MAYA มายา

7.3

เขียนโดย โชฒิกากราณ์

วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.50 น.

  23 chapter
  1 วิจารณ์
  45.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 18.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) จิตใต้สำนึกที่แบ่งแยก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

               ความเงียบเข้าปกคลุม วินาทีที่ได้ยินแค่เพียงเสียงของความคิด จิตใต้สำนึกได้พูดกับเธอ

               หญิงสาวหมุนตัวกลับไป จ้องมองไปยังห้องที่เธอเพิ่งออกมาได้ไม่นาน บัดนี้ชื่อบุคคลเจ้าของห้องหายไป ปรากฏเพียงตัวอักษรที่ติดอยู่ด้านบนของประตู ‘VIP’ บ่งบอกถึงบุคคลชั้นพิเศษ ที่เป็นขั้นกว่าของโซนเอแห่งนี้ รันลณีบิดกลอนประตูเข้าไปอย่างเบามือ ไม่รู้ทำไมเธอถึงกลายเป็นคนเสียมารยาทไปแล้ว อาจเป็นเพราะความรู้สึกแปลกไป…

          แปลกไปว่า ภายในห้องจะไม่ใช่ชาย ผู้เป็นคนไข้ของเธอ!!

             

               ภายในห้องมืดสนิท มีเพียงแสงของโคมไฟที่ประดับไว้บนหัวเตียงของคนไข้ ชายผู้เป็นเจ้าของห้องหายไปแล้วอย่างที่เธอคิด หากแต่บนเตียงใหญ่ปรากฏร่างของหญิงสาวที่เธอนึกสงสัย ว่าหล่อนใช่คนเดียวกับคนที่เธอคิดหรือไม่

              รันลณีมองบุคคลที่อยู่ตรงหน้าอย่างวิเคราะห์ ดวงตาเปลือกสีชมพูอ่อนปิดลงในยามหลับ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอันบางสวย ใบหน้าที่เหมือนกับถูกวาดขึ้นนั้นคล้ายกับเจ้าหญิงนิทรา ร่างบางในชุดสีขาวน่าทะนุทนอม เธอช่างเป็นหญิงสาวที่งดงามไม่มีที่ติแบบที่ไม่เหมือนกับโฉมฉาย คนที่เธอเคยคิดว่าเป็นคนที่สวยที่สุด เธอคนนี้ดูสวยกว่าเพราะเธออ่อนโยนกว่า ละเอียดกว่าและน่าปกป้องมากกว่า

 

              พรึบ!!!

 

              แสงไฟค่อยๆ สว่างขึ้น เป็นผลให้รันลณีหันไปมองยันต้นตอของแหล่งที่มา บุคคลที่ปรากฏที่ให้เธอค่อนข้างมั่นใจว่าสาวงามคนนี้คือใคร

รันลณีมองหน้าผู้มาใหม่อย่างหวาดๆ และเผลอกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ด้วยท่าทีที่กระอักกระอ่วนใจ ชายหนุ่มย่างก้าวเข้ามาหาเธอด้วยสายตาที่น่ากลัว

              “เธอ… ไม่สมควรอยู่ที่นี่ เธอ…”

              “มะ… หมอแทน”

              “ทำไมเธอถึงต้องมายุ่งด้วยทุกเรื่อง ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องของเธอเลยสักนิด ทำไมเธอต้องคิดว่าทุกๆ คนเขาอยากเจอเธอ อยากให้เธอมาเป็นศูนย์กลางของเรื่องทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ละครเรื่องนี้มันใกล้จะจบแล้วแท้ๆ แต่เพราะเธอ เธอทำให้เรื่องมันยาวขึ้นจนไม่รู้จักจบสิ้น!!” ชายหนุ่มพูดเบาคล้ายกระซิบหากแต่น้ำเสียงนั้นแข็งกร้าวจนทำให้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าถอยหลังจนชิดติดกำแพงของห้อง รันลณีสังเกตว่าเขากำมือแน่นจนมือของเขาสั่น คำพูดหลายๆ คำถูกกลืนหายลงไปในลำคอของหญิงสาว ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะพูดกับเขา

              “ออกไปจากห้องนี้ซะ และอย่าพยายาม คิด แก้ไข หรือหาอะไรก็ตามที่เธออยากรู้ เพราะต่อให้เธอทำ เธอก็ยิ่งเข้าใกล้ความตายทุกครั้ง”

              “แทน…” เสียงนุ่มกระชากฉากที่ดุร้ายของเขาออกไป ชายหนุ่มหันมองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

               สายตาที่แปรเปลี่ยนเป็นความอบอุ่น ความรัก และความห่วงใยที่ให้กับเธอ

               โดยที่รันลณีไม่มีวันได้รับมัน…

 

              “คุณ…” แทนคุณผละเข้าหาหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยความรวดเร็ว พลางกุมมือเธอไว้ หญิงสาวยิ้มตอบ เธอพยายามมองมายังรันลณีที่ตอนนี้ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น

              “เธอเป็นเพื่อนของผมเอง คุณไม่ต้องกลัวนะ” ชายหนุ่มยิ้มให้กับคนข้างกาย ก่อนจะเหลือบมองมายังรันลณีด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

              “เธอกำลังจะไป” รันลณีสะดุ้งตัวเล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มให้กับหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียง ยังไม่ทันที่รันลณีจะก้าวออกไปจากห้องตามคำสั่งที่ผ่านมายังสายตาของชายหนุ่ม เสียงโทรศัพท์ปริศนาก็ดังขึ้นภายในห้องที่เงียบสงัด

              “ไม่เอา…” หญิงสาวจับมือของชายหนุ่มแน่น ดวงตาหวานสั่นระริกอย่างน่าสงสาร เป็นผลให้คนข้างๆ ทรุดลงข้างเตียงพลางกุมมือหญิงสาวไว้ด้วยความห่วงใย เขายิ้มให้เธอ ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งหยิบโทรศัพท์ที่ดังอยู่ในกระเป๋าออกมา

              และกดรับสาย…

 

              ความเงียบที่มีอยู่เพียงพอแล้วในห้องนี้กลับกลายเป็นความเงียบที่เพิ่มทวีคูณ เมื่อชายหนุ่มลดโทรศัพท์ลงคล้ายกับจบบทสนทนากับบุคคลในสายแล้วโดยที่เขายังไม่แม้แต่ได้ปริปากพูดอะไรออกไป

              “สรไม่อยากอยู่คนเดียว…”

              “ให้รันอยู่ด้วยไหมคะ”

              คำพูดที่หลุดออกไปจากปากของเธอ เป็นผลให้ทั้งคู่หันมามอง สาบานได้ว่าสมองของเธอไม่ได้สั่งการให้เธอต้องพูดมันขึ้นมา

 

               ตอนนี้ร่างกายของเธอ ราวกับว่าจะไม่ใช่ของรันลณีอีกต่อไปแล้ว

 

            ‘ก็ทำให้มันจบๆ ไปซะสิ! แม่คนขี้ขลาด!’

 

              “อยากให้รันอยู่ด้วยไหมคะคุณผู้หญิง รันเป็นพยาบาลสามารถดูแลคุณได้ คุณจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว” รันลณีฉีกยิ้ม แววตาที่เปลี่ยนไปทำให้ชายหนุ่มรู้สึกโกรธมากขึ้น

              “อย่า ยุ่ง กับ เธอ”

              “ให้เธออยู่กับสรนะคะ” หญิงสาวรั้งมือของชายหนุ่มเอาไว้ในทันทีที่เห็นว่าคนรักของเธอเดินไปยังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เธออยากจะทำทุกอย่างจริงๆ เพื่อหลุดพ้นขุมนรกนี้ บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นทางเลือกสุดท้าย…

              “ถ้าเธอเป็นเพื่อนแทน เธอต้องช่วยสรได้แน่”

              “อัปสร”

              “สรทนต่อไปไม่ได้แล้วนะแทน ไม่เอาแล้ว” น้ำตาไหลอาบแก้มของหญิงสาว เธอฟุบหน้าลงกับมือของตัวเองอย่างน่าสงสาร แทนคุณโผกอดอย่างอ่อนโยน ภายในหัวใจเจ็บปวด

              รันลณียกยิ้มพลางกอดอกมองภาพที่ปรากฏแก่สายตา

              “อัปสร สินะคะ คุณนั่นเองที่อยู่ในคุกวันนั้น”

              “รันลณี!!”

              “ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องบอกฉันคุณแทนคุณ ถ้าอยากจัดการกับเรื่องบ้านี่ ก็อย่าเป็นคนขี้ขลาดซะเอง…”

              แทนคุณผงะไปเมื่อมองเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของหญิงสาวที่เขารู้จัก แววตาดื้อรั้นที่เขามองว่ามันน่ารักตอนนี้กลับแข็งกร้าวและจริงจัง

              “อีกไม่นาน เธอจะรู้ด้วยตัวเองรันลณี”

              แทนคุณพูดยังไม่ทันที่เธอจะหายสงสัย เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ความเงียบปกคลุมภายในห้องอีกครั้ง ความเย็นของเครื่องปรับอากาศหรืออะไรก็ตามแต่ทำให้เธอขนลุก อัปสรขดตัวพลางกอดแทนคุณด้วยความกลัว สายตาสั่นระริกอย่างน่าสงสาร

 

               เธอเองก็เริ่มตัวสั่น ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองยังประตูที่ถูกเคาะเป็นจังหวะอยู่นั้น

               แม่คนกล้าเมื่อกี้ หายไปไหนแล้วล่ะ…

 

               ก๊อก ก๊อก….

 

              แอ๊ด ……….

 

              เสียงประตูเปิดทำให้คนที่อยู่ภายในห้องขวัญผวา

 

              “เธอมาแล้ว” แทนคุณพูดสายตาจดจ้องมายังเธอ เหมือนเป็นสัญญาณว่านั่น คือกุญแจสำคัญของเรื่อง

              “อยู่ตรงนี้นี่เอง”

              เสียงที่รันลณีคุ้นหูเป็นอย่างดีดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ หญิงสาวกลั้นหายใจเมื่อรู้สึกเสียววาบตรงด้านหลัง ก่อนจะตัดสินใจค่อยๆ หันมองไปยังต้นเสียงนั้น…

 

              แสงสว่างของไฟด้านนอกห้องกระทบกับตาของเธอ แสงสลัวในห้องปรากฏเงาของคนที่อยู่ด้านนอก รันลณีเบิกตาโตเมื่อเห็นร่างนั้น…

 

               “โฉมฉาย”

 

               คำพูดที่หลุดออกจากปากของเธอเบาราวกับเสียงกระซิบ สายตายังคงจับจ้องไปยังบุคคลในชุดกาวน์สีขาวที่อยู่ตรงหน้า!!

 

              วูบหนึ่งเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไป ราวกับภาพเบลอที่บัดนี้ชัดเจนขึ้น

             

               “นี่คุณรันยังไม่ได้ให้ยากับคุณพิชิตอีกหรอ” โฉมฉายมองถาดที่วางอยู่ข้างโต๊ะด้วยสีหน้าตกใจ ก่อนจะมองไปยังคนตรงหน้าที่ตอนนี้ยืนจ้องเธอด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจ

              “คุณพิชิต!” โฉมฉายวิ่งเข้าหาคนไข้ที่อยู่บนเตียงที่ตอนนี้ตัวสั่นเทา สีหน้าหวาดผวาด้วยความกลัว รันลณีสะดุ้งตัวก่อนจะหันไปมองคนไข้ของเธอที่กำลังถูกจิตแพทย์อย่างโฉมฉายปลอบปะโลมอยู่

              รันลณียังคงไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ถาดยาของเธอยังคงวางอยู่เช่นเดิม ภายในถาดยังคงบรรจุเม็ดยาอยู่ครบ รันลณีมองนาฬิกาภายในห้องกับนาฬิกาข้อมือของตนสลับกัน ปรากฏเลขที่เธอไม่อยากจะเชื่อ

 

               ’20.20 น’

 

              เป็นไปไม่ได้!!

 

               เธอออกจากห้องของคุณพิชิตในเวลานี้เธอจำมันได้ดี ก่อนที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้นในห้องนี้

              ทำไมกัน!!!

 

              รันลณียืนมองหมอสาวที่กำลังให้ยากับคนไข้อย่างวุ่นๆ หูของเธออื้ออึงไม่ได้ยินเสียงเรียกใดใดจากปากของจิตแพทย์สาว สมองขาวโพลนถูกแทนที่ด้วยภาพบางอย่างซ้ำๆ รันลณีส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจที่สุดก่อนจะผละออกไปจากห้องด้วยขาที่สั่นเทา

 

               หญิงสาวได้ละทิ้งทุกอย่างไว้ด้านหลัง แม้กระทั่งตัวตนของเธอเอง…

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา