LUCKY WHEN I MET YOU.

-

เขียนโดย SOPHISV

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.50 น.

  1 บท
  1 วิจารณ์
  2,824 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560 17.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) BAD DAY

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

J University~~

                "สวัสดีค่ะอาจารย์ วันนี้นัดหนูมาพบมีอะไรเหรอคะ?" เนื่องจากที่ต้องตื่นเช้าก็เพราะวันนี้อาจารย์ที่มหาลัยนัดมาน่ะสิ นัดมาทำไมแต่เช้าก็ไม่รู้ เมื่อคืนก็ต้องปั่นโปรเจ็กจนดึก นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง T__T

                "ปณิตา ที่อาจารย์เรียกหนูมาพบวันนี้ก็เพราะว่า ช่วงนี้น่ะรายจ่ายทางคณะของเราก็เยอะพอสมควร แต่เธอซึ่งเป็นนักเรียนทุนก็ไม่ได้จ่ายในส่วนนี้ ทางมหาลัยเองก็เห็นว่าหนูไปได้บ้านยากจนอะไรขนาดนั้นน่ะจ้ะ ทางมหาลัยเลยจะจ่ายแค่ค่าเทอม ส่วนพวกเวลาไปเข้าค่ายหรือค่าใช้จ่ายยิบย่อยเนี่ย อยากจะให้เธอออกตังจ่ายไปเอง"

                "ตะ...แต่หนูตัวคนเดียวนะคะ แถมช่วงนี้รายจ่ายก็เยอะมากๆด้วย ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ค่ากับข้าวแถมงานพิเศษที่ทำอยู่ก็แค่พอใช้ในชีวิตประจำวัน" แค่นี้ฉันก็ไม่มีจะกินแล้ว ToT

                "อาจารย์เข้าใจหนูนะ แต่มันเป็นคำสั่งจากทางมหาลัย อาจารย์ช่วยอะไรเธอไม่ได้จริงๆ"

                ".....เข้าใจแล้วค่ะ" ฉันค่อยๆลุกจากที่นั่งด้วยหัวใจอันบอบช้ำ T___T

                “เดี๋ยวก่อนสิปณิตา นั่งลงก่อน”

                “คะ?”

                “อาจารย์มีทุนมาเสนอเธอนะ สนใจไหม ^_^”

                “ทุนอะไรหรอคะ” ไม่ใช่ว่าพอฉันได้ทุนแล้วบอกให้ฉันจ่ายเองอีกเรอะ!=_=++

                “ทุนเรียนปริญญาโทประเทศอังกฤษน่ะจ้ะ เป็นทุนเต็มจำนวนนั่นก็คือไม่เสียตังค์เลย คือ…อาจารย์เห็นว่าเธอน่ะมีผลการเรียนติดอันดับต้นๆเลยอยากจะลองให้เธอไปลองดู เธอสนใจไหม?”

                “…สนใจค่ะ แล้วต้องทำยังไงบ้างคะ”

                “ก็ไปสมัครคอร์สเรียนเต็มเวลาของทางโครงการก่อนเป็นอันดับแรก”

                “แล้วค่าใช้จ่าย…”

                “อาจารย์ยื่นเรื่องไปให้แล้วล่ะ ทางมหาลัยเองก็อยากจะช่วยเธอด้วย เพราะเธอเป็นคนที่มีความสามารถ ภาษาอังกฤษของเธอก็ถือว่าดีมากเลยด้วย”

                “แล้วถ้าไปเรียนคอร์สนั้นแล้วยังไงต่อเหรอคะ แบบคุณสมบัติ?”

        “ก็ GPA 3.0 ขึ้นไปซึ่งเธอก็ถึง J จบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แล้วก็สอบ IELTS* ให้ได้ระดับ 6.5-7.0”

 

*International English Language Testing System (IELTS) เป็นการสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษสี่หมวด ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด ผลสอบมีระดับดับ 1-9 มีค่าใช้จ่ายในการสอบด้วย

                “หนูไม่เก่งขนาดนั้นหรอกค่ะ” มันยากมากๆเลยนะ เวลาก็ไม่ค่อยจะมี จะไปเอาอะไรกับเกียรตินิยม ToT

                                                                                                                                                                                                “เธอเก่งจะตายไป อาจารย์ไม่บอกเรื่องทุนกับคนอื่นที่คิดว่าทำไม่ได้เลยนะ ที่อาจารย์บอกเธอเพราะคิดว่าเธอทำได้ แล้วถ้าเธอทำได้ก็จะเป็นชื่อเสียงของมหาลัยเชียวนะ เป็นการตอบแทนบุญคุณของมหาลัยเลยด้วยหรือเธอกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการสอบของ IELTS?”

 

                “ไม่ใช่ค่ะ แต่ว่าหนู….”

 

                “เอาน่า…แค่ลองดูก็ได้ นี่ใบสมัครนะ อาจารย์โหลดมาให้เธอแล้ว อ้อๆพรุ่งนี้เธอเอาใบสมัครพร้อมกับรายละเอียดตามในใบมาให้อาจารย์นะ ส่วนเรื่องค่าสอบก็ไม่ต้องกังวลทางมหาลัยจ่ายให้ ^_^” อาจารย์เชียร์สุดใจมาก ประหนึ่งฉันจะไปแข่งโอลิมปิก T__T

                ฉันเดินออกมาจากห้องของอาจารย์แล้วก็กะจะไปกินก๋วยเตี๋ยวหน้ามหาลัย เพราะตั้งแต่เช้าก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย แถมยังมีเรียนตอนสายๆก็เลยไม่รีบมาก แต่ตอนนี้รองเท้าผ้าใบของฉันยังกับถูกขุดออกมาจากกองถังขยะ คงได้เวลาซื้อใหม่แล้วล่ะมั้งเนี่ย ใช้มาตั้งปีกว่าๆแล้ว ก็นับว่าทนมากนะ สำหรับรองเท้าคู่ละร้อยเก้าเก้าจากตลาด =_=

 

                แควกก!

 

                สงสัยกันล่ะสิว่าเสียงอะไร …….เสียงรองเท้าฉันขาดเองแหละ แค่ชมหน่อยว่าทนก็มาขาดซะงั้น ฮืออ T__T ชีวิตหนอชีวิต แถวนี้ก็ไม่มีรองเท้าขายด้วย ToT ความจริงตอนแรกจะซื้อตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่คนขายบอกว่าวันเสาร์นี้มันจะลดราคา ฉันเลยยังไม่ซื้อ แงๆ ToT แล้วจะทำไงล่ะเนี่ยย  ไม่เห็นจะลัคกี้เหมือนชื่อเลย นี่มันแบดลี่ชัดๆ T_T งั้นใส่ขาดๆไปก่อนแล้วกันเนอะ YoY

                “ทิ้งไปเถอะ” เสียงผู้ชายทุ้มห้าวคงจะพูดกับฉัน (หรือเปล่า) แต่โดยปกติฉันก็จะไม่หันและไม่พูดด้วย คือแบบ..ฉันไม่ได้หยิ่งนะ แต่แค่ไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์สักเท่าไหร่ (ไม่มีเลยแหละย่ะ!) “นี่!เธอที่รองเท้าขาดอ้ะ ทิ้งรองเท้าไปเถอะ! ขาดขนาดนั้นแล้วยังจะใส่อยู่ได้”

                “ยุ่ง!”

ฉันหันขวับไปว่า จะยุ่งอะไรนักหนา เท้าก็เท้าฉันไหมล่ะ? =_=++ แต่พอหันไปมองแบบเต็มลูกตา ก็แอบอึ้งนิดหน่อย เพราะ….หล่อ เขามีดวงตาที่สวยมากเรียวคมเหมือนหมาป่ามีสีตาที่เป็นสีดำสนิท  เขาสูงราวๆ 180 เซนติเมตร หุ่นดีเหมือนนายแบบ  ผิวขาวและเนียนละเอียดเหมือนผิวเด็ก รูปปากเป็นรูปกระจับ ผมสีน้ำตาลทอง (ที่ดูก็รู้ว่าโกกมา)ยุ่งๆนิดหน่อยเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนแล้วหวีมาลวกๆ แต่ผิวเนียนขนาดนี้อ้ะนะ รุ่นน้องแหงๆ

“ไม่ได้ยุ่งนะ แต่ใส่แบบนั้นเดี๋ยวก็สะดุดล้มหรอก” ทำมาเป็นสั่งสอนฉัน ทั้งๆที่เป็นรุ่นน้องแท้ๆ

“…..” ฉันเงียบและเดินหนี ก็อย่างที่บอก ไม่ชอบคุยกับใครนี่น่า ทุกวันนี้ถึงยังไม่มีเพื่อนสนิทกับเขาสักที T__T

 

กึก!

“โอ๊ย!!”

วันนี้คงเป็นวันโชคร้ายของฉัน ใช่แล้ว….ฉันสะดุดล้มนั่นเอง ไม่มีฉากเหมือนในหนังหรือในนิยายที่จะมีพระเอกสุดหล่อมารอรับ แล้วสบตากันปริ๊งๆ มีแต่ความเป็นจริงที่….โคตรเจ็บ โคตรอายและ…เป็นแผล T__T

“ก็บอกแล้วว่าอย่าใส่ๆ J” เขายื่นมือมาให้ฉันแล้วยิ้มแบบล้อๆ แต่ฝันไปเถอะฉันไม่จับหรอกย่ะ! ฉันพยายามเล้ดันตัวเองเพื่อยืนขึ้น ก็ยืนได้แล้วแหละ แต่ทรงตัวไม่อยู่ ก็เลย….ล้มอีกรอบ ToT ทุเรศที่สวดดด!

                               

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา