อู่หลง วิชามารสะท้านภพ[Rewrite][ภาค ระลึกอดีตชาติ]
เขียนโดย SixStory
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.55 น.
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2560 15.01 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ระลึกอดีตชาติ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"หากกล่างถึงยอดยุทธ์ที่ขยับเพียงฝามือเดียวก็เกิดมหาพายุ...เคลื่อนกายเพียงคราเดียวก็ไปไกลสุดขอบพิภพ..
หากถามถึงนามบุรุษผู้นั้นข้าคงมิอาจเรียบเรียงตอบออกมาได้..แต่หากต่อจากนี้หากเอ๋ยนามของข้าจะมิมีผู้ใดกล้าต่อกร..ข้าจะยิ่งใหญ่กว่ามหาบุรุษหรือยอดยุทธ์ทุกคนในโลกล้า...คำกล่าวทั้งมวลมิได้เกินเลย..แต่หากว่ามันจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน..."
ปึกก!!
"เฮ้อออ..นี้ก็เป็นเล่มที่เท่าไรแล้วทำไมไม่รู้มีแต่ตำราไม่ได้ความทั้งนั้น" ข้าโยนหนังสือลงทิ้งในกองไฟเล็กๆข้างกายพรางเอนตัวนอนหนุนขอนไม้ที่ถูกปูด้วยขนสัตว์อสูรคู่ใจ..ของข้า..ข้ามีนามว่าอู่หลง..เป็นคนป่า..นายพราน นักล่าอสูร เป็นอะไนอีกหลายๆอย่างที่เด็ก อายุ 15 ปีอาจสมควรจะเป็นได้..
ข้าอาศัยในป่า อยู่กินในกระท่อมไม้เล็กๆ มีบางคราที่ข้าออกไปนำของที่หามาได้ไปแลกอุปกรณ์ที่ข้าอยากได้ในเมืองใกล้ๆ ถามว่าข้ารู้ชื่อตัวเองได้ไง..
หากย้อนไปสักปะเดียวข้าเกิดในตระกูลฐานะปานกลางถึงค่อนข้างมีอันจะกิน บิดาข้าเป็นผู้นำตระกูลที่ค่อนข้างคาดหวังในตัวลูกหลานของตนสูงมาก ทำให้เหล่าหญิงสาวของบิดาข้า มีบุตรที่เกิดมาล้วนเปี่ยมด้วยความสามารถ แต่ก็ตามเนื้อ...
ข้านั้นไร้ซึ่งสิ่งนั้น..
เลยถูกตัดหางปล่อยป่า? มาเนี้ยไงโดยแกล้งวางแผนเป็นพาข้าออกเดินท่องเที่ยว และจ้างให้โจรกระจอกตามชายแดนมาดักปล้นข้า..ต้องวงเล็บด้วย(ข้าโดยเฉพาะ)
และไม่ฆ่าทิ้งแต่กลับเป็นทิ้งข้าไว้ในใจกลางป่า และพี่โจรแกยังใจดีลืมเสื้อผ้าอาหารบางส่วนไว้..อีก?
ข้าไม่ได้โกรธอะไรมากมายหรอก ถึงข้าจะไร้ซึ่งพลังปราณหรือไร้ทักษะการต่อสู้แต่ทว่า ข้าได้สิ่งเหนือยิ่งกว่ามา..
การอาศัยในที่แบบนั้นข้าพึ่งรู้ว่ามันชั้ง เลวร้ายกว่าการอยู่ในป่า..ในป่านี้คือแหละคือสถานที่ ที่ยุติธรรมที่สุด เป็นกลางที่สุด..หากคุณปรับตัวและแข็งแกร่งขึ้นได้ก็อยู่รอดไม่ต้องมาแข่งขันกับใครหน้าใหน..เอาชนะตัวเองได้ก็ถือเป็นยอดคนแล้ว...
"ห้าววววว~ " วันใหม่มาเยือนอีกครา วันนี้ข้ารู้สึกว่าจะตื่นเร็วหน่อยเพราะต้องรีบมาชำแหละเนื้อหมาป่าจากเมื่อคืน ข้าค่อยๆลุกออกมาจากกระท่อมน้อยและตรงดิ่งไปทางต้นไม้ที่ข้าผูกหมาป่าสองตัวนั้นไว้อ่านะ..แต่แล้วเรื่องประหลาดก็เกิดขึ้น.!
"เนื้อข้า ! หายไปใหนกัน !" สิ่งที่ข้าเห็นตรงหน้าคือส่วนขาของพวกหมาป่าทั้งสองตัว ! เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ถูกตัดออกไป แต่เกิดจากแรงกระชากอย่างรุนแรงเพียงครั้งเดียว!
ซากขาที่เหลือเพียง 5-6ข้างเท่านั้นส่วนที่เหลือมันคงหลุดตามตัวไป ข้าค่อยๆเพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้นทันที่!
'ไม่น่ามีสัตว์อสูรบุกเข้ามาถึงตรงนี้ได้...' ใช้แล้วบริเวณนี้ เป็นจุดที่ถูกล้อมไปด้วยกับดักมากมายกว่าทุกจุด ดังนั้นสิ่งที่มาขโมยเนื้อข้าไปต้อง..รวดเร็ว..และค่อนข้างชำนาญในตอนกลางคืน..และที่สำคัญแรงอันมหาสาร !
"ตัวอะไรกัน?...หากมันมีแรงขนาดดึงอสูรหมาป่าลงมาจนขาฉีกขาดได้..แถมยังรวดเร็วได้ขนาดนี้.." ข้าพูดไปพรางก้มลงมองหาร่องรอยตามพื้นพบว่าไม่มีเลย..แม้แต่คราบเลือดของสัตว์ที่ควรจะหยดไปตามพื้นก็ไม่มีให้เห็น..ข้าเริ่มคิ้วขมวดด้วยความแปลกใจ..
'หรือว่า..' ข้าค่อยๆกลืนน้ำลายลงคอพรางเดินออกห่างจากจุดนั้นสักหน่อย..และค่อยๆเงยหน้ามองขึ้นไปตามพุ่มไม่และกิ่งก้านของมัน!!
รอยเลือดและลอยจากการถูกลากแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ! มันถูกลากขึ้นไปด้านบนของพุ่มไม้ที่หนาแน่นนั้น ข้ายังคงมองด้วยสายตาเรียบเฉยเพราะดูๆแล้วสิ่งที่อาศัยบนต้นไม้อาจไม่ใช้อสูรธรรมดา
"สัตว์ปีกเช่นนั้นหรอกหรือ.." ข้ายังคงมองขึ้นไปด้านบนยอดไม้ไม่กระพริบตา ถึงอดีตกาลนับหมื่นปีก่อนข้าจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ตอนนี้ร่างกายข้าจักเป็นได้เพียงบุรุษตัวน้อยๆในป่าที่อันตรายพอๆกับขุมนรก.. ข้าย่อมรู้จักการประมาณตนเองว่าอะไรควรไม่ควร..
'ตอนนี้ข้าคงต้องแสวงพลังอันคู่ควรกับร่างนี้เสียก่อน..ก่อนจะประติดประต่อเรื่องราวของการระลึกชาติของข้า'
ถึงจะบอกว่าระลึกชาติแต่ความทรงจำทั้งหมดยังไม่สามารถปรากฏขึ้นมาให้ข้าได้รับรู้ได้ ข้ายังจำไม่ได้ว่า เมื่อหมื่นปีก่อนข้าตายได้เยี้ยงไร? แล้วทำไม่จู่ๆข้าถึงระลึกชาติของตนได้เอาปานนี้? หรือเจ้าเด็กนี้คือตัวตนของข้าที่กลับมาเกิดใหม่..
คำถามมากมายพุดขึ้นมาเต็มไปหมด..แต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ในตอนนี้...
อู่หลงหลังจากสำรวจรอบๆบริเวณจนพอใจและก็มุ่งหน้ากลับเพราะตนไม่อยากมีปัญหากับสัตว์อสูรในเขตนี้มากนัก ไม่ใช้เพราะเขากลัวแต่ยังไม่ถึงเวลาต่างหาก
หลังกลับมานั่งในกระท่อมน้อยๆของมัน อู่หลงจึงทำการนั่งลงกับเตียงไม้ที่มันประกอบขึ้นแบบง่ายๆ แล้วค่อยๆจมลงสู่ห่วงสมาธิเพื่อคิดหานำเอาพลังมาใช้ ซึ่งในอดีตชาติอู่หลงถือเป็นพญามารที่น่าเกรงขามที่สุดในสมัยนั้นเลยก็ว่าได้ ! เพราะวิชาทักษะการต่อสู่ล้วนเต็มไปด้วยด้านมืดทั้งนั้น
'. . . .มีอีกหลายร้อยวิธี..เพื่อสร้างเส้นลมปราณของข้าขึ้นมาใหม่แต่ติดที่ว่าร่างกายแบบนี้คงทนรับมิไหวเป็แน่'
ข้าใช้ความคิดอยู่นานสองนานจนนึกถึงขุมพลังแบบหนึ่ง..
'วัตตะพลังฉี'
คือขุมพลังภายในร่างคล้ายคลึงกับปราณมาก แต่ทว่าเป็นการดึงพลังชีวิตจากจุดชีพจรทั้งหมดมาใช้งาน! ซึ่งหลายๆผู้ฝึกตนย่อมรู้ดีว่าพลังชีวิตย่อมสำคัญมาก หากหมดไปก็เท่ากับได้ตายลงไปแล้วนั้นเอง แต่ทว่า พลังฉี เป็นขุมพลังที่ทรงพลังมากในยุคนี้อู่หลงคิดว่ายังคงมีคนรู้จักและใช่มันอยู่ถึง จะมีเพียงนับนิ้วได้ด้วยมือข้างเดียวได้ก็ตาม..
'หากข้าใช้ร่วมกับเคล็ดวิชาหมื่นนภาผันแปรก็สามารถนำพลังฉีมาใช้ได้อย่างเต็มที่แถมไม่ต้องกลัวว่าพลังชีวิตจะหมดไปด้วย..'
หมื่นนภาผันแปร..ถือเป็นวิชาที่แหกกฏสวรรค์เลยก็ว่าได้ อู่หลงคิดค้นได้หลังจากฝึกตนเข้าสู่ช่วงกลางของแดนพิภพทรราช ว่าหากใช้วิชานี้จะสามารควบคุมหมุนเวียนพลังชีวิตในร่างได้อย่างอิสระ ! ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีอายุไขที่ไร้ขีดจำกัด..หากไม่ได้โดนฆ่าตายซะก่อน..แต่ก็ต้องแลกมากับการสูญเสียท่าร่างและวิชาต่อสู้ทั้งหมดไป เพราะการฝึกฝนจักต้องทำลายจุดโจมตีของร่างกายตนเองเพื่อฝึกวิชา หมื่นนภาผันแปร..
หลังจากข้าสรุปสิ่งที่ต้องทำได้ก็เริ่มต้นการฝึก...ทันที่ !
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ