BEST FRIEND(?) #เบสเฟรนด์ชิโระ

6.2

เขียนโดย Khunpor

วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 04.35 น.

  8 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กันยายน พ.ศ. 2560 06.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) BEST FRIEND(?) 6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

บทที่6​​

​ก็อก ก็อก

"เตี้ยเสร็จยัง ตายคาห้องน้ำหรือไงวะ มันจะสองทุ่มแล้วนะเว้ย" เสียงเคาะเรียกปนหงุดหงิดของเบส ทำให้ผมที่กำลังแต่งตัวอยู่รีบมากกว่าเดิม

"เสร็จแล้วๆ เร่งจังวะ!" ผมตะโกนตอบกลับอย่างหัวเสียไม่แพ้กันพรางหยิบผ้าเช็ดผมมาเช็ดหัวตัวเองอย่างรีบๆ

แอ๊ด~

"มึงแม่งจะเร่งห่าไรนักหนา ตัวเองเป็นคนบังคับให้คนอื่นไปอาบน้ำเองแท้ๆ" ผมเปิดประตูห้องน้ำได้ก็พูดใส่คนร่างสูงทันที แต่แทนที่เบสจะตอกกลับเหมือนปกติเจ้าตัวกลับยืนนิ่งแล้วมองผมด้วยสายตาแปลกๆตั้งแต่หัวจรดเท้า

"มะ...มองอะไรของมึง" ผมถามเบสที่ยืนนิ่งไม่พูดจา สายตาที่มันมองทำผมรู้สึกร้อนๆหนาวๆอ่ะ

"ใส่ชุดเหี้ยไรของมึง"

"ทำไมวะ เวลาจะนอนกูชอบใส่อะไรสบายๆมึงมีปัญหาอะไรกับชุดกู" อะไรของมันอยู่ๆจะมาเหวี่ยงกับการแต่งตัวชาวบ้านเขาไม่ได้นะเว้ย แค่จะไปกินข้าวยังไงก็กลับมานอนอยู่แล้วจะให้แต่งชุดห่มสไบไปหรือไงเล่า - -"

"งั้นกูจะบอกมึงไว้เอาบุญ ไอ้เสื้อเชิตสีขาวแขนยาวโปรงๆที่ยาวปิดแค่ขาอ่อนกับกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาลที่ตัดกับผิวขาวๆของมึงพร้อมกับใบหน้าแบบเนี่ย มึงไปไม่ถึงห้องอาหารหรอก คงได้ผัวก่อน และกูก็ไม่คิดจะช่วยด้วยเพราะถือว่ากูเตือนแล้วจะเปลี่ยนไม่เปลี่ยนก็เรื่องของมึง" แม่งก็พูดเว่อร์ เกย์จากทั่วมุมโลกคงไม่บ้ามารวมตัวกันที่หอพักนี้หรอก...มั้ง

"เออ เปลี่ยนก็ได้วะ! บอกดีๆก็ได้มั้ยเล่า" แต่กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะยังไงจำนวนพวกนั้นก็มากกว่า ต่อให้ผมต่อยตีเก่งแค่ไหนก็คงสู้ไม่ไหวหรอก ผมไม่ใช่ปีศาจเหมือนไอ้บ้าเบสนะ -"-

"แล้วมึงจะยืนบื่ออีกนานม่ะ ก็ออกไปสิกูจะเปลี่ยนเสื้อ" ผมพูดบอกเบสเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ออกไปสักที หิวข้าวจะแย่อยู่แล้วยังต้องมาเสียเวลาเปลี่ยนชุดอีก

"มึงก็เปลี่ยนไปสิ เดี๋ยวกูนั่งรอที่เตียงจะได้ดูช่วยด้วยว่าเสื้อที่มึงเลือกโอเคมั้ย" หะ! ตลกละจะให้ผมมาแก้ผ้าต่อหน้ามันเนี่ยนะ! ผมยังมียางอายนะเว้ย

"มึงจะบ้าหรอ กูไม่ใช่เด็กนะ กูเลือกเองได้มึงน่ะออกไปรอข้างนอกเลย อยู่ไปก็เกะกะเปล่าๆ"

"มึงจะอายอะไร ผู้ชายเหมือนกันหุ่นมึงทำกูมีอารมณ์ไม่ได้หรอก นมก็ไม่มี ทางเข้าที่ควรเข้าก็ไม่มี" ทางเข้าที่ควรเข้าเหี้ยไรของมึงงงงงงง ไอ้หน้าตาย ไอ้ทุเรศศศศศศศ

"หรือที่มึงไม่อยากให้กูอยู่เพราะว่ามึงหวั่นไหว? กลัวจะอดใจไม่ได้ละสิ" เบสที่เห็นผมกำลังดิ้นพร่านเพราะโมโหคำพูดของมัน อยู่ๆเจ้าตัวก็พูดสวนขึ้นพร้อมกับขยับเข้ามาใกล้จนผมต้องถอยหลังติดประตูห้องน้ำ

"มะ...ไม่เว้ย! อยากอยู่ก็อยู่ไปเลย เชิญตามสบาย!" ผมผลักอกเบสให้ถอยออกจากตัวเองก่อนจะเดินกระแทกแขนมันแล้วเปิดประตูตู้เสื้อผ้าอย่างหงุดหงิด (สูงไม่ถึงเลยกระแทกไหล่ไม่ได้55555)

"ก็แค่นี้ เลือกเร็วๆด้วยละ จะสองทุ่มแล้ว ผู้ชายห่าไรอาบน้ำนานชิบหาย" เบสพูดจบก็เดินไปนั่งที่เตียงตัวเองพรางหยิบโทรศัพท์มาเล่นไลน์รอ

ผมเบะปากใส่เบสอย่างหมั่นไส้ก่อนจะหันมายืนเลือกเสื้อที่จะเปลี่ยนต่อ ผมหยิบเสื้อที่คิดว่าเข้าท่าแล้วยืนจ้องมันอยู่อย่างนั้น อันที่จริงผมจะเดินไปเปลี่ยนในห้องน้ำก็ได้อะนะ แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็เหมือนผมหนีและยอมรับว่าตัวเองหวั่นไหวน่ะสิ!!

"มึงจะยืนจ้องเสื้ออีกนานม่ะ หรือต้องให้กูเปลี่ยนให้" ในขณะที่ผมกำลังทบทวนว่าเอาไงดี เสียงปีศาจก็ดังแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด มันก็คงขี้เกียจรอผมแล้วละมั้ง -"-

"ไม่ต้อง เออๆ จะเปลี่ยนแล้วเนี่ย!" ผมหยิบเสื้อออกมาวางไว้ที่เตียงแล้วเดินไปส่องกระจกพร้อมกับปลดกระดุมออกช้าๆ กระดุมเสื้อเชิตถูกปลดออกเผยให้เห็นผิวและรูปร่างที่ค่อนไปทางผู้หญิงเอวบางกล้ามแขนขาก็ไม่มี ผมยืนมองภาพสะท้อนของตัวเองอย่างอนาถใจ เป็นผู้ชายที่ไม่ควรเกิดเป็นผู้ชายจริงๆ ทำไมทั้งร่างกายหน้าตาผมถึงได้วิปริทขนาดนี้ก็ไม่รู้

"เฮ้อ"

ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจแล้วถอดเสื้อออกก่อนจะหันไปหยิบเสื้ออีกตัวที่อยู่ตรงเตียงตัวเองเพื่อมาใส่แต่ก็ไม่วายเหล่มองปฎิกิริยาอีกคนที่นั่งอยู่ตรงเตียงของเขาเอง เบสดูไม่สนใจอะไรเลยจริงๆเอาแต่นั่งตอบไลน์สาวไม่มองมาสักนิด นี่แหละที่ทำให้ผมสบายใจเวลาอยู่กับมัน เบสปฎิบัติกับผมเหมือนผมเป็นเพื่อนผู้ชายปกติ ทำให้ผมรู้สึกดีไม่น้อยเลย

ผมมองเบสพรางยิ้มนิดๆ แล้วหันมาส่องกระจกเพื่อใส่เสื้อต่อ ต้องรีบแล้วเดี๋ยวครัวปิด

"เห้ย!!!!!" ผมร้องเสียงหลงพรางปาเสื้อลงพื้นอย่างลืมตัว นี่มันรอยอะไรรรรรร

"อะไรอีกละคราวนี้ มึงแหกปากทำไม ตกใจหมด" เบสถามขึ้นอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นผมร้องและกำลังส่องกระจกเหมือนจะเอาตัวมุดเข้าไปอีก

"เบส เบสสส ไอ้เบสสสส ช่วยกูด้วยยยยยยย" ผมร้องขึ้นอีกครั้งเหมือนคนเสียสติก่อนจะวิ่งไปหาเบสที่นั่งอยู่ตรงเตียงมองผมด้วยความตกใจที่เห็นผมร้อง

"อะไร เป็นอะไร" เบสถามเสียงเครียด

"มึง อะไรกัดกูไม่รู้แดงเป็นจ้ำใหญ่เลย ฮือออออออออ" ผมบอกเบสเสียงสั่นพร้อมกับลงไปนั่งตักมันอย่างลืมตัว

"ไหนอะไรกัดมึงกูไม่เห็นเลย" เบสพูดพรางกอดเอวผมไว้เพื่อไม่ให้ตก ผมก็เอาแต่ร้องไห้กอดคอหน้าซุกอกมันจนเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง จุดแดงมันใหญ่จริงๆนะ ผมจะตายมั้ยเนี่ยยย

"มะ...มึง ฮึก มัน ฮืออออออ มันอยู่ที่คอ มึง ฮึกๆ มึงดูดิ จ้ำใหญ่มาก" เมื่อผมเริ่มตั้งสติได้ก็พูดบอกเบสแต่พูดพรางร้องไห้ไปพรางและยื่นคอที่เป็นรอยแดงให้เบสดู

"หืม...หึ" เบสมองรอยที่คอไม่พูดอะไรแต่หัวเราะแปลกๆออกมา ผมจึงเงยหน้ามองมันก็เห็นมันมองผมด้วยสายตาแพรวพราวอยู่

"มะ...มึงหัวเราะอะไร ฮึก! กูกลัวจริงๆนะเว้ย! มึงรู้มั้ยว่ามันคือรอยอะไร ฮึกๆ" ผมพูดพร้อมสะอื้นตัวโยน เบสก็ลูบหลังปลอบแล้วหัวเราะหึหึไม่หยุด นี่ความกลัวกูตลกขนาดนั้นเลยหรอ!!!!!

"รู้สิ รอยนี้อันตรายมากเลยนะ เพื่อนไอ้นายเคยเป็น รักษาไม่ทันเลยลามไปทั้งตัว ที่มึงเป็นอยู่คือระยะเริ่มต้น" เชี่ยแล้ววววว ผมต้องตายแน่ๆ ทำไงดี ฮืออออออ

"ไม่เอาเบส กูกลัว ทำไงดี ฮึกๆ กูไม่อยากเจ็บอ่า ฮืออออออออออ ฮือออออออ" ผมร้องขึ้นอย่างร้อนรนก่อนจะปล่อยโฮอีกรอบ โดนตัวอะไรกัดก็ยังไม่รู้ แถมติดเชื้อถึงขนาดเป็นระยะเริ่มต้นแล้วอีก ผมจะรอดมั้ยอ่า TT

"ใจเย็นสิวะ กูพอรู้วิธีรักษาเบื้องต้น มึงอยู่นิ่งๆให้กูดูแผลชัดๆก่อนดิ" ผมคลายแขนที่กอดคอเบสนิดๆเพื่อให้มันดูแผลผมชัดๆ เมื่อเห็นแผลผมเบสก็ทำหน้าเครียดกว่าเดิม

"เบสอย่าเงียบสิวะ สรุปแผลกูเป็นไง ฮึก!" ผมถามเบสด้วยหัวใจที่เต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมา ตอนนี้ผมกลัวไปหมด

"แย่แล้ววะ แผลมันม่วงเริ่มเน่าแล้ว"

"ม่ายยยยยยย เบสสสสสสสสสส กูพึ่ง16เองนะ กูยังไม่อยากตาย ฮืออออออออออออ" ตายแน่ ผมตายแน่ๆ ไม่คิดเลยว่าผมจะไปหาแม่เร็วขนาดนี้ พ่อครับผมขอโทษผมต้องทิ้งพ่ออีกคนซะแล้ว แม่แก้วผมขอโทษนะครับปาล์มต้องร้องไห้หนักแน่ๆ ผมคงต้องจากโลกนี้ไปแล้วละ TT

"มึงหยุดเพ้อเจ้อเลยนะ หน้าตามึงบ่งบอกถึงการลาโลกมาก ถึงแผลมึงจะเน่าแต่กูก็ยังพอรักษาเบื้องต้นก่อนมันลามได้นะเว้ย" เบสพูดเรียกสติก่อนที่วิญญาณผมจะออกจากร่างจริงๆ เมื่อกี้มันบอกยังพอรักษาได้ใช่ม่ะ!!!!

"จริงนะ ฮึก! รักษาได้จริงนะ!! แล้วทำไงอ่า" ผมถามเบสอย่างมีความหวัง ตอนนี้อะไรก็ยอมหมดอ่ะ

"ต้องใช้น้ำลายจากอุณหภูมิของมนุษณ์ในการฆ่าเชื้ิอเพื่อไม่ให้มันลามไปที่อื่น" น้ำลาย? หมายถึงต้องเลียที่แผลหรอ!?! เลียที่แผลที่ใกล้จะเน่าเนี่ยนะ!!!

"จริงอ่ะ! ถ้างั้นกูก็คงต้องตายอยู่ดี แผลอยู่ที่คอกูจะไปเลียให้ตัวเองได้ไง ฮือออออ เบส ขอบคุณสำหรับ2วันที่ผ่านมา การได้เป็นเพื่อนกับมึงกูสนุกมาก กูลาก่อนนะ ฮือออออออออออ" ยังไงก็ต้องตายอยู่ดีสินะ ชีวิตของชิโระชั่งสั้นนัก

"เฮ้อ มึงนี่เพ้อเจ้อจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ มึงไม่ตายหรอก กูจะรักษาให้เอง" ผมที่กำลังร้องไห้กับวินาทีสุดท้ายของตัวเองชะงักทันที เมื่อกี้เบสบอกจะช่วยใช่ม่ะ

"มะ...มึง ฮึก! จะช่วยกูจจะ...จริงหรอ ฮึก"

"อืม"

"แต่แผลกูเน่า ฮึก! แล้วนะ มึงไม่รังเกียจหรอ"

"ก็ดีกว่ามึงตายอ่ะ" เบสสสสสส ขอโทษที่เคยด่ามึงแบดมาก่อน มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกูเลย ฮือออออออออ

"ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ กูจะไม่ลืมบุญคุณเลย"

"โอเคถ้าตกลงได้แล้ว มึงขึ้นไปนอนตรงเตียงดีๆดิ กูจะได้รักษาได้ถนัด"

"ได้ ขอบคุณนะ" ผมขอบคุณเบสอีกรอบก่อนจะลงจากตักของมันแล้วคลานไปนอนอยู่บนเตียงนิ่งๆ เบสที่เห็นดังนั้นก็ยิ้มพอใจแล้วหันมาขึ้นคร่อมผมที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสายตาแปลกๆ

"มันอาจมีจี๊ดๆบ้างทนหน่อยนะ"

พูดจบเบสก็ค่อยๆก้มหน้าลงมาใบหน้าหล่อเคลื่อนลงมาเรื่อยๆผมจึงหลับตาลงช้าๆอย่างตื่นเต้น ความมืดเข้าปกคลุมการมองเห็นของผมแต่ผมสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะตรงคอ ลิ้นร้อนของเบสลากเลียไปทั่วบริเวณที่มีแผลสลับกับดูดเม้มจนผมรู้สึกจี๊ดๆเป็นระยะ

"อึก อืออออ" ผมเผลอส่งเสียงครางออกมาเมื่อเบสเริ่มเอามือลูบไล้ไปตามร่างกายเปลือยเปล่าของผม ลิ้นที่ตอนแรกเลียแค่บริเวณแผลเริ่มลากไล้ไปทั่วคอและกำลังเคลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ

"อือออ บะ...เบส มันต้องเลียเยอะขนาดนั้นเลยหรอวะ" ผมลืมตาถามเบสเสียงสั่น ตอนนี้ร่างกายผมรู้สึกแปลกๆ เป็นผลมาจากการรักษาหรือป่าวก็ไม่รู้

"มันต้องเลียเผื่อลามด้วยไง หรือว่ามึงไม่โอเคกับการรักษาของกู"

"ปะ...เปล่า แล้วแต่มึงเลย" ผมพูดพรางหลบสายตาของเบสที่จ้องมา ไม่รู้ทำไมมันรู้สึกวูบๆโหวงๆใจเต้นแรงแปลกๆ

"ถ้างั้นเริ่มที่ปากมึงต่อละกัน"

"อะ...อะไรนะ" ผมที่กำลังหลบตาเบสถึงกับหันขวับทันที แผลไม่ได้ลามแค่ตัวหรอกหรอ

"มึงอยากให้แผลลามไปที่ปากด้วยหรือไง กูแค่จะกันไว้ก่อน มึงไม่โอเคหรอ?"

"ปะ...ป่าว ปากก็ปากสิ..." เอาวะเป็นไงเป็นกัน ถ้าไม่รักษาก็ตาย แค่ให้มันเลียปากเองคิดซะว่าเล่นกับหมาแล้วหมามาเลียปากแล้วกัน!

"หึ"

เบสหัวเราะในลำคอนิดๆก่อนจะก้มหน้าลงมาจนจมูกเขามาชนกับผม สายตาของเบสที่มองมาดูดุดันและทำให้ใจผมเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม ผมจ้องตากับเบสสักพักก็รู้สึกถึงลมหายใจร้อนและปากของอีกฝ่ายที่ใกล้จะประกบลงมา ผมจึงค่อยๆหลับตาลงช้าๆเพื่อรับการรักษาของเขา...

แอ๊ด!!

"เบสชิโระ ทำไมไม่ไปกิน...ข้าว....เอ่อ...."

ผลั่ก!

"โอ้ย!"

"เอ่อ...พี่นายสวัสดีครับ" ผมทีบท้องของเบสที่คร่อมผมออกทันทีแล้วหันมาส่งยิ้มแห้งๆให้คนที่เข้ามาเยือนด้วยใจที่ยังเต้นแรงไม่หยุด

"มึงทำไมชอบเข้ามาแบบไม่รู้เวล่ำเวลาจังวะ" เบสที่ลงไปกองตรงพื้นพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดและมองคนที่เข้ามาใหม่อย่างไม่เป็นมิตรนัก -"-

"ก็กูเห็นสองทุ่มกว่าแล้วไม่เห็นพวกมึงออกมาสักทีเลยมาดู ใครจะไปรู้ว่าพวกมึงจะไม่กินข้าวแล้วกำลังกินกันเองอยู่"

"ไม่ใช่นะครับ! พี่นายเข้าใจผิดแล้ว ผมให้เบสมันรักษาให้อยู่" กินกันเองบ้าอะไรเล่า นี่ความเป็นความตายเชียวนะ

"รักษา? รักษาอะไร?"

"พวกมึงคุยกันเองแล้วกัน กูไปข้างนอกละ นายมึงเขียนใบขอค้างข้างนอกให้กูด้วยนะ วันนี้กูจะนอนข้างนอก" พูดจบเบสก็คว้าเสื้อนอกโทรศัพท์และกระเป๋าตัวเองออกไปเฉย อ้าวเฮ้ย!! แล้วการรักษากูละ กูจะตายมั้ยเนี่ย TT

"สรุปกำลังรักษาอะไรกันอยู่" เมื่อเบสออกไปพี่นายก็หันมาคาดคั้นผมแทน

"คือเรื่องมันเป็นงี้ครับ...." ผมเล่าทุกอย่างให้พี่นายฟังตั้งแต่กลับมาถึงหอช่วงเย็นจนถึงอาบน้ำเสร็จแล้วเห็นรอย แต่สิ่งที่ได้คือพี่นายขำตลอดการฟังจนผมเริ่มหงุดหงิด

"ฮ่าๆๆๆๆๆ ชิโระนายฉลาดแต่ก็ซื่อบื่อนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ" และก็ขำไม่หยุด - -"

"หมายความว่าไงครับ นี่เรื่องความเป็นความตายผมเลยนะ"

"ฮ่าาาาาา ฮ่าๆๆๆ ความเป็นความตายเลยหรอ ฮ่าๆๆๆ อย่างว่าละสุขศึกษาคงไม่ได้สอนรอยคิสมาร์กหรอกใช่ม่ะ"

"รอยคิสมาร์ก?"

"ใช่ รอยคิสมาร์ก ไอ้สิ่งที่อยู่เต็มตัวนายตอนนี้คือรอยคิสมาร์ก ฮ่าๆๆๆ" เต็มตัวหมายความว่าไง มันมีแค่ที่คอไม่ใช่หรอ? หรือว่ามันเริ่มลามแล้ว!!!

ผมไม่สนใจพี่นายที่เอาแต่หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังแล้วรีบวิ่งไปส่องกระจกทันที ภาพตรงหน้าทำผมแทบทรุด รอยแดงจ้ำเต็มไปทั่วลำคอและตัว โดยเฉพาะที่คอแทบไม่เหลือพื้นที่ ตายแล้ว ผมต้องตายแน่ๆ ทำไมยิ่งรักษามันยิ่งลามละ!!!

"ชิโระอย่าทำหน้าเหมือนคนใกล้จะตายแบบนั้นสิ ฮ่าๆๆ" พี่เขาขำอะไรนักหนา ผมใกล้จะตายอยู่แล้วนะ TT

"พี่ไม่มาเป็นผมพี่ไม่เข้าใจหรอก"

"เอางี้นายลองไปเสิร์ทเน็ตดูสิว่ารอยคิสมาร์กคืออะไร จากกังวลนายอาจจะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอื่นก็ได้"

"หมายความว่าไงครับ"

"ไปหาคำตอบเองสิวะ งั้นพี่ขอตัวไปหาเจ้าของรอยคิสมาร์กของพี่บ้างละ ฮ่าๆๆๆๆ" พูดจบพี่นายก็เดินหัวเราะออกไปปล่อยให้ผมยืนเอ๋ออยู่คนเดียว พี่เขาดูสนุกบนความทุกข์ของคนอื่นเหมือนเดิมเลยแหะ

ผมยืนมองสภาพตัวเองในกระจกสักพักก็รีบหาโทรศัพท์เพื่อเสิร์ทวิธีการรักษา แต่พี่นายบอกให้หาคำว่ารอยคิสมาร์กสินะ โอเคหาคำนั้นแล้วกัน...

ผ่านไป 10 นาที

"ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยย" ผมตะโกนลั่นห้องพร้อมกับปาโทรศัพท์ลงเตียงอย่างโมโหสุดขีด

ไอ้เลวเบส!!!!!!!!!!!

มันหลอกผมชัดๆ รอยแรกต้องได้มาตอนมันจูบคอผมที่โซฟาแน่ๆ แล้วดูตอนนี้สิ อย่าว่าแต่ปิดรอยเลย ลบยังออกไม่หมดภายในวันเดียวมั้งเนี่ย!!!!! กลับมาเมื่อไหร่ผมจะกระทืบมันให้ตายเลยคอยดู!!!!!!!!

'คิสมาร์กคือสัญลักษณ์แสดงความเป็นเจ้าของ เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ❤️'

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา