มลงกับพื้นโดยมีเลือดไหลออกมาจากจมูกและปากของเขา

“ธาร!!!” น้ำตะโกนออกไปจนสุดเสียง พร้อมกับวิ่งเข้าไปหาน้องชาย แต่แล้วเธอก็ต้องหยุดอย่างกะทันหันเหมือนโดนเวทมนตร์สะกด เธอขยับเขยื้อนตัวเองไม่ได้อีกต่อไป 

ธารเลื้อยตัวไปมาตามพื้นดิน ท้องฟ้ายามพลบค่ำเริ่มมีสีแดงฉานแต้มที่ปลายขอบฟ้า ฝูงนกต่างพากันบินโฉบไปมาที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง แล้วร่างกายที่เคยเป็นมนุษย์ของธาร ก็ค่อย ๆ ยืดยาวขึ้น ยาวขึ้นเรื่อย ๆ ลำตัวของเขาเปลี่ยนร่างไปเป็นลำตัวยาวสีดำสนิท ขดตัววนไปมา ตามลำตัวสีดำสนิทนั้นเต็มไปด้วยเกล็ดเหมือนปลา ใบหน้าที่ยาวเรียวได้รูปของธารได้เปลี่ยนแปลงไป มันกลายเป็นใบหน้าของอสรพิษ

กรี๊ด!!!  เสียงร้องแหลมของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น น้ำหันไปมองตามเสียงนั้น มันคือเสียงของเด็กสาวร่างเล็ก ผิวสีเข้ม ใบหน้าเล็กเรียว ยืนอยู่เคียงข้างกับชายวัยกลางคนในชุดพราหมณ์สีขาว ทันทีที่อนันดาหันไปมอง ชายวัยกลางคนนั้นก็เอามือปิดที่ดวงตาทั้งสองข้างของสาวน้อยผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตน แล้วหมุนตัวหลบเหมือนเอาตัวเองเข้าเป็นเกราะกำบังให้บุตรสาว 

อนันดาลังเลอยู่เพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้นเหมือนเขากำลังชั่งน้ำหนักว่าจะเล่นงานใครก่อนดีระหว่างธารและฝนกับพ่อของเธอ ในที่สุดอนันดาก็ตัดสินใจยกมือข้างซ้ายขึ้นชี้ตรงไปที่ธารและมือข้างขวาตรงไปที่ฝนกับพ่อ มีแสงสว่างสีขาวปรากฏขึ้นเป็นทางออกไปจากมือทั้งสองข้างของเขา เสียงกรีดร้องของทั้งสามดังก้องไปทั่วบริเวณ น้ำพยายามจะขยับตัวเพื่อเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา แต่เธอไม่สามารถขยับตัวได้ เธอถูกมนต์สะกดให้หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น 

วุ๊ป วุ๊ป วุ๊ป วี๊ด วิี๊ด วี๊ดดดดด!!!  เสียงนกร้องดังก้องมาแต่ไกล 

อนันดายกแขนทั้งสองข้างขึ้นสะบัด ร่างของฝนและพ่อกระเด็นไปทางหนึ่ง ส่วนร่างอันยาวเหยียดของธารกระเด็นไปอีกทาง แต่ทั้งสามร่างกระเด็นเข้าไปสู่บริเวณด้านในของรีสอร์ท อนันดาวิ่งตรงมาที่น้ำด้วยความรวดเร็ว เขาใช้มือสะบัดผ่านหน้าของเธอไปเพียงครั้งเดียว ความรู้สึกต่าง ๆ ก็แผ่ซ่านเข้าสู่ผิวหนัง เธอเริ่มขยับเขยื้อนตัวเองได้อีกครั้ง 

อนันดาใช้เท้าเขี่ยนายใบ้พร้อมกับใช้มือผลักหญิงสาวเข้าไปสู่ด้านในของรีสอร์ทอย่างรวดเร็วและทะนุถนอมที่สุด แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ยังสะดุดล้มกลิ้งลงไปกองกับพื้นดิน ส่วนตัวเขายืนนิ่งอยู่ด้านนอก มือทั้งสองข้างของเขาวางทาบลงไปที่อะไรบางอย่างที่หญิงสาวเคยมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ตอนนี้เธอมองเห็นมันได้ชัดเจนขึ้น มันกลายเป็นกระจกแก้วใสรูปทรงกลมที่ครอบพื้นที่บ้านพักและรีสอร์ทเอาไว้ 

กระจกแก้วใสรูปทรงกลมนั้นเริ่มส่องแสงเป็นประกาย มีแสงสว่างเรืองรองบ่งบอกอาณาเขตเป็นเส้นขอบยาวไปตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขงจนสุดปลายทางของบริเวณรีสอร์ทและบ้านพักส่วนตัวของครอบครัวของเธอ สิ่งนี้ได้ปรากฏขึ้นให้หญิงสาวได้เห็นเป็นครั้งแรก มันคือ เกราะป้องกันอมนุษย์

วุ๊ป วุ๊ป วุ๊ป วี๊ด วิี๊ด วี๊ดดดดด!!!  เสียงนกร้องดังก้องอยู่เหนือครอบแก้วด้านบน นกขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีลำตัวสูงเท่ามนุษย์ผู้ชายที่มีส่วนสูงไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร ร่างกายท่อนบนนั้นเปลือยเปล่า รูปร่างกำยำเห็นมัดกล้ามเนื้อชัดเจน มีปีกขนาดใหญ่ 2 ข้าง งอกขึ้นที่ด้านหลัง ทั้งสองปีกถูกกางออก ความใหญ่โตของมันมากพอจะปิดบังแสงจากดวงอาทิตย์ พื้นดินด้านล่างที่อยู่ใต้ตำแหน่งปีกของมันมืดสนิท เหมือนเงาที่หลบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ นกยักษ์ตัวนั้นพุ่งตัวออกจากที่เกาะไปอย่างรวดเร็ว มันพุ่งเข้าใส่อนันดาที่อยู่ด้านนอกของเกราะป้องกัน อนันดาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเช่นกัน เขาพุ่งตัวลงสู่แม่น้ำโขง เขาเคลื่อนที่ได้เร็วมากจนหญิงสาวมองเห็นมันเป็นเพียงแค่แสงสีเขียววิ่งผ่านสายตา 

แสงสว่างเรืองรองของ เกราะป้องกันอมนุษย์ เริ่มจางลงและหายไปในที่สุด เหลือไว้เพียงความว่างเปล่าในสภาพเดิมที่มันเคยเป็น ชายหนุ่มผู้มีตาสีเขียวก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไอหมอกสีขาวได้จางหายไปพร้อมกับเรือเล็กที่เคยผูกไว้ริมแม่น้ำโขงก็หายไปด้วย นกยักษ์ ที่ส่งเสียงร้อง วุ๊ป วี๊ด และพุ่งเข้าเล่นงานเขาก็บินหายวับไปจนลับสายตาของหญิงสาว 

หญิงสาวรีบวิ่งตรงไปยังร่างของธารซึ่งนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น เขากลับคืนมาเป็นธารในร่างของมนุษย์อีกครั้ง เลือดยังคงไหลซึมอยู่รอบริมฝีปากของเขา หญิงสาวประคองศีรษะของน้องชายขึ้นมาวางไว้บนตักของเธอ พร้อมกับเอื้อมมือไปแกะคราบเลือดที่แข็งติดอยู่รอบจมูกออกให้น้องชาย 

“โอ๊ย มันเจ็บนะพี่น้ำ เบา ๆ หน่อยซิ” เสียงตวาดกลับมาด้วยความเจ็บปวดจากน้องชาย 

หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตา เธอได้น้องชายคนเดิมของเธอกลับคืนมาแล้ว การต่อสู้ระหว่างธารและชายหนุ่มแปลกหน้าผู้นั้นดุเดือดเหลือเกิน แล้วธารก็เป็นรองเขาอยู่มาก แววตาที่เกรี้ยวโกรธและเย็นชาของชายหนุ่มคนนั้นทำให้เธอกลัวเหลือเกิน เธอกลัวว่าธารจะโดนเล่นงานจนถึงชีวิต 

“พี่คิดว่านายจะตายซะแล้ว ตอนที่นายต่อสู้กับผู้ชายคนนั้น แล้วก็ตอนที่นาย ...” เสียงของหญิงสาวได้ขาดหายไปเพราะธารชู้นิ้วชี้ทาบไว้บนปากของเขา เป็นเชิงให้พี่สาวหยุดพูดจาสักครู่ 

ธารมองไปยังร่างกายสองร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง มันคือร่างของฝนและพ่อของเธอ ร่างของสองพ่อลูกยังคงนอนแน่นิ่งเหมือนคนที่กำลังหลับสนิท น้ำผละออกจากน้องชายแล้ววิ่งตรงไปที่ร่างของเพื่อนรัก 

“ฝน ฝน คุณพ่อ ได้ยินน้ำมั้ย” หญิงสาวพยายามเขย่าตัวปลุกสลับกันไปมาระหว่างเพื่อนรักและพ่อของเพื่อน จนสองพ่อลูกขยับตัวลุกขึ้นมาด้วยอาการมึนงง ฝนสะบัดหัวไปมาเหมือนคนโดนวัตถุชนิดแข็งกระแทกเข้าที่ศีรษะอย่างรุนแรง 

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเรากับพ่อถึงได้ลงไปนอนกองกับพื้นแบบนี้” ฝนลุกขึ้นมานั่งกับพื้น พลางปัดเศษใบไม้และกิ่งไม้ที่เกาะติดอยู่ตามเสื้อผ้าและผมออกอย่างงุนงง 

“ก็พี่ฝนหกล้มนะซิ” ธารรีบตอบมาอย่างเร็วพลางขยิบตาให้พี่สาวเป็นเชิงให้รู้ว่าเขากำลังโกหกเพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง 

“ถ้าพี่หกล้มแล้วพ่อของพี่ก็หกล้มพร้อมกันนะเหรอ?” ฝนถามอย่างงุนงงเข้าไปใหญ่พลางหันไปมองหน้าน้องชายของเพื่อนอย่างสงสัย 

“ใช่ ฝนกับพ่อ ทั้งสองคนสะดุดล้มไปพร้อมกัน ฝนจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” หญิงสาวพยายามยืนยันกับเพื่อนรักและหันไปมองหน้าน้องชายซึ่งพยักหน้าให้รู้ว่า เธอได้ทำถูกต้องแล้ว 

“เรากลับบ้านกันเถอะฝน พ่อบอกลูกแล้วว่าเราไม่ควรมาที่นี่” พ่อของฝนพยายามจะลุกขึ้น แต่แล้วก็ทรุดลงไปอีกครั้ง มีเลือดไหลออกมาจากจมูกและปากของเขา 

“พ่อ พ่อเป็นอะไร” ฝนและน้ำอุทานขึ้นพร้อมกัน ทั้งสองพยายามเข้าไปประคองเพื่อให้พ่อของฝนทรงตัวได้ แต่พ่อของฝนสะบัดแขนออกจากน้ำอย่างรุนแรง แล้วหันมองไปที่ธารด้วยแววตาที่แดงก่ำ ธารค่อย ๆ ดึงพี่สาวให้ถอยห่างออกมาอย่างเข้าใจเหตุการณ์ทุกอย่าง 

ต่อไปนี้ พ่อสั่งห้าม!!! ไม่ให้ลูกมาที่บ้านนี้อีก บ้านนี้มีแต่พวกอมนุษย์อยู่กัน” พ่อของฝนหันไปตวาดฝนพลางเดินเขย่งออกไปจากบริเวณนั้น โดยมีฝน บุตรสาวคอยประคองอย่างใกล้ชิด 

“น้ำ เดี๋ยวคืนนี้เราจะโทรหานะ” ฝนหันมาพูดกับเพื่อนรักก่อนประคองพ่อของเธอเดินไกลออกไป 

“จ้ะ” น้ำพยักหน้าตอบรับ 

หญิงสาวยืนมองเพื่อนรักและพ่อของเพื่อนเดินจากไปจนลับตา เธอมั่นใจว่าฝนเห็นภาพที่ธารเลื้อยตัวไปมาบนพื้นดิน ธารกำลังจะแปลงร่างเป็นอสรพิษ แต่มันเกิดอะไรขึ้นกับสมองส่วนนั้นของฝน ฝนฟื้นขึ้นมาพร้อมกับอาการที่คล้ายกับเธอ ฝนเพิ่งจะสูญเสียความทรงจำ(ระยะสั้น) ไป 

“ธาร ..” หญิงสาวหันไปมองหน้าน้องชายอย่างสงสัยใคร่รู้ 

ผมรู้ว่าพี่กำลังจะถามอะไร พี่น้ำกำลังสงสัยใช่มั้ย ว่าผม ..เป็นตัวอะไร?” 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา