1'st Metter High ร้ายสร้างรัก
เขียนโดย VoiceFuL
วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.11 น.
แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560 12.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) คนที่ถูกมองข้าม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคนที่ถูกมองข้าม
ฉันรีบไปที่ห้องเรียนของนายติวา อย่างน้อยถ้าไม่เจอหมอนั่นก็อาจจะเจอพี่คิน หรือ พี่เวลล์บ้างก็ยังดี ธุระที่ว่ามามันคืออะไร หวังว่าคงจะไม่มีผู้หญิงอีกคนเข้ามาเกี่ยวหรอกใช่มั้ย ..ฉันได้แต่ภาวนา
เมื่อไปถึงหน้าห้อง ฉันยืนชั่งใจก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ประตูมากขึ้น เมื่อฉันมองเข้าไปในห้องแล้วก็พบว่า พวกเขาอยู่กันครบ ทั้งนายติวา พี่คิน พี่เวลล์ และผู้หญิงอีกคน
ฉันพยายามซ่อนตัว แอบยืนมองภาพนั้นอยู่เงียบๆ
“พี่ติวา ฮึก..”
เธอคนนั้นร้องไห้ ติวาเดินไปหาแล้วค่อยๆดึงเข้าไปกอดอย่างปลอบโยน
“พี่ไม่น่าปล่อยให้เธออยู่คนเดียวเลยจริงๆ”
“พี่ไม่ผิดหรอก ไม่ผิดเลย”
พี่คินที่ปกติจะไม่สนใจอะไรรอบข้างตอนนี้กลับแสดงสีหน้าไม่สบายใจจนฉันเองรู้สึกได้ แม้แต่พี่เวลล์ที่ปกติเอาแต่เล่นคราวนี้กลับลุกขึ้นมายืนข้างพี่ติวาแล้วพูดขึ้นเสียงดังอย่างโกรธๆ
“มันเลวจริงๆ ฉันเจอมันตอนงานเชื่อมสัมพันธ์ปีที่แล้ว มันยังมาหลีไอ้ด้าอยู่เลย มาตอนนี้..”
“เงียบก่อนไอ้เวลล์” ติวาปราม
เธอคนนี้ดูจะ ‘สำคัญ’ สำหรับทุกคนเลยงั้นสินะ
“พิจิ สิ่งที่พี่อยากรู้ตอนนี้คือ ..เธอรักหรือไม่รัก”
“...” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากใครเลยซักคน ติวาจ้องมองผู่หญิงคนนั้นอย่างรอคอยคำตอบ พี่คินกับพี่เวลล์ก็เช่นกัน เธอหลุบตาลงต่ำ น้ำตายังคงไหลลงมาไม่ขาดสาย
“ขอความจริง” เขาย้ำเสียงจริงจัง
“รักสิ รักมาก ฮึก”
เธอคนนั้นซบหน้าลงร้องไห้หนักขึ้นไปอีก ติวาเอามือลูบหัวเบาๆ สีหน้าไม่สบายใจยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“แต่ฉันไม่อยากรักแล้วพี่ ฉันอยากเกลียดเขา”
“เธอแน่ใจเหรอ”
“แน่ ฮึก.. เขาบอกไม่รักฉัน ไม่เคยรักเลยด้วยซ้ำ แต่จนตอนนี้เขาก็ยังไม่ปล่อยฉันไป เขาจะมาทำให้ฉันเจ็บอีกทำไม ฉันไม่เข้าใจเลยพี่ ไม่เข้าใจอะไรเลย ฮึกๆ”
ฉันฟังแล้วยิ่งไม่เข้าใจ ผู้หญิงคนนี้รักใครอีกคนงั้นเหรอ แล้วติวาล่ะ เขารักเธองั้นรึเปล่า เพราะในตอนแรกเธอคนนี้รักคนอื่นเขาเลยมาทำดีกับฉัน อย่างนั้นรึเปล่า ?
“’งั้นพี่จะไปเจอมัน”
“ถึงพี่ไปห้าม ยังไงหมอนั่นก็ไม่ฟังพี่หรอก”
“งั้นพี่จะบอกมันว่าเธอเป็นผู้หญิงของพี่ มันจะได้ไม่มายุ่งอะไรอีก แบบนี้ตกลงมั้ย”
ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าแล้วกระชับแขนกอดแน่นขึ้นไปอีก ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ฉันยืนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ไม่เข้าใจ น้อยใจ เสียใจ และคำถามอีกมากมายที่เข้ามาภายในหัวฉัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน ทำไมเธอดูสนิทสนมกับเขาขนาดนั้น ทำไมเขาดูอ่อนโยนกับเธอเหมือนกับที่ทำกับฉัน แล้วทำไมเธอถึงได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเขา
…ทำไม….
ฉันหลับตาลงเพื่อข่มความรู้สึกในตอนนี้ ก่อนจะเดินจากออกมา จากความเป็นจริงตรงหน้าที่แม้ว่าจะยังไม่รู้อะไรแน่ชัด แต่ฉันก็ไม่อยากรับรู้มัน
วันรุ่งขึ้น ฉันไปโรงเรียนแต่เช้า และเอาแต่ขลุกตัวอยู่มุมหนึ่งในห้องสมุด รอจนกระทั่งได้เวลาเข้าเรียนนั่นล่ะ ฉันถึงได้กลับออกไป ระหว่างที่อาจารย์ยังไม่เข้าสอน ห้องก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยราวกับนกกระจอกแตกรังอย่างเช่นทุกครั้ง ผิดแต่ว่าวันนี้เสียงเหล่านั้นกลับไม่ได้เข้ามาในโสตประสาทของฉันเลยแม้แต่นิด
“ตั้งโอ๋! เธอไม่ฟังฉันเลยเหรอเนี่ย TOT”
ฉันหันมองยัยเพลงที่นั่งโอดครวญอยู่ข้างๆฉัน พูดพล่ามอะไรอยู่ได้พักใหญ่ แต่บอกแล้วไง..ฉันไม่ได้ฟัง -_-;
“เธอช่วย..พูดอีกทีได้มั้ย”
“เชอะ” ยัยเพลงมองฉันงอนๆ “ฉันจะถามว่าโจทย์ฟิสิกส์ข้อนี้มันทำยังไง เธอก็ไม่ฟัง ให้ฉันพล่ามอยู่ได้คนเดียว”
เออขอโทษ =__= ฉันดึงหนังสือมาใกล้ตัวแล้วอ่านอย่างวิเคราะห์ แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบคำถามหรืออธิบายอะไร ยัยจิ๊บก็วิ่งเสียงแจ๋นเข้ามาซะก่อน
“ตั้งโอ๋!!”
“อะไรอีก -*-” ฉันปรายตามองด้วยความหงุดหงิดนิดๆ วันนี้ฉันไม่อยากจะคุยกับใครมากนะ แต่ทำไมมีแต่คนมีเรื่องมาคุยกับฉันทั้งนั้นเลย แล้วก็นะ ไอรีนเองก็ยังไม่มาเรียนอีก ทั้งๆที่นี่จะสายแล้วแท้ๆ
“ฉันเห็น ฉันเห็น..”
“อะไรของแกเนี่ย ถ้าเรื่องของแกไม่สำคัญเท่าฟิสิกส์ของฉันฉันจะขย้ำหัวแกซะ -_-*”
ยัยเพลงหันไปขู่ใส่ยัยจิ๊บ ที่เอาแต่ยืนหอบจนพูดอะไรไม่ค่อยออก
“คือฉันเห็น.. รุ่นพี่ติวาไปรับไปส่งผู้หญิงอีกคนน่ะสิ!”
“บ้าเหรอแก ปกติรุ่นพี่ต้องคอยมารับมาส่งตั้งโอ๋สิ จะเป็นไปได้ยังไง แกไปเห็นที่ไหน”
“ที่นอร์ท”
“นอร์ทอยู่ตั้งไกล แกแน่ใจเหรอว่าเห็นเองจริงๆ -_-” ยัยเพลงมองด้วยสีหน้าจับผิด
“เออ ฉันไม่ได้เห็น เพื่อนฉันบอกมาอีกที โอเคมะ =_=;”
“ชิ เธออย่าคิดมากเลยตั้งโอ๋ ฉันว่าเพื่อนยัยนี่มั่วไม่ก็ตาฝาดมากกว่า รุ่นพี่ติวาเขาอยู่กับเธอจะไปหาใครที่นั่นได้ยังไง เนอะ”
เปล่าเลย.. เขาไม่ได้อยู่กับฉัน
เรื่องนี้มันเป็นความจริง และฉันเองก็รู้ด้วยว่าผู้หญิงที่ว่านั้น ..เป็นใคร
“คุยอะไรกันอยู่จ้ะ”
ไอรีนเดินเข้ามาพร้อมเสียงหวานๆที่เป็นเอกลักษณ์ เธอแจกยิ้มให้ทุกคน แต่เมื่อเห็นฉันรอยยิ้มนั้นก็ค่อยๆหายไป
“ไม่สบายรึเปล่าโอ๋ ทำไมสีหน้าไม่ค่อยดีเลย” ไอรีนถามอย่างเป็นห่วง
“ฉัน..”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดการสนทนา และเมื่อหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นชื่อของติวา ทำยังไงดีล่ะ ฉันยังไม่อยากจะคุยตอนนี้นะ ไอ้บ้าเอ้ย! นายยังกล้ามายุ่งกับฉันอีกงั้นเหรอ นายมัน..ใจร้ายชะมัด! ฉันกดตัดสายทิ้ง จากนั้นห้านาทีต่อมาก็พบว่าหมอนั่นยังคงกระหน่ำโทรหาฉันไม่หยุด พอซักทีเถอะ นายมีอีกคนแล้วนายจะมายุ่งกับฉันทำไมกัน!
“เดี๋ยวมานะ”
ฉันบอกทุกคนแล้วเดินออกมาจากห้อง ยืนชั่งใจกับโทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องไม่หยุดจนฉันทนไม่ไหว กดรับสายก่อนจะตะโกนใส่เขาอย่างไม่พอใจแล้วปิดโทรศัพท์มือถือทันที
“นายจะโทรมาหาฉันทำไมอีก จะทำอะไรก็ทำไปสิ ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน เข้าใจมั้ย!!”
ฉันงี่เง่าไปรึเปล่านะ ฉันเป็นอะไรกับเขางั้นเหรอ แล้วไปตวาดใส่เขาทำไม ช่างเถอะ ฉันไม่สนอะไรแล้ว รู้แค่ว่าตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากได้ยินเสียง ฉันอยากอยู่เงียบๆ ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นเลยด้วยซ้ำ เมื่อกลับมาถึงห้องเรียน ฉันฝากไอรีนให้ลาอาจารย์ให้ในคาบเช้า บอกว่าไม่สบายขอไปพักที่ห้องพยาบาล ไอรีนจะขอเดินไปส่ง ถามฉันนั่นนี่ท่าทางเป็นกังวล เพราะสภาพฉันตอนนี้มันแย่มาก ถ้าบอกว่าป่วยแน่นอนว่าทุกคนต้องพากันเชื่ออย่างไม่สงสัยอะไรเลย
เมื่อไปถึงห้องพยาบาลฉันเซ็นชื่อกับกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งไร้วี่แววของครูประจำห้องพยาบาล ภายในห้องตอนนี้โล่งไม่มีใครมานอนป่วยซักคน ซึ่งนับว่าดี เพราะฉันบอกแล้วไงว่าอยากอยู่เงียบๆ ถ้ามีคนคงวุ่นวายไม่น้อย
ฉันเดินไปหยุดอยู่ที่เตียงริมหน้าต่างฝั่งซ้าย เตียงนี้เป็นเตียงที่ติวาเคยอุ้มพาฉันมาส่งในตอนนั้น…ตอนที่ฉันเป็นยัยขี้แยให้เขาเห็น เขาทำให้ฉันอุ่นใจ เชื่อใจ มาจนกระทั่งตอนนี้… ภาพที่เขายืนอยู่กับผู้หญิงอีกคนลอยกลับเข้ามาในหัวของฉันอีกครั้ง ความรู้สึกเจ็บแล่นเข้ามาที่ใจ ฉันกำลังจะอ่อนแออีกแล้วใช่มั้ย เพราะหมอนั่น ฉันจะอ่อนแออีกครั้งงั้นเหรอ
“ฮึก…”
น้ำตาฉันไหลออกมาเรื่อยๆ ฉันรู้สึกเจ็บเมื่อคิดว่าเขากำลังมีอีกคน อีกคนที่เป็นคนพิเศษ ได้รับความอ่อนโยน การดูแล เอาใจใส่ แม้จะเท่าๆกับฉัน แต่ฉันไม่ชอบเลย ฉันกับติวาเราอยู่ในฐานะอะไรฉันเองก็ไม่รู้ แต่ว่าสิ่งที่เขาทำกับฉัน มันจะดูเห็นแก่ตัวไปมั้ย ถ้าฉันจะบอกว่า ฉันอยากให้เขาทำมันกับฉันแค่คนเดียว ฉันไม่อยากให้เขามองใครแบบที่มองฉัน ไม่อยากให้ดูแลใครแบบที่ดูแลฉัน ฉันไม่ชอบ ไม่ชอบเลย ..อีกหน่อย เขาก็จะลืมฉัน จะเลิกมายุ่งวุ่นวายกับฉันใช่มั้ย เป็นไปได้สินะ ที่เขาจะเลือกมีแค่คนนั้น แล้วทำเหมือนไม่รู้จัก หรือเกลียดขี้หน้ากันเหมือนเดิม…
พลั่ก!!
เสียงประตูเปิดอย่างแรงจนฉันสะดุ้ง พอหันไปมองก็พบกับติวา.. เขารู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่ เขามาตอนนี้ทำไมกัน ทำไมต้องมาในเวลาแบบนี้อีกแล้วนะ เวลาที่ฉันอ่อนแอ นายมักจะโผล่มาเสมอๆ ทำไม!! แล้วแบบนี้ฉันจะลืมนายได้ยังไงล่ะ
“ตั้งโอ๋ เธอเป็นอะไร แล้วร้องไห้ทำไม” เขาเดินเข้ามาหา แต่ฉันถอยออกห่างจากเขา
“เปล่าซักหน่อย ออกไป นี่มันห้องพยาบาลนะ”
“โอ๋ หันมาคุยกับฉันให้รู้เรื่อง เธอเป็นอะไร”
“ไม่เป็น! ฉันบอกว่าไม่เป็นก็ไม่เป็นสิ! เลิกถามเซ้าซี้ซักทีได้มั้ย ฉันอยากอยู่คนเดียว!!”
น้ำตาฉันไหลหนักมากกว่าเดิม ฉันไม่หันไปมองหน้าเขา ได้แต่ยืนก้มหน้าหลบรอยน้ำตาไม่ให้เขาได้เห็น เสียงเขาเงียบหายไปแล้ว เขาไปแล้วใช่มั้ย เขาเกลียดฉันแล้วสินะ เขากลับไปหาผู้หญิงคนนั้นแล้วสินะ
“ฮึก..”
เสียงสะอื้นของฉันหลุดออกมา ฉันรู้สึกอ่อนแรงจนต้องทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น รู้สึกว่างเปล่า เหมือนตัวเองลอยเคว้ง เมื่อก่อนฉันสบายมากกับการอยู่คนเดียว รับความรู้สึกอะไรๆคนเดียว แต่ตอนนี้พอหมอนั่นเข้ามา เขาทำให้ฉันมีความสุขมากในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ในตอนนี้ เขาจากฉันไป แต่ฉันกลับเป็นคนเดิมไม่ได้ ฉันเข้มแข็งแบบเดิมไม่ได้
“เธอเจ็บฉันก็เจ็บนะรู้มั้ย บอกฉันไม่ได้เหรอโอ๋ ว่าเธอเป็นอะไร”
ฉันตกใจกับเสียงที่ได้ยิน ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ทำอะไร ก็ถูกสวมกอดจากด้านหลัง เขาเอาคางมาเกยที่บ่าฉัน กระชับอ้อมแขนแน่น ให้ความอุ่นใจกับฉันเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา ตอนนี้ฉันรู้สึกอบอุ่นมากและมันทำให้ฉันยิ่งไม่อยากจะเสียเขาไป ติวา..ฉันจะทำยังไงดี
“ฉันจะกอดเธออยู่แบบนี้ จนกว่าเธอจะพร้อมเล่าให้ฉันฟัง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“…”
“ใครทำให้เธอต้องร้องไห้”
ตอนที่ฉันร้องไห้เขากอดปลอบฉัน ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้เขาก็กอดปลอบเธอ ภาพตอนนั้นกลับเข้ามาทำให้ฉันยิ่งเจ็บมากขึ้น การที่เขาทำแบบนี้มันทำให้ฉันรู้สึกดีและรู้สึกแย่ได้ในเวลาเดียวกัน
“ฉันไม่เป็นอะไร” ฉันบอกปัดเพื่อหวังจะให้เขาไป แต่ทว่า..
“อย่าโกหกฉัน ฉันรู้ว่าเธอเป็นนะโอ๋”
เขารู้ทันฉันทุกครั้งเลยสินะ..
“ขอเวลาให้ฉันหน่อยได้มั้ย”
ฉันบอกพลางค่อยๆแกะมือเขาออกไปจากตัว เมื่อหันไปเผชิญหน้าก็พบว่าเขามีทีท่าไม่เข้าใจ เมื่อกำลังจะถามอะไรต่อ ฉันรีบแทรกขึ้นเพื่อปิดโอกาสที่จะถามอะไรจากฉันอีก
“ขอร้องล่ะ อย่าเพิ่งให้ฉันบอกอะไรตอนนี้เลย”
แม้ฉันรู้ว่าจะไม่เต็มใจแต่เขาก็ยอมฟังฉันแต่โดยดี
“ก็ได้ ฉันจะรอฟังในวันที่เธอพร้อม”
ในเมื่อห้องพยาบาลนี่ไม่สามารถหลบหนีไปจากความจริงทั้งหมดได้ ฉันคงไม่มีความจำเป็นอะไรจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไปอีกแล้ว สองขาของฉันค่อยๆก้าวออกมาจากห้องอย่างอ่อนแรง เมื่อมือสัมผัสประตูเสียงทุ้มของอีกคนที่อยู่ไม่ห่างจากฉันก็ดังขึ้น
“แต่ขอให้เธอรู้เอาไว้นะตั้งโอ๋ ฉันรักเธอ ไม่ว่าจะยังไงฉันก็ไม่มีวันทิ้งเธอเด็ดขาด”
...รักเหรอ…
“แค่ขอให้เธอเชื่อใจฉันเท่านั้น”
แม้ว่าจะอยากทำแบบนั้น แต่ฉันจะเชื่อใจนายได้แน่ๆงั้นเหรอ
เรื่องที่ฉันเจอเมื่อวานมันทำให้ฉันไม่แน่ใจว่าควรจะทำตามนั้นจริงๆ
หลังจากเหตุการณ์นั้น กว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ฉันไม่ได้เจอติวา ไม่ได้รับการติดต่อใดๆทั้งสิ้น
พี่เซตอาสาพาฉันออกมาเปิดหูเปิดตาที่สวนสาธารณะ แม้มันจะดูร่มรื่นเหมาะกับการพักผ่อนก็ตามที แต่ยังไงก็มาสามารถทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาได้เลย
“เป็นไง หมดสภาพเลยเหรอน้องสาว” พี่เซตถามพลางส่งน้ำเปล่าที่เพิ่งซื้อมาให้ฉัน
“ไม่ขำนะ” ฉันรับแล้วบอกปัดเสียงเรียบๆ
“ตกลงว่ารักหมอนั่นจริงๆสินะ” คราวนี้พี่เซตลงมานั่งแล้วมองฉันกึ่งอมยิ้มนิดๆ
“โอ๋…”
“อย่าปฏิเสธเลย เป็นขนาดนี้แล้วไม่รักไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะ”
สีหน้าและน้ำเสียงมันเป็นการจับผิดอย่างเห็นได้ชัด ฉันรู้สึกแย่อยู่นะ ทำไมพี่เซตที่ปกติจะเข้าใจฉัน กลับเอาแต่ถามเรื่องหมอนั่น แถมยังมาคาดคั้นจนจนมุมแบบนี้!
“พี่พูดอย่างกับดูเรื่องพวกนี้ออกงั้นแหละ ทั้งๆที่พี่ยังไม่มีแฟนด้วยซ้ำ!”
“อย่าพาลสิโอ๋ -_-”
“โอ๋ไม่ได้พาล! แต่พี่บอกว่าพี่รู้ว่าโอ๋รักหมอนั่นและหมอนั่นก็รักโอ๋ ทั้งๆที่จริงๆแล้วหมอนั่นไม่ได้รักโอ๋ซักหน่อย เขามีผู้หญิงอื่นอยู่แล้วพี่รู้มั้ย!”
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ฉันก็ยิ่งเจ็บ
“พี่ว่าโอ๋กำลังเข้าใจผิดนะ”
“ไม่ โอ๋เข้าใจไม่ผิดแน่ๆ แผนอะไรของพี่นั่นน่ะ มันไม่เห็นจะบอกอะไรได้เลยซักนิด!”
เมื่อพูดแล้วในหัวของฉันก็นึกย้อนไปถึงเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ใช่.. พี่เซตอยากให้นายติวาแสดงออกมาให้ฉันเห็นว่ารักฉันมากแค่ไหน เลยจัดแจงให้ฉันทำตามแผนของเขาในวันนั้น
…..วันที่ฉันเข้าโรงพยาบาล….
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ