พ่ายรักพรางหัวใจ
เขียนโดย Phaky
วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.
แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) แต่งตัวให้เมีย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความยังเปิดรับจองอยู่นะคะ สำหรับ 'พ่ายรักพรางหัวใจ' เล่มปิดของซีรีส์ 'พ่ายรักยอดดวงใจ' รับส่วนลด 20 % พร้อมของที่ระลึกน่ารักๆจากนักเขียน ภายในวันที่ 22 สค.นี้นะคะ รับจองจำนวนจำกัด ใครยังไม่ได้จองเข้าไปจองได้ที่เฟสบุคของนสพ.ตามนี้เลยนะคะ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1557404450988134&set=a.106220192773241.9585.100001557832227&type=3&theater¬if_t=like_tagged¬if_id=1502940057786157
.....................................................................................................................................................
“ใส่ชุดนี้”
มือปริศนาที่พุ่งมาจากด้านหลังแย่งชุดสูทกางเกงขายาวสีดำอันเป็นยูนิฟอร์มที่เอริสาใส่ทุกวันเพื่อความเหมาะสมกับหน้าที่บอดี้การ์ดที่ต้องแต่งตัวกระชับรัดกุมไปจากมือ หลังจากที่หญิงสาวเพิ่งอาบน้ำมาหมาดๆและเข้ามาหยิบชุดที่ถูกแม่บ้านนำมาจัดไว้ในห้องแต่งตัวของคุณชายกริมเมอร์ จากนั้นเดรสกระโปรงยาวแค่เข่าสีชมพูหวานที่ไม่เคยมีในครอบครองก็ถูกยื่นมาให้ตรงหน้าแทนที่ชุดเดิมที่ดาเนียลแย่งไปถือเอาไว้
“แต่ดิฉันเป็นบอดี้การ์ด ถ้าใส่กระโปรงจะทำอะไรไม่ค่อยสะดวก”
เอริสามองชุดที่ดาเนียลยื่นส่งมาให้แล้วเม้มปากนิดๆ สองมือยังไม่ยอมยื่นออกไปรับมัน พลางก้มหน้าปฏิเสธเสียงเบา ยกเอาหน้าที่ในความรับผิดชอบขึ้นมาเป็นข้ออ้าง จะให้เธอสวมกระโปรงสีหวานพวกนี้เนี่ยนะ ไม่ล่ะ เธอไม่ค่อยถนัด
“ไม่ใช่!”
“คะ?”
“ฟังนะ นับจากวันนี้เธอไม่ใช่บอดี้การ์ด ไม่มีหน้าที่ต้องปกป้องใคร และจะไม่ได้เป็นอีก…ตลอดไป”
เพราะเธอคือมาดามกริมเมอร์ หน้าที่ของเธอคือภรรยาที่ต้องดูแลสามีอย่างฉัน คนเดียว!
“เข้าใจแล้วค่ะ”
อดีตบอดี้การ์ดเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่จับร่างเธอหมุนมายืนตรงหน้าเขาอย่างสงสัย แล้วชะงักงันกับประกาศิตที่ชายหนุ่มประกาศออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจังก่อนพยักหน้าเข้าใจคำพูดนั้นเป็นอย่างดี
‘จริงสินะ คุณชายเคยบอกไว้แล้วว่าถ้าคุณหนูเจ้าขากลับมา วันนั้นคือวันที่เราต้องไป’
เอริสาคิดในใจอย่างปวดแปลบที่อกข้างซ้าย พึงรำลึกได้ว่าจริงๆเธอหลุดพ้นจากตำแหน่งบอดี้การ์ดตั้งแต่วันที่ทำงานผิดพลาดนั่นแล้ว แต่ที่ยังโชคดีมีชีวิตอยู่และมีโอกาสได้เสนอหน้าอยู่ในคฤหาสน์กริมเมอร์นั่นก็เพราะดาเนียลต้องการลงโทษเธอ และหากวันใดที่พบตัวดาร์เลเน่ วันนั้นเธอก็จะถูกโยนออกไปจากที่นี่ทันที และคงไม่มีโอกาสได้คอยดูแลคุณหนูตัวน้อยอีก
“เข้าใจแล้วก็รีบใส่ชุดนี้ซะ ปล่อยให้ตัวโล่งๆเย็นๆเดี๋ยวไข้ก็กลับอีกหรอก ชอบหรือไงที่ต้องนอนให้น้ำเกลือน่ะ”
ดาเนียลยื่นชุดกระโปรงในมือที่เขาเป็นคนซื้อให้อดีตบอดี้การ์ดอีกครั้ง พลางบ่นที่หญิงสาวไม่ยอมรับชุดไปสวมเสียที เพราะร่างโปร่งระหงที่เนื้อตัวยังหมาดน้ำเล็กน้อยนั้นมีเพียงเสื้อคลุมผ้าขนหนูสีขาวยาวเหนือเข่าสวมเอาไว้ จนเขาเป็นกังวลว่าหญิงสาวจะกลับมาป่วยอีกหากยังปล่อยให้ร่างกายสัมผัสอากาศเย็นๆ เพราะเขาไม่ชอบเอาเสียเลยเวลาที่เห็นเข็มแหลมๆทิ่มแทงผิวเนื้ออ่อนละมุนของเอริสาให้รู้สึกเจ็บ หากเป็นไปได้เขาอยากจะแบกรับทุกความเจ็บของเมียคนสวยมาไว้กับตัวเสียเองด้วยซ้ำ แต่เขาทำดังใจคิดเช่นนั้นไม่ได้ จึงได้แต่พยายามทะนุถนอมดูแลปกป้องให้เอริสาปลอดภัยจากหนทางแห่งความเจ็บปวดร่างกายทั้งปวง
“ค่ะ รบกวนคุณชายออกไปก่อนได้ไหมคะ ดิฉันจะได้แต่งตัว”
ทีนี้ล่ะทำมาบ่นว่ากลัวเธอจะไข้กลับ แต่ทีตอนจับเธอกลืนลงท้องในห้องน้ำตั้งสองรอบไม่ยักจะกลัว นี่ถ้าเธอไม่รีบวิ่งหนีออกมาซะก่อนมีหวังว่าบทรักรัญจวนรอบที่สามที่สี่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะดาเนียลนั้นดูจะมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือและโปรดปรานอ่างอาบน้ำมากเป็นพิเศษ
“ทำไมต้องออก เธอจะแต่งตัวก็แต่งไปสิ ฉันไม่ได้แย่งเสื้อผ้าเธอมาใส่ซะหน่อย”
ดาเนียลทำหน้าตาใสซื่อแกล้งไม่รับรู้ความลำบากใจของเอริสาที่ต้องแต่งตัวต่อหน้าเขา แล้วยืนกอดอกมองมานิ่งๆ แต่แววตาคมเรียบเฉยนั้นกลับเป็นประกายแวววาว มุมปากมีรอยยิ้มยียวนนิดๆอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก อันที่จริงดาเนียลไม่ได้ตั้งใจจะยืนดูเอริสาแต่งตัว เขาแค่ต้องการเอาชุดเดรสที่อยากเห็นมันอยู่บนร่างกายของหญิงสาวมาให้ แต่พอเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนใจของเจ้าหล่อน เขาจึงนึกสนุกอยากแกล้งเล่นก็เท่านั้น ก็เวลาเมียเขาเขินแก้มแดงน่ะน่ารักน่าฟัดน้อยซะที่ไหนล่ะ คิดแล้วมันเขี้ยว ฮึ่ม!
“ใส่เสื้อผ้า…เดี๋ยวนี้”
เมื่อเห็นคนตัวบางยังดื้อดึง ดาเนียลจึงต้องออกคำสั่งอีกครั้งน้ำเสียงเข้มขึ้น จนเอริสารู้ตัวแล้วว่าไม่มีทางขัดขืนจำต้องข่มกลั้นความอายก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ตัดสินใจ แล้วหันหลังหลับหูหลับตาหยิบชุดชั้นในในตู้เสื้อผ้าออกมาหนึ่งชุดลวกๆ
“ไม่เอาไม่ให้ใส่ นี่มันคนละชุดกัน”
แม้ว่าบรรดาชุดชั้นในในความครอบครองของเอริสาจะมีแต่สีดำสนิทสีเดียวที่ดูผิวเผินเหมือนเป็นเซตเดียวกันทั้งหมด แต่ดาเนียลกลับสายตาดีมากกว่าที่คิด เพราะชายหนุ่มดูออกว่าเจ้าสองชิ้นเล็กๆในมือของหญิงสาวนั้นมันไม่ใช่เซตเดียวกัน แล้วชายหนุ่มก็ทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดยิ่งกว่าด้วยการพาดชุดเดรสสีหวานไว้บนไหล่หนา แล้วหันไปหยิบชุดชั้นในในตู้มาใหม่หนึ่งชุดส่งให้หญิงสาว
“ใส่ชุดนี้ ลูกไม้สวยดี”
เอริสาอึ้งไปนิดเมื่อก้มมองชุดชั้นในสีดำของตัวเองในมือดาเนียล เพราะมันเป็นเซตเดียวกันจริงๆ นอกจากผู้หญิงด้วยกัน หากไม่ใช่คนช่างสังเกตหรือเชี่ยวชาญเป็นพิเศษคงดูไม่ออกว่าลายผ้าลูกไม้แต่ละเซตนั้นไม่เหมือนกันเลยสักชุด นี่แสดงว่าชายหนุ่มมีความสามารถด้านนี้เอามากๆ คงเป็นเพราะเขาเห็นมาจากบรรดาผู้หญิงของเขาบ่อยๆกระมังจึงได้เชี่ยวชาญนัก
“อยากให้ใส่ให้ก็ไม่บอก”
“คุณชาย!”
เอริสาผงะตกใจหลุดออกจากภวังค์เศร้าซึมเมื่อร่างเปลือยเปล่าใต้ชุดคลุมของเธอถูกสองมือหนาจับหมุนตัวหันแผ่นหลังให้เขา จากนั้นชุดคลุมสีขาวที่ผูกปมไว้ลวกๆก็ถูกปล้นไปจากร่างอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนที่ยืนบิดตัวกระมิดกระเมี้ยนเอียงอายจนเนื้อตัวแดงก่ำ ในขณะที่เสียงหายใจของดาเนียลนั้นเริ่มดังขึ้นคล้ายคนหายใจไม่สะดวก วินาทีถัดมาบราลูกไม้สีดำก็ถูกทาบเข้ากับอกนุ่ม ฝ่ามือหนาของดาเนียลบรรจงกอบโกยเนื้อเต้าด้านข้างให้อยู่ในกรวยผ้าเนื้อบาง จากนั้นตะขอด้านหลังทั้งสองข้างจึงถูกเกี่ยวเข้าหากันอย่างเบามือ
“แน่นไปหรือเปล่า”
“มะ..ไม่ค่ะ”
เอริสาตอบเสียงสั่นพอๆกับเนื้อตัวเมื่อดาเนียลลองสอดมือเข้าระหว่างใต้เสื้อชั้นในด้านหลังที่ชายหนุ่มสวมให้กับมือเพื่อทดสอบว่าเขาติดตะขอเข้าหาแน่นเกินไปหรือไม่ แต่ดาเนียลไม่ได้แค่ทดสอบความแน่นอย่างเดียวนี่สิ มือหนาคู่นั้นยังขยับลูบไล้มาซุกซนวนเวียนอยู่แถวๆจุดอันตรายใต้ราวนมอย่างน่าใจหายอีกต่างหาก จะปัดมือเขาทิ้งก็ไม่กล้า ได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มลูบไล้ตามอำเภอใจจนร่างกายของเธอสั่นสะท้านขนลุกชันครั้งแล้วครั้งเล่า
“อุ้ย! คุณชาย ได้โปรดให้ดิฉันใส่เองเถอะค่ะ”
เอริสาส่งเสียงอ้อนวอนขอความเห็นใจ เมื่อในตอนนี้ดาเนียลนั้นจับร่างเธอให้หมุนกลับมา แล้วย่อตัวลงนั่งยองๆพลางวางเข่าข้างหนึ่งขนานกับพื้นแล้วดึงสองมือของเธอให้จับไหล่เขาเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มจึงอยู่ในระดับใกล้เคียงกันกับ…ความอ่อนนุ่มที่ดาเนียลนั้นหลงใหล ดวงตาคู่คมมองจ้องอยู่ตรงนั้นราวกับไม่เคยเห็นทั้งที่ในความเป็นจริงเขาคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี ทั้งจับทั้งลูบคลำและยังเคยประสานหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสนิทชิดเชื้อตั้งหลายครั้ง ดาเนียลมองนิ่งๆแต่ทำไมเธอกลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกเขาลูบไล้โลมเลียจนเธอเขินอายสู้สายตาเขาไม่ไหวจำต้องขยับตัวหนีห่าง แต่ดาเนียลก็คือดาเนียลที่เอาแต่ใจเป็นที่สุด เพราะสองมือของเขากลับจับตรึงสะโพกเปลือยของเธอไว้แน่นไม่ยอมให้เธอขยับหันตัวหนีจนหัวใจน้อยๆเต้นถี่รัวด้วยกลัวว่าตัวเองจะถูกจับกลืนลงท้องอีกรอบ
“ยกขาขึ้น”
มองจนเธอแทบละลายไปตรงหน้า ดาเนียลจึงเอ่ยปากสั่งให้เธอยกเรียวขาขึ้นสูงจากพื้นเมื่อชายหนุ่มกางแพนตี้ตัวบางออกรอให้เธอสวมใส่อย่างไม่รังเกียจ ถึงตรงนี้เธอจึงรีบยกขาตามคำสั่งเพราะยิ่งเธอปฏิบัติตามเร็วเท่าไร สัดส่วนอ่อนหวานของเธอก็จะถูกปิดซ่อนจากสายตาเร่าร้อนของดาเนียลเร็วขึ้นเท่านั้น พริบตาแพนตี้ตัวบางจึงถูกสองมือใหญ่ดึงขึ้นมาเกาะอยู่กับสะโพกตึงในที่ที่มันควรอยู่ ทำให้เธอเป่าปากอย่างโล่งอกที่ภารกิจช่วยสวมชุดชั้นในจากดาเนียลเสร็จสิ้นเสียที เพราะหากเขายังอ้อยอิ่งอยู่อีกนิดเนื้อตัวเธอคงหลอมละลายเป็นขี้ผึ้งลนไฟแน่ๆ
“อุ้ย!”
แต่หายใจยังไม่ทันทั่วท้องเอริสากลับต้องร้องอุทานออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ เมื่อรู้สึกถึงความอุ่นซ่านจากริมฝีปากร้อนที่ทาบทับลงบนผิวเนื้อเปล่าเปลือยบริเวณโคนขาอ่อน สองมือบางที่จับไหล่หนาเอาไว้เปลี่ยนเป็นผลักไสพยายามออกแรงดึงตัวหนี แต่มือหนาของดาเนียลก็จับตรึงไว้แน่นไม่ปล่อยเช่นเดียวกัน สองร่างยื้อยุดจนในที่สุดก็เป็นเธอที่ต้องยอมแพ้พ่าย แพ้ทั้งเรี่ยวแรงและพ่ายให้กับความรู้สึกร่านร้อนที่ลามเลียไปทุกตารางผิวกายจนตอนนี้เลือดในกายสาวนั้นวิ่งพล่านอีกครั้งเมื่อดาเนียลยังคงพรมจูบซ้ำๆเฉียดส่วนสำคัญหนักบ้างเบาบ้างไม่หยุด ผิวเนื้อเนียนนุ่มร้อนผ่าวราวกับมีเปลวไฟลุกโชน ก่อนที่กล้ามเนื้อหน้าท้องแบนเรียบจะหดเกร็งเพราะริมฝีปากร้อนๆนั้นจูบซับขบเม้มอยู่บริเวณนั้นหนักหน่วงเนิ่นนาน
‘คุณชายชอบผู้หญิงมีกล้ามท้อง?’
คำถามนี้เอริสาถามตัวเองอยู่ในใจ เพราะเธอสังเกตอยู่หลายครั้งแล้วนับตั้งแต่ที่เธอนั้นตกเป็นของดาเนียล ชายหนุ่มชอบซุกไซ้ใบหน้าเกลือกลิ้งอยู่กับแผ่นท้องมีลอนกล้ามเนื้อขึ้นบางเบาของเธอ บ้างก็ลูบไล้ปลุกอารมณ์รัญจวนจนเธอเสียการทรงตัวไร้เรี่ยวแรงจะยืนจะนั่งจำต้องเกาะกอดร่างสูงของดาเนียลเป็นที่พักพิงอยู่เรื่อยไป
‘แต่งตัวให้เมียนี่มันเพลินดีเหมือนกันนี่หว่า’
และข้อสันนิษฐานของเธอนั้นน่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะตอนนี้เวลาก็ผ่านมาพักใหญ่แล้ว แต่ดาเนียลก็ยังฝากฝังใบหน้าคลอเคลียอยู่กับแผ่นท้องของเธอไม่ปล่อย แถมบางครั้งยังลากไล้ปลายลิ้นสากหยอกล้อกับสะดือบุ๋มของเธออย่างต้องการแกล้งแต่เป็นการแกล้งที่ทำให้เธอตัวอ่อนปวกเปียกต้องยอมตามใจให้ชายหนุ่มพาเธอล่องลอยอยู่ในวิมานพิศวาสเสียทุกที
โครกกกกกกก
แต่ก่อนที่สติสัมปชัญญะของเธอกับดาเนียลจะเตลิดไปไกลจนก่อเกิดเป็นเพลงรักกามารมณ์ร้อนแรงเป็นรอบที่สามยามเช้านี้ เสียงสะท้านสะเทือนรุนแรงของแผ่นท้องแบนราบที่ดังขึ้นกลับช่วยหยุดอารมณ์หวิวหวามซ่านสยิวให้มอดลงเสียก่อน ใบหน้าคมคายซบนิ่งอยู่กับหน้าท้องแบน จากนั้นเสียงหัวเราะดังๆอย่างคนกำลังขบขันของดาเนียลที่เธอแทบไม่เคยได้ยินก็ดังขึ้นมาจนเอริสาก้มหน้างุด รู้สึกเขินอายยิ่งกว่าตอนถูกเขาจ้องมองตรงนั้นเสียอีก
“หิวข้าวก็บอกดีๆสิ ไม่เห็นต้องตะโกนเสียงดังขนาดนี้เลย ตกใจหมด เอ้า! ใส่ซะ จะได้ลงไปกินข้าวกัน”
ครู่ใหญ่กว่าเสียงหัวเราะจะหยุดลง ก่อนที่ดาเนียลจะเงยใบหน้าเรียบเฉยไร้รอยยิ้มขึ้นมองแต่นัยน์ตาสีนิลกลับเป็นประกายวิบวับล้อเลียน จากนั้นชายหนุ่มจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วคว้าชุดเดรสที่พาดอยู่บนไหล่หนาโยนให้เอริสารับมันไป
“เร็วๆเข้า ชักช้าจะปล่อยให้ลงไปกินข้าวกลางวันแทน”
เพียงแค่นั้นเอริสาก็รีบหันหลังแล้วสวมชุดกระโปรงสีหวานที่ไม่คุ้นเคยมือไม้สั่น ไม่ใช่เพราะโหยหิวแต่เป็นเพราะหวาดกลัว เพราะคำพูดของดาเนียลนั้นบอกเป็นนัยยะว่าถ้าเธออิดออดเขาคงจับเธอกินอีกหลายๆครั้งเป็นแน่ แม้จะไม่ได้สวมใส่มาเป็นสิบปีแต่เอริสาก็สามารถสวมชุดกระโปรงได้ในเวลารวดเร็ว รู้สึกเนื้อตัวมันโล่งแปลกๆแต่ก็ต้องยอม จากนั้นคนจอมบงการจึงจับร่างเพรียวให้หันหน้ามาหาเขาคล้ายกับต้องการประเมินความเรียบร้อย ไม่รู้ว่าดาเนียลนั้นคิดอย่างไรเพราะสีหน้าของชายหนุ่มนั้นกลับมาเรียบเฉยเหมือนอย่างเคยจนเธอเดาใจไม่ถูกว่าสภาพของเธอตอนนี้เป็นที่ถูกใจเขาหรือเปล่า
จากนั้นมือหนาจึงจับมือบางมากุมเอาไว้แล้วพาเดินออกไปข้างนอก เป้าหมายอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร ระหว่างทางเอริสาต้องอาศัยดาเนียลในการนำทาง เพราะหญิงสาวนั้นเอาแต่ก้มหน้าต่ำมองพื้นเนื่องด้วยขัดเขินไม่มั่นใจกับรูปลักษณ์ใหม่ของตัวเองปะปนกับความรู้สึกอับอายที่ใครต่อใครในคฤหาสน์กริมเมอร์คงเดาได้ไม่ยากว่าเธอกับดาเนียลนั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันถึงขั้นไหน เอริสาจึงพลาดโอกาสได้เห็นโหนกแก้มขึ้นสีเรื่อของดาเนียลตอนที่ชายหนุ่มพาเธอเดินลงมาถึงชานบันไดแล้วเจอกับแอสตันที่ยืนอยู่กับอดัมมองมาด้วยสายตาล้อเลียนรู้เท่าทันนั่น
“กาแฟดำของคุณชายค่ะ ส่วนนี่ น้ำมะเขือเทศของนายหญิงค่ะ”
นอกจากรูปลักษณ์ใหม่ ฐานะที่ถูกเรียกก็ยังแปลกหู สรรพนามที่คุณป้าอาเธอร์เรียกเธอนั้นทำให้เอริสาเงยหน้าขึ้นมองคนเรียกทันควันอย่างแปลกใจพลางหวาดกลัวแทนว่าแม่บ้านวัยกลางคนจะถูกเจ้าของคฤหาสน์ลงโทษที่พูดจาไม่เหมาะสม แต่อาเธอร์กลับยิ้มแย้มตามประสาไม่มีทีท่าทุกข์ร้อนหรือหวาดกลัว เอริสาจึงเหลือบสายตามองดูปฏิกิริยาของดาเนียลว่าชายหนุ่มจะว่าอย่างไรบ้าง เธอกลัวเขาจะตอกหน้ากลับมาให้ได้อายต่อหน้าบอดี้การ์ดหลายชีวิตว่าเธอเป็นแค่นักโทษที่เขาลดตัวลงมานอนด้วยแก้ขัดเท่านั้น แต่ชายหนุ่มกลับทำเฉยแล้วหยิบถ้วยกาแฟดำขึ้นมาจิบพลางอ่านหนังสือพิมพ์ในมือเงียบๆ
‘คุณชายคงไม่ได้ยิน’
“กินซะ จะได้เลิกโวยวาย เสียงดังน่ากลัวชะมัด”
นั่งคิดอะไรเพลินๆไส้กรอกลมควันชิ้นโตหน้าตาน่ากินก็ถูกจิ้มมาวางลงบนจานของเธอ เอริสาเงยหน้าสบตาคนใจดีได้เพียงแว่บเดียวแล้วรีบก้มหน้างุดด้วยความเขินอายเพราะรู้ดีว่าดาเนียลนั้นหมายถึงอะไร เขาจงใจพูดให้เธอหวนนึกถึงเหตุการณ์วาบหวิวที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆในห้องแต่งตัวนั่น ซึ่งเพียงแค่นึกถึงเนื้อตัวของเธอก็สะท้านใบหน้าร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่อยู่
..........................................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ