ถ้าอีก10วันโลกจะหายไป ผมจะทำยังไงงั้นเหรอ?

-

เขียนโดย Hachitobu

วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.43 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,409 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 15.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ถ้าอีก 10 วันโลกจะหายไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

             ในสถานที่ที่ทุกอย่างได้พังทลายไปแล้ว ตัวผมผู้ที่เป็น ‘แฮกเกอร์อัจฉริยะ’ โดนถามคำถาม 1 คำถาม

             นั่นคือ

             ‘ถ้าโลกจะหายไปใน 10 วัน แล้วนายจะทำยังไงงั้นเหรอ?’

โตเกียว 19/01/2035 7.11 น.

 

             “อั๊ก”

            ผมเผลอส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัวขณะกำลังพยายามคลานออกมาจากซากปรักหักพัง น่าจะเพราะอาการบาดเจ็บที่ขาขวาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อคืน

             ขาน่าจะหัก

             ตอนนี้ญี่ปุ่นอยู่ในฤดูหนาว โชคดีที่เสื้อผ้าของผมยังอยู่ในสภาพดีจึงพอกันหนาวได้ หลังจากพักให้อาการบาดเจ็บทุเลาลง ผมก็เลือกที่จะคลานไปนั่งพิงกับซากของบ้านตัวเองที่พอใช้บังลม

             หลังจากนี้ต้องทำอะไรต่อ? ผมคงต้องเรียกคนมาช่วยสินะ?

             พอมองไปรอบๆเพื่อหาคนช่วยก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่งนั่งเล่นเกมอยู่บนซากของตึกที่ห่างไปประมาณ 7 เมตรพร้อมกับแกว่งขาไปมา

 

             ดูภายนอกก็น่าจะอายุพอๆกับผมและอีกเรื่องที่น่าแปลก

             ‘เธอดูคล้ายผมอย่างน่าประหลาด’

             ไม่ว่าจะมองดูกี่ครั้งก็เห็นเป็นแบบนั้น ทั้งผมสั้นสีดำตาสีเขียว ทั้งเรื่องที่ของที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำ-เขียว เรื่องที่ใส่เสื้อแขนยาวมีฮูด เรื่องที่จะคล้องหูฟังไว้ที่คอ ความสูงก็ดูไม่ต่างกันมาก และก็เรื่องที่จะชอบนั่งเล่นเกมอยู่บนที่แปลกๆ

             ที่เธอคล้ายผมขนาดนี้ก็น่าสงสัย แต่ตอนนี้อันดับแรกต้องเรียกเธอมาช่วยผมให้ได้

             “...ช่วยด้วย...”

             เสียงที่ผมเปล่งออกมาเบาเกินไป เธอนั่งอยู่ห่าง7เมตร เสียงเบาขนาดนี้เธอคงไม่ได้ยิน

             “ตื่นแล้วเหรอ?”

             ได้ยินงั้นเหรอ? ค่อยยังชั่ว ไม่ค่อยอยากขอให้คนอื่นมาช่วยเท่าไหร่แต่ก็ดีแล้วล่ะไม่งั้นผมคงได้นอนอยู่นี่อีกเป็นวันแน่ๆ เลวร้ายที่สุดก็คงจะอดตายอยู่นี่นั่นแหละ

             คงเป็นการตายที่น่าสมเพชใช้ได้สำหรับ ‘อาชญากร’

             แต่เดี๋ยวสิเมื่อกี๊เธอพูดว่า ‘ตื่นแล้วเหรอ?’ ใช่รึเปล่า

             “ให้ผู้หญิงนั่งรอนานขนาดนี้นายนี่ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยนะ”

             เอ๋? หมายความว่าเธอนั่งรอผมอยู่งั้นเหรอ?

             “เอ่อ…ไม่รู้หรอกนะว่าเธอพูดเรื่องอะไรแต่ก่อนอื่นมาช่วยผมก่อนได้ไหมครับ”

             “ตายจริง?! แต่ก่อนนายสุภาพขนาดนี้เลยเหรอ?! หรือฉันเข้าใจอะไรผิดไป?”

             อะไรกันยัยนี่ ไม่ใช่ว่าเราพึ่งเจอกันครั้งแรกหรอกเหรอ พูดเหมือนเรารู้จักกันมานานอย่างนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนพึ่งเจอกันพูดหรอกนะ

             แต่เธอใช้คำว่า ‘แต่ก่อน’ หรือว่าผมจะเคยรู้จักเธอ?

             “เอาเป็นว่าฉันจะช่วยนายแล้วกัน หลังจากนั้นยังมีเรื่องต้องคุยกันอยู่ อย่าหนีไปไหนซะล่ะ”

             หลังเธอพูดจบเธอก็เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเอามือทั้งสองข้างนั้นมาจับขาขวาผม

             “อั๊ก”

             ผมเผลอส่งเสียงออกมาอีกครั้งเพราะความเจ็บ

             “อะไรกันเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ? แค่ขาหักมันไม่ตายหรอกน่า”

             ก็จริงที่ขาหักมันไม่ถึงตายแต่เล่นเอามือมาจับแผลคนอื่นตรงๆมันก็เจ็บเหมือนกันนะ

             “มันไม่ตายก็จริ-”

             ไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบ จู่ๆก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมาที่มือของเธอ

             “ไหนลองยืนขึ้นดูสิ”

             “ยืนขึ้นเหรอ? แต่ขา”

             “บอกให้ยืนก็ยืนสิ”

 

             จากการคาดเดาสถานการณ์ตอนนี้ถ้าผมไม่ทำตามเธออาจจะเอาเกมในมือนั่นมาฟาดก็ได้ ถ้าเป็นงั้นอาการบาดเจ็บผมมันอาจจะเลวร้ายลงไปอีก ตอนนี้คงต้องทำตามที่เธอบอกแล้วภาวนาให้ขาผมหายดีแล้ว

             ถ้ายังไม่หายคงเจ็บน่าดู

             พอคิดได้ดังนั้นผมก็ใช้มือดันพื้นเพื่อจะยืนขึ้น

             ยืนได้แฮะ

             ไม่เจ็บขา?

             เพราะแสงนั่นเหรอ?

             “น่าจะไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ”

             “อ่า ขอบคุณนะ”

             ผมกล่าวขอบคุณเธอแต่พอมองไปหาเธอตอนนี้ เธอกำลังนั่งพิงซากตึกเหมือนกับผมก่อนหน้านี้ และดูเหมือนตอนนี้จิตใจเธอจดจ่ออยู่กับเกมตรงหน้ามากกว่าสิ่งอื่น ช่างไม่มีมนุษยสัมพันธ์เอาซะเลย

             “เอ่อ ว่าแต่แสงนั่นเหรอทำให้ผมหายน่ะ”

             “เลิกใช้คำว่าผมซะทีเถอะน่า พูดแบบนายพูดกับเพื่อนก็ได้ พอนายพูดสุภาพขึ้นมาแล้วหงุดหงิดชอบกล”

             ทำไมจู่ๆเธอถึงหงุดหงิดกันล่ะเนี่ย หรือผมทำอะไรผิดไป? ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริง ทำเอาตอนนี้ผมมีความรู้สึกอยากออกไปจากที่นี่เร็วๆ และพาลจะไม่ชอบเธอไปด้วยเลย

             น่าจะไม่อยากให้รู้เรื่องแสงก็เลยพูดตัดบทไปเลย งั้นเปลี่ยนมาถามชื่อแทนละกัน

             “ว่าแต่เธอชื่ออะไรงั้นเหรอ?”

             “จะรู้ไปทำไมล่ะ”

             อีกแล้ว ด้วยน้ำเสียงที่ธรรมดาๆแต่พอเธอเป็นคนพูดมันรู้สึกเจ็บแปลกๆ เธอได้พูดอะไรประมาณนี้อีกแล้วสินะ

             “เราเคยเจอกันมาก่อนรึไงเธอถึงพูดเหมือนฉันเป็นเพื่อนสนิทขนาดนั้น”

             “ฉันเป็นเหมือนภาพสะท้อนของตัวนายดังนั้นถ้านายเห็นฉันเป็นยังไงนาย ก็เป็นแบบนั้นแหละ”

             ‘ภาพสะท้อน’ ?

             ถ้าเป็นงั้นจริง ทุกสิ่งที่ผมคิดว่าเธอเป็นยังไงนั่นก็หมายถึงตัวผม?

ดูไม่น่าเป็นไปได้

             “เอาล่ะ เกมเคลียร์! มาพูดเรื่องสำคัญกันเถอะ”

             “เรื่องสำคัญ?”

             อารมณ์เปลี่ยนไวดีแฮะ เธอยืนขึ้นเก็บเครื่องเกมใส่กระเป๋าแล้วหันหน้ามาทางผม ตอนนั้นเองที่ผมสังเกตุเห็นบางอย่าง

             ตัวเท่ากันเลยแฮะ

             “ฟังให้ดีนะ ฉันสังเกตนายมานานและตัดสินใจแล้วว่านายเป็นผู้เล่นที่จะได้เล่นเกมที่7นี้และจะได้สิทธ์เข้าร่วมเกมสุดท้ายด้วย”

             “ผู้เล่น? เกมที่7? เกมสุดท้าย? สังเกตมานาน? พูดเรื่องอะไรน่ะ?”

เธอพูดเรื่องอะไรกันน่ะ? ถึงผมพยายามทำความเข้าใจกับเรื่องที่เธอพูดแต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

             “เอาเป็นว่าฟังชื่อของเกมนี้ให้ดีแล้วกัน จะมองว่ามันเป็นคำถามก็ได้นะ”

             “คำถามเหรอ?”

             ไม่รู้ทำไมจู่ผมถึงรู้สึกว่าเวียนหัวและง่วงนอน แต่ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงไปผมก็ได้ยินคำที่เธอกล่าวชัดเจน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ถ้าโลกนี้กำลังจะหายไปใน 10 วัน นายจะทำยังไงงั้นเหรอ?”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา