พ่ายรักพรางหัวใจ

8.8

เขียนโดย Phaky

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.

  33 ตอน
  4 วิจารณ์
  32.86K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) อ่อนหวาน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 พ่ายรักพรางหัวใจ

ซีรีส์ชุดพ่ายรักยอดดวงใจ

ผลงานโดย

พิจักขณา

วางแผงหน้าร้านเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล วันที่ 26/08/2560

ต่างจังหวัดรอ 1-2 สัปดาห์นะคะ

ราคาปก 389 บาท จำนวน 504 หน้า

ช่องทางการสั่งซื้อ

1.เว็บไซต์สำนักพิมพ์

https://www.lightoflovebooknovel.com/

2.facebook สำนักพิมพ์

https://www.facebook.com/lightoflovebooks?fref=tl_fr_box

3.fanpage สำนักพิมพ์

https://www.facebook.com/lightoflovebooksfanpage

4.อีเมลสำนักพิมพ์

lightoflove2009@hotmail.com

**********************************************************************************

“เด็กดี”

ปลายจมูกโด่งคมถูกจูบเบาๆเป็นรางวัลหลังจากที่เอริสาพยักหน้ารับข้อเสนอเอาเปรียบของดาเนียล จากนั้นคนหื่นที่พร้อมรบตั้งแต่ลืมตาจากนิทราแสนสุขก็ไม่รอช้าก้มหน้าลงต่ำประกบจูบเรียวปากสีระเรื่ออย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นร้อนร้ายกาจเลาะเล็มเรียวปากอิ่มที่เม้มแน่นจนเอริสายอมเปิดปากให้ลิ้นสากลุกไล้เข้ามาชิมความหวานฉ่ำลิ้นที่ดาเนียลหลงใหลหนักหนา ลิ้นหนึ่งมากด้วยประสบการณ์ ต่างกะลิ้นอีกลิ้นที่ช่างอ่อนเดียงสา แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะปลายลิ้นหนาของดาเนียลที่ลุกล้ำสามารถเกี่ยวพันปลายลิ้นสีชมพูเงอะงะของเอริสาเอาไว้ได้ เพียงวินาทีแรกที่สัมผัสก็ทำเอาสองร่างนั้นกระตุกเกร็งเหมือนถูกช็อตด้วยไฟฟ้า ตามร่างกายนั้นราวกับมีพลังงานความร้อนขับเคลื่อนไปทั่วร่าง ยิ่งยามที่ปลายลิ้นเชี่ยวชาญเกี่ยวกระหวัดลิ้นอ่อนเสียงสาเข้าหาพลิกพริ้ว เอริสานั้นได้แต่นอนหายใจหอบแรงคล้ายคนถูกสูบวิญญาณไร้ปัญญาจะขัดขืนความต้องการของคนเอาแต่ใจ

เนิ่นนานที่ริมฝีปากหยักตักตวงความหอมหวานจากโพรงปากรสเลิศของเอริสา จนหญิงสาวนั้นหายใจกระชั้นหอบถี่ ดาเนียลจึงยอมปล่อยริมฝีปากนั้นให้เป็นอิสระชั่วคราว แล้วลากริมฝีปากร้อนซุกซบอยู่กับอกอวบคู่งามที่ชายหนุ่มใส่ความก่อนหน้าว่ามันคือว่าที่ฆาตกรที่ทำให้เขาหายใจไม่ออก แต่ดูเหมือนว่าดาเนียลจะไม่กลัวมัน เพราะชายกลับยิ่งซุกไซ้หนักหน่วงยามเมื่อยอดทรวงสีหวานนั้นชูชันท้าทาย ปลายลิ้นสากระคายจึงลากไล้หยอกล้อวนเวียนก่อนครอบครองด้วยริมฝีปากร้อนรุมดูดดื่มความหวานราวด้วยความโหยหาทารกกระหายน้ำนมมารดา สัมผัสรุกรานของดาเนียลทำเอาเอริสาหายใจหอบสะท้านพลางแอ่นหยัดกายลอยจากที่นอนให้แนบชิดใบหน้าของคนเหนือร่างด้วยความรัญจวนระคนทรมาน พร้อมเสียงหวานที่ครางเรียกดาเนียลเสียงกระเส่าลมหายใจติดขัด

“คุณชาย”

เสียงแผ่วๆจากริมฝีปากบางเอ่ยเรียกดาเนียลเป็นระยะตามอารมณ์หวามที่ถูกปลุกเร้า ใบหน้าคมสวยที่เคยเรียบเฉยอยู่เป็นนิจนั้นกลับบิดเบี้ยวทรมานราวกับไม่ใช่คนเดียวกัน สองมือบางที่กอบกุมผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดค่อยๆแตะไต่อยู่บนเรือนกายหนาเปลือยช่วงอกที่ตอนนี้ทิ้งน้ำหนักทาบทับเรือนกายเพรียวบางเอาไว้แนบชิด ความแข็งกระด้างของกล้ามเนื้อแบบผู้ชายจึงเสียดสีกับความเรียบเนียนเย้ายวนใจของผิวกายสาวจนเลือดในกายของทั้งสองวิ่งพล่าน ความกระสันปะปนความทรมานที่ยากจะควบคุมจึงก่อเกิดเป็นเปลวเพลิงพิศวาสร้อนที่พร้อมเผาไหม้ทุกอย่างที่ขวางหน้าจนยากจะดับลงหากยังไม่ได้รับการปลดปล่อย

“เรียกฉันอีก เรียกให้ดังกว่านี้”

เสียงครางกระเส่าเรียกชื่อเขาที่ผ่านริมฝีปากอิ่มของเอริสานั้นช่างให้ความรู้สึกดีเหลือเกิน ตลอดชีวิตหนุ่มของเขาผ่านการร่วมรักกับผู้หญิงมาหลายร้อยชีวิตหลากหลายเชื้อชาติ ซึ่งแต่ละคนนั้นล้วนมีใบหน้าสวยงามพร้อมรูปร่างสะดุดสายตาเป็นพื้นฐาน แต่กลับไม่เคยมีใครเลยสักคนที่จะกระตุ้นเร่งเร้าความกระสันซ่านจากเขาได้มากมายเท่าเอริสา ทั้งที่หญิงสาวไม่ได้ลงมือปลุกเร้าร่างกายเขาเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่ประสาทหูได้ยินเสียงครางเรียกชื่อเขาแผ่วเบานั้นกลับกระตุ้นให้เขาเร่าร้อนความต้องการโหมกระหน่ำรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“คุณชาย คุณชายขา อา…”

คนถูกไฟพิศวาสครอบงำทำตามคำสั่งไม่คิดดื้อดึง เพียงแค่นั้นก็ทำให้ดาเนียลหมดความอดทนเมื่อเสียงครางเรียกชื่อเขานั้นช่างอ่อนหวานจับจิตเหลือเกิน ร่างสูงจึงยอมผละริมฝีปากออกจากการดื่มชิมเนื้อนวล ขยับตัวขึ้นยืนอยู่บนเตียงเต็มความสูงเพื่อจัดการกับอาภรณ์ท่อนล่างที่ยังเกาะอยู่บนลำตัว พริบตาเดียวความยิ่งใหญ่อลังการก็ปรากฏแก่สายตาคนที่นอนแผ่หราลมหายใจขาดห้วงบนที่นอน ทั้งที่เคยเห็นและสัมผัส อีกทั้งยังเคยรับมันเป็นส่วนหนึ่งในร่างกาย แต่เอริสาก็ยังคงเขินอายทุกครั้งที่สองตาได้เห็นมัน

“อุ๊ย!”

หญิงสาวจึงพลิกใบหน้าหนีภาพหวาดเสียวนั้นด้วยหัวใจเต้นตูมตาม ก่อนอุทานตกใจเมื่อเลกกิ้งผ้ายืดสำหรับใส่ออกกำลังกายนั้นถูกปล้นออกไปจากร่างโดยไม่ทันรู้ตัว ความอ่อนหวานเย้ายวนใจจึงปรากฏแก่สายตาทำให้ดวงตาคู่คมของดาเนียลนั้นยิ่งฉายชัดถึงความต้องการที่กำลังจะล้นปรี่

ร่างเปลือยเปล่าอรชรที่นอนตัวแดงเป็นกุ้งต้มนั้นงดงามราวกับจิตรกรบรรจงปั้นจนดาเนียลแทบไม่อยากถอนสายตา ทรวงอกนูนเด่นล่อตาล่อใจกลมกลึงขาวผ่องเป็นทรงสวยและนุ่มเนียนดีดเด้งสู้ฝ่ามือเขาดีนักยามถูกเขาคลึงเคล้าหนักหน่วง และมันยังมีรสชาติหอมหวานถูกใจเรียกร้องให้เขาโหยหาราวกับมันคือยาเสพติดร้ายแรงที่หากไม่ได้เสพวันใดก็คล้ายคนคลุ้มคลั่งลงแดงอย่างทรมาน สายตาไล่เรื่อยลงมาตามเอวคอดเล็กที่เว้าเสียจนเกรงว่าหากวันใดที่มีลมพัดแรงหรือเขาจับต้องหนักมือเกินไปนิดแล้วเอวบางของหญิงสาวนั้นจะหักออกจากกัน อีกทั้งสะโพกกลมมนตึงแน่นอวบอัดน่าตีที่เขาโปรดปราน ปรารถนาที่จะลูบไล้และใช้มันเป็นที่ยึดเหนี่ยวยามถาโถมกายแกร่งเข้าหาแนบชิด แต่ที่สะดุดตาสะดุดใจเขามากที่สุดคงไม่พ้นแผ่นท้องเรียบเนียนไร้ไขมันที่มีลอนกล้ามท้องบางเบาอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอนั่นมันทำให้เขามักเผลอตัวจูบซับรับความอ่อนหวานอบอุ่นละมุนหัวใจเข้าสู่ร่างกายและเรียกร้องให้เขาลูบไล้ฝ่ามืออยู่ตรงนั้นอย่างเป็นสุขใจทุกครั้งที่มีโอกาส

“อ๊ะ! เจ็บ เจ็บค่ะ”

ความวาบหวามที่ถูกปลุกเร้ารุนแรงจนดวงตาปรือปรอยด้วยฤทธิ์พิศวาสนั้นหายไปเกือบสิ้นทันทีที่กายแกร่งใหญ่โตของดาเนียลบุกรุกเข้าหา แม้ธรรมชาติจะสรรสร้างกลไกช่วยเหลือให้การเดินทางสอดประสานเป็นหนึ่งนั้นราบรื่นแต่เป็นเพราะร่างกายของดาเนียลกับเอริสานั้นมีขนาดแตกต่างกันอยู่มากโข จึงทำให้เอริสานั้นรู้สึกเจ็บแปลบจนตกใจยามเมื่อมันสอดประสานลุกล้ำเข้าหา ดาเนียลจึงหยุดชะงักการเคลื่อนไหวแล้วโน้มใบหน้าลงต่ำพลางลากปลายลิ้นสากเลียไล้เพื่อลิ้มรสความหวานละมุนลิ้นจากทรวงอกคู่งามทิ้งระยะให้ความอ่อนหวานคับแคบของภรรยาอ่อนด้อยประสบการณ์ค่อยๆปรับตัว

“อื้อออ คุณชาย”

เพียงไม่นานร่างสองร่างที่เคยคุ้นดั่งวัวเคยค้าม้าเคยขี่ก็สามารถปรับตัวเข้าหากัน สองมือบางที่เคยยันอกแกร่งแข็งกระด้างกลับสวมกอดรอบท้ายทอยแข็งแรงของดาเนียลให้ซุกไซ้กับอกอวบของตัวเองมากขึ้นยามชายหนุ่มเริ่มขับตัวตนเข้าหาจนสุดเส้นทาง เสียงร้องครางรัญจวนทวีความชัดเจนเมื่อดาเนียลถาโถมเนื้อตัวเข้าหาไม่มียั้ง ความร้อนแรงที่พวยพุ่งราวกับไฟที่ได้รับน้ำมันจากความคับแคบที่บีบรัดนั้นทำให้ผู้นำตระกูลกริมเมอร์นั้นยิ่งสาดซัดความแข็งแกร่งร้อนระอุเข้าหาจนร่างกายแทบปริแตก ซึ่งคนอ่อนประสบการณ์อย่างเอริสาก็ไม่สามารถนอนนิ่งเฉยให้เป็นผู้ถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียวได้เมื่อถูกลุกล้ำหนักหน่วง เพราะเมื่อดาเนียลโถมตัวลงต่ำ เอริสาก็หยัดสะโพกอวบอัดขึ้นสูงทำให้การสอดประสานนั้นแนบแน่นเกินกว่าจะมีช่องว่างให้สิ่งใดลอดผ่าน

“อลิสของฉัน นุ่มแน่นเหลือเกิน ฉันจะขาดใจตายอยู่แล้ว อืมมม”

แม้จะโชกโชนมากด้วยประสบการณ์ แต่เมื่อเจอกับร่างเนียนนุ่มแสนหวานและคับแคบเกินกว่าผู้หญิงคนไหนๆจึงทำให้ดาเนียลนั้นส่งเสียงครางที่อัดแน่นไปด้วยความทรมาน แต่เป็นความทรมานที่เขาเต็มใจรับมันเข้าสู่ร่างกาย ร่างสูงจึงโยกกายเข้าหาไม่หยุดพัก ยิ่งเสียงร้องระงมปานจะขาดใจของอลิสคนงามนั้นดังขึ้นเท่าไร ความฮึกเหิมก็ยิ่งเพิ่มขึ้นๆ แรงถาโถมโจนจ้วงเข้าใส่ก็ยิ่งทวีกับหนักหน่วงจนร่างบางบนที่นอนนั้นสั่นคลอน

“คุณชาย...”

“ยัง เราจะไปพร้อมกัน”

เสียงครางอ่อนหวานที่เรียกชื่อเขานั้นลากยาวราวกับต้องการให้รู้ว่าเธอกำลังจะเดินทางไปยังดินแดนสวรรค์แสนสุขในไม่ช้า แต่ดาเนียลนั้นปรารถนาที่จะจับจูงมือของเอริสาให้ออกเดินทางเคียงข้างกันไปไม่ว่ายามทุกข์หรือยามสุขทั้งในช่วงเวลาปกติหรือยามตกอยู่ในห้วงเสน่หาลึกซึ้ง สองมือหนาที่เกาะกุมอกนุ่มเป็นที่ยึดเหนี่ยวจึงดึงมือบางร้อนผ่าวของเมียอ่อนหัดเข้ามาเกาะกุมทั้งสองข้าง จากนั้นชายหนุ่มจึงเร่งเร้ารวบรวมแรงกายที่มีทั้งหมดส่งตัวตนถาโถมเข้าใส่เป็นจังหวะกระหน่ำรัวรุนแรงไม่ยั้ง ไม่นานเสียงร้องตะโกนก้องอย่างคนที่ได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการรัดแน่นทรมานก็ดังกระหึ่มไปทั่วห้องพร้อมๆกัน พร้อมทั้งร่างสูงของดาเนียลที่ทิ้งตัวลงนอนทาบทับอยู่บนเรือนกายชื้นเหงื่อของเอริสาอย่างไม่คิดรังเกียจทั้งที่ยังไม่ถอดถอนตัวตนออกห่าง

เรียวปากหยักก้มลงฟอนฟัดผิวแก้มแดงก่ำอย่างคนที่เพิ่งออกแรงจนเลือดในร่างกายสูบฉีดของเอริสาอย่างหลงใหล ก่อนฉกจุมพิตเรียกร้องพลางสอดปลายลิ้นร้อนเข้าเกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นสีชมพูอย่างต้องการจุดไฟสวาทที่เพิ่ง มอดแต่ยังมีเชื้อเพลิงเก่าๆหลงเหลืออยู่ให้ลุกพรึ่บ จนคนที่ถูกปลุกเร้าโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ร่างกายพักเหนื่อยล้านั้นเบิกดวงตาปรือปรอยขึ้นมองอย่างตกตะลึง เมื่อสัมผัสอุ่นร้อนแข็งกระด้างพร้อมใช้งานที่กลางกายนั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าดาเนียลกำลังต้องการมันอีก

แต่ยังไม่ทันได้ขัดขืนหรือปฏิเสธ เจ้าของเรือนกายงดงามที่ดาเนียลโปรดปรานนั้นก็ต้องส่งเสียงร้องครวญครางแหบโหยออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อคราวนี้ชายหนุ่มเจนสนามรักนั้นจับเธอพลิกกายให้นอนคว่ำหน้าชันศอกตั้งเข่าทั้งสองข้างกับที่นอน โดยมีเรือนกายหนาหนักจอมบงการพลิกตัวตามโดยไม่ยอมให้ตัวตนซุกซนนั้นผละห่าง จากนั้นเอริสาก็ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากกำมือจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่นแล้วเชิดหน้าบิดเบ้ขึ้นสูงส่งเสียงร้องทรมานนานต่อเนื่องนับชั่วโมง

.................................................................................................................................................

ร่างสูงโปร่งระหงราวนางแบบมืออาชีพยืนหมุนตัวซ้ายทีขวาทีอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ในห้องแต่งตัวหลายครั้งจนนับไม่ได้ว่านี่เป็นรอบที่เท่าไรแล้วที่หญิงสาวเอาแต่จ้องมองภาพตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกแล้วถอนหายใจหนักๆด้วยความกลัดกลุ้มใจกับชุดราตรีเข้ารูปสีทองปักเลื่อมระยิบระยับแบบแขนยาวปาดเว้าโชว์เนินอกอิ่มความยาวลากพื้นจากแบรนด์ดังระดับโลกที่อยู่บนเรือนกายของตัวเองในตอนนี้

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ขณะที่กำลังตักอาหารฝีมือตัวเองใส่จานข้าวของดาเนียล ชายหนุ่มก็หันมานั่งจ้องหน้าเธอนิ่งๆไม่ยอมพูดจาจนทำให้เธอหวาดหวั่นว่าตัวเองจะเผลอทำอะไรสักอย่างให้ดาเนียลเคืองขุ่น อาจเป็นเรื่องรสชาติอาหารที่ไม่ถูกปาก หรืออาจเป็นเพราะเธอนั้นวุ่นวายกับการตักอาหารใส่จานเขามากเกินไปจนน่ารำคาญ แต่ไม่ว่าสาเหตุที่ทำให้ดาเนียลไม่พอใจนั้นคืออะไร มันก็ทำให้เธอร้อนรนจนไม่อาจนิ่งเฉย อยากรู้สาเหตุเพื่อที่เธอจะได้ไม่กระทำเช่นนั้นซ้ำให้ดาเนียลไม่พอใจ

ขณะที่กำลังนั่งรวบรวมความกล้าและคิดหาคำพูด อยู่ๆดาเนียลก็บอกให้เธอเตรียมตัว เพราะวันนี้ตอนค่ำเธอจะต้องไปงานเลี้ยงกับเขา คำบอกเล่ากึ่งคำสั่งนั้นทำให้สมองเธอมึนงงแปลกใจเล็กน้อยที่ตัวเองได้รับอนุญาตให้ออกไปนอกคฤหาสน์ที่ดาเนียลเคยบอกว่ามันคือที่คุมขังนักโทษอย่างเธอ แม้มีข้อสงสัยมากมายที่อยากถามแต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับยามชายหนุ่มถามว่าเข้าใจที่เขาบอกหรือเปล่า

แต่พอถึงเวลาช่วงบ่าย เธอเพิ่งรู้ว่าความเข้าใจของเธอที่คิดว่าดาเนียลจะให้เธอไปกับเขาในฐานะบอดี้การ์ดทำหน้าที่คอยคุ้มครองนั้นผิดถนัด เพราะมีกลุ่มคนนับสิบที่เธอไม่รู้จักเข้ามายังคฤหาสน์กริมเมอร์และขอพบเธอเป็นการด่วน ชายหัวใจหญิงแต่งตัวจัดจ้านและน่าจะมีตำแหน่งใหญ่ที่สุดในกลุ่มแนะนำตัวว่าพวกเธอคือทีมงานมืออาชีพที่คอยดูแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้ดาราดังยามออกงาน ซึ่งวันนี้ได้รับคำสั่งจากเจ้าของกริมเมอร์ แอสเสท ให้มาจัดการเนรมิตเธอให้สวยเพอร์เฟ็กต์ที่สุด

ยังไม่ทันได้รับความกระจ่างว่าบอดี้การ์ดอย่างเธอจะต้องแต่งหน้าทำผมให้สวยทำไม คนเหล่านั้นก็เข้ามาวุ่นวายกับเนื้อตัวของเธอเสียก่อน ทั้งจับเธออาบน้ำขัดผิวจนผิวกายที่เรียบเนียนสวยอยู่แล้วนั้นยิ่งผุดผ่อง เล็บมือเล็บเท้าก็ถูกตัดเล็มให้เป็นรูปทรงสวยงามและเคลือบสีอ่อนๆเพิ่มความแวววาวน่ามอง อีกทั้งคนเหล่านั้นยังมะรุมมะตุ้มจับเธอแต่งหน้าทำผมราวกับเธอเป็นดาราดังที่กำลังจะไปเดินงานพรมแดงระดับโลก ซึ่งกรรมวิธีทั้งหมดนี้ใช้เวลาไปเกือบหกชั่วโมงจนคนที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้นั่งหาวแล้วหาวอีกแทบหลับคาเก้าอี้ เพิ่งเข้าใจวันนี้เองว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะออกงานแต่ละครั้งนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยตามที่ทีมงานเสริมสวยมืออาชีพนั้นพยักหน้าเป็นเสียงเดียวกันว่าพอใจแล้ว ราวแขวนผ้าที่มีชุดราตรีหลากสไตล์แขวนไว้ก็ถูกพนักงานคนหนึ่งเข็นเข้ามาตรงหน้าเธอ จากนั้นชุดราตรีผ้าแนบเนื้อปักเลื่อมสีทองอร่ามจึงถูกดึงออกมาจากราวแล้วนำมาส่งให้เธอนำไปเปลี่ยนในห้องแต่งตัว เพราะนี่คือชุดที่ดาเนียลต้องการให้เธอสวมใส่ไปร่วมงานเลี้ยงกับเขาในค่ำคืนนี้ ทำให้เธอยืนเหวอทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าตัวเองจะต้องสวมใส่ชุดสวยงามราคาแพงหูฉี่แต่เคลื่อนไหวร่างกายลำบากพวกนี้ด้วย จนกระทั่งชุดราตรีชุดนั้นถูกแกว่งไปมาตรงหน้าเหมือนต้องการบอกอ้อมๆว่าเธอควรรับมันไปเสียที เพราะนี่เป็นคำสั่งของคุณชายใหญ่กริมเมอร์ คนที่เธอไม่มีทางขัดคำสั่งเขาได้!

“แต่งตัวเสร็จนานแล้วทำไมไม่ออกไป”

น้ำเสียงเข้มห้วนอย่างคนไม่พอใจที่ดังมาจากด้านข้างทำให้หญิงสาวที่ยืนทำหน้าเครียดอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องแต่งตัวสะดุ้งตกใจแล้วหันหลังกลับไปมองอย่างรวดเร็ว แล้วก็เห็นว่าเป็นดาเนียลนั่นเองที่ยืนกอดอกพิงกรอบประตูทำหน้าถมึงทึงขึงโกรธมองมาที่เธอนิ่ง จนเธอชักหวาดหวั่นไม่มั่นใจตัวเองที่เป็นอยู่ตอนนี้และไม่รู้ด้วยว่าเผลอทำอะไรให้ดาเนียลโกรธอีกหรือเปล่า

โดยที่เอริสาไม่รู้เลยว่าสาเหตุที่ทำให้ดาเนียลไม่พอใจนั้นเป็นเพราะชายหนุ่มอุตส่าห์รีบสั่งให้ลูกน้องบึ่งรถกลับมาบ้านทันทีที่ได้รับโทรศัพท์จากทีมช่างที่ส่งมาแปลงร่างเอริสาว่าภารกิจทุกอย่างเสร็จโดยสมบูรณ์ เพื่อที่จะได้กลับเห็นหน้าเมียรักให้หายคิดถึงและอยากเห็นว่าหญิงสาวจะงดงามอย่างที่จินตนาการไว้หรือไม่ แต่พอกลับมาถึงและยืนรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นพักใหญ่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าเอริสาจะลงมาเสียที ดาเนียลที่อยากเห็นหน้าเมียรักจนตัวสั่นจึงต้องขึ้นมาตามด้วยตัวเอง

“อลิส เป็นอะไร ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”

แต่สีหน้าเซียวๆที่แสดงออกถึงความไม่สบายใจทำให้คนขี้หงุดหงิดชะงักคำต่อว่าร้ายๆที่กำลังจะพ่นออกจากปากแล้วรีบเดินเข้าไปหาเมียคนสวยด้วยความเป็นห่วง เมื่อมาถึงตัวก็รีบดึงร่างบางเข้ามากอดแนบอกแล้ววางฝ่ามือทาบลงบนหน้าผากเนียนของหญิงสาวเพื่อวัดอุณหภูมิว่ามีไข้ขึ้นหรือไม่ จากนั้นสองแก้มนวลและลำคอขาวที่เขาหลงใหลก็ถูกกระทำเช่นเดียวกัน มั่นใจว่าเมียรักไม่มีไข้ ดาเนียลจึงช้อนปลายคางของเอริสาให้เงยหน้าสบตาเขา

“ตัวก็ไม่ร้อน แล้วทำไมหน้าซีด เป็นอะไร หืม?”

“คือ... ดิฉันรู้สึกไม่มั่นใจค่ะ”

“ไม่มั่นใจ? เรื่องอะไร”

คนถูกถามเม้มปากเข้าหากันแน่นไม่กล้าพูดถึงสาเหตุที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเพราะมันน่าอายมากเหลือเกิน จะหลบหน้าก็ทำไม่ได้เพราะถูกมือใหญ่จับตรึงปลายคางเอาไว้แน่น และสายตาคมกริบที่มองอย่างรอคอยคำตอบนั่นก็กดดันให้เธอต้องตัดสินใจบอกออกไปในที่สุด

“ชุดที่คุณชายให้ดิฉันใส่...ผ้ามันแนบกับลำตัวมากค่ะ”

“แล้วยังไง”

“คือ...ดิฉันกลัวเห็นพุงค่ะ”

กระอึกกระอักอยู่นาน สุดท้ายเอริสาก็กลั้นใจพูดมันออกไป แล้วรีบก้มหน้าซุกอกกว้างหลบสาตาคมกริบของดาเนียล ที่เธอยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกเป็นนานนั่นก็เพราะรู้สึกไม่มั่นใจกับรูปร่างตัวเองเอาเสียเลย จริงๆชุดที่ดาเนียลเลือกมาให้ก็สวยดีอยู่หรอก ตัวชุดเป็นแบบเข้ารูปสีทองปักด้วยเลื่อมระยิบระยับสลับเป็นลวดลายสวยงามช่วยขับผิวที่ถูกขัดจนเนียนเกลี้ยงให้ยิ่งผุดผ่อง แต่ด้วยเนื้อผ้าที่แนบไปกับลำตัวจึงทำให้คนใส่อาจตกม้าตายได้ง่ายๆหากรูปร่างไม่ดีจริง เพราะตัวชุดนั้นเป็นแบบแขนยาวและมีความยาวระพื้น ยามสวมใส่เนื้อผ้าของชุดก็จะแนบไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของสรีระ คราวนี้ไม่ว่าจะเอวหนา หน้าท้องปลิ้น หรือก้นย้วยก็จะเห็นได้ชัดเจน เอริสาจึงรู้สึกไม่มั่นใจเอามากๆ

“หือ? ตัวก็บางแค่นี้จะมีพุงได้ยังไง หรือว่าช่วงนี้กินเยอะ”

ได้ฟังสาเหตุจากคนขี้กังวลทำให้ดาเนียลจับร่างบางออกห่างแล้วหมุนซ้ายขวาก้มมองสำรวจร่างโปร่งอรชรจริงจัง พลางขมวดคิ้วเข้มอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเมียรักถึงคิดแบบนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่เอริสาจะมีพุงยื่นออกมาในเมื่อเจ้าตัวนั้นมีรูปร่างแสนจะเพรียวบางไม่ต่างจากนางแบบชั้นแนวหน้าระดับโลก อีกทั้งเจ้าหล่อนยังขยันออกกำลังกายจนหน้าท้องแบนๆมีลอนกล้ามบางเบาเซ็กซี่ขยี้ใจออกอย่างนั้น นอกซะจากว่า...

“เปล่าค่ะ ดิฉันกินปกติ แต่ช่วงนี้...คุณชายสั่งให้ดิฉันเล่นแต่โยคะเบาๆห้ามออกกำลังกายหนักๆเหมือนเมื่อก่อน ดิฉันเลยรู้สึกว่าร่างกายไม่ค่อยได้เผาผลาญก็เลยไม่มั่นใจ กลัวว่าจะมีพุงค่ะ”

เอริสาอธิบายออกไปเสียงเบา หากว่าเธอยังสามารถออกกำลังกายได้อย่างที่เคยทำเป็นประจำนั่นเธอคงไม่ต้องกังวลเรื่องรูปร่างแบบนี้หรอก แต่นี่เธอกลับถูกคุณชายจอมบงการสั่งห้ามไม่ให้เข้ายิมออกกำลังกายหนักๆเหมือนเมื่อก่อนเป็นอันขาด พอถามหาเหตุผล ดาเนียลก็ตอบว่ากลัวเธอจะออกกำลังจนหมดแรงแล้วไม่มีแรงออกกำลังกายบนเตียงกับเขา จนเธอนั้นหน้าม้านทำอะไรแทบไม่ถูกเมื่อได้ฟังเหตุผลของคนหื่นขึ้นสมอง แต่ด้วยกลัวว่ารูปร่างของตัวเองจะอ้วนพลุ้ยเธอจึงพยายามต่อรองกับดาเนียลอีกครั้ง ทีแรกชายหนุ่มก็ทำหน้าบึ้งไม่ยอมท่าเดียว ทำให้เธอต้องใช้มารยาหญิงบวกความใจกล้าด้วยการยกใบหน้าขึ้นหอมแก้มสากของเขาเป็นการเอาใจ สุดท้ายดาเนียลจึงยอมให้เธอครึ่งทางด้วยการบอกว่าจะจ้างครูสอนโยคะมาสอนเธอถึงที่คฤหาสน์กริมเมอร์แทน แต่หากเธอฝ่าฝืนเข้ายิม ชายหนุ่มจะลงโทษเธอด้วยการขังให้อยู่ในห้องนอนกับเขาสามวันสามคืน เธอจึงต้องทำตามคำสั่งของเขาอย่างเคร่งครัด

ส่วนโยคะที่มีคุณครูมาสอนให้ถึงคฤหาสน์กริมเมอร์นั้นไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ท่าโยคะที่คุณครูสอนให้แต่ละท่าเน้นยืดเส้นยืดสายผ่อนคลายกล้ามเนื้อเบาๆมากกว่า ซึ่งมันไม่ทำให้ร่างกายเธอเสียเหงื่อหรือหอบเหนื่อยจนหัวใจเต้นกระหน่ำเหมือนตอนเข้ายิม เลยพานคิดไปว่าร่างกายไม่ได้เผาผลาญเหมือนเมื่อก่อน จนทำให้รูปร่างไม่เพรียวกระชับเหมือนเดิม อีกอย่างที่สำคัญมากๆก็คือเธอกลัวว่าหากไม่ได้ออกกำลังเหมือนที่เคยแล้วกล้ามหน้าท้องที่ดาเนียลชอบลูบไล้จะหายไปจนทำให้ชายหนุ่มไม่เข้ามาคลอเคลียเธอเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้

“อย่ามาโทษกันสิ ใครบอกว่าฉันไม่ให้เธอออกกำลังกาย ก็พาออกอยู่ทุกคืน”

“คะ? คุณชาย!”

เอาอีกแล้ว เธอถูกคุณชายจอมหื่นกลั่นแกล้งให้ได้อายตลอดเลยสิน่า ตอนแรกก็งงอยู่เหมือนกันว่าดาเนียลพาเธอไปออกกำลังกายตอนไหน ในเมื่อชายหนุ่มนั้นออกคำสั่งกับเธอไม่พอ เขายังกำชับกับลูกน้องที่ดูแลความปลอดภัยที่คฤหาสน์ หัวหน้าแม่บ้าน และโซเฟียสาวใช้ประจำตัว ให้ทุกคนคอยสอดส่องดูแล ห้ามมิให้เธอออกกำลังกายหรือออกแรงทำอะไรหนักๆเด็ดขาด แต่พอเห็นลูกตาสีดำคู่คมนั้นแพรวพราววิบวับมีเลศนัยเธอจึงเข้าใจความหมายที่ดาเนียลต้องการสื่อจนใบหน้าเห่อร้อนราวกับมีเปลวไฟลุกโชนอยู่บนผิวแก้มก็คำว่า ‘ออกกำลังกาย’ ของเขากับเธอมันคนละความหมายกันยังไงล่ะ

“พูดจริง มีผลวิจัยยืนยันด้วยนะว่า ‘เซ็กส์’ สามารถเบิร์นแคลอรี่ได้พอๆกับการวิ่ง มันดีสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเธอเลยล่ะ เพราะผู้หญิงสามารถเบิร์นไขมันส่วนเกินทิ้งได้ถึง 90 แคลอรี่ ส่วนผู้ชาย 120 แคลอรี่ เพียงแค่มีเซ็กส์เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ลองคำนวณเล่นๆดูสิว่าแต่ละวันเรามี ‘เซ็กส์’ กันกี่ครั้ง ครั้งหนึ่งกี่ชั่วโมง แล้ววันหนึ่งเธอจะเผาผลาญไขมันส่วนเกินทิ้งไปได้เท่าไร แค่ยอมให้ฉันรักทุกวัน แค่นี้เธอก็ไม่ต้องกลัวอ้วนแล้ว แต่ถ้ายังคิดว่าตัวเองอ้วนเกินไปอยากเบิร์นออกเยอะๆก็บอกได้ เดี๋ยวฉันเพิ่มรอบพิเศษจัดหนักให้”

ดาเนียลว่ายิ้มๆพลางขยิบตาเจ้าเล่ห์ส่งให้อดีตบอดี้การ์ดสาวไปทีจนเอริสานั้นใบหน้าเห่อร้อนแดงเถือก ขัดเขินจนมิอาจสู้สายตาหยาดเยิ้มของคุณชายจอมหื่นได้ หญิงสาวจึงซุกหน้ากับอกกว้างอีกครั้งซึ่งเจ้าของอกแข็งๆนั่นก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังดูเต็มใจเสียด้วย เพราะนอกจากมือใหญ่จะไม่ผลักไส มันยังวาดแขนกอดร่างเล็กของคนกลัวมีพุงเข้ามากอดแนบชิดร่างสูงของตัวเองแน่น แล้วเกยปลายคางบึกบึนไว้บนกระหม่อมบาง

“ตกลงว่าต้องเพิ่มรอบไหม จะได้ซัดไข่ลวกล่วงหน้า”

ปล่อยเวลาให้สองหนุ่มสาวโอบประคองอยู่ในอ้อมแขนกันและกันอยู่ครู่ใหญ่ ดาเนียลก็เป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาด้วยน้ำเสียงล้อเลียน แต่ก็ยังไม่พ้นเรื่องเดิมๆที่ทำให้เอริสาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาตอบ หญิงสาวจึงได้แต่ส่ายศีรษะกับอกกว้างเป็นคำตอบ เธออยากให้ร่างกายมีการเผาผลาญมากๆเพื่อรูปร่างที่กระชับสวยงามก็จริง แต่หากเธอต้องยอมให้ดาเนียลเพิ่มจำนวนรอบกิจกรรมชวนเสียเหงื่อบนเตียงเพิ่มขึ้นเธอคงไม่เหลือเรี่ยวแรงทำอย่างอื่นแน่ๆ เพราะทุกวันนี้เธอถูกดาเนียลจับกลืนกินทุกวันไม่เคยขาดแรงจะคลานลงจากเตียงยังแทบไม่มี

“งั้นอย่าบ่นว่าอ้วนให้ได้ยินอีกนะ บ่นปุ๊บจับเบิร์นปั๊บ”

“ไม่บ่นแล้วค่ะ” เอริสารีบพยักหน้ารับไม่คิดดื้อดึง เพราะรู้ดีว่าเรื่องแบบนี้ดาเนียลจริงจังมาก พูดจริงทำจริงทุกคำ

“ห้ามอดอาหารด้วย ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบห้าหมู่ทุกมื้อ เข้าใจหรือเปล่า”

“เข้าใจค่ะ”

คราวนี้คนถูกสั่งรีบพยักหน้าพร้อมรับปากอย่างเต็มใจ ไม่รู้แน่ชัดว่าสาเหตุที่ดาเนียลออกคำสั่งเรื่องอาหารการกินของเธอเป็นเพราะอะไร แต่คำสั่งที่คล้ายมีความเป็นห่วงเป็นใยแอบแฝงนั่นก็ทำให้หัวใจของเธอพองฟูเบิกบานด้วยความสุขใจเหลือล้น ถึงแม้ในความเป็นจริงเขาอาจจะแค่ต้องการให้เธอแข็งแรงพอเพื่อจะได้รับศึกรักร้อนแรงของเขาบนเตียงเท่านั้นก็ตามที แต่เพียงแค่ดาเนียลโยนเศษความห่วงใยให้เธอเพียงน้อยนิดแค่นี้ คนต่ำต้อยอย่างเธอก็ดีใจมากแล้ว

“งั้นก็ไปกัน พร้อมแล้วใช่ไหม”

“ค่ะคุณชาย”

เอ่ยชวนพร้อมคว้ามือบางนุ่มนิ่มกว่าทุกวันเข้ามาจับ แล้วจูงร่างเพรียวบางอรชรออกไปจากห้องแต่งตัวมุ่งหน้าลงไปยังด้านล่างที่มีลีมูซีนคันหรูจอดรอเพื่อพาเขาและเธอเดินทางไปยังงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ และถ้าหากเอริสาสังเกตสักนิดหญิงสาวจะรู้ได้ว่าจังหวะการก้าวเดินของดาเนียลนั้นสั้นและช้าลงกว่าปกติ ทั้งนี้ก็เพื่อรอสาวงามข้างกายที่สวมชุดราตรียาวระพื้นกับรองเท้าส้นสูงที่คงทำให้เดินก้าวยาวๆเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ ดาเนียลจึงลดจังหวะการเดินลงเพื่อจะได้จับมือเดินเคียงข้างกับเอริสาไปพร้อมๆกัน

แม้จะทำเป็นเหมือนไม่สนใจแต่ดาเนียลนั้นรู้ดีว่าวันนี้ผู้หญิงที่เดินอยู่ข้างกายเขาคนนี้สวยงามเลอค่าราวกับเจ้าหญิงผู้เพียบพร้อมแห่งราชวงศ์ชั้นสูง ในยามปกติใบหน้าคมที่ไร้เครื่องสำอางแต้มแต่งนั้นก็สวยสะดุดตาอยู่แล้ว เพราะโครงหน้าเรียวยาวของเอริสานั้นประกอบไปด้วยดวงตากลมโตนัยน์ตาคมหวานดูเซ็กซี่เย้ายวน รับกับปลายจมูกโด่งเรียวเล็กได้รูป อีกทั้งริมฝีปากบางสวยสีชมพูน่าจูบที่เขาหลงใหลรสชาติหวานล้ำของมันจนโงหัวแทบไม่ขึ้น เครื่องหน้าทุกอย่างรับกันเหมาะเจาะไม่สวยหวานแต่ดูสวยเฉี่ยวน่าค้นหา ยิ่งเมื่อได้รับการปรุงแต่งจากเมคอัพอาร์ติสฝีมือดีก็ยิ่งทำให้ใบหน้าของหญิงสาวยิ่งสวยโดดเด่นสะดุดตา

ไม่ใช่แค่ใบหน้าสวยเฉี่ยวเท่านั้นที่งดงาม แม้แต่เรือนกายเพรียวระหงของหญิงสาวภายใต้ชุดราตรีแขนยาวเข้ารูปสีทองปักเลื่อมตัวยาวที่เขาเลือกให้นั้นก็ยิ่งทำให้หญิงสาวน่ามอง เพราะรูปร่างของเอริสานั้นเรียกว่าที่สุดของความสมบูรณ์แบบ หุ่นนาฬิกาทราย อกเป็นอกกลมกลึงนูนเด่นเป็นรูปทรงสวย เอวเป็นเอวเว้าคอดกลางลำตัวจนกลัวจะหักหากหกล้มหรือถูกเขากอดเอาแรงๆ ไล่ลงไปยังหน้าท้องแบนเรียบไร้ไขมันส่วนเกินและสะโพกเต็มตึงได้รูปขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป นี่ยังไม่นับเรียวขายาวสลักเสลาที่ซ่อนสายตาอยู่ใต้กระโปรงนั่น เรียกว่าทุกสัดส่วนที่ประกอบเป็นเรือนกายของเอริสานั้นไม่มีที่ติ

ซึ่งเขาก็พอจะจินตนาการได้ว่าหากเอริสาแต่งตัวแต่งหน้าด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์สวยงามราคาแพงเฉกเช่นสตรีทั่วไปแล้วหญิงสาวจะต้องสวยโดดเด่นไม่เป็นรองใคร แต่เมื่อได้เห็นความงดงามนั้นด้วยสองตาตัวเองก็ยิ่งทำให้เขานั้นหลงใหลแทบถอนสายตาออกจากหญิงสาวไม่ได้ หรือต่อให้ถอนได้เขาก็ไม่คิดจะทำมัน นั่นเพราะสองตาของเขาปรารถนาจะมองเอริสาอย่างนี้ตลอดไปตราบนานเท่านาน

“มานั่งนี่”

เจ้าของเสียงเข้มเอ่ยสั่งพร้อมๆกับมือหนาดึงร่างบางของเอริสาที่เข้ามานั่งอยู่ในรถคันหรูให้เข้ามานั่งชิดกับตัวเอง ทั้งที่ในความเป็นจริงดาเนียลกับอดีตบอดี้การ์ดก็นั่งอยู่ใกล้จนร่างแทบเกยกันที่เบาะด้านหลังอยู่แล้ว แต่นั่นคงยังใกล้ไม่พอในความรู้สึกของดาเนียล เพราะตอนนี้มือหนาของเขาลากร่างเพรียวขึ้นมานั่งตะแคงทับอยู่บนตักแกร่งเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งสองแขนแข็งแรงอัดแน่นด้วยมัดกล้ามยังสวมกอดรอบเอวเล็กบางเพื่อป้องกันไม่ให้คนขยันหน้าแดงดิ้นรนหนี ซึ่งคนถูกรังแกก็ได้แต่ปัดป้องไม่เข้าใจว่าทำไมดาเนียลต้องทำแบบนี้ในเมื่อเบาะที่นั่งออกจะกว้างขวาง

“อุ้ย! คุณชาย ปล่อยดิฉันลงเถอะค่ะ นั่งแบบนี้เดี๋ยวเสื้อคุณชายจะยับเอานะคะ”

เอริสาร้องอุทานเสียงหลงเมื่อถูกมือใหญ่ลากขึ้นมานั่งบนตักไม่ทันตั้งตัว สองมือบางออกแรงยันอกกว้างเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายของตัวเองแนบชิดกับเจ้าของตักอุ่น แต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่ไม่กล้าดิ้นรนแรงๆเพราะกลัวจะทำให้เสื้อสูททักซิโด้สีดำที่สวมอยู่บนเรือนกายของดาเนียลเป็นรอยยับจนดูไม่ดี

“ยกแขนกอดคอฉัน”

แทนที่คนถูกเตือนด้วยความหวังดีจะเชื่อฟัง ดาเนียลกลับสั่งออกมาตรงข้ามกันด้วยการให้เธอยกแขนกอดรอบลำคอแข็งแรงของเขา ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเธอทำแบบนั้น เนื้อตัวของเธอด้านหน้าจะทาบทับอยู่กับอกเสื้อของเขา และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสื้อผ้าของดาเนียลไม่เรียบเนี๊ยบเหมือนเช่นเคย แต่เมื่อเจอสายตาบังคับขู่เข็ญของคนเอาแต่ใจที่มองจ้องมา สุดท้ายเอริสาก็ต้องยอมทำตามที่คนเอาแต่ใจต้องการ สองแขนเรียวจึงเกี่ยวเข้ากับลำคอสีแทน แต่ร่างบางนั้นกลับทำตัวแข็งไม่ยอมเอนตัวพิงอกกว้างอย่างที่ควรจะเป็น

“ก็แค่นี้ทำไมถึงชอบดื้อนัก ฮึ!”

ดาเนียลถามเสียงเข้มแล้วก้มลงหอมแก้มนุ่มหนักๆเป็นการทำโทษคนดื้อบนตัก

“ขอโทษค่ะ คุณชายหนักหรือเปล่าคะ”

เอริสาก้มหน้าแล้วเอ่ยขอโทษออกไปเสียงอ่อยไม่ดิ้นรนต่อต้านยามเมื่อแก้มนวลถูกคนเอาแต่ใจจูบลงโทษ พลางถามด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าน้ำหนักตัวของตัวเองอาจทำให้ดาเนียลนั้นปวดขา

“หนัก! หนักกว่ากระเป๋าเอกสารนิดเดียว เพราะฉะนั้นเลิกนั่งเกร็งได้แล้ว เอนตัวซบลงมาเลย”

เพราะไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้ดาเนียลไม่พอใจมากไปกว่านี้ เอริสาจึงเอนตัวเข้าหาอย่างว่าง่ายแล้วพิงศีรษะไว้บนไหล่กว้างปล่อยตัวตามสบายเลิกสนใจว่าเสื้อสูทของดาเนียลจะยับย่นหรือไม่ แล้วก็พบว่ามันให้ความรู้สึกดีเหลือเกินเมื่อได้อิงแอบแนบชิดอยู่กับชายหนุ่มที่เธอรัก สองแขนเรียวสวยจึงกอดกระชับกับลำคอแข็งแรงแน่นพลางแนบใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงเข้าหาอกอุ่นตามเสียงบงการของหัวใจ

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ร่างสองร่างที่นั่งอิงแอบก็ยังคงกอดกันแนบชิดอยู่ในท่าเดิมตั้งแต่เริ่มเดินทางออกมาจากคฤหาสน์กริมเมอร์มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่โรงแรมระดับหกดาวกลางเมืองลอสแอนเจลิสอันเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงที่ดาเนียลได้รับเชิญ บรรยากาศเงียบกริบ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่แล่นอยู่บนท้องถนนกับเสียงหายใจของคนทั้งคู่เท่านั้นเมื่อดาเนียลกับเอริสานั้นพร้อมใจกันปิดปากเงียบ ต่างคนต่างจมอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะตอนนี้ดาเนียลกำลังมีความสุขกับการได้โอบกอดร่างนุ่มเนียนไว้ในอ้อมแขน หลายๆครั้งริมฝีปากอุ่นได้รูปก็พรมจูบลงมาบนศีรษะที่มีเส้นผมสีดำสนิทยาวสยายหอมจรุงใจ สลับกับก้มลงหอมแก้มอิ่มทั้งสองข้างหนักๆอย่างใหลหลง บ้างก็ลูบมือกับแผ่นหลังบอบบางเล่นฆ่าเวลา บ้างก็จับมือบางของเอริสาขึ้นมาจูบสูดดมความหอมหวานเข้าปอดอย่างเป็นสุข

ไม่ต่างจากเอริสาที่แม้จะไม่กล้าระรานเนื้อตัวของดาเนียลมากนักเพราะเกรงจะถูกปัดออกด้วยความรำคาญ แต่หญิงสาวก็ถือเอาโอกาสที่ดาเนียลสั่งให้เธอเอนตัวซบเขาด้วยการเอาซีกแก้มเนียนแนบชิดอกอุ่น แม้จะมีเนื้อผ้าหนาๆของเสื้อสูทตัวนอกกับเสื้อเชิ๊ตสีขาวด้านในขวางกั้นเอาไว้ แต่ความอุ่นจากอกตึงแน่นของเขาก็ยังแผ่ออกมาให้เธอซึมซับมันเข้าไปเก็บไว้ในหัวใจ การได้อยู่ใกล้คอยรับใช้ดาเนียลนั้นว่ายากแล้ว แต่การได้อยู่แนบชิดอิงร่างพิงกายกำยำของเขาเช่นนี้นั้นยากยิ่งกว่า ไม่รู้ว่าหลังจากวันนี้จะมีโอกาสอีกหรือเปล่า ตอนนี้และเวลานี้เธอจึงขอเก็บเกี่ยวความสุขเล็กๆน้อยๆนี้เอาไว้ให้มากที่สุด เมื่อดาเนียลยังไม่เอ่ยปากไล่เธอก็จะไม่ยอมขยับตัวออกห่างจากเขาเด็ดขาด

“ถึงแล้วครับคุณชาย”

แต่ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นก็ต้องมีจุดจบ เมื่อเสียงสารถีที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนลีมูซีนราคาแพงนั้นส่งเสียงบอกว่า ณ เวลานี้เธอกับดาเนียลได้มาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้นัดหมาย สายตาสองคู่ของคนที่แนบชิดกันอยู่ก็มองสบกัน ไม่มีคำพูดใดๆอีกเช่นเคย แต่ทั้งสองกลับเข้าใจความรู้สึกของกันและกันได้เป็นอย่างดี

“อยากอยู่แบบนี้ต่อนานๆไหม”

คำถามของดาเนียลได้รับคำตอบเป็นร่างบางที่ขยับตัวเข้าหาแล้วซบหน้าซุกอกอุ่นแนบแน่นเหมือนไม่ต้องการรับรู้โลกภายนอก พลางกวาดสองแขนโอบกอดเอวหนาของชายหนุ่มไว้กระชับชิดยิ่งกว่าเดิม

“ขับวนไปก่อน ใกล้ได้เวลาค่อยกลับมาใหม่”

แล้วดาเนียลก็ยอมตามใจคนช่างอ้อนบนตักและเป็นการตามใจตัวเองด้วยเช่นกันเมื่อก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือด้านซ้ายแล้วเห็นว่ายังพอมีเวลาอีกพักใหญ่กว่าจะถึงเวลาเริ่มงานตามกำหนดการ จากนั้นจึงหันไปสั่งคนขับรถให้ขับวนต่อไปเรื่อยๆเพื่อที่เขากับเมียรักจะได้ยืดเวลาแห่งความสุขนี้ต่อไป

*************************************************************************************

    

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา