Path to the God พลิกชะตาท้าอสูร
เขียนโดย NStill
วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 09.06 น.
แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2560 16.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) คำพูดของเม็ดทราย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 6 คำพูดของเม็ดทราย
ท่ามกลางพายุทะเลทรายที่พัดโหมกระหน่ำ อลิเซียยังคงนอนตัวสั่นอยู่ข้างกองไฟซึ่งมีลูเคียนั่งอยู่ เวลานั้นน่าจะเป็นเวลาค่ำพอสมควร ลูเคียซึ่งเห็นอลิเซียนอนสั่นอยู่เป็นเวลาห้าวันจึงได้เอ่ยปากถามนาง
“อลิซทำไมเจ้าสั่นอย่างนั้น?”ลูเคียถามด้วยเสียงนุ่มนวล
“กะ...ก็เจ้าไม่รู้รึงะ...ไงว่าตะ...ตอนกลางคืนน่ะทะ...ทะเลทรายจะหนะ...หนาวมาก”อลิเซียพูดอย่างยากลำบาก
“เข้าใจละเพราะเจ้าเป็นเทพีแห่งทะเลทรายสินะอุณหภูมิของเจ้าจึงแปรเปลี่ยนตามทะเลทราย”ลูเคียเข้าใจอย่างว่าง่าย
กึกๆๆๆๆๆๆๆคืนนี้อลิเซียดูจะสั่นอย่างหนักเป็นพิเศษ จนลูเคียต้องค่อยๆเขยิบเข้าไปหานาง “เอามือเจ้ามา”ลูเคียพูดก่อนจะผายมือไปยังอลิเซีย นางยื่นมือให้ลูเคียอย่างว่าง่ายลูเคียจึงประกบมืออีกข้างลงบนมือของอลิเซีย ร่างของอลิเซียเริ่มที่จะหายสั่น แต่ซักพักนางก็กลับมาสั่นเช่นเดิม “นี่ข้าต้องกอดเจ้าเลยไหมเนี่ยถึงจะหายสั่น”ลูเคียค่อยๆมองเทพีแห่งทะเลทรายที่นอนขดตัวอยู่ข้างๆเขา อลิเซียค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาสบตาลูเคียก่อนจะค่อยๆพยักหน้าด้วยใบหน้าที่แดงเรื่อ ฝ่ายลูเคียกลับตะลึงกับคำตอบจากคำถามประชดของตน เขากำลังจะอ้าปากปฎิเสธแต่ก็มีความรู้สึกบางอย่างขวางกั้นคำพูดนั้นไว้ เขาค่อยๆโน้มตัวลงเอื้อมมือไปโอบกอดเทพีแห่งทะเลทรายซึ่งกำลังนอนตัวสั่นอยู่อย่างช้าๆ ความรู้สึกบางอย่างเข้ารุมเร้าหัวใจอย่างประหลาด
ลูเคียยอมรับเลยว่าตลอดห้าวันที่ผ่านมาเขารู้สึกบางอย่างกับนางและความรู้สึกนั้นมันแรงกล้าขึ้นทุกวันและในตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันชัดเจนจนเขาเริ่มกลัวที่จะรู้ว่ามันคืออะไร
ความอบอุ่นที่ถ่ายทอดออกมาจากลูเคียส่งผ่านไปยังร่างของอลิเซียจนร่างของนางหยุดสั่น ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมภายในถ้ำเหลือเพียงเสียงพายุทะเลทรายที่พัดผ่าน ความรู้สึกแปลกประหลาดเข้ารุมเร้าหัวใจของหนุ่มสาว อลิเซียค่อยๆซบใบหน้าลงบนอกของลูเคีย
“ลูเคีย...เหลืออีกเพียงสองวันเจ้าก็จะได้ไปแล้วนะ...”เสียงของอลิเซียฟังดูเศร้าสร้อย
“ข้ารู้...”ลูเคียตอบสั้นๆ
“เจ้าไม่ไปได้หรือไม่...” อลิเซียพูดเสียงเบา
“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องไปมันเป็นหน้าที่ของข้า...”ลูเคียตอบ
“ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า...”อลิเซียพูดก่อนจะเว้นจังหวะ
“ข้าก็มีเรื่องจะบอกเจ้าเช่นกัน...”ลูเคียค่อยซบหน้าลงบนผมของอลิเซีย
“งั้นพูดพร้อมกัน”อลิเซียเอ่ยด้วยน้ำเสียงรื้นน้ำตา
ความเงียบเข้ามาปกคลุมภายในถ้ำช่วงเวลาหนึ่ง ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนุ่มสาวปล่อยให้ความเงียบเข้ามาปกคลุม ความรู้สึกมากมายมาจุกอยู่ที่ปาก แต่ไม่สามารถพูดออกไป ภายในใจสับสนว่าควรพูดหรือไม่ หากแต่ในหัวนั้นว่างเปล่า พวกเขาเพียงแค่อยากปล่อยเวลาให้ผ่านไปและจดจำไออุ่นของฝั่งตรงข้ามให้มากที่สุด เพราะหากคำพูดของฝั่งตรงข้ามไม่ใช่คำพูดที่ตนคิดทุกสิ่งทุกอย่างคงจบลง
ในที่สุดทั้งสองก็สูดลมหายใจเข้าก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมาพร้อมกัน...
“ข้ารักเจ้า”
ประโยคเพียงประโยคเดียวที่เอื้อนเอ่ยทำให้หยดน้ำตาของทั้งคู่ไหลริน ความรู้สึกปลื้มปิติ ดีใจ ตื่นเต้นถามโถมเข้ามา ทั้งสองกอดกันแน่นขึ้น โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรต่อ มีเพียงเสียงของทรายที่พัดผ่านราวกับกำลังหยอกล้อผืนดินถึงอิสระที่ตนมีและเสียงของหยดน้ำตาสี่สายที่ไหลออกจากดวงตาสองคู่ของนักเดินทางแห่งเฟเทอร์ดัสท์กับเทพีแห่งทะเลทราย...
และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึงเมื่อทรายเม็ดสุดท้ายร่วงลงบนดิน เมื่อทั้งคู่ได้บอกความรู้สึกของตนไปสองวันสุดท้ายจึงเป็นวันที่ทั้งคู่มีความสุขมากที่สุด ลูเคียกำลังเตรียมของใส่กระเป๋าก่อนจะหันไปหาอลิเซียที่เดินเข้ามา
“ไม่ต้องคิดจะขอไปด้วยรอข้าอยู่นี่ละเดี๋ยวเสร็จเรื่องแล้วข้าจะมารับเจ้า”ลูเคียตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ข้าเอาของมาให้เจ้าต่างหากใครจะไปตามเจ้ากันหลงตัวเองชะมัด”อลิเซียตอบด้วยเสียงยียวนเช่นเดิมก่อนจะยื่นดาบสีเหลืองทรายให้แก่ลูเคีย
ดาบนั้นสลักด้วยลวดลายงดงาม ใบมีดคมกริบอีกทั้งยังยาวหลายเซนติเมตรทำให้การฟาดฟันมันสามรถทำได้ไกลขึ้น
ด้ามจับสีเหลืองสลับดำดูน่าเกรงขามอีกทั้งยังทีบุษราคัมเม็ดโตติดอยู่ข้างบนด้ามจับดูเด่นสะดุดตา
“มันคือเดซเซิทดรากูนเนียเป็นดาบที่สามารถฟันเกล็ดมังกรหักได้ง่ายๆ และมันไม่มีพลังอะไรทั้งนั้นด้วย”อลิเซียพูดดักเนื่องจากลูเคียกำลังทำท่าเหมือนใช้ดาบร่ายมนต์อะไรซักอย่าง
“ขอบคุณนะอลิซ แล้วข้าจะมารับเจ้า...”ลูเคียแบกกระเป๋าขึ้นหลังเก็บเดซเซิทดรากูนเนียเข้าฝักที่เอวก่อนจะเดินไปกอดอลิเซีย เขาอยากจะจดจำเวลานี้ให้นานที่สุด แต่ในขณะที่น้ำตากำลังจะไหลออกมาบางอย่างก็เกิดขึ้น!!!!
ร่างของอลิเซียถูกดึงออกจากร่างของลูเคียอย่างรวดเร็วพร้อมหอกสีน้ำตาลเล่มหนึ่งที่ปักเข้ากลางอกของลูเคีย เลือดสีแดงไหลออกมาเป็นทาง ความกลัว กังวล งุนงง รุกเข้าโจมตีอย่างหนัก เวลานี้เขาได้ยินเสียงอลิเซียกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งอยู่บนบ่าของชายหนุ่มร่างยักษ์คนหนึ่ง
“ก็ว่าคู่หมั้นของข้าหายตัวไปไหนที่แท้ก็มาอยู่กับเจ้าเศษสวะนี่นี่เอง!!”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“ข้าคือลูคัส เดอะ เอิร์ทเควก บุตรีแห่งพสุธา ครั้งนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า หึๆ แต่ดูแล้วก็ไม่น่ารอดเอาเป็นว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าเฉาตายอยู่ตรงนี้ละกันให้สมกับที่มายุ่งกับคู่หมั้นของข้า!!!!”ลูคัสตะโกนกร้าวก่อนจะหายตัวไป
ลูเคียซึ่งถูกหอกสีน้ำตาลแทงกระอักเลือดออกมาคำโต เวลานั้นเขาได้ยินเพียงเสียงของอลิเซียที่ร้องเรียกชื่อเขา หอกที่ปักอยู่ค่อยๆหายไปทิ้งร่างของลูเคียไว้บนพื้น เวลานั้นเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแต่กลับรู้สึกถึงความเสียใจและความงุนงงที่ถาโถมเข้ามา “อ...ลิ...เซีย...”ภาพข้างหน้าค่อยๆมืดลงก่อนที่จะดับไปลูเคียใช้เรี่ยวแรงและสติที่พอจะมีในการเรียกชื่อของคนรักจนหมดสิ้น...
ถ้าชอบก็ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เลยครับ หรือถ้าอยากให้ปรับปรุงตรงไหนก็ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เหมือนกัน ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านครับ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ