หยีกับเพชร
5) ตอน 5 ดั่งใจนึก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ลูกหยีไปร่วมงานศพของตัวเองทั้งสามวัน เพื่อนสนิทที่โรงเรียนเก่ามากันครบทุกคนรวมถึงเพื่อนๆ บางส่วนจากมหาวิทยาลัยด้วยเธอคงมีความสุขมากถ้างานที่เพื่อนมาร่วมเป็นงานกินเลี้ยงตามประสาเพื่อนฝูง
“แม่รักหนูนะลูก” ศศิธรบอกลาลูกเป็นครั้งสุดท้ายอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาประชุมเพลิง เธอลูบแก้มลูบผมลูกสาวด้วยหัวใจที่แหลกสลายการที่คนเป็นแม่ต้องมาเผาลูกมันเป็นสิ่งที่ยากจะทำใจให้ยอมรับได้
“หลับให้สบายนะนางฟ้าของพ่อ” น้ำตาของลูกผู้ชายไหลซึมออกมา ภวพลรวบรวมสติแล้วจับมือภรรยามากุมไว้เขาจะอ่อนแอไม่ได้เพราะต้องเป็นเสาหลักให้เธอ
“หนูรักพ่อกับแม่นะคะ” เธอปรากฏตัวให้ทั้งคู่เห็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้นทั้งที่ใจจริงอยากจะคุยกับท่านทั้งวันทั้งคืนแต่เธออยู่อีกโลกนึงแล้วเธอไม่ควรจะฉุดรั้งพ่อกับแม่ให้มีความหวังและที่สำคัญเธอไม่อยากให้คนอื่นมองว่าท่านทั้งสองบ้าบอเสียสติ
ลูกหยียืนมองพิธีเผาร่างตัวเองด้วยความหวาดหวั่นมันคือสิ่งที่เธอกลัวที่สุด เธอจะรู้สึกถึงความร้อนของเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้บนร่างนั้นรึเปล่าและเมื่อไฟดับลงเธอก็รู้ว่าร่างๆ นั้นไม่ใช่ของเธออีกต่อไปเพราะเธอไม่รู้สึกอะไรสักนิดปัญหาต่อจากนี้คือเธอจะทำยังไงต่อไปกับร่างไร้ตัวตนร่างนี้
ผ่านมาสามวันแล้วที่ลูกหยีนั่งๆ นอนๆ ในห้องของตัวเอง เธออยากตามพ่อไปที่ทำงานแต่ก็ไม่รู้จะไปนั่งอยู่ท่ามกลางพนักงานที่หน้าตาเคร่งเครียดทำไมส่วนแม่ก็เหม่อลอยร้องไห้อยู่เป็นระยะแต่พ่อก็โทรมาหาแทบจะทุกชั่วโมงเพื่อเช็กว่าแม่ไม่ได้คิดสั้นทำร้ายตัวเอง
หกโมงกว่าแล้วพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าแต่พ่อก็ยังไม่กลับเพราะวันนี้มีงานด่วนต้องเร่งทำให้เสร็จ เธอขึ้นไปบนห้องนอนแล้วเหม่อมองออกไปที่หน้าต่างในใจคิดไปว่าห้องของเธอจะมีใครมาเช่ารึยังนะ
“เฮ้ย” ลูกหยีร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะตอนนี้เธอยืนอยู่ในหอพักที่เชียงใหม่ !
“จริงหรอเนี่ย” ลูกหยีหลับตาแล้วนึกถึงห้องนอนที่บ้านของตัวเอง
“สุดยอด” ร่างไร้ตัวตนของลูกหยีอุทานออกมาด้วยความพิศวงแค่คิดเธอก็ไปไหนมาไหนได้ตามที่ใจสั่ง
“ไปที่ทำงานพ่อ” แล้วชั่วพริบตาเธอก็มายืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะที่พ่อของเธอกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารกองย่อมๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เหนื่อยไหมคะพ่อ” ลูกหยีนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับพ่อของเธอ
ตั้งแต่จำความได้พ่อก็ทำงานหนักเสมอเพื่อความสุขสบายของเธอกับแม่แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่พ่อจะละเลยหน้าที่หัวหน้าครอบครัวต่อให้กลับดึกงานเยอะแค่ไหนพ่อก็จะมากินข้าวที่บ้านและมีของมาฝากลูกกับเมียเกือบจะทุกวัน เธอได้ยินตั้งแต่เด็กๆ ที่พ่อพูดและจำได้ขึ้นใจก็คือแม่เป็นหัวใจของพ่อส่วนเธอเป็นชีวิตของพ่อ เธอโชคดีเหลือเกินที่ตลอดชั่วชีวิตสั้นๆ ได้เป็นที่รักของคนสองคนอย่างสุดหัวใจและมีเพื่อนที่ดีอีกกลุ่มใหญ่
“กลับบ้าน” เธอนั่งมองพ่ออยู่สักพักจึงกลับบ้านไปหาแม่
วันต่อมาพ่อกับแม่นำเสื้อผ้าและตุ๊กตาของเธอทั้งหมดคัดแยกและบรรจุใส่กล่องอย่างเรียบร้อยไปมอบให้บ้านเด็กกำพร้าเธอตามไปด้วยและมองเด็กๆ รับสิ่งของเหล่านั้นไปด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม
“ขอบคุณค่ะแม่” พ่อกับแม่พาเธอมาฉลองวันเกิดที่นี่หลายครั้งแล้ว ท่านสอนให้เธอรู้จักแบ่งปันและคิดถึงผู้อื่นเสมอและนี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่พ่อกับแม่จะมาที่นี่เพราะทั้งคู่ทำใจไม่ได้อีกแล้วที่จะมากันเพียงสองคน
“หนูหยีเขา…” เจ้าหน้าที่ไม่อยากให้สิ่งที่คิดเป็นจริงเลยแต่เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดจะเป็นของใครได้ถ้าไม่ใช่ของหนูหยีและถ้าพ่อกับแม่เอามาบริจาคยกกล่องแบบนี้มันจะเป็นอื่นใดไปได้
“ลูกหยีไปสบายแล้วค่ะ” ศศิธรกล้ำกลืนน้ำตาตอบออกไป
“ดิฉันเสียใจด้วยค่ะเสียใจจริงๆ แต่หนูหยีต้องดีใจมากแน่ๆ ที่ได้ส่งต่อของเล่นแล้วก็เสื้อผ้าให้น้องๆ ที่นี่”
“หนูดีใจมากค่ะ” ลูกหยีตอบทั้งน้ำตา มีแค่สองอย่างที่แม่ไม่ได้นำมาบริจาคคือผ้าห่มผืนแรกที่แม่เย็บเองแล้วใช้ห่อตัวเธอเมื่อวันแรกที่ลืมตามาดูโลกกับตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวแรกที่พ่อซื้อให้ทั้งสองอย่างแม่วางไว้บนเตียงนอนของเธอที่ยังคงมีผ้าปูและผ้านวมประหนึ่งยังมีคนไปนอนตามปกติ
“ไปหอพัก” ตกบ่ายลูกหยีก็ไม่รู้จะทำอะไรเพราะแม่งีบหลับ เธอเหม่อมองวิวภูเขาแล้วก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา
“คนเก่าเพิ่งย้ายออกไปครับ” พนักงานดูแลตึกพูดปดกับลูกค้าขืนบอกว่าคนเก่าตายคาห้องใครจะกล้ามาเช่าต่อล่ะ
“คงจะเป็นผู้หญิงแน่ๆ” เพชรบดินทร์เดินเข้าไปสำรวจในห้องน้ำแล้วเห็นโบว์ติดผมสีชมพูมัดอยู่รอบๆ ฝักบัวอาบน้ำ
“ใช่ครับนักศึกษาที่เดียวกับคุณนี่แหละ”
“อ้าวแล้วทำไมเขาย้ายไปกลางคันล่ะครับนี่เพิ่งเปิดเรียนได้แค่ไม่กี่เดือนเอง”
“อ้อ เห็นว่าสุขภาพไม่ดีเลยต้องลาออกครับ” ผู้ดูแลตึกหนาวๆ ร้อนๆ กลัวคนเช่าจะซักไซ้ต่อ
“อืม ห้องใหม่มากเลยผมชอบมากพอจะลดได้ไหมครับ” เพชรบดินทร์ลองต่อราคาทั้งที่รู้ว่าก็ไม่ได้ช่วยอะไร
“ไม่ได้จริงๆ ครับ ผมก็พนักงานไม่ใช่เจ้าของ”
“เข้าอยู่ต้องจ่ายเท่าไหร่ครับ”
“ประกันห้าพันล่วงหน้าสองเดือนทั้งหมดเป็นหนึ่งหมื่นเจ็ดพันบาท เงินประกันห้าพันจะคืนให้วันที่ย้ายออกถ้าห้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ครับ”
“โอเค พรุ่งนี้สิบโมงผมจะมาทำสัญญา” เพชรบดินทร์เดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี ลาก่อนไอ้หอพักเฮงซวย
หอเก่าของเขาติดกับมหาลัยมันสะดวกในการเดินทางแต่ลำบากในความเป็นอยู่แบบสุดๆ เพราะทั้งหอมีแต่ผู้ชายมันจึงมีแต่เสียงเอะอะโวยวายแล้วรองเท้าก็ถอดวางหน้าห้องไม่ได้เลยถอดทีไรหายทุกทีต่อให้คู่นั้นมันจะเก่าอุบาทว์ขนาดไหนมันก็หายเพราะจริงๆ มันไม่ได้ตั้งใจจะขโมยแต่มันเมาแล้วใส่มั่วไปหมดเจอคู่ไหนก็ใส่
ถึงมันจะถูกแต่หอพักกลับเป็นที่ที่ไม่ได้พักแล้วจะเสียค่าเช่าไปทำไมอีกอย่างอยู่หอชายจะหิ้วสาวๆ มานอนก็ไม่ได้แล้วพอไปนอนห้องสาวก็เจอแต่อะไรแหววๆ ที่ทำให้ขนลุกเช่น ชุดผ้าปูที่นอนสีชมพูฟรุ้งฟริ้งเท่านั้นยังไม่พอบนเตียงยังมีหมอนขนเฟอร์มุ้งมิ้งอีกประมาณสิบใบ เขาไม่เข้าเลยว่าทำไมคนคนนึงถึงต้องการหมอนมากมายขนาดนั้นสำหรับเตียงหนึ่งเตียงแล้วยังไม่นับรวมการหยิบจับข้าวของและต้องวางให้ถูกตำแหน่งเดิมตรงเป๊ะอีกนี่มันห้องหรือค่ายทหาร !
“พี่เพชรนี่นา” พี่เพชรหรือเพชรบดินทร์คือหนุ่มบริหารปีสามที่สาวๆ ทอดสะพานให้ทั้งคณะเพราะพี่เขาหล่อมากเธอเองยังแอบปลื้มแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้นมันก็แค่ความชื่นชมเหมือนเวลาเราชอบดาราเท่านั้นเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ