ลิขิตรัก ณ การเวลาหนึ่ง

-

เขียนโดย FongFu

วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.27 น.

  4 ตอน
  2 วิจารณ์
  5,931 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 11.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ตอนที่ ๒ เกิดใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ ๒ เกิดใหม่          

ณ กรุงศรีอยุธยา ในสมัยรัชการที่ ๓

 “ท่านเจ้าคุณเทพขอรับ ทำมัยถึงทำหน้าเครียดเยี่ยงนั้นขอรับ” บ่าวผู้ติดตามของท่านเจ้าคุณถามขึ้นหลังเห็นผู้เป็นนายทำหน้าเครียด หลังกลับจากราชการในวัง

 “ข้ามิได้เป็นอันใดดรอกไอ้มิ่ง ข้าก็แค่เป็นห่วงหลานข้าก็เท่านั้น” ท่านเจ้าคุณเทพได้ตอบกลับบ่าวของตนไป ไอ้มิ่งเองก็สงสัยมากขึ้น ว่าอะไรกันที่ทำให้นายของมันกังวลใจถึงกับทำหน้าเครียดเช่นนั้น

 “ห่วงเรื่องอันได้ขอรับท่านเจ้าคุณ” ไอ้มิ่งถามต่อ

  “เจ้าเดชหลานข้าออกไปราชการนอกเมืองเมื่อคราที่แล้ว ป่านนี้ใยมิยังกลับมาอีก หรือว่าหลานข้าจะเกิดเหตุอันได้ขึ้น” ท่านเจ้าคุณตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ปนความห่วงในตัวหลานรักของท่าน ซึ่งเคยเป็นคู่หมั่นคู่หมายกับลูกสาวของท่าน  ถ้าแม้เจ้าจันทร์ลูกสาวคนเดียวของท่านยังอยู่คงได้หลานคนนี้มาเป็นลูกเขยไปตั้งนานแล้ว       ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เรือล่มเมื่อ ๒ ปีที่ผ่านมา ทำให้ลูกสาวคนเดียวของท่านเจ้าคุณ กับแม่มณีภรรยาของท่าน   ต้องเสียชีวิตไปพร้อมกับพ่อและแม่ของหลวงเดช  หลังจากเหตุการณ์นั้นหลวงเดชเองก็เอาแต่ทำงานรับใช้บ้านเมือง หักโหมเพื่อให้ลืมเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะกลับมาดูแลน้องสาวทั้งสองของเขาที่เหลืออยู่

  “ไม่ต้องห่วงอันใดดรอกขอรับท่านเจ้าคุณ เพราะหลวงเดชเองก็คงหักโหมทำงาน  เพื่อที่จักได้กลับบ้านมาเร็ววัน” ไอ้มิ่งบอกกลับนายของตน เพื่อให้ท่านมิต้องกังวลไปใย

 “ข้าก็หวังว่า ให้เป็นเช่นนั้นไอ้มิ่ง เพราะเจ้าเพชรกับเจ้าพลอยบนคิดถึงพี่ชายให้ข้าแลคุณหญิงแม่ฟังทุกวัน เมื่อได้พบเจอ” ท่านเจ้าคุณตอบ ก่อนที่จะหันมองออกไปนอกเรือที่กำลังแล่นอยู่ แต่แล้วสายตาของท่านก็ดันมองเห็นหญิงสาวนอนเกาะผักตบลอยน้ำมาใกล้เรือของท่าน  ท่านจึงหันไปบอกกับเจ้ามิ่ง

“ไอ้มิ่งเอ็งจอดเรือประเดียว ข้าเห็นเหมือนมีคนลอยน้ำมาติดข้างเรือเรา” ท่านสั่งแล้วกระเถิบมาที่กราบของเรือเพื่อดูให้แน่ใจ ก่อนที่หันไปบอกไอ้มิ่ง

 “ไอ้มิ่งเอ็งลงไปดูอีกที่ซิ ว่าตายหรือยัง”

“ขอรับ ท่านเจ้าคุณ” ไอ้มิ่งตอบรับพร้อมกับกระโดนลงไปในน้ำ

“ตูม..” พอลงไปดูแล้ว มันก็หันมาบอกท่านเจ้าคุณ

“เป็นหญิง แถมยังไม่ตายขอรับ ท่านเจ้าคุณ” ไอ้มิ่งบอกพร้อมกับช่วยเหลือหญิงสาวให้ขึ้นไปบนเรือ

“งันเอ็งก็รีบช่วยหล่อนขึ้นมาก่อนเถิด ก่อนที่จะสำลักน้ำตายซะก่อน” ท่านเจ้าคุณว่าพร้อมกับช่วยดึงหญิงสาวขึ้นจากในน้ำ พร้อมกับอุ้มมาวางบนเรือ บัดผมปัดเผ่าให้พ้นจากใบหน้า เพื่อขอดูหน้าหญิงสาวให้เห็นชัด แต่แล้วท่านก็ต้องตกใจเพราะหน้าตาหล่อนช่างคล้ายกับเจ้าจันทร์ลูกของท่าน  หน้าที่ต้องดูซีดเซียวเพราะแช่น้ำอยู่นาน เสื่อผ้าใส่ก็ช่างดูแปลกตานัก แต่ความงามช่างเหมือนลูกสาวคนเดียวของท่านเลย  เหมือนทอดแบบออกมายังไงยังงั้น  ทั้งโครงหน้าที่คล้ายกับภรรยาของท่านที่จากไป ผู้หญิงตรงหน้าทำให้เขาคิดถึงลูกเมียที่เสียไป แลทำให้น้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วกลับมาอีกครั้งพร้อมกับความคิดถึงและโหยหาเกิดขึ้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัว  ทำให้ท่านเจ้าคุณพูดไม่ออกเลยที่เดียว จะมีก็แต่ไอ้มิ่งที่กลับขึ้นเรือมาได้และหันมาเห็นเข้า  ก็ตกอกตกใจพร้อมกับพูดออกมาเสียงที่ดังว่า

 “ท่านเจ้าคุณขอรับนั้นมันคุณหนูจันทร์หรือไม่ขอรับ ทำมัยช่างเหมือนกับคุณหนูเช่นนี้ขอรับ จักมีก็แต่เสื้อผ้านั้นที่ดูแปลกตานัก ไม่เห็นยักจะเหมือนชาวบ้านทั่วไป” ไอ้มิ่งพูดพร้อมกับหน้าตาสงสัย แล้วมองมาหน้าของหญิงสาวที่ได้ช่วยชีวิตไว้

 “ไม่ใช่ดรอกไอ้มิ่ง ลูกข้าตายไปนานแล้ว คงเป็นแค่หญิงหน้าตาละไม้คล้ายเท่านั้นเอง เอ็งก็รีบพายเรือกลับเรือนเข้าเถิด จะได้ให้คุณแม่ท่านช่วยดูแล ดูซิตัวซีดเซียวขนาดนี้คงแช่น้ำมานาน ถ้าเอ็งยังชักช้า ข้าว่าผู้หญิงคนนี้คงตายก่อนถึงเรือนข้าเป็นแน่” ท่านเจ้าคุณหันมาเอ็ดไอ้มิ่ง ที่ชักช้ามัวแต่ถามมากความ ส่วนตัวท่านเจ้าคุณนั้นก็เกิดความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่พบหน้ากันเป็นแรก หรืออาจเป็นเพราะหน้าตาละไม้คลายลูกสาวของท่านทำให้ท่านรู้สึกเช่นนี้ ท่านเองก็มิอาจรู้ได้

  เมื่อมาถึงบ้านท่านเจ้าคุณเทพแล้ว ท่านก็เรียกบ่าวให้ไปตามหมอเป็นการด่วน ส่วนตัวท่านเองนั้นก็รีบอุ้มหญิงสาวที่มิได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามขึ้นเรือน ส่วนบ่าวทั้งหลายก็วิ่งวุ่น และมองหญิงสาวที่ท่านเจ้าคุณอุ้มมานั้นอย่างสงสัย

 คุณหญิงบัวเองก็เดินออกมาดู ว่าทำมัยบ่าวไพร่ถึงได้ส่งเสียงดังเอะอะโวยวายอันใดอยู่ข้างล่างนั้น

 “นังม้วนเอ็งไปดูสิ ว่าเกิดอันใดขึ้นกับพวกข้างล้างนั้น” คุณหญิงบัวว่าพร้อมกับทำหน้าหงุดหงิดกับเหตุการณ์ขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ

 “เจ้าค่ะคุณหญิง” นังม้วนที่นั่งอยู่ใกล้คุณหญิง รีบลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปดู และสักพักก็วิ่งมาพร้อมกับทำหน้าตาตื่น

 “คุณหญิงเจ้าขา ท่านเจ้าคุณเทพอุ้มหญิงใดมาด้วยไม่รู้เจ้าค่ะ” คุณหญิงเมื่อได้ยินดังนั้นจึงเดินไปดูให้เห็นกับตาของตน

 “เกิดอันใดขึ้นเล่าพ่อเทพ แล้วอุ้มผู้ใดมาเล่านั่น” คุณหญิงถามเมื่อเดินเข้ามาดูหญิงสาวที่ลูกชายท่านอุ้มมา เจ้าคุณเทพก็ยังมิได้ตอบกะคุณหญิงให้หายสงสัย ได้แต่หันไปบอกท่านด้วยท่าทีที่ร้อนใจว่า

 “คุณหญิงแม่ขอรับ ช่วยหญิงผู้นี้ด้วยขอรับ” ทางร้อนรนใจของลูกชายทำให้คุณหญิงหันไปสั่งบ่าวไพร่

 “พวกเอ็งแลรีบไปจัดห้องหับให้กับหญิงผู้นี้เถิด” และคุณหญิงก็หันไปสั่งงานบ่าวคนสนิทของท่าน

 “แลเอ็งนังชบา เอ็งไปดูแลหญิงผู้นั้นเถิด ถือว่านี่เป็นคำสั่งของข้า”

“เจ้าคะคุณหญิงบัว” ชบาว่าพร้อมลุกขึ้นไปตามคำสั่งของคุณหญิงท่าน  ส่วนคุณหญิงเองเมื่อเห็นดังนั้นตามไปดูว่าบ่าวไพร่ทำงานที่ท่านสั่งเรียบร้อยหรือไม่ สักพักคุณหญิงเข้าไปดูหน้าตาของหญิงสาวผู้นั้นใกล้ๆ ถึงกับตกตะลึง กับหน้าที่ละไม้คล้ายลูกสะใภ้และหลานสาวของนาง เหมือนกับว่าเอาสองคนมารวมเป็นคนเดียวกัน ทำให้หน้าตานั้นสะสวยเกินกว่าหญิงทั่วไป  อาการที่ตกใจยังมิได้หาย ก็พอดีกับหมอที่ให้ไปตามมาพอดี คุณหญิงก็ได้ให้หมอเข้าไปดูอาการของหญิงสาวทันที เมื่อท่านได้เห็นดังนั้นจึงเดินออกมานอกห้องเพื่อสอบถามเอาความกับลูกชายของตนให้รู้เรื่องรู้ราว

 “ว่ายังไงละพ่อเทพไปช่วยมาจากที่ใด แลเห็นแล้วใช้มัยว่าหน้าตาละไม้คล้ายลูกเมียเพียงได้” คุณหญิงถามออกไปพร้อมกับสังเกตอาการของลูกชายที่ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 “ขอรับคุณหญิงแม่ ลูกก็ตกใจไม่แพ้กันที่เห็นหญิงผู้นั้นละไม้คล้ายเจ้าจันทร์ของลูกมาก ทำให้ลูกรู้สึกเจ็บปวดและดีใจไปพร้อมกัน” ท่านเจ้าคุณว่าพร้อมกับสบตาผู้เป็นแม่ ที่เข้าใจท่านที่สุดว่าท่านรู้สึกเยี่ยงไร ในเวลานี้ คุณหญิงเองไม่ได้พูดหรือว่าอะไรท่านเจ้าคุณ  ได้แต่เอื่อมมือของท่านไปแตะที่มือของลูกชาย เพื่อเป็นการปลอบประโลมใจและพร้อมกับบอกว่าท่านเข้าใจดีว่าลูกรู้สึกเช่นใดในเวลานี้

 “ลูกช่วยหญิงสาวผู้นั้นจากในน้ำ หล่อนลอยมากับผักตบ มาติดที่เรือลูก ลูกก็เลยช่วยหล่อนไว้ขอรับคุณหญิงแม่” ท่านเจ้าคุณบอกพร้อม กับน้ำตาที่แห้งเหือดเริ่มกลับมาคลออีกครั้ง

 “ลูกไม่อยากจะคิดหรอกว่าฟ้าเบื่องบนได้ส่งเจ้าจันทร์ของลูกกลับมาสู่อ้อมอกของลูก หล่อนช่างหมือนเจ้าจันทร์แลแม่มณีเหลือเกิน” ท่านเจ้าคุณพูดออกไปพร้อมกับน้ำตาที่คิดถึงคะนึงหามันไหลออกมา แต่มิได้มีเสียงสะอื่นเช่นหญิงสาวไม่

 “ลูกดีใจเหลือเกินที่ได้พบกันอีกครั้งถ้าเป็นเจ้าจันทร์จริง  แต่ถ้ามิใช่ ลูกก็เสียใจเหลือเกินคงไม่มีวันได้พบกันอีกแล้ว นอกเสียจากตายแล้วถึงจักได้พบกันใหม่ในชาติหน้า” ท่านเจ้าคุณว่าพร้อมกับปาดน้ำตาที่เอ่อคลอขึ้นมาอย่างเสียมิได้ ผู้เป็นแม่เมื่อได้ฟังดั่งลูกว่า ออกแรงบีบไปที่มือของผู้เป็นลูกเบ่าๆเพื่อปลอบประโลมใจในยามที่สับสนเช่นนี้

 “พ่อเทพฟังแม่นะ จะใช่หรือไม่  แลเจ้าไม่ต้องคิดให้มากความ มันยิ่งกลับทำให้เจ้ารู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น คนที่ตายจากเราไปแล้วไม่มีวันกลับมาหาเราดรอกนะลูก ทำใจซะ  แลรอให้หญิงผู้นั้นฟื้นขึ้นมาก่อนเถิด เราจักได้ถามความเป็นมาเป็นไปให้รู้แจ้ง” คุณหญิงว่าพร้อมกับขอตัวเข้าห้องนอนของท่าน ส่วนท่านเจ้าคุณเองได้ยินดังนั้นจึงตอบรับกลับไป

 “ขอรับคุณหญิงแม่”

  ไม่มีใครล่วงรู้หรอกว่า ทำมัยฟ้าถึงลิขิตให้จันทมณีได้เจอกลับครอบครัวอีกครั้ง แต่กลับเป็นครอบครัวในอดีตภพชาติที่แล้วของหญิงสาว  การกับมาพบกันเพื่อมาเติมเต็มความรู้สึกเมื่อนานมาแล้วที่หญิงสาวขาดหายไป และยังจะความรักที่ต่างฝ่ายต่างก็โหยหาซึ่งกันและกัน  จึงทำให้หญิงสาวได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

                            **************************************************                                                            

 

 

******************ฝากถึงผู้อ่านทุกคนที่ติดตามอ่านนิเรื่องนี้ด้วยนะค่ะ ผู้อ่านสามารแสดงความคิดเห็นหรือติชมกันได้นะคะ  คนเขียนเองจะได้นำทุกคำติชมมาปรับปรุงแก้ไขต่อไป เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ*******************

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา