นายตัวร้ายกับสาวข้างบ้าน

-

เขียนโดย Annakan

วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 13.35 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,238 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2561 13.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) เจ็ดปี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                                    

        “เอาอันนั้นค่ะ” หญิงสาวบอกพนักงานในร้าน ยืนรอสักครู่กล่องของขวัญสีชมพูหวานแหววก็มาอยู่ในมือ เธอยื่นธนบัตรใบละพันให้คนขายสามใบแล้วก็ได้ใบสีแดงคืนมาสองใบ

        “พี่บาสจะชอบไหมนะแต่ที่แน่ๆ พี่บาสไม่รู้หรอกว่าเพิ่งมาได้เอานาทีสุดท้ายเหมือนเดิม” เธอรำพึงกับตัวเองแล้วยิ้มแป้น ชายหนุ่มที่คบหาตั้งแต่มัธยมปลายจนตอนนี้ทำงานได้สองปีมักจะบ่นเสมอว่าเธอคือพวกที่ไม่มีแผนการในชีวิตชอบมาตัดสินใจตอนไฟลนก้นเกือบทุกครั้ง เธอพยายามวางแผนตามที่เขาบอกแต่ตลอดเจ็ดปีที่คบกันมันก็ไม่ค่อยสำเร็จเท่าไหร่ก็เธอเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรจะให้เปลี่ยนเป็นคนเจ้าระเบียบมีแพลนทุกขั้นตอนในแต่ละวันมันไม่ง่ายเลย

        พรุ่งนี้คือวันครบรอบเจ็ดปีเธอหวังตั้งแต่ตอนฉลองห้าปีว่าเขาจะขอแต่งงาน สมัยเรียนเขาบอกว่าพอมีฐานะมั่นคงก็จะให้เธอสวมชุดเจ้าสาวทันทีซึ่งเธอเห็นว่าเขาก็มั่นคงมาสองปีแล้วทั้งการงานและด้านอื่นๆ เขามีเงินเดือนหลักแสน มีรถยนต์หนึ่งคัน มีบ้านเดี่ยวเล็กๆ หนึ่งหลังแล้วก็มีคอนโดแถวชานเมืองเอาไว้ปล่อยเช่าอีกสองห้อง

        สายตาคนภายนอกส่วนมากรวมถึงตัวเธอด้วยมองว่าเขาพร้อมจะลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวแล้วด้วยวัยที่ย่างเข้าสามสิบห้าปีกับทรัพย์สินมูลค่าหลายล้าน ต้องรอให้พร้อมกว่านี้หรือ ? คำตอบคือใช่

        “ขอพี่ซื้อคอนโดให้ได้ก่อนนะฝ้ายแล้วเราค่อยแต่งงานกัน ฝ้ายก็รู้ถ้ามีเงินนอนกินทุกเดือนไปยันแก่มันปลอดภัยกว่า” นั่นคือคำพูดของเขาตอนฉลองครบรอบห้าปี

        “ไว้ปีหน้านะฝ้าย ปีนี้พี่อยากซื้อคอนโดอีกห้องมันเพิ่งขึ้นใหม่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่จะเปิดอีกสามปีข้างหน้าซื้อไว้ตอนนี้มีแต่ได้กับได้” นั่นคือคำพูดของเขาตอนฉลองครบรอบหกปี

        ปุยฝ้าย ตุงสุวรรณในวัยเบญจเพสไม่เห็นข้ออ้างอะไรอีกในปีที่เจ็ดเพราะเขาก็เลิกเห่อเรื่องคอนโดมาเป็นปีแล้ว รถยนต์ก็เพิ่งถอยคันใหม่เมื่อเดือนก่อนส่วนคันเก่าก็ขายไป เธอคิดติดตลกว่าถ้าเขาจะผัดผ่อนการแต่งงานอีกก็คงเพราะต้องการซื้อกระสวยอวกาศเอาไว้เก็งกำไรแน่นอน

        เธอเขย่ากล่องเล็กๆ แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ มันคือพวงกุญแจทองคำขาวรูปหัวใจสองดวง ดวงแรกมีตัวบีและอีกดวงมีตัวเอฟ เธอหวังว่าเขาจะชอบเพราะมันหรูหราเหมือนทุกสิ่งในชีวิตเขา

 

วันครอบรอบเจ็ดปี

        ปุยฝ้ายตื่นแต่เช้าแล้วลุกไปอาบน้ำ วันนี้น่าจะเป็นวันที่ความหวังตลอดสองปีคงจะเป็นจริงสักที หญิงสาวขัดสีฉวีวรรณทุกส่วนสัดของร่างกายด้วยความพิถีพิถันถึงแม้ว่าจะต้องไปทำงานก่อนก็ตามเพราะกว่าจะได้เจอคนรักก็ตอนค่ำแต่วันพิเศษก็ต้องพิเศษตั้งแต่ลืมตาและเธอจะพกอุปกรณ์อาบน้ำไปอาบที่โรงแรมหลังเลิกงานด้วย

        ใครๆ มักคิดว่าปุยฝ้ายเป็นชื่อเล่นแต่มันคือชื่อจริงส่วนชื่อเล่นที่พ่อกับแม่เรียกก็คือฝ้ายแต่คนส่วนใหญ่ก็เรียกเธอว่าปุยฝ้ายกลายเป็นว่าเรียกกันซะเต็มยศเลยแต่เธอก็ไม่มีปัญหาอะไรจะเรียกสั้นเรียกยาวเธอก็ชอบอยู่ดีเพราะชื่อนี้ผู้มีพระคุณมอบให้เธอตั้งแต่เกิด

        ปุยฝ้ายเกิดและเติบโตที่จังหวัดเชียงรายเธอเข้ามากรุงเทพตอนเรียนมัธยมต้นแล้วก็อยู่ที่นี่มาตลอดแต่ก็ยังกลับบ้านเกิดสม่ำเสมอ พ่อกับแม่ของเธอทอผ้าฝ้ายขายเพื่อส่งเสียให้ลูกสาวเพียงคนเดียวได้ร่ำเรียนสูงๆ นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อและเธอรักผ้าฝ้ายยิ่งกว่าอะไร เสื้อผ้าส่วนมากแม่จะตัดเย็บแล้วส่งมาให้ซึ่งเธอรักษาและดูแลอย่างดีทุกชิ้นเวลาซักก็ซักด้วยมือไม่โยนลงเครื่อง

        เรื่องนี้เป็นตลกร้ายระหว่างเธอกับคนรัก ช่วงแรกๆ ที่คบกันเขาบอกว่าเธอแต่งตัวเชยไม่เข้าท่าเพราะไม่ยอมใส่ของแบรนด์เนมหรือเสื้อผ้าตามร้านค้าทั่วๆ ไป พอเธอบอกว่าชุดนี้แม่เป็นคนทำให้ทุกขั้นตอนตั้งแต่เก็บฝ้าย นำมาปั่น ทอเป็นผืนแล้วตัดเป็นชุด เขาก็อึ้งไปแล้วก็ไม่เคยติเตียนอะไรอีกแต่สายตาของเขาก็บอกแทนทุกอย่าง ชุดบ้านๆ เชยๆ ไม่มีวันสวยงามเท่าชุดแบรนด์เนมราคาแพง

        เธอยอมโอนอ่อนตามเขาหลายอย่างเช่นยอมไว้ผมยาวทั้งที่ชอบผมซอยสั้น ลดความกระโดกกระเดกลงเพิ่มความเป็นกุลสตรีให้มากขึ้นและอีกมากมายหลายข้อ ถ้าจะมาจำกัดการแต่งตัวอีกก็คงจะเยอะไปหน่อยและเขาก็รู้ดีว่าข้อนี้เธอไม่ยอมแน่ๆ แต่เขาไม่ได้มีแต่ข้อเสียหรอกนะถ้าเขาเป็นคนไม่ดีจะคบกันมาตั้งเจ็ดปีได้ยังไง

        ข้อดีของเขาก็คือพูดเพราะ ใจเย็น ไปไหนด้วยกันเขาจะมารับมาส่งเสมอและไม่เคยให้ออกเงินสักบาทเขาบอกว่ามันคือหน้าที่ของผู้ชายที่ต้องดูแลผู้หญิงซึ่งเธอแพ้ให้กับคำพูดนี้ราบคาบ มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ยอมเขาเกือบทุกอย่างเพราะถ้าเขาไม่รักจะมาทำแบบนี้ให้ทำไม

        “แฮปปี้ แอนนิเวอซารี่จ้ะ” เข็มหอมหรือพี่เข็มของน้องๆ หัวหน้าแผนกต้อนรับ ทักทายเด็กสาวที่เดินยิ้มแป้นมาแต่ไกล

        “ขอบคุณค่ะพี่เข็ม” ปุยฝ้ายกล่าวกับหัวหน้าแผนก เธอทำงานตำแหน่งพนักงานต้อนรับที่โรงแรมห้าดาวกลางเมืองกรุงมาได้สองปีกว่าแล้ว พี่ๆ ที่ทำงานด้วยน่ารักและใจดีกับเธอมาก

        “ไปฉลองที่ไหนกันล่ะ” เข็มหอมถามไถ่ ที่เธอจำได้ว่าเป็นวันครบรอบของเพื่อนร่วมงานก็เพราะวันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอด้วยแต่เธอแต่งมาห้าปีแล้ว

        “บุรีธาราค่ะพี่เข็ม ดูจากในรูปสวยมากเลยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา”

        “น่าอิจฉาจัง เออ ! ปุยฝ้าย พี่ฝากดูแลก่อนนะ จะไปคุยกับแม่บ้านเรื่องจัดดอกไม้ต้อนรับลูกค้าที่มาจะมาค่ำนี้” เข็มหอมบอกลูกน้องแล้วเดินเลี่ยงออกมาเพราะไม่อยากให้เธอจับพิรุธได้

        ผู้จัดการห้องอาหารบุรีธาราคือเพื่อนสนิทของเข็มหอม ทั้งคู่เพิ่งคุยกันวันก่อนว่าห้องอาหารคืนนี้โดนเหมาทั้งหมดเพื่อจัดงานแต่งให้ลูกค้าซึ่งมันเป็นเรื่องปกติมากแต่ที่ไม่ปกติก็คือ ทำไมแฟนของปุยฝ้ายถึงบอกว่าจองโต๊ะไว้กับร้านนั้นซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่คืนนี้ทั้งคู่จะไปใช้บริการที่นั่น

        ปุยฝ้ายทำงานด้วยความแช่มชื่นตลอดทั้งวันโดนไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่นั่งข้างๆ มีอาการกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข เข็มหอมอยากถามปุยฝ้ายเหลือเกินแต่คิดว่าไม่ควรทำให้เด็กสาวกังวลเกินไป บางทีปุยฝ้ายอาจฟังชื่อร้านผิดหรือแฟนหนุ่มอาจจะทำเซอร์ไพรส์ซ้อนเซอร์ไพรส์พาไปร้านอื่นแทนก็เป็นได้

        “ไปเตรียมตัวเถอะปุยฝ้าย” เข็มหอมบอกพนักงาน

        “เพิ่งสี่โมงเอง พี่เข็มลืมเหรอคะว่าฝ้ายเลิกงานห้าโมง”

        “ไม่ได้ลืมจ้ะแต่อยากให้ไปแต่งตัวทำสวยก่อน ไปใช้ห้องน้ำในห้องประชุมได้เลยพี่อนุญาต”

        “ขอบคุณค่ะพี่เข็ม” ปุยฝ้ายกอดเอวผู้จัดการใจดีแล้วหยิบข้าวของพุ่งตัวไปที่ห้องประชุมด้วยความรวดเร็ว ในใจยังอดคิดไม่ได้ว่าถ้าพี่บาสมาเห็นเธอวิ่งเป็นจรวดแบบนี้คงโดนเอ็ดเอาแน่ๆ

        ปุยฝ้ายอาบน้ำใหม่อีกครั้งแถมยังเอาสครับเกลือกลิ่นวานิลลาสุดเซ็กซี่มาขัดจนทั่วแล้วทิ้งไว้สิบนาที พอล้างออกผิวกายทั้งตัวก็นุ่มเนียนและหอมเหมือนขนมหวานไม่มีผิด พี่บาสซื้อชุดอาบน้ำเซทนี้ให้ตอนวันวาเลนไทน์เธอยังจำได้ดีว่าการร่วมรักคืนนั้นเร่าร้อนขนาดไหนเพราะเขาคลั่งไคล้กลิ่นของมันเหลือเกิน

          “Give your all to me. I'll give my all to you. You're my end and my beginning” เสียงเพลงรักหวานจับใจดังมาจากมือถือของปุยฝ้าย เธอวางขวดน้ำหอมลงแล้วรีบกดรับสายทันที

เริ่มต้นสายสนทนา

ปุยฝ้าย: สวัสดีค่ะพี่บาส (เสียงของเธอสดใสราวกับระฆังเงิน เขาคงมาถึงแล้วแน่ๆ)

บาส: ฝ้าย คือพี่…

ปุยฝ้าย: มีอะไรเหรอคะพี่บาส (ปกติพี่บาสเป็นคนพูดจาชัดเจนไม่มีมาอ้ำอึ้งให้เสียเวลา)

บาส: พี่ไปไม่ได้แล้วล่ะคืนนี้

ปุยฝ้าย: ทำไมคะ มีงานด่วนเหรอคะ ไม่เป็นไรค่ะไว้เราฉลองวันหลังก็ได้ (ใช่ว่าเขาไม่เคยเบี้ยวนัด เธอชินแล้ว)

บาส: เปล่าครับ พี่หมายถึงไปไม่ได้ตลอดไป

ปุยฝ้าย: ยังไงคะพี่บาส ฝ้ายไม่เข้าใจ

บาส: พี่เจอคนอื่นที่ดีกว่า พี่ขอโทษนะ

ปุยฝ้าย: พี่บาสอย่าล้อเล่นแบบนี้ค่ะ

บาส: พี่ไม่ได้ล้อเล่น พี่เจอคนที่เหมาะสมกว่า ขอโทษนะ

ปุยฝ้าย: พี่คบกับฝ้ายมาเจ็ดปี พี่ไปเจอคนอื่นตอนไหนคะ

บาส: เมื่อต้นปี ทางบ้านพี่เขาก็เห็นชอบด้วย เราจากกันด้วยดีนะ

ปุยฝ้าย: ไม่ ฮือๆๆ พี่บาสทำยังงี้กับฝ้ายไม่ได้ เรารักกันมาตั้งเจ็ดปีพี่เห็นคนอื่นเหมาะสมกว่าฝ้ายได้ยังไงรู้จักกันยังไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ

บาส: ความรักมันไม่เกี่ยวกับเวลาหรอกฝ้าย แค่นี้นะ

ปุยฝ้าย: พี่บาส ฮือๆๆๆ ฝ้ายขอโทษ ฝ้ายจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น อย่าทิ้งฝ้ายไป

บาส: ไม่ต้องหรอกฝ้ายเพราะพี่ไม่ได้รักฝ้ายแล้ว แค่นี้นะ

ปุยฝ้าย: พี่บาส อย่าเพิ่งวาง ฮือๆๆๆๆ

          ปุยฝ้ายโทรกลับไปเป็นสิบๆ ครั้งก็โดนตัดสายทิ้งและสุดท้ายเขาก็ปิดเครื่อง หญิงสาวนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตะวันลาลับขอบฟ้า ชุดเดรสสีหวานของแบรนด์เนมหรูหรายับยู่ยี่ ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเลอะเทอะไม่เหลือเค้าความงามแม้แต่นิด

          “ปุยฝ้าย ยังอยู่ในนั้นรึเปล่า” เข็มหอมเข้ามาตรวจดูที่ห้องประชุมเพื่อความแน่ใจเพราะเธอยังไม่เห็นลูกน้องเดินออกไปเลย

          “ปุยฝ้าย เปิดประตูให้พี่หน่อย” เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นเข็มหอมก็แน่ใจว่าปุยฝ้ายยังอยู่ในนั้น

          “พี่เข็ม ฮือๆๆๆ” ปุยฝ้ายโผเข้ากอดหัวหน้าแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นอีกเป็นชั่วโมง

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา