สยบรักเมียบำเรอ

7.2

เขียนโดย Phaky

วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.23 น.

  41 ตอน
  3 วิจารณ์
  42.71K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มกราคม พ.ศ. 2561 13.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) หนีไม่รอด!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เว็บขีดเขียน

 


 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูหนักๆดังขึ้นในช่วงสายของวันใหม่ คนเพิ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมงผงกศีรษะขึ้นจากหมอนพลางปรือตาขึ้นมองทางต้นเสียงอย่างงัวเงียจัด นึกสาปแช่งในใจว่าใครกันนะช่างเข้ามากวนความสุขแสนสบายของเขาตอนนี้

‘ความสุข? ฉิบหาย!’

และในวินาทีต่อมาอาชาวินก็ตื่นเต็มตาหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเมื่อสำนึกได้ว่า ณ เวลานี้เขานอนอยู่บนเตียงกว้างในห้องนอนของช่ออัญชันมิใช่ห้องพักส่วนตัวในโรงแรมหรูของตัวเอง พลันสายตาคมจึงมองไปข้างตัวโดยอัตโนมัติ ภาพที่เห็นเต็มสองตาช่วยตอกย้ำความจริงว่าเขายังอยู่ในห้องนอนของช่ออัญชันหลังจากอาบน้ำชำระล้างคราบเหงื่อไคลให้ร่างบางที่หมดเรี่ยวแรงแล้วอุ้มพามานอนบนเตียง

แต่สิ่งที่เขาไม่ได้ทำก็คือรีบพาตัวเองปีนบันไดไม้ไผ่ที่พาดอยู่กับหน้าต่างกลับออกไปอย่างที่คิดไว้ก่อนหน้า นั่นเพราะสองตามองเห็นว่าร่างเล็กๆเปลือยเปล่านอนหดขาขดตัวกลมเหมือนคนหนาวจัดที่ต้องการไออุ่นจนดูน่าเวทนานัก อีกทั้งเรือนร่างที่เคยนวลเนียนกลับมีแต่รอยแดงสลับเขียวเป็นจ้ำๆไปทั่วทั้งตัวจนกลัวว่าหญิงสาวจะจับไข้เพราะเจอบทเรียนพิศวาสหักโหมของเขา อาชาวินจึงเลือกจะทิ้งตัวลงนอนเคียงข้างแล้วดึงร่างบางเข้ามานอนซุกอกกว้างมอบความอบอุ่นให้ช่ออัญชันรับมันไป ตั้งใจว่าจะนอนอยู่แบบนี้สักสิบยี่สิบนาทีรอให้มั่นใจว่าผู้หญิงในอ้อมแขนไม่ได้เป็นอะไรแล้วจะรีบกลับ แต่ไม่รู้ว่านอนอีท่าไหนเขาถึงได้หลับสนิทลืมเลือนเรื่องสำคัญจนกำลังจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาแบบนี้

 “ช่างแม่ง! อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”

ร่างสูงสีแทนที่นั่งกอดเข่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ถอนหายใจเฮือกออกมายาวๆอย่างตัดสินใจเด็ดขาด ทั้งที่ความจริงภายในใจยังมีความกังวลหนักอึ้งแทรกซึมอยู่เพราะคิดว่าป่านนี้บิดาคงรู้แล้วว่าเมื่อคืนเขากลับมานอนที่นี่ และยิ่งมั่นใจเมื่ออาชาวินลุกขึ้นทั้งเนื้อตัวโล่งโจ้งเดินออกไปมองตรงหน้าต่างที่เขาแอบปีนเข้ามาเมื่อคืนแล้วไม่เห็นเจ้าตัวช่วยสำคัญอย่างบันไดไม้ไผ่ที่เขาพาดมันไว้กับขอบหน้าต่าง แต่ตอนนี้มันไม่อยู่ สงสัยคุณอัลเฟรดคงให้คนงานมาเอาไปเก็บเข้าที่แล้วกระมัง

ร่างสูงจึงเดินกลับมาหย่อนร่างทรุดนั่งที่ปลายเตียง ก่อนหันไปมองร่างเล็กที่ยังนอนหลับสนิทด้วยสายตาชนิดหนึ่ง มือหนาเสยผมยุ่งเหยิงแรงๆ เป่าปากไล่ลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่คล้ายเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้าย แล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำคว้าผ้าเช็ดตัวสีขาวที่แขวนไว้ข้างผนังมาพันกายท่อนล่างลวกๆ จากนั้นจึงเดินกลับมาที่เตียงนอนแล้วดึงผ้าห่มนวมผืนหนาคลุมร่างบางจนถึงต้นคอ และก้าวยาวๆไปที่ประตูห้องนอน เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูหนักๆอีกครั้ง

“อรุณสวัสดิ์ฮะ แด๊ด”

แล้วก็ไม่ผิดจากที่คาดเดา เพราะเมื่อมือหนาหมุนลูกบิดดันบานประตูออกกว้างก็เจอกับร่างสูงองอาจของคุณอัลเฟรดยืนสองมือไขว้หลังอยู่ตรงนั้น ดวงตาสีเทาเข้มเหลือบสายตาขึ้นประสานสายตากับลูกชายตัวดีซึ่งอาชาวินก็ไม่คิดหลบ ชายหนุ่มคิดว่าคงถูกบิดาด่าทอเสียงลั่นบ้าน แต่ทุกอย่างกลับเงียบเฉย ไม่มีแม้คำถามว่าทำไมเขาถึงมายืนอยู่ในห้องของช่ออัญชัน คนเป็นลูกจึงทักทายออกไปแก้เก้อ แต่ก็ยังไร้สัญญาณตอบกลับเช่นเคย คุณอัลเฟรดเฉยเสียจนอาชาวินต้องหรี่ตามองลึกเข้าไปในดวงตาของบิดาอีกครั้งเพื่อค้นคว้าว่าคุณอัลเฟรดกำลังคิดอะไรอยู่ ในดวงตาผ่านร้อนผ่านหนาวมานานไร้ร่องรอยขุ่นเคือง ไม่มีแววของความโกรธเกรี้ยวไม่พอใจ แต่ไม่รู้ทำไมอาชาวินถึงรู้สึกหนาวยะเยือกไล่ตั้งแต่ต้นคอลามไปจนถึงกระดูกสันหลังเหมือนถูกนาบด้วยดาบคมกริบแช่น้ำแข็งก็ไม่ปาน

“ไปอาบน้ำซะให้เรียบร้อย”

น้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ของคนที่ยืนไขว้มือไว้ด้านหลังเอ่ยบอก นั่นคือประโยคแรกที่อัลเฟรดยอมเปิดปากพูดกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนหลังจากที่ยืนมองหน้ากันอยู่นานจนบรรยากาศที่ปกคลุมอยู่รอบๆตัวอึดอัดเหมือนก้อนเมฆดำทะมึนที่เกาะกลุ่มลอยตัวอยู่บนท้องฟ้าก่อนที่พายุลูกใหญ่กำลังจะมาเยือน ทำเอาอาชาวินมึนงงทำตัวไม่ถูก

“แด๊ดครับ…”

“อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง นายอำเภอจะมาจดทะเบียนให้แกกับหนูอัญชันที่นี่”

“จดทะเบียน!”

“อืม! ไม่ต้องทำหน้าตกใจแบบนั้น แกรู้ดีอยู่แล้วว่าผลของการกระทำเมื่อคืน มันจะออกมาเป็น…แบบไหน”

คราวนี้สายตาของคุณอัลเฟรดที่เคยราบเรียบกลับแข็งกร้าวดุดัน ดวงตาคู่นั้นจ้องมองลูกชายตัวแสบตาไม่กะพริบ ปากไม่ได้พูดถึงเรื่องที่อาชาวินปีนเข้าหาช่ออัญชันเมื่อคืนเพราะเกรงว่ายิ่งพูดยิ่งนึกถึงแล้วความโมโหมันจะพุ่งพรวดจนเกิดสงครามกลางบ้านซะก่อน อัลเฟรดจึงเลือกที่จะสื่อสารผ่านดวงตา ดวงตาสีเทาเข้มกำลังต่อว่ารุนแรงถึงพฤติกรรมเลวทรามของลูกชาย ทั้งที่เขาสั่งไว้แล้วว่าห้ามทำกับช่ออัญชันแบบนี้อีกเป็นอันขาด แต่อาชาวินก็ยังขัดคำสั่ง เพราะฉะนั้นมันจะต้องรับผิดชอบอย่างที่เขาได้ลั่นวาจาไว้เมื่อวานก่อนที่จะแยกย้ายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

“แต่ผมไม่…”

“เดี๋ยวนี้! อาชา อย่าให้แด๊ดต้องพูดซ้ำสอง แม่เนียม เดี๋ยวเข้าไปดูหนูอัญชันให้รีบอาบน้ำอาบท่าแล้วพาลงไปข้างล่างด้วย เกรงใจนายอำเภอ ไม่อยากให้ท่านมารอนานๆ”

“เดี๋ยวสิแด๊ด! ผมไม่ยอมนะ เรื่องอะไรแด๊ดต้องบังคบผมแบบนี้ด้วย มันเกินกว่าเหตุไปหน่อยนะครับ”

“แล้วเรื่องอะไรที่แกต้องเข้าหาหนูอัญชันแบบนี้ แกโตแล้วนะอาชา แกต้องรู้สิว่าอะไรควรไม่ควร หนูอัญชันเป็นผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียหายทุกอย่าง ที่สำคัญ! เมื่อวานแด๊ดบอกไปแล้วว่าถ้าแกยังทำแบบนี้แล้วจะเป็นยังไง และแกก็รับปากดิบดี ถามหน่อยสิ! ว่ามันเกินไปตรงไหนที่ฉันให้แกรับผิดชอบหนูอัญชันด้วยการจดทะเบียน ฮะ! อาชา ตอบฉันมาซิว่ามันเกินไปตรงไหน!”

ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนของจะขึ้น  ใบหน้าของคุณอัลเฟรดแดงก่ำ ดวงตาสีเทาเข้มวาวโรจน์แลดูน่าเกรงขาม สองมือกำหมัดเข้าหากันแน่นจนปลายเล็บจิกเข้าเนื้อยอมเป็นฝ่ายเจ็บเสียเอง เพราะหากไม่ทำแบบนี้ อัลเฟรดเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะควบคุมอารมณ์หักห้ามใจไม่ให้สองมือคู่นี้ทำร้ายร่างกายลูกชายได้หรือไม่

“แต่แม่นั่นเป็นแค่…”

“แค่อะไร!”

“ก็แค่ผู้หญิงจรจัดไร้ที่ซุกหัวนอนที่แด๊ดให้ความช่วยเหลือ ทำไมต้องให้ค่าให้ความสำคัญด้วย ฟาดเงินไปสักก้อนสองก้อนก็จบ”

เผียะ!

“ฉันจำได้ว่าไม่เคยสอนให้แกดูถูกคนอื่นแบบนี้นะ อาชา”

ทันทีที่อาชาวินพูดจบ ฝ่ามือของอัลเฟรดจึงตวัดฟาดเข้าซีกแก้มของลูกชายเต็มแรง ความรู้สึกผิดหวัง โกรธ และเสียใจปะปนกันให้วุ่น จำได้ว่าตั้งแต่อาชาวินเกิดมาเขาไม่เคยใจแข็งตีลูกชายได้สักแปะไม่ว่าอาชาวินจะทำผิดมากมายขนาดไหน แต่มาวันนี้มันอดไม่ไหวจริงๆ เขาไม่เคยคิดว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่เขาฟูมฟักเลี้ยงดูเป็นอย่างดีจะกลายเป็นคนตีค่าตีราคาชีวิตของคนอื่นแบบนี้

“นายใหญ่!”

ป้าเนียมอุทานเสียงลั่นเมื่อเห็นอัลเฟรดตบหน้าของอาชาวินฉาดใหญ่จนหน้าหัน อีกทั้งเสียงฝ่ามือกระทบกับผิวแก้มของอาชาวินยังดังให้ได้ยินชัดเจนบอกให้รู้ว่าน้ำหนักมือของอัลเฟรดนั้นไม่เบาเลย หัวหน้าแม่บ้านเบิกตากว้างอ้าปากค้างตกใจจนต้องยกสองมือปิดปาก

“นี่แด๊ด…ตบหน้าผมเหรอ”

 อาชาวินหมุนใบหน้ากลับมาหาบิดาช้าๆแล้วยกมือขึ้นประคบซีกแก้มข้างที่ถูกตบอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อนักว่าอัลเฟรดจะกล้าลงมือทำกับเขาแบบนี้ เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนเขาตั้งตัวเตรียมใจรับไม่ทัน แต่อาการชาหนึบที่เกิดขึ้นบนซีกแก้มที่มือกุมมันยืนยันได้ดี ดวงตาคู่คมจึงทอดมองบิดาด้วยสายตาตัดพ้อระคนผิดหวังอย่างที่สุด เพราะรู้ดีว่าพ่อรักเขามาก จำได้ว่าตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยถูกพ่อตีเลยสักครั้ง แต่มาวันนี้กลับตบหน้าเขาเต็มแรง มันหมายความว่าอย่างไร

“นี่แด๊ดเห็นคนอื่นดีกว่าผมงั้นเหรอ”

เมื่อตั้งสติได้อาชาวินจึงใช้ลิ้นดุนดันกระพุ้งแก้มเพราะอาการชาเริ่มหายไปและค่อยๆถูกแทนที่ด้วยความปวดหนึบ อารามน้อยใจที่ถูกบิดาลงโทษทั้งที่ไม่เคยทำมาตลอดชีวิตและเหมือนจะมอบความรักความห่วงใยให้คนอื่นมากกว่าทำให้ความผิดหวังน้อยใจที่ส่งผ่านสายตาแปรเปลี่ยนเป็นเย้ยหยันดูแคลนเมื่อคิดว่าบิดาของเขาเข้าข้างคนอื่น เห็นผู้หญิงจรจัดคนนั้นดีกว่าลูกชายของตัวเอง พลางนึกชิงชังผู้หญิงที่นอนหลับสนิทอยู่ในห้องที่เป็นสาเหตุทำให้เขามีปัญหากับคุณอัลเฟรดถึงขั้นถูกลงไม้ลงมือ

“แกโตแล้วนะอาชา ทำไมถึงได้พาลพาโลเป็นเด็กๆ ที่ฉันตบแก ก็เพราะแกมันทำตัวแย่”

อัลเฟรดถอนหายใจยาวๆเมื่อเจอสายตาและคำพูดตัดพ้อต่อว่าของบุตรชาย นี่อาชาวินมันคงไม่รู้เลยสินะว่าสายตาของมันทำให้เขาเจ็บปวดในใจมากมายขนาดไหน เจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคงไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาเกลียดมือตัวเองข้างที่ใช้มันตบหน้าลูกจนแทบอยากตัดมันทิ้งอยู่แล้ว แม้มีถ้อยคำมากมายอยากจะบอกให้เจ้าลูกชายตัวดีรู้ว่าเขาเสียใจกับคำพูดและการกระทำ แต่อัลเฟรดกลับเลือกที่จะเงียบ เพราะในเวลานี้เขาไม่ควรโอ๋จนทำให้ลูกเกิดความเคยตัวเหมือนที่ผ่านมาจนกลายเป็นคนเอาแต่ใจไร้ความรู้ผิดรู้ชอบแบบนี้ แต่สิ่งที่เขาต้องทำคือทำใจแข็งและยืนยันคำพูดของตัวเองที่ว่าอาชาวินจะต้องจดทะเบียนสมรสเพื่อรับผิดชอบช่ออัญชัน

“ใช่สิ! ผมมันแย่ ผมมันเลว ผมมันไม่ได้เรื่อง มีคนโปรดคนใหม่แล้วนี่ อยากจะพะเน้าพะนอกันแค่ไหนก็เอาที่สบายใจเลย อยากให้ผมจดทะเบียนกับแม่นั่นใช่ไหม ได้! แล้วแด๊ดจะได้รู้ว่าที่แด๊ดบังคับให้ผมต้องฝืนใจตัวเองแบบนี้แล้วผลมันจะเป็นยังไง รอดูความหายนะของยายนั่นได้เลย”

พูดจบอาชาวินก็ยืนจ้องหน้ากับบิดา ไม่ใช่แค่คำพูดเท่านั้น แต่แววตาของชายหนุ่มก็ยังแข็งกร้าวดุดันด้วยความไม่พอใจ อีกทั้งยังทิ้งท้ายความอาฆาตแค้นให้อัลเฟรดรับรู้อีกด้วยว่าต่อจากนี้คงไม่มีคำว่าความสงบสุขเกิดขึ้นในชีวิตของว่าที่ลูกสะใภ้นายใหญ่เป็นแน่ ก่อนที่อาชาวินจะเดินออกมาจากห้องนอนของช่ออัญชันเพื่อกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องนอนของตัวเอง โดยไม่ยอมหันกลับมามองอัลเฟรดที่ยืนเม้มปากแล้วมองตามไปจนสุดสายตานั่นเลย

“เนียม เดี๋ยวเข้าไปดูหนูอัญชันหน่อยนะ ปลุกแกไปอาบน้ำอาบท่าแล้วรีบพาลงไปหาฉันที่ห้องรับแขก”

“ได้ค่ะนายใหญ่”

อัลเฟรดมองตามลูกชายไปจนลับสายตา ก่อนหันมาสั่งงานกับป้าเนียมที่ยืนทำหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกอยู่ข้างๆกัน ร่างองอาจถอนหายใจออกมาอีกเฮือกด้วยความหนักใจเพราะรู้นิสัยของลูกชายตัวเองเป็นอย่างดีว่าในยามโกรธเกรี้ยว อาชาวินมีความร้ายกาจมากมายมหาศาลขนาดไหน สงสารก็แต่หนูอัญชันที่คงต้องพบเจอกับความร้ายกาจของอาชาวินไปเต็มๆ แต่ถึงรู้อย่างนั้นแล้วจะให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อสิ่งที่อาชาวินกระทำกับช่ออัญชัน มันคือความเสียหายเกินกว่าที่เงินจะชดใช้ เพราะฉะนั้นการแต่งงานเป็นคู่ผัวตัวเมียนี่แหละคือทางออกที่ดีที่สุด

อัลเฟรดเชื่อมั่นแบบนั้น สัญชาตญาณของเขาเชื่อถือได้เสมอ!

**********************************************

ฮั่นแน่! รู้นะว่าสาวๆสะใจที่อิพี่อาชามันโดนคุณแด๊ดจับได้ เราควรยืนเท้าสะเอวอ้าปากกว้างๆหัวเราะให้สุดเสียง หรือยืนทำหน้าเศร้าไว้อาลัยให้สถานะโสดที่กำลังจะหลุดลอยของพี่เค้ากันดีล่ะเนี่ย

สำหรับไร้ท์นั้นมี 3 คำ ที่อยากมอบให้คือ สม-น้ำ-หน้า วะฮ่าฮ่า แล้วสาวๆล่ะคะ ถ้าขอ 3 คำที่อยากบอกพี่อาชาจะพูดว่า...

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา