King of love ผมนะเหรอภรรยา (เมีย)...ราชาปีศาจ

8.3

เขียนโดย Byตั้งโอ๋

วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.09 น.

  14 ตอน
  2 วิจารณ์
  15.50K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560 14.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) เอะ!  ยังไง ยังไง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 ตอนที่  11 เอะ!  ยังไง ยังไง

สิ่งที่ตัวเรามักไม่เข้าใจมากที่สุดก็คือ ใจ ของตัวเอง ว่าตกลงคิดอะไร รู้สึกอย่างไร และต้องการอะไรกันแน่ แม้จะตามหาคำตอบเท่าไรบ้างครั้งมันก็แสนยากเหลือเกิน เรามักจะหลงทางอยู่ในวังวนที่เรียกว่าความรู้สึก ที่มันชวนให้สับสน และไม่รู้ว่าจะตอบตัวเองได้เมื่อไหร่จนเกิดเป็นคำถามขึ้นในใจ เมื่อไรจะรู้ใจตัวเอง การค้นหาอะไรนั้นมันไม่ยากเท่ากับค้นใจตัวเองเลยจริงๆ  ตัวเราควรจะทำอย่างไรนั้นยอมมีแต่เราที่รู้ดีเพราะเชื่อว่าวันเวลาจะนำพาคำตอบมาให้กับตัวเราและมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

ข้าวสวยเข้าใจตัวเองแล้วว่าเป็นอะไรหลังจากสับสนกับใจตัวเองมานานคงเพราะอะไรหลายๆ อย่างปะดังเข้ามาในชีวิตแบบไม่ตั้งตัวมันเลยทำให้ตัวข้าวสวยสับสนแต่ตอนนี้รู้แล้ว  ใช่เข้าใจดีแล้วว่าคงขาดคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีไม่ได้จริงๆ  แม้การเจอกันมันจะเป็นอะไรตลกที่เรียกว่าโชคชะตาหรือพรมลิขิตอะไรก็ตามข้าวสวยรู้สึกขอบคุณสิ่งเหล่านั้นจริงๆ ที่ทำให้ได้เจอกับผู้ชายที่ชื่อ อัสบัส คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีอย่างถูกต้องแม้จะได้มาแบบงงๆ แต่ตอนนี้ก็ทำใจยอมรับได้แล้วละ ก็มันรักไปแล้ว  

“เจ้าคิดอะไรอยู่ทำไมยังไม่นอน พึ่งจะฟื้นขึ้นมาเองนะ” อัสบัสที่พึ่งเข้ามาถามขึ้นเมื่อเห็นคนตัวเล็กที่พึ่งฟื้นเมื่อตอนบ่ายหลังจากนอนหลับไปหลายวันกำลังนั่งครุ่นคิดอะไรอยู่บนเตียง

“ผมนอนมาเยอะแล้วครับ”  

“ หึหึ ตกลงคิดอะไรอยู่หน้าเครียดนักเชียว”  ดื้อไม่เปลี่ยนจริงๆ อัสบัสคิด แต่ก็ไม่ลืมถามสิ่งที่ยังไม่ได้คำตอบอีกครั้ง

“เปล่า ผมไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย” เสียงเล็กๆ ติดแหบของข้าวสวยตอบกลับมาคงเพราะพึ่งฟื้นขึ้นเสียงเลยยังไม่ดีเท่า

“ก็เห็นอยู่ว่าเจ้าทำเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่”

“เฮ้ออออ บอกว่าไม่ก็ไม่สิคุณนี้ถามอยู่ได้” ข้าวสวยถอนหายใจยาวๆ ก่อนจะบ่นออกไป  จะให้บอกได้ยังไงว่ากำลังคิดเรื่องของอัสบัส เฮ้อออออ

“ไม่คิด ก็ไม่คิด งั้นนอนซะจะได้พักผ่อน” อัสบัสไม่อยากเซ้าซี้ต่อเพราะข้าวสวยพึ่งจะฟื้นเลยอยากให้พักผ่อนจะได้หายเร็วๆ เห็นข้าวสวยป่วยมันทำให้ใจเขาเจ็บ

“แต่ผมยังไม่ง่วงเลยนอนมาตั้งหลายวันแล้ว” ใช่ข้าวสวยนอนมาหลายวันจริงๆ ก็ ตั้ง 5 วันใครจะไปอยากนอนกันบ้าง ตื่นขึ้นมายังมึนๆ ยังเอียนกับการนอนอยู่เลย

ข้าวสวยจำได้ว่าก่อนจะตื่นนั้นอยู่กับไดอาร์ และไอด้า ตอนนั้นเขามองสองแฝดนอนหลับอย่างสบายเลยรู้สึกง่วงขึ้นมา และเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ตื่นอีกทีก็เห็นหน้าอัสบัสจ่ออยู่ที่หน้าตัวเองก็ตกใจนิดหน่อยแต่ก็ยังงงๆ อยู่  ปากก็เอ่ยถามหาไดอาร์กับไอด้าทันทีแต่ดูเหมือนอัสบัสจะงงแล้วยังมาถามกลับว่าใครคือไดอาร์กับไอด้า ตอนนั้นข้าวสวยรู้สึกหน่วงในใจอย่างมาก และคิดว่าคงจะฝันไปจริงๆ อย่างที่อัสบัสบอกเพราะหลับไปนาน แต่ทำไมเลิกคิดถึงเด็กแฝดนั้นไม่ได้เสียทีรู้สึกเป็นห่วงไม่รู้จะยังอยู่ที่นั้นหรือเปล่าหรือว่าจะตื่นกลับมาเหมือนเขา ข้าวสวยก็ได้แต่นึกเป็นห่วงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“นี้คุณผมคิดถึงไดอาร์กับไอด้าอีกแล้ว”

“เด็กสองคนที่เจ้าฝันเห็นนะหรือ”

“อืม”

“มันก็แค่ฝันเจ้าจะเก็บมาคิดทำไม เด็กสองคนนั้นไม่มีอยู่จริง” อัสบัสที่นั่งลงบนเตียง มือสองข้างจับกุมแก้มขาวๆที่ ตอนนี้ติดซีดเพราะอาการป่วยยังไม่หายพูดขึ้น

“ตะ....”

“ไม่มีแต่ทั้งนั้น ข้าว่าเจ้าพักดีกว่า” อัสบัสรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อนจะดันตัวข้าวสวยให้นอนลง ข้าวสวยได้แต่ทำหน้างอใส่ แต่ก็ยอมนอนตามที่อัสบัสบอก แต่ใจก็อดคิดไม่ได้จริงๆ และยังไม่วายด่า ไอ้เขาควายบ้าอยู่ในใจ

ข้าวสวยไม่ค่อยอยากจะเชื่อใจของตัวเองเลยว่าจะรักไอ้เขาควายนี้ได้นึกแล้วก็ขำเมื่อลองนึกย้อนไปเมื่อก่อน ข้าวสวยเองยังไม่ได้บอกความรู้สึกให้อัสบัสรู้ว่าคิดกับอัสบัสอย่างไรไม่ใช่กลัวหรืออะไรแต่ก็นะใครจะไปกล้าบอกกันละ(มันต่างจากกลัวตรงไหน?)เรื่องแบบนี้ไม่ใช่จะพูดกันง่ายๆ สักหน่อย แต่อีกใจก็รู้สึกว่าดีเหมือนกันอยากทำให้หมั่นไส้ดีนักไอ้เขาควาย ถึงเดี๋ยวนี้จะไม่ค่อยเห็นเขาบนหัวอัสบัสแต่ก็ยังจะเอามาด่าละนะข้อหาทำตัวหน้าหมั่นไส้

ยามค่ำคืนโลกปีศาจก็ไม่ได้แตกต่างจากโลกมนุษย์ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ สายลมเย็นๆ ยามค่ำคืนก็ยังคงพัดผ่านไปเป็นระยะๆ เหล่าข้าทาสบริวารก็ยังคงเดินกันฝักใฝ่ไปทั่วทั้งประสาท คงเพราะยังไม่ไว้วางใจกลัวมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกครา แต่ในมุมดับที่อับแสงนั้นช่วยอำพรากร่างใครคนหนึ่งที่อยู่ใต้เสื้อคลุมขนาดใหญ่ค่อยมองไปยังที่พักของผู้เป็นเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้ด้วยแววตาอันห่วงใย ก่อนที่ขายาวจะค่อยๆ ก้าวถอดออกมาแต่ก็ต้องหยุดชะงัก

“เจ้าเป็นใคร เข้ามาในนี้ได้อย่างไร” เสียงเล็กติดหวานของหนุ่มน้อยที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายอันเป็นที่รักของเจ้าของอาณาจักรเอ่ยขึ้นอย่างดุดันในมือมีกริชอันไม่ยาวมากจ่ออยู่ตรงด้านหลังชายสวมเสื้อคลุมใหญ่

แม้ภาวะทางกายของคนตรงหน้าจะใหญ่โตกว่าแต่มิคาร์เอลก็ไม่ได้เกรงกลัว พรางคิดว่าไอ้ยักษ์นี้ต้องคิดมาทำร้ายพี่สะใภ้เขาแน่นอน คนตัวโตใต้เสื้อคลุมไม่ได้รู้สึกกลัวกับเสียงขู่ และกริชที่จ่อหลังแม้แต่น้อย รู้ดีว่ามันเป็นเสียงของใคร ปากเรียวหนายกยิ้มขึ้นอย่างนึกสนุกก่อนจะค่อยๆ หันมาประจันหน้ากับมิคาร์เอล

“ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร” มิคาร์เอลถามขึ้นอีกครั้งเมื่อคนตรงหน้าหันกลับมา กริชที่เคยจ่ออยู่ด้านหลังตอนนี้มันเปลี่ยนมาเป็นตรงอกด้านซ้ายพอดี ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากคนตรงหน้าจน มิคาร์เอลเริ่มรู้สึกหงุดหงิด ไอ้ยักษ์กวนประสาท แต่เหมือนความอดทนที่สะสมมาจะหมดเพราะทนกับความเงียบของคนตรงหน้าไม่ไหว

“ไม่ตอบ! เจ้าอยากตายใช่ไหม” มิคาร์เอลพูดขึ้นอย่างหัวเสีย แต่คนตรงหน้าก็ยังคงยืนเฉยไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา แต่ มิคาร์เอลหารู้ไม่ว่าในความมืดนั้นใบหน้าของคนตรงหน้ายกยิ้มอย่างนึกสนุกแต่สายตายังคงความเฉยชาในแบบฉบับของเจ้าตัว

เหมือนเส้นของความอดทนขาดสะบั้นมิคาร์เอลไม่รอช้าอีกต่อไปมือเล็กที่จับกริชอยู่ขยับหมายจะให้ปักลงจุดเป้าหมายตรงหน้าอย่างไม่คิดอิดออดเร็วเท่าความคิดชายตรงหน้าเมื่อเห็นว่าภัยใกล้เข้ามาก็รีบคว้ามือเล็กนั้นมาจับทันทีก่อนจะเอาไขว่ด้านหลัง มิคาร์เอลต้องหันหลังโดยอัติโนมัติเมื่อคนสวมเสื้อคลุมจับข้อมือแล้วบิดแขน

กริชที่อยู่ในมือตกลงบนพื้นทันที มิคาร์เอลรู้สึกยิ่งหงุดหงิดเมื่อพลาดท่าให้ไอ้คนยักษ์ใหญ่ตรงหน้าจับได้ ดวงตาคู่สวยตวัดมองคนที่จับกุมอยู่ทันที และก็ต้องพบกับด้วยตาสีดำสนิทไม่มีความรู้สึกใดๆ แต่เรียวปากที่ยกยิ้มมุมปากนั้นมันทำให้มิคาร์เอลนึกหมั่นไส้คนๆ นี้

“ปล่อยข้า ไอ้ยักษ์” เสียงเล็กดังขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ทางคนถูกสั่งก็ยังคงเฉยชามีเพียงกระตุกยิ้มมุมปากนิเท่านั้น

“ข้าบอกให้ปล่อยไงละ” เมื่อเห็นอย่างนั้นก็ขบฟันพูดขึ้นมาอีก ร่างกายก็ดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการ แต่มันช่างไร้วีแววเสียจริงคงถูกไอ้ยักษ์บีบตายอย่างน่าเวทนาเป็นแน่ มิคาร์เอลคิด  แม้ใจจะนึกกลัวแต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีออกมา

“ทำไมข้าต้องปล่อยในเมื่อท่านจะทำร้ายข้า” เสียงพูดที่ฟังดูเรียบแต่แอบซ่อนไปด้วยพลังดังขึ้นจนมิคาร์เอลต้องหยุดอยู่นิ่ง และค่อยๆ หันมองคนที่กำลังจับกุมเขาอยู่

แม้ตรงจุดนี้จะมืดแต่มันก็ไม่ได้มืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลย มิคาร์เอลเพ่งมองใบหน้าของคนตัวใหญ่อย่างพินิจ ไอ้ยักษ์มันดูดีเสียจริงๆ ใบหน้าเรียวได้รูป จมูกเป็นสัน ผมสีขาวควันบุหรี่องค์ประกอบโดยรวมแล้วไอ้ยักษ์มันหล่อมาก แต่ตามันดูเฉยชาไปไหมราวกับมันว่างเปล่า มิคาร์เอลคิด

“ปล่อยข้านะ ไอ้ยักษ์บ้า” พอตั้งสติได้อีกครั้งมิคาร์เอลก็โวยขึ้นมาอีกพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุมแต่ดูไม่เป็นผลเลยแม่แต่น้อยก็นั้นมันไอ้ยักษ์มิคาร์เอลก็เลยกลายเป็นแค่หนุ่มน้อยตัวเล็กไปเลยเมื่อมายื่นเทียบกับไอ้ยักษ์ตัวใหญ่ตรงหน้า

“ปล่อยข้านะ ปล่อยๆๆๆโว้ยยย ไอ้ยักษ์”

“คลูส**”**

“เอะ!” มิคาร์ชะงักพอคนตัวใหญ่เอ่ยว่าคลูส แล้วๆๆๆๆๆๆๆ มันอะไรนะ คลูส ชื่อไอ้ยักษ์นี้หรือไงกัน

“ชื่อข้า” สงสัยอยู่ไม่นานก็กระจ่างเมื่อคลูสเอ่ยขึ้น

“ใครจะอยากไปรู้จักชื่อแกกันเหล่า ปล่อยข้าๆๆๆ” มิคาร์เอลรีบส่วนขึ้นมาทันและไม่วายดิ้นไปมา

“ก็เห็นเรียกไอ้ยักษ์อยู่ได้ ข้ามีชื่อ” 

“ก็ดูตัวเจ้าเถอะใหญ่ยิ่งกว่ายักษ์เสียอีก ปล่อยข้านะไม่งั้นเจ้าตายแน่เจ้าไม่รู้หรือไงว่าข้าเป็นใครอยากตายนักใช่หรือไม่ เอะ! แกเข้ามาที่นี้ทำไมแกมันพวกอาเทอร์ใช่ไหม บอกเจ้านายแกด้วยนะว่าไม่มีทางกำจัดผู้ครองหยาดน้ำแห่งจันทราได้แน่นอนตราบใดที่มีข้า และท่านพี่อย่าหวังว่ามันจะเกิดขึ้นได้เลย” มิคาร์เอลพูดเร็วๆ รัวๆ พอจบก็หอบจนตัวโยน

“หึหึ”

“เจ้าขำอะไร ยังไงวันนี้เจ้าก็ไม่รอดหรอกท่านพี่ไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ยิ่งรู้ว่าเจ้าจะมาทำร้ายพี่สวย”

“ข้ายังไม่ได้บอกเลยว่าจะมาทำร้ายอะไรใคร”

“ใครจะไปเชื่อมาแอบลับๆ ล่อๆ อยู่ ข้าเห็นเจ้าหลายครั้งแล้วนะ เจ้ามาแอบดูพี่สวยตลอดถ้าไม่คิดร้ายแล้วจะเป็นอะไรได้”

 มิคาร์เอลยังคงเถียงอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่ลืมที่จะหาโอกาสหลุดจากการจับกุม ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากคลูส มิคาร์เห็นคลูส เผลออยู่เลยดิ้นอีกครั้งจนมือข้างหนึ่งหลุดออกมาก็ไม่รอช้าทันทีปากบางค่อยๆ ขยับนิดหน่อยด้วยไฟสีชมพูก็ก่อตัวขึ้นในมือก่อนจะส่งไปทางคลูส คลูสเห็นเข้าพอดีเลยเบี่ยงตัวหลบลูกไฟที่พุ่งเข้ามาได้แบบเฉียดฉิว ลูกไฟพุ่งไปกระทบกับกำแพงจนเกิดเสียงดังตูมตาม

เหล่าทหารที่อยู่บริเวณนั้นพอได้ยินก็รีบกรู่กันเข้ามา   คลูสเห็นท่าไม่ดีแน่ถ้าพวกทหารมาเห็นเลยคิดจะหลบ ทางมิคาร์เอลยิ้มขึ้นมาทันทีพอได้ยินเสียงพวกทหารเลยยิ่งดิ้นเพื่อให้หลุดแต่ก็ยังไม่เป็นผล  เสียงทหารก็ใกล้เข้าทุกที

“วันนี้จะปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน”  คลูสเอ่ยบอกมิคาร์ก่อนจะปล่อยมิคาร์เอลให้เป็นอิสระ

“คิดหนีหรือ ข้าไม่ให้เจ้าหนีแน่กล้าดีมาจับข้า ไว้ไปคุยชาติหน้าก็แล้วกัน” พูดจบสองมือของมิคาร์เอลก่อเกิดดวงขึ้นมาอีกครั้ง เขารู้สึกเสียหน้าที่สู้ไอ้ยักษ์นี้ไม่ได้แค่จะทำให้หลุดจากมือของมันยังทำไม่ได้เลยแล้วจะปกป้องพี่สวยได้ยังไง มิคาร์เอลคิด

แรงโทสะเพิ่มมากขึ้นเมื่อยิ่งนึกถึง เสียงฝีเท้าของพวกทหารก็ใกล้เข้ามาทุกที คลูสมองมิคาร์เอลก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากไม่ได้กลัวกับคำกล่าวของมิคาร์เอลแม้แต่น้อย  กลับเดินเข้าหามิคาร์เอลอีกครั้งเมื่อเห็นว่าคลูสเดินเข้ามามิคาร์เอลก็รีบถอยเท้าอัตโนมัติก่อนจะยกสองแขนที่มีดวงไฟแล้วฟาดลงราวกับกำลังเควี่ยงอะไรออกไปซึ่งมันก็คือดวงไฟสีชมพูนั้นเอง มัน พุ่งไปทางคลูสแต่คลูสก็ไม่ได้มีแววของความกลัวเลย  กลับเดินเข้าหาดวงไฟนั้น และหลบได้อย่างง่ายดายจนมาประชิดมิคาร์เอลได้อย่างรวดเร็วและคว้าเอวบางมาจับกุมไว้แบบที่มิคาร์เอลไม่มีเวลาตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย

ดวงตาสีดำสนิทจองมองมิคาร์เอลอย่างเรียบเฉยแต่มันทำให้มิคาร์เอลใจเต้นแรงจนกลัวมามันจะทะลุออกมาก มิคาร์เอลได้แต่มองหน้าของคลูสนิ่งทำอะไรไม่ถูกคงเพราะตกใจแต่หลังจากนี้มันยิ่งทำให้มิคาร์เอลแทบหัวใจวายเมื่อคลูสค่อยๆ เลื่อนใบหน้าเข้ามา และประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของมิคาร์เอลที่ตอนนี้ตาโตเป็นไข่ห่านด้วยความตกใจ

คลูสค่อยๆ ไล่ลิ้นไปตามเรียวปากเล็กก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปหยอกล้อลิ้นเล็กๆ  ทั้งดูดทั้งรั้งจนมิคาร์เอลรู้สึกเจ็บ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนเพราะมันรู้สึกดีใช่มันรู้สึกดีจริงๆ มิคาร์เอลคิด หลงใหลไปกับรสจูบที่จาบจ้วงนั้นแม้จะไม่นุ่มนวลแต่มันทำให้รู้สึกหลงใหล และโหยหามากเหลือเกิน

เสียงฝีเดินนับสิบดังใกล้เข้ามามากจนคลูสต้องรีบละออกจากปากนิ่มๆ อย่างรู้สึกเสียดาย มิคาร์เอลมองคลูสอย่างสับสน นี้มันอะไรกันไอ้ยักษ์มันจูบ และที่สำคัญมันเป็นใครยังไม่รู้เลย

“จองไว้ก่อน ข้าไปละนะ” คลูสเลื่อนมากระซิบบอกข้างหูก่อนจะงับหูเบาๆ ทีหนึ่งแล้วออกเดินจากไป ทางมิคาร์เอลยังงงๆ สับสนกับเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านไปอยู่เลยได้สติอีกทีก็ตอนที่มีพวกทหารมากมายมายื่นอยู่ด้านหน้าเขาเต็มไปหมด ‘ไอ้ยักษ์บ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ’ตอนนี้ก็ได้แต่โอดครวญอยู่ในใจ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา